บทที่ 625 บอสปีศาจจริงๆ
ไม่รู้ว่าเล่นอย่างบ้าคลั่งมานานแค่ไหนแล้ว ในที่สุดเด็กสองคนก็รู้สึกหิว
จิ้นเฟิงเฉินจูงมือไว้ข้างละคน แล้วพาไปที่ห้องรับประทานอาหาร
แม้ว่าจะมีเพียงสามคน แต่อาหารเยอะมาก
บนโต๊ะอาหารมีชามเล็กๆสำหรับเด็กที่สะดวกในการกินโจ๊ก แอปเปิลกระต่าย ข้าวแกงกะหรี่มันฝรั่งชุดเล็ก และกับข้าวสามถึงห้าอย่าง พวกไก่ทอดและมันฝรั่งทอดก็มี
เถียนเถียนร้องอย่างมีความสุขแล้วเตรียมตัวจะกระโจนเข้าไป แต่จานไก่ทอดกลับถูกจิ้นเฟิงเฉินยกขึ้น
เขายิ้มและชี้ไปที่แก้มของตนและกล่าวว่า” หนูจุ๊บแด๊ดดี๊หนึ่งครั้ง แด๊ดดี๊ก็จะให้กินหนึ่งชิ้น”
เสี่ยวเป่าเห็นแล้วรู้สึกอยากกินขึ้นมา เขาตะโกนว่าไปหนูก็อยากได้ ทั้งสองหอมแก้มไปข้างละหนึ่งครั้ง
จนทำให้แก้มของจิ้นเฟิงเฉินเปื้อนไปด้วยน้ำลาย ทำให้รู้สึกว่าไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ขณะที่ทั้งคู่กำลังกินข้าวอยู่นั้น ทั้งสองก็ยังแกล้งกันไปมา
จิ้นเฟิงเฉินไม่คิดจะห้ามพวกเธอ แต่มองไปที่เด็กทั้งสองคนด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแบบพ่อที่แสนดี
ในที่สุดพวกเขาก็กินอาหารเสร็จ ทั้งสองคนก็เล่นกันอย่างบ้าพลังไปจนถึง 10 นาฬิกา ในที่สุดพวกเขาก็ง่วงจนไม่ไหว
จิ้นเฟิงเฉินให้สองพี่น้องอาบน้ำหอมๆ จากนั้นก็อุ้มพวกไปบนเตียง
ตอนนี้เถียนเถียนง่วงมาก แต่พอนึกถึงเจียงสื้อสื้อแล้ว เธอก็ดึงที่แขนเสื้อของจิ้นเฟิงเฉินแล้วร้องหาแม่
จิ้นเฟิงเฉินอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเกลี้ยกล่อมอยู่พักหนึ่ง เถียนเถียนทนความง่วงไม่ไหว จึงหลับตาลง
แต่เธอก็ยังพึมพําอยู่ว่า “แด๊ดดี๊…….หนูอยากนอนกับหม่ามี๊”
จิ้นเฟิงเฉินได้ยินเช่นนี้ก็ก้มลงแล้วพูดเสียงเบาๆ ว่า “ช่วงนี้คุณแม่ยุ่งมาก พอยุ่งเสร็จก็จะกลับมานอนกับเถียนเถียนนะ พี่ชายก็คิดถึงหนูมากเหมือนกัน คืนนี้เถียนเถียนนอนกับพี่ชายดีไหมครับ”
“ได้ค่ะ”
เสียงของเถียนเถียนเบาลง พึมพําว่า “หนูก็ชอบพี่ชายมากๆ เหมือนกันค่ะ”
เถียนเถียนหลับไปอย่างรวดเร็วในอ้อมแขนของจิ้นเฟิงเฉิน
หลังจากเกลี้ยกล่อมเด็กทั้งสองให้หลับไป จิ้นเฟิงเฉินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ถึงได้มีเวลาไปดูโทรศัพท์ มีสายโทรเข้ามา เป็นเบอร์ของเจียงสื้อสื้อ
เขารู้ว่าเธอกังวลเกี่ยวกับเถียนเถียน เขาจึงโทรกลับ
หลังจากรับสายแล้วเขาก็พูดเสียงเบามาก เจียงสื้อสื้อก็รู้ว่าเขาน่าจะอยู่ข้างๆ เด็กๆ
นิ้วของจิ้นเฟิงเฉินแตะไปที่หน้าจอโทรศัพท์ เปลี่ยนไปเป็นโทรแบบวิดีโอ
เจียงสื้อสื้อเห็นเด็กที่นอนฝันหวานอยู่บนเตียงใหญ่ๆ และจิ้นเฟิงเฉินที่กำลังยิ้มแย้มอยู่ เขาแต่งตัวธรรมดาอยู่บ้าน สวมชุดนอนผ้าไหมสีเทา
ทันใดนั้นเจียงสื้อสื้อก็รู้สึกคัดจมูกขึ้นมา เธอไม่รู้ว่าทำไม เธอไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
เพียงแค่รู้สึกว่ามันไปสัมผัสโดนจุดที่อ่อนที่สุดของหัวใจของเธอ
ทั้งสองคนก็คุยกันเสียงเบาๆ ไปสักพัก จิ้นเฟิงเฉินใช้ภาษาปากบอกราตรีสวัสดิ์กับเธอ เจียงสื้อสื้อจึงวางสายไป
เด็กที่ว่ากัน มักจะนอนเร็วและตื่นแต่เช้า
เช้าตรู่พวกเธอก็เดินเล่นไปรอบๆ คฤหาสน์อย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังเรียนเสียงนกแก้วร้องต่อหน้าจิ้นเฟิงเฉิน
“แด๊ดดี๊ตื่นแล้ว แด๊ดดี๊อย่าขี้เกียจเลย แดดส่องถึงก้นแล้วเนี่ย”
จิ้นเฟิงเฉินลืมตาขึ้น ก็เห็นเถียนเถียนกะพริบตาปริบๆ มองมาที่เขา
ได้ลูกสาวเช่นนี้ ชีวิตนี้จะขออะไรอีก?
หลังจากล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้ว กินอาหารเช้าที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงเสร็จเรียบร้อย จิ้นเฟิงเฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาก็พาเถียนเถียนเมื่อสักครู่ไปที่บริษัท
ปล่อยเธอไว้ที่บ้านเขาไม่สบายใจจริงๆ และยังกลัวว่าเถียนเถียนจะรู้สึกเหงา
ถึงอย่างไรห้องทำงานของประธานใหญ่ขนาดนี้ ไม่ว่าจะวิ่งเก่งขนาดไหนก็ใหญ่พอให้เธออยู่ด้วยได้
แต่เมื่อเขาอุ้มเถียนเถียนลงมาจากรถ เขาได้ทำลายหัวใจของพนักงานหญิงของ บริษัทไปทั้งหมด
ก่อนหน้านี้พวกเธอรู้ว่าท่านประธานมีลูกชาย เหล่าพนักงานหญิงยังพอทนไหว
ครอบครัวท่านประธานเป็นครอบครัวใหญ่ขนาดนี้ ยังไงก็ต้องมีคนมาสืบทอด
อีกอย่าง คุณชายน้อยเองก็น่ารักและฉลาดมาก
คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะจูงลูกสาวมาด้วย
นี่มันน่าเศร้าจริงๆ เลย
พนักงานต้อนรับเห็นจิ้นเฟิงเฉินอุ้มเถียนเถียนขึ้นมา แล้ววางลงบนบ่า เธอก็ยกนิตยสารขึ้นมาปิดหน้าตัวเองไว้ด้วยท่าทีที่แข็งกระด้าง
ในหัวใจของเธอมีรอยน้ำตาไหลลงมา
ทำไมผู้ชายดีๆ ในโลกนี้ ถึงถูกคนอื่นเก็บไปหมดแล้วล่ะ?
ทำไมไม่เหลือผู้ชายดีๆ สักคนลงมาจากฟ้า เพื่อช่วยให้เธอพ้นจากแหล่งทุกข์ที่ค่าจ้างต่ำต้อยและทำโอทีทั้งวันล่ะ?
จังหวะนั้นเหล่าพนักงานต่างก็กระวนกระวายใจมาก แต่ใจของจิ้นเฟิงเฉินกลับจดจ่ออยู่ที่ลูกสาว เขาเดินก้าวขายาวๆ เข้าไปในลิฟต์วีไอพี
แต่กู้เนี่ยนสังเกตเห็นความเสียอาการของพวกเธอ เขาเดินเคาะโต๊ะทีละคนและกล่าวว่า”คิดอะไรกันอยู่ ตั้งใจทำงาน เมื่อสักครู่นี้เห็นชัดหรือยัง? จำให้ดีนะ นี้เป็นเจ้าหญิงน้อยของบริษัทเรา ต่อไปถ้าเธอมาที่นี่ ห้ามละเลยเธอ”
ทุกคนพยักหน้าทันที กู้เยี่ยนจึงเดินออกไปอย่างวางใจ
เมื่อเดินมาถึงทางขึ้นลิฟต์ กู้เนี่ยนก็ทำหน้าบึ้ง แล้วส่ายหน้าพร้อมพูดว่า “เฮ้อ บอสนี่เป็นปีศาจจริงๆ”
ตอนนี้ผู้ชายปีศาจนี้กำลังอุ้มลูกสาวอยู่ เขาภูมิใจมาก
ห้องทำงานของเขามีหน้าต่างพาโนราม่าขนาดใหญ่ ทั้งกว้างขวางและสว่างไสว สถานที่พักผ่อนก็ใหญ่มากเช่นกัน
เถียนเถียนมองไปรอบๆ แล้วเลื่อนตัวลงจากโซฟา แล้วเดินมาตรงหน้าจิ้นเฟิงเฉิน
บนโต๊ะนั้นมีพืชสีเขียววางอยู่หลายต้น เถียนเถียนเงยหน้ามองอยู่หลายรอบ จากนั้นก็มองไปทางอื่นด้วยความน่าไม่สนใจ
กล่าวด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ ว่า “แด๊ดดี๊พาหนูออกมา จะไม่เล่นกับหนูหรอ? ”
จิ้นเฟิงเฉินปิดหน้าต่างลง แล้วก้มหน้าลงไปแตะที่หน้าเธอเบาๆ
ที่นี่คือบริษัทของแด๊ดดี๊ ตอนกลางวันแด๊ดดี๊มีงานต้องทำเยอะเลย เพราะฉะนั้นเถียนเถียนเล่นคนเดียวไปก่อนนะ ได้ไหมครับ?”
เถียนเถียนพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจและเหมือนจะไม่เข้าใจ แล้วก็เริ่มเล่นคนเดียวขึ้นมา
จิ้นเฟิงเฉินไม่กล้าเปิดคอมพิวเตอร์ให้เธอเล่น พวกแสงรังสีอะไรเหล่านี้สัมผัสน้อยๆ จะดีกว่า
แต่ว่าไม่นานเถียนเถียนก็เริ่มหมดความสนใจต่อสิ่งที่อยู่ในห้องทำงาน
เห็นเพียงเธอวิ่งเข้าไปคุยกับจิ้นเฟิงเฉินด้วยฝีเท้าก้าวเล็กๆ ว่า “แด๊ดดี๊ หนูเบื่อนิดหน่อย แด๊ดดี๊เล่นเป็นเพื่อนหนูได้ไหม?”
จิ้นเฟิงเฉินเหลือบตาไปมองแวบหนึ่ง ก็พบว่าเอกสารในมือของตนเพิ่งจัดการได้ไม่ถึงครึ่ง
แต่เมื่อก้มหน้าลงสบตากับดวงตาของเถียนเถียนแล้ว เขาปฏิเสธหนูน้อยไม่ลงจริงๆ
ช่างมันเถอะ ของเหล่านี้ค่อยจัดการวันหลังก็ได้
เขาผลักโต๊ะออกแล้วอย่าเด็ดขาดและอุ้มเถียนเถียนขึ้นมาและกล่าวว่า”ถ้าอย่างนั้นแด๊ดดี๊เล่นเป็นเพื่อนหนูนะ”
ขณะที่กำลังพูด กู้เนี่ยนก็ผลักประตูเข้ามา มีเอกสารฉบับหนึ่งมาให้เขาเซ็นชื่อ
จิ้นเฟิงเฉินถามเกี่ยวกับกำหนดการเดินทางในช่วงบ่าย ส่วนใหญ่แล้วเป็นการประชุมที่น่าเบื่อ เขาจึงโบกมือไปแล้วพูดว่า “ไม่ประชุมแล้ว มีเรื่องอะไรนายก็จัดการให้หน่อย ผมจะพาลูกสาวสุดที่รักของผมออกไปเที่ยวเล่น”
กู้เนี่ยนถือเอกสารไว้สองฉบับและพยายามเกลี้ยกล่อมเขา “แต่การประชุมตอนบ่าย…”
จิ้นเฟิงเฉินสวมเสื้อผ้าไปด้วยพลางหยิบของเล่นให้เถียนเถียนไปด้วย แล้วพูดอย่างไม่แยแสว่า “ล้วนเป็นการทำเพื่อเป็นพิธีทั้งนั้น พวกเขาชอบการพูดสุนทรพจน์เรื่องไร้สาระ พูดเพิ่มขึ้นอีกสักสองชั่วโมงดีกว่า”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เขาอุ้มหนูน้อยแล้วเดินมาหน้าประตู จึงพูดอย่างภูมิใจว่า “ใครเป็นคนจ่ายเงินเดือน ใครก็มีสิทธิ์ในการพูด นายว่าจริงไหม? ”
กู้เนี่ยนคิดถึงเงินรางวัลสิ้นปีของตน เขารีบยกมือทั้งสองข้างขึ้นและพูดอย่างสนับสนุนว่า “ท่านประธานเดินทางดีๆ ครับ ท่านประธานพาเจ้าหญิงน้อยเที่ยวให้สนุกนะครับ”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขาเดินออกจากประตูบริษัทไป แล้วพาเถียนเถียนไปที่สวนสนุก
ช่วงเวลานี้ไม่ใช่ปีใหม่และไม่ใช่วันเทศกาล คนไม่ถือว่าเยอะมาก แต่ก็ไม่น้อยเลย ดูสนุกสนาน และมีชีวิตชีวามาก
แต่ทันทีที่เขาซื้อตั๋วเสร็จ เถียนเถียนก็เอามือจับท้องแล้วบ่นว่าหิว
จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะออกมา แล้วก้มหน้าเอามือไปลูบที่จมูกน้อยๆ ของเธอ