บทที่ 583 ขวางพวกเขาไว้
ฝู้จิงเหวินเห็นเจียงสื้อสื้อตกลง ก็ได้รีบไปแก้ไฟล์บิน
เวลาขึ้นเครื่องนั้นยังมีอีกกี่ชั่วโมง เถียนเถียนเล่นมาทั้งวัน ก็ได้เริ่มมีอาการเหนื่อยล้า
คิดถึงว่าเครื่องที่บินกลับไปฝรั่งเศสต้องใช้เวลาอีกสิบกว่าชั่วโมง ระยะทางที่ห่างไกล ทั้งสองตกลงว่าจะพักที่โรงแรมอีกสักพักค่อยไป
“เถียนเถียน ลูกนอนก่อนเถอะ”
สองแม่ลูกนอนอยู่บนเตียง เจียงสื้อสื้อได้ตบหลังของสาวน้อยเบาๆ กล่อมเธอเข้านอน
เถียนเถียนเปิดปากหาว ดวงตาที่มีเกร็ดน้ำตาเล็กน้อยได้มองเจียงสื้อสื้อ
พลิกตัว เข้าไปให้อ้อมแขนของเจียงสื้อสื้อ ดวงตาได้หมุน ริมฝีปากน้อยๆ ก็ได้ถามออกไปว่า “หม่ามี๊ พวกเราจะกลับบ้านแล้วเหรอคะ?”
แววตาของสาวน้อยได้สะท้อนความไม่อยากจะกลับไปออกมาเล็กน้อย เธอยังไม่ได้บอกลาพี่ชายเลยนะ
คืนงานเลี้ยงวันนี้ ตอนที่จะเดินออกมานั้นสาวน้อยได้หันไปมองเสี่ยวเป่า พบว่าสีหน้าของเขานั้นแทบที่จะร้องไห้ออกมาแล้ว เวลานั้นคิ้วของเถียนเถียนก็ได้ขมวดขึ้น
พี่ชายแล้วก็แดดดี๊ที่หล่อเหลาเหมือนว่าไม่อยากให้พวกเขาจากไป
กลับมาเห็นว่าสีหน้าหม่ามี๊ของเธอแปลกๆ ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาก
คราวนี้จะไปแล้ว ถึงได้แสดงสีหน้าที่ทำใจไม่ได้ออกมา
“ค่ะ”
สีหน้าของเจียงสื้อสื้อได้นิ่งเล็กน้อย ลูบไปที่หัวของสาวน้อย ตอบไปคำ
สาวน้อยได้เบะปาก ก็ได้พูดออกไปอย่างไม่เกรงกลัวว่า “ไม่ไปได้ไหมคะ? หนูอยากเจอพี่ชายกับแดดดี๊”
“เถียนเถียน อย่าเรียกคนอื่นไปมั่ว แดดดี๊ของหนูยังอยู่ข้างนอกนะ อีกอย่างหนูไม่มีพี่ชาย”
น้ำเสียงของเจียงสื้อสื้อได้น่ากลัวขึ้นมาเล็กน้อย ได้ตั้งใจที่จะปรับคำเรียกของเถียนเถียน
ช่วงเวลานี้ ให้ฝู้จิงเหวินได้ยินเถียนเถียนเรียกคนอื่นว่าแดดดี๊ แน่นอนว่าในใจของเขานั้นต้องเสียใจแน่ๆ
นัยน์ตาของเถียนเถียนเริ่มมีน้ำตาคลอ ถูกเจียงสื้อสื้อดุจนกลัว ก็ได้มองเธอด้วยความน้อยใจ
“มีนะ!”
สาวน้อยได้ส่งเสียงที่เบาเหมือนแมลงวันออกมา พูดสองคำนี้ออกมาจากปาก ไม่แก้คำอย่างดื้อรั้น
เธอมีพี่ชาย มีแน่ๆ!
เจียงสื้อสื้อเห็นแบบนั้น ในใจก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไง
แล้วก็รู้ว่าน้ำเสียงตัวเองน่ากลัวเกินไป เด็กยังไม่รู้เรื่อง เธอจริงจังขนาดนั้นทำไม
สีหน้าก็ได้อ่อนโยนลงเล็กน้อย เธอพูด “หนูบอกว่ามีก็มี ตอนนี้ รีบเข้านอนเถอะค่ะ”
สาวน้อยได้ยินแบบนั้น คราวนี้ถึงได้จึปาก แล้วหลับตาอย่างว่าง่าย
ช่วงค่ำ ผ่านไปสี่ชั่วโมง เจียงสื้อสื้อได้อุ้มสาวน้อยที่หลับสนิท ไปสนามบินกับฝู้จิงเหวิน
การกระทำของพวกเขาได้ถูกกู้เนี่ยนสืบได้ทันเวลา ก็ได้รีบไปรายงานจิ้นเฟิงเฉิน
“คุณชาย พวกเราหาพวกเขาเจอแล้วครับ มองจากเส้นทางแล้วเหมือนจะไปสนามบิน”
ทางนั้นจิ้นเฟิงเฉินก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นทันที แล้วก็ได้รีบเปิดประตูห้องหนังสือ เดินออกไปข้างนอก
เขาพูดเสียงเข้มว่า “มั่นใจนะ? เช็กเรื่องตั๋วเครื่องแล้ว?”
“ครับ พึ่งเช็กได้เมื่อกี้ เป็นเที่ยวบินกลับฝรั่งเศสครับ!”
ลูกน้องของกู้เนี่ยนก็ได้ส่งข่าวมาพอดี เขาก็ได้รีบรายงาน สีหน้าก็ได้เครียดขึ้นเลยทันที
“ขวางพวกเขาไว้!”
สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินได้เปลี่ยน ฝีเท้าได้หยุดอยู่กับที่
เขามองไปยังท้องฟ้าข้างนอก สีฟ้ายังไม่รุ่ง
เห็นที ฝู้จิงเหวินกลัวว่าฝันร้ายมันจะยาวนาน ก็ได้นั่งเที่ยวบินที่เช้าที่สุดกลับไป
ท่าทางที่มีพิรุธแบบนี้ ทำให้จิ้นเฟิงเฉินมั่นใจกว่าเดิม ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นสื้อสื้อแน่ๆ!
“นายพาคนไปถ่วงเวลาพวกเขาที่สนามบิน ให้พวกเขาขึ้นเครื่องไม่ได้เด็ดขาด เดี๋ยวฉันตามไป” สายตาของจิ้นเฟิงเฉินได้มีความโหดเหี้ยมสะท้อนออกมา
สั่งกู้เนี่ยนเสร็จ หันหลังไป เข้าห้องของเสี่ยวเป่า อุ้มเสี่ยวเป่าออกมา
ลงไปชั้นล่าง เสี่ยวเป่ายังอยู่ในอาการที่มึนงง มีท่าทีขัดขืนเล็กน้อย
จิ้นเฟิงเฉินได้พูดที่ข้างหูเขาเบาๆ ว่า “เสี่ยวเป่า ตื่นครับ พวกเราไปหาหม่ามี๊กัน”
ตั้งสติได้ คิ้วที่ขมวดแน่นของเสี่ยวเป่าก็ได้เริ่มคลาย
เขาก็ได้ตื่นขึ้นทันที จ้องไปที่จิ้นเฟิงเฉินสักพัก รอได้เรียบเรียงเรื่องราวเรียบร้อย ตัวเองก็ได้สวมรองเท้าอย่างรวดเร็ว
สองพ่อลูกได้รีบไปที่สนามบิน
ทางสนามบิน กู้เนี่ยนได้พาคนกลุ่มหนึ่ง รีบเข้าไปยังในตัวสนามบิน ได้ขวางสามคนที่กำลังจะเข้าไปในเกจ
พอรู้ว่ากู้เนี่ยนเป็นคนของจิ้นเฟิงเฉินแล้วนั้น สีหน้าของฝู้จิงเหวินกับเจียงสื้อสื้อได้เปลี่ยนเล็กน้อย
ฝู้จิงเหวินได้ข่มขู่เขา “พวกนายจะทำอะไร!”
เจียงสื้อสื้อปกป้องเถียนเถียน เดินถอยหลังไปสองก้าว มองไปยังเหตุการณ์ด้วยความหวาดกลัว
กู้เนี่ยนไม่ได้สนใจเขา สายตาได้มองไปยังเจียงสื้อสื้อ
ความตกใจที่อยู่ในใจ ก็ยังไม่ได้หายไปทั้งหมด
หน้าตาเหมือนเจียงสื้อสื้อไม่มีผิด! ไม่ นี่ก็คือเจียงสื้อสื้อ!
เจียงสื้อสื้อหลบสายตาด้วยความไม่สบายตัว พูดกับกู้เนี่ยนว่า “รบกวนหลีกทางหน่อยเถอะ พวกเราจะไปขึ้นเครื่อง”
“คุณนาย ขอโทษด้วยครับ ก่อนที่ประธานจะมาถึง พวกเราไม่สามารถหลีกทางให้ได้!” กู้เนี่ยนเงยพยักหน้าแล้วพูด
ฝู้จิงเหวินที่อยู่ข้างๆ ได้ยิน สีหน้าก็ได้เสียทันที
“พวกเราบอกว่าไม่รู้จักพวกคุณไง พวกคุณยังตามมาอีกทำไม! เป็นแบบนี้ต่อไปพวกเราจะแจ้งความแล้วนะ”
ไม่ได้สนใจความหงุดหงิดของฝู้จิงเหวิน กู้เนี่ยนมองเจียงสื้อสื้อที่อยู่ข้างๆ ตลอด คิ้วขมวดเล็กน้อย
“ไม่ผิดแน่ๆ คุณก็คือคุณนายของพวกผม คุณน่าจะรู้สึกได้ ที่นี่สำหรับคุณแล้วไม่เหมือนกัน หรือว่าคุณไม่อยากที่จะรู้เหรอครับว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”
กู้เนี่ยนจ้องมองเจียงสื้อสื้อ หวังที่จะทำลายกำแพงของเธอ พยายามที่จะยื้อเวลา
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว เริ่มลังเล
“ฉัน……”
เห็นว่าเป็นผล กู้เนี่ยนก็ได้พูดต่อ “คุณนาย ประธานของพวกเราตามหาคุณมาตลอดสามปีแล้วนะครับ สามปีนี้ใช้ชีวิตแบบไม่เหมือนคนเลยสักนิด คุณไม่สงสัยจริงๆ เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น?”
ฝู้จิงเหวินที่อยู่ข้างๆ เห็นว่าเจียงสื้อสื้อเริ่มหวั่นไหว ก็ได้ลากเธอ แล้วเดินออกไปอีกทาง
ก่อนไปได้เตือนกู้เนี่ยน “ถ้าพวกนายมาขวางอีก ฉันเรียกคนแน่!”
ท่าทางที่โมโหของเขา เจียงสื้อสื้อก็เลยทำได้แค่หันหลังไปตามเขา
“หม่ามี๊! อย่าไป อย่าทิ้งเสี่ยวเป่าไป!”
ข้างหลัง เสียงที่อ่อนแอและไร้เรี่ยวแรงได้ดังขึ้น ได้หยุดเจียงสื้อสื้อที่กำลังเดินออกไป
คำว่าหม่ามี๊เหมือนได้พุ่งเข้ามา ชมเข้ากับจุดอ่อนในใจของเธอ
เท้าเหมือนว่าได้ออกราก ไม่ว่ายังไงก็ขยับไม่ได้
เธอหันไปดู มองเห็นแววตาของกำลังร้องไห้ของเสี่ยวเป่า ในใจก็ได้กระตุกอย่างแรง
ความรู้สึกที่คุ้นเคยก็ได้ค่อยๆ ก่อตัว
เสี่ยวเป่าเวลานี้ ได้วิ่งมาจากข้างๆ จิ้นเฟิงเฉิน แล้วก็ลากชายเสื้อของเจียงสื้อสื้อไว้
ได้สะอึกไปแล้วพูดกับเจียงสื้อสื้อว่า “หม่ามี๊ หม่ามี๊ไม่เอาเสี่ยวเป่าแล้วเหรอ?”
ลำคอของเจียงสื้อสื้อได้ติด “ฉันไม่ใช่หม่ามี๊ของเธอ” คำนี้ไม่ว่ายังไงก็พูดไม่ออก
คราวนี้เถียนเถียนก็ถูกทำให้ตื่น เห็นเสี่ยวเป่ากับจิ้นเฟิงเฉินตาก็ได้สว่าง
ได้ยินเสี่ยวเป่าเรียกเจียงสื้อสื้อว่าหม่ามี๊ ตากลมโตก็ได้หมุน และก็สับสนเล็กน้อย
พี่ชายก็เรียกหม่ามี๊ว่าหม่ามี๊เหมือนเธอ
แต่ว่าเมื่อคืนหม่ามี๊บอกว่า ที่จริงเธอไม่มีพี่ชาย
เถียนเถียนที่อยู่ในความวุ่นวาย ก็ได้เงียบ กะพริบตา
จิ้นเฟิงเฉินก็ได้เดินเข้าไป เห็นเจียงสื้อสื้อ ในตาก็ได้มีความรู้สึกที่ร้อนแรงแสดงออกมา แทบที่จะกอดเธอเลยทันที