แม่จิ้นพ่อจิ้นพาเสี่ยวเป่ามารับเจียงสื้อสื้อทั้งสามคนที่สนามบิน
เห็นเจียงสื้อสื้อ เสี่ยวเป่าก็อดไม่ได้ที่จะรีบวิ่งเข้าไปหาราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่
“หม่ามี๊——!”
เสียงของเด็กที่สดใสร่าเริงดังขึ้นมา เจียงสื้อสื้อคุกเข่าลงบนพื้นด้วยรอยยิ้ม รับหนูน้อยที่วิ่งเข้ามาเอาไว้
เจียงสื้อสื้ออุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมาหอมที่แก้มอันบอบบางของเขา “เสี่ยวเป่า หม่ามี๊คิดถึงหนูมากเลย!”
“เสี่ยวเป่าก็คิดถึงหม่ามี๊เหมือนกัน! แล้วก็แด๊ดดี้กับเถียนเถียนด้วย”
พ่อจิ้นแม่จิ้นก็เดินเข้ามา บอกว่าเสี่ยวเป่าเอาแต่บ่นว่าทำไมหม่ามี๊ยังไม่กลับมาสักที
คนทั้งกลุ่มพากันขึ้นไปนั่งบนรถกลับบ้านตระกูลจิ้นอย่างมีความสุข
การกลับประเทศครั้งนี้ ครอบครัวของเจียงสื้อสื้อทั้งสี่คนก็ถือว่าย้ายมาอยู่ที่นี่ถาวรแล้ว
กลับมาถึงบ้าน คนรับใช้ก็ได้จัดเตรียมอาหารเย็นไว้เรียบร้อยแล้ว
บ้านของตระกูลจิ้นที่เงียบเหงามาระยะหนึ่ง การกลับมาของเจียงสื้อสื้อทั้งสามคน ทำให้มันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
“เถียนเถียน มานั่งข้างๆย่ามา ย่าคีบปลาให้หนูกิน”
ไม่เจอกันสองสามวัน แม่จิ้นก็คิดถึงเถียนเถียนเป็นอย่างมาก พึ่งจะนั่งลงบนต๊ะอาหาร ก็กวักมือเรียกเธอ
เถียนเถียนก็ยิ้มหัวเราะนั่งอยู่ระหว่างแม่จิ้นกับพ่อจิ้น เพลิดเพลินกับการดูแลของทั้งสองคน
“สื้อสื้อ เฟิงเฉิน พวกเธอกลับมาครั้งนี้ก็มาอยู่ที่บ้านด้วยกันก็ได้ ครอบครัวของเราจะได้ครึกครื้น”
แม่จิ้นเอาก้างปลาออกจากเนื้อปลาแล้วคีบใส่ลงในถ้วยของเถียนเถียน พร้อมพูดกับเจียงสื้อสื้อทั้งสองคน
จิ้นเฟิงเฉินไม่รอให้เจียงสื้อสื้อพูด เขาตอบกลับไปก่อนว่า “แม่ ช่วงนี้ผมกำลังมองหาบ้านอยู่ ผมกับเจียงสื้อสื้อไม่อยู่กับพวกท่านก็ได้”
วัยของแม่จิ้นชอบความครึกครื้น แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับชอบความเงียบสงบ
และเขาก็อยากจะสร้างบ้านแบบที่เจียงสื้อสื้อชอบไว้สักหลัง
ยิ่งกว่านั้น ก่อนที่จะกลับฝรั่งเศส เขาได้ติดต่อเลขาให้ช่วยหาบ้านให้แล้ว
แม่จิ้นได้ยินแบบนี้ก็มีสีหน้าผิดหวัง
ตั้งหน้าตั้งตารอการกลับมาของพวกเจียงสื้อสื้อ
รู้ว่าพวกเขาจะมาตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นี่ก็ดีใจเอามาก คิดว่าจะได้เจอกับหลานชายหลานสาวทุกวัน
แต่จิ้นเฟิงเฉินไม่อยากอยู่ที่บ้าน จะไม่ทำให้เธอผิดหวังได้ยังไง
แต่ว่าแม่จิ้นก็ไม่ได้พูดอะไร
เพราะว่าคนวัยหนุ่มสาวต้องการมีชีวิตเป็นของตัวเองเธอเข้าใจได้
จิ้นเฟิงเหราทนเห็นสีหน้าที่ผิดหวังของแม่ตัวเองไม่ได้ เขาเลยพูดเป็นนัยๆว่า “พี่ สองสามวันก่อนผมเห็นแถวนี้มีบ้านออกขายเยอะแยะเลย พี่ลอง……?”
เจียงสื้อสื้อยกศอกสะกิดจิ้นเฟิงเฉินเบาๆ เธอก็ไม่อยากทำให้แม่จิ้นผิดหวัง
แน่นอนว่าจิ้นเฟิงเฉินเคารพในการตัดสินใจของเจียงสื้อสื้อ เขาตอบตกลงที่จะซื้อบ้านหลังใหม่ที่อยู่ใกล้ๆกับบ้านของตระกูลจิ้นทันที
บ้านอยู่ห่างจากสวนของตระกูลจิ้นแค่ไม่กี่ก้าว สะดวกสบาย
จิ้นเฟิงเหราเห็นแบบนี้ก็รู้สึกดีใจ เขาโบกมือและตัดสินใจซื้อบ้านที่ว่างอยู่อีกหลังด้วยทันที และในขณะเดียวกันก็แนะนำว่า “พี่ พี่เห็นไหมว่าสวนของบ้านสองสามหลังนี้อยู่ใกล้กันมากขนาดนี้ เราทำให้มันทะลุหากันไหม?”
ในขณะที่เขาพูด เขาก็กลัวว่าจิ้นเฟิงเฉินจะไม่เข้าใจ หยิบกระดาษและปากกาขึ้นมาวาดให้เขาดู
จิ้นเฟิงเฉินเหลือบมองไปทีหนึ่ง
ประมาณว่ารื้อกำแพงที่อยู่ระหว่างกลาง แล้วค่อยปรับปรุงใหม่เล็กน้อย
แบบนี้ สวนของบ้านก็จะเชื่อมต่อกัน และยังสามารถเดินไปที่บ้านของตระกูลจิ้นได้อีกด้วย
แบบนี้ดูเหมือนจะแยกกันอยู่ แต่มองจากมุมอีกมุมหนึ่งก็เหมือนจะว่าไม่ได้แยกกันอยู่
แม้แต่เจียงสื้อสื้อก็ยังคิดว่าความคิดนี้ไม่เลว
ภรรยาเห็นด้วยแล้ว แน่นอนว่าจิ้นเฟิงเฉินก็ไม่มีข้อโต้แย้งอะไร
หลังจากที่แม่จิ้นรู้ เธอก็รู้สึกดีใจจนยิ้มไม่หุบ
พ่อจิ้นก็ยิ้มและพูดว่า “แบบนี้แม่ของนายก็ไม่ต้องมัวแต่รอคอยว่าเมื่อไหร่จะได้เจอกับเถียนเถียนและเสี่ยวเป่าทุกวันแล้ว!”
“ผมเป็นคนคิดขึ้นมานะ”
จิ้นเฟิงเหรายกมือขึ้นราวกับได้ทำความดีความชอบ จากนั้นก็เอนตัวไปข้างหน้าส้งหวั่นชีงและพูดว่า “คุณดูสิว่าผมฉลาดแค่ไหน แบบนี้ ลูกสาวของเราคลอดออกมาก็ไม่กลัวว่าจะไม่มีเพื่อนแล้ว!”
ส้งหวั่นชีงหัวเราะ เคาะที่หน้าผากของจิ้นเฟิงเหราเบาๆและพูดว่า “อายุเท่าไหร่แล้ว ยังทำตัวอย่างกับเด็ก? แล้วอีกอย่าง คุณแน่ใจว่าลูกในท้องคือลูกสาวขนาดนั้นเลยเหรอ”
จิ้นเฟิงเหราพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม ลูบท้องที่โป่งของส้งหวั่นชีงเบาๆ
“ผมได้ยินเขาว่ากันว่า ท้องกลมๆต้องเป็นลูกสาวแน่นอน! ท้องแหลมๆถึงจะเป็นลูกผู้ชาย”
ประโยคนี้ทำให้ทั้งครอบครัวอดหัวเราะไม่ได้
บรรยากาศช่างกลมกลืนและอบอุ่น
ครอบครัวเดียวกันนั่งล้อมรอบโต๊ะอาหารเตรียมกินอาหารเย็น
จิ้นเฟิงเหราราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ วางตะเกียบลงแล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “พี่ ผมนึกเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งออกแล้ว”
ทุกคนเห็นท่าทางที่เคร่งขรึมของจิ้นเฟิงเหราก็พากันหันหน้ามามองเขา รอให้เขาพูดต่อ
“เรื่องอะไร?” จิ้นเฟิงเฉินถาม
“พี่ ในเมื่อพี่กลับมาแล้ว พี่จะกลับไปเป็นคุณท่านจิ้นของจิ้นกรุ๊ปอยู่รึเปล่า?” จิ้นเฟิงเหราถามเขา
บางทีในสายตาของคนอื่น ตำแหน่งคุณท่านจิ้นของจิ้นกรุ๊ปอาจจะเป็นที่ต้องการ หรือถึงขั้นทำให้คนน่ามือตามัว
แต่สวรรค์รู้ดีว่าเขาเหนื่อยแค่ไหนที่ต้องจัดการกับเรื่องของบริษัททุกวันจนไม่มีเวลาอยู่กับภรรยา!
ตอนนี้จิ้นเฟิงเหราอยากที่จะส่งมอบตำแหน่งนี้ออกมาโดยเร็ว
จากนั้นเขาจะได้ใช้เวลาอยู่กับภรรยาของตัวเองจนถึงวันคลอดลูก
พ่อจิ้นกะแอมเบาๆแล้ววางถ้วยและตะเกียบในมือลง
เจียงสื้อสื้อและคนอื่นๆก็หันหน้าไปมองที่พ่อจิ้นอีกครั้ง
“พอดีเลย ฉันก็มีเรื่องอยากจะพูดด้วยเหมือนกัน” พ่อจิ้นขมวดคิ้ว ท่าทางเอาจริงเอาจังที่ไม่ได้เห็นมานานก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
จิ้นเฟิงเหรามีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง เขาลองถามกลับไปว่า “เรื่อง เรื่องอะไรครับ?”
“ฉันแก่แล้ว ได้เวลาเกษียณแล้ว”
พ่อจิ้นถอนหายใจเบาๆ ถึงแม้ว่าปากจะบอกว่าตัวเองแก่แล้ว แต่รอยยิ้มในสายตากลับซ่อนเอาไว้ไม่อยู่
“ตำแหน่งคุณท่านจิ้นก็ปล่อยออกไปแล้ว อนาคตของจิ้นกรุ๊ปต่อไปก็พึ่งพวกนายสองคนพี่น้องแล้ว!”
พูดเสร็จ พ่อจิ้นก็มองดูจิ้นเฟิงเฉินและจิ้นเฟิงเหราสองพี่น้องด้วยดวงตาของความรักและความเมตตา
เห็นได้ชัดว่านี่คือการถอยไปอยู่เบื้องหลัง
จิ้นเฟิงเหราฟังจนตกตะลึง ปากก็เอาแต่บ่นว่า “ทำไมเป็นแบบนี้……”
เขายังคิดที่จะปัดตำแหน่งออกไปให้จิ้นเฟิงเฉิน ตัวเองจะได้มีเวลาอยู่กับภรรยา!
เมื่อเทียบกับใบหน้าที่คาดไม่ถึงของจิ้นเฟิงเหรา แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับแค่ยิ้มอ่อน
เขาสนับสนุนการตัดสินใจของพ่อจิ้น “แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พ่อจะได้มีเวลาไปเที่ยวกับแม่เยอะขึ้น”
“พี่นี่เป็นพี่แท้ๆของผมจริงๆ”
จิ้นเฟิงเหราทำเสียงคร่ำครวญและมองไปที่จิ้นเฟิงเฉิน
พ่อจิ้นพัฒนาจิ้นกรุ๊ปมาจนถึงทุกวันนี้ได้ แน่นอนว่าเขาต้องใช้เวลาและความพยายามไปไม่น้อย
แต่นี่ก็ลิขิตไว้แล้วว่าเขาจะไม่มีเวลาอยู่กับแม่จิ้น
ไม่ได้มีแค่จิ้นเฟิงเหราที่ต้องการมีเวลาอยู่กับภรรยาของตัวเอง แต่พ่อจิ้นก็ต้องการเหมือนกัน
ดังนั้นเขาถึงได้ใช้โอกาสนี้เปล่าประกาศ
ได้ยินคำพูดของลูกชายคนโต พ่อจิ้นก็ยิ้มด้วยความชอบใจ จากนั้นก็พูดอย่างใจเย็นว่า “ฉันคิดไว้ตั้งนานแล้ว”
พูดเสร็จก็หันหน้าไปมองที่แม่จิ้น
ความหวานของทั้งคู่นั้นทำให้จิ้นเฟิงเหราเงียบสงบลงทันที