ดังนั้น คุณท่านตระกูลฟางจึงไม่ได้บอกให้จิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้ออยู่ต่อ
แม้ว่า ในใจลึกๆ เขาก็อยากให้เจียงสื้อสื้อพวกเขาอยู่อีกสักพัก
“อืม”
คุณท่านตระกูลตอบกลับด้วยเสียงในลำคอ แล้วพูดต่อ “งั้นก็ให้อะเชินส่งพวกเธอกลับไปเถอะ”
“งั้น……ให้พี่ชายส่งพวกเรากลับไปรับรถที่โรงแรม”
เจียงสื้อสื้อไม่ได้ปฏิเสธ นั่งรถของคุณท่านตระกูลฟางมาบ้านใหญ่ตระกูลฟาง ตอนนี้ต้องกลับไปขับรถที่โรงแรม
ก่อนจากไป เธอพูดกับคุณท่านตระกูลฟางอย่างเกรงใจ “คุณตาคะ ครั้งหน้าพวกเรามาเยี่ยมท่านอีก”
ฟางยู่เชินพยักหน้าให้พ่อแม่ของตัวเอง และออกจากบ้านใหญ่ตระกูลฟางพร้อมกับครอบครัวเจียงสื้อสื้อ
ขณะที่ฟางเฉิงและฟางรุ่ยอยากพูดอะไร ก็ถูกคุณท่านตระกูลฟางจ้องด้วยสายตาเย็นชาจนไม่กล้าขยับ
เดิมทีสามารถอยู่กับหลานสาวตัวเองดีๆ หนึ่งวัน ก็ถูกลูกไม่รักดีทำเสียหมด
คุณท่านตระกูลฟางจะสบายใจได้อย่างไร?
เฝ้าดูครอบครัวสี่คนของเจียงสื้อสื้อที่เริ่มห่างออกไป คุณท่านตระกูลฟางไม่อยากให้ไปมากๆ
……
ถึงโรงแรม หลังจากที่เจียงสื้อสื้อขึ้นรถของจิ้นเฟิงเฉิน ทั้งตัวก็ผ่อนคลายลง
ที่ที่มีฟางเฉิงและฟางรุ่ยอยู่ แต่ไม่อยากอยู่นานจริงๆ
เป็นคนถึงจุดนี้ สองครอบครัวนี้พอแล้วจริงๆ
“สื้อสื้อ รอคุณป้าตื่นแล้ว เธอต้องพาเธอมาเยี่ยมคุณปู่นะ”
ส่งครอบครัวของพวกเขาขึ้นรถ ฟางยู่เชินพูดเตือน
เสี่ยวเป่ากอดของเล่นที่เขาได้มาจากฟางยู่เชิน มองฟางยู่เชินอย่างเสียดาย
“คุณอาครับ! ครั้งหน้าเสี่ยวเป่ามาหาคุณอีก”
“ได้สิ คุณอารอนาย”
อำลากับฟางยู่เชิน เจียงสื้อสื้อและจิ้นเฟิงเฉินก็พาเด็กน้อยสองคนเดินทางกลับเมืองจิ่น
ตลอดทาง เด็กน้อยสองคนหลับไปสักพัก ก็เล่นกันเสียงดังจากเบาะหลัง
ถึงคฤหาสน์ตระกูลจิ้น สองคนก้าวขาเล็กๆ วิ่งและตะโกน “คุณปู่ คุณย่า! เถียนเถียนกลับมาแล้วค่ะ!”
“คุณปู่คุณย่า เสี่ยวเป่าคิดถึงพวกท่านมากครับ!”
แม้จะห่างกันแค่สองวัน แต่พ่อจิ้นและแม่จิ้นก็คิดถึงเด็กน้อยทั้งสองมากๆ
ได้ยินเสียงของพวกเขา ก็ออกมาต้อนรับทันที หนึ่งคนกอดเด็กหนึ่งคน
“ในที่สุดหลานรักของย่ากลับมาแล้ว สองวันนี้เป็นยังไงบ้าง มีความสุขไหม?”
แม่จิ้นกอดเถียนเถียนไว้ ในมือยังจับมือของเสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่าเสียงเจี๊ยวจ๊าวเล่าให้แม่จิ้นฟังว่าคุณอาของเขาดีขนาดไหน
เถียนเถียนก็ไม่ยอม เงยหน้าเล็กๆ พูดถึงเรื่องที่ตัวเองและคุณยายทำคุกกี้
เสียงเจี๊ยวจ๊าว ทำให้คนแก่ทั้งสองหลงรักมาก
คนหนึ่งกลุ่มเดินเข้าบ้าน รอเด็กน้อยสองคนพูดเหนื่อย แม่จิ้นถึงจะถาม “สองวันนี้พวกเธออยู่ที่บ้านตระกูลฟางเป็นยังไงบ้าง คุณตาของเธอพวกเขาได้รังแกเธอหรือเปล่า?”
เจียงสื้อสื้อดื่มน้ำหนึ่งคำ จากนั้นถึงจะเล่าเรื่องของตระกูลฟางให้แม่จิ้น
รวมถึงเรื่องระหว่างฟางเฉิงและฟางรุ่ยแย่งชิงกัน และในสายตาของพวกเขามีแต่ผลประโยชน์
“สองครอบครัวนี้ไม่ใช่คนดีจริงๆ”
น้ำเสียงของแม่จิ้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เธอไม่ชอบที่สะใภ้ของบ้านตัวเองกลับบ้านแล้วยังโดนรังแก!
เจียงสื้อสื้อรีบพูดด้วยรอยยิ้ม “นอกจากครอบครัวของลุงใหญ่และลุงรอง ครอบครัวอาเล็กก็ไม่แย่ค่ะ ดีกับพวกเรา คุณตาก็เช่นกัน
ท่านดูสิคะ ของเล่นในมือของเสี่ยวเป่าพี่ชายเป็นคนให้!”
ได้ยินเจียงสื้อสื้อพูดแบบนี้ แม่จิ้นก็อารมณ์ดีขึ้นมา
เจียงสื้อสื้อเล่าเรื่องของตระกูลฟางไปหนึ่งรอบ
แม่จิ้นอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
คิดไม่ถึง……ประวัติครอบครัวของแม่สื้อสื้อ วุ่นวายขนาดนี้
“ไม่รู้ว่าคนพวกนี้วันๆ จะอยากได้ของตายแบบนี้ไปทำอะไร ก็เป็นของที่เกิดไม่นำมา ตายไม่นำไป”
แม่จิ้นพูดอย่างเหนื่อยใจ
เจียงสื้อสื้อหัวเราะ ในใจเห็นด้วยกับคำพูดของแม่จิ้น
อำนาจ เงินทอง เดิมทีก็เป็นของนอกกาย ทำไมผู้คนถึงหลงใหลขนาดนี้
คุยกับแม่จิ้นพ่อจิ้นสักพัก เจียงสื้อสื้อก็นึกถึงฟางเสว่มั่น
หลังจากที่ฝากเด็กสองคนไว้ที่แม่จิ้นพ่อจิ้น เจียงสื้อสื้อถูกส่งโดยจิ้นเฟิงเฉิน มาที่โรงพยาบาล ตัดสินใจไปดูฟางเสว่มั่น
“ต้องให้ฉันเข้าไปเป็นเพื่อนเธอไหม?”
จิ้นเฟิงเฉินช่วนเจียงสื้อสื้อปลดเข็มขัดนิรภัย จับมือเธอแล้วถาม
เจียงสื้อสื้อยิ้มแล้วส่ายหัว
เธอรู้ว่าบริษัทของเขายังมีงานไม่น้อยที่ต้องจัดการ
เป็นไปไม่ได้ที่ทิ้งงานพวกนั้นให้เฟิงเหราคนเดียว
“ฉันไปคนเดียวได้ กลางคืนฉันจะกลับไปเร็วหน่อย” เจียงสื้อสื้อพูดด้วยน้ำเสียงติดออดอ้อน
ก่อนจะแยกกัน เธอยังทิ้งรอยจูบไว้บนใบหน้าของจิ้นเฟิงเฉินอย่างเขินอาย
แล้วหมุนตัววิ่งไปทางห้องผู้ป่วยของฟางเสว่มั่น
แม้จะไม่เจอกันแค่สองวัน แต่เจียงสื้อสื้อกลับรู้สึกเหมือนห่างกับฟางเสว่มั่นมานาน ในใจยังคิดถึงตลอด
ช่วงนี้ร่างกายของฟางเสว่มั่นไม่ดี หลังจากเข้าโรงพยาบาลก็นอนตลอด
ที่หายากคือ ครั้งนี้ที่เจียงสื้อสื้อมา ฟางเสว่มั่นออกจากห้องICUแล้ว และยังมีสติ!
“คุณแม่! ท่านตื่นแล้ว?”
เจียงสื้อสื้อเดินมาข้างๆ เตียงผู้ป่วยอย่างตื่นเต้น
ใต้แสงแดด ฟางเสว่มั่นใบหน้าขาวซีด เหมือนกับว่าวินาทีต่อมาจะหายไป
“สื้อสื้อ เธอมาแล้ว”
ฟางเสว่มั่นค่อยๆ ตอบสนอง เมื่อเห็นเจียงสื้อสื้อ ใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมา
เจียงสื้อสื้อเดินมานั่งลงข้างๆ ฟางเสว่มั่น มองไปที่ใบหน้าที่อ่อนแอและขาวซีดของเธอ
อย่าพูดเลยว่าในใจเจ็บปวดมาแค่ไหน
“แม่คะ ตอนนี้ท่านรู้สึกอย่างไร?”
ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ ใจของเจียงสื้อสื้อมักจะสั่น
แต่ว่าคำถามก็หนีไปพ้น
ฟางเสว่มั่นยิ้มแล้วตบมือเจียงสื้อสื้อเบาๆ พูดปลอบใจ “วางใจได้ ร่างกายของแม่ดีอยู่แล้ว ก็แค่นอนนานเกินไป อ่อนแอเล็กน้อย”
“เธอไปออกเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อยเป็นไง?”
แน่นอนว่าเจียงสื้อสื้อไม่ปฏิเสธข้อเสนอของฟางเสว่มั่น
เธอประคองฟางเสว่มั่นนั่งรถเข็นอย่างระมัดระวัง มาถึงสวนเล็กๆ ของโรงพยาบาล
คำนึงถึงฟางเสว่มั่นไม่ค่อยมีสติ ถ้าสลบอีกครั้ง ครั้งต่อไปก็ไม่รู้แล้วว่าจะฟื้นอีกเมื่อไร
เจียงสื้อสื้อคิดไปคิดมา ตัดสินใจบอกเรื่องของครอบครัวตระกูลฟางให้เธอ
“แม่คะ ฉันมีเรื่องอยากจะบอกท่าน”
“เด็กโง่ อยากพูดอะไรก็พูดตรงๆ เลยสิ ลังเลอยู่ได้”
ฟางเสว่มั่นลูบหัวของเธอ มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก
“หลายวันก่อนพี่ชายเจอฉันแล้ว ท่านรู้จัก ชื่อฟางยู่เชิน”