เช้าตรู่ของวันต่อมา จิ้นเฟิงเฉินก็มาทำความคุ้นเคยกับกระบวนการการทำงานที่บริษัทจิ้นกรุ๊ปทันที
เขาพึ่งจะก้าวเข้าไปในบริษัท เหมือนกับคนที่มีสปอตไลท์ในตัวเอง ดึงดูดความสนใจของพนักงานจำนวนมาก
แต่ออร่าที่แข็งแกร่งของจิ้นเฟิงเฉิน ทำให้พนักงานไม่กล้าเข้ามาพูดคุยกับเขา
เมื่อเขาเดินเข้าไปในลิฟต์ บรรยากาศก็ครึกครื้นขึ้นมาทันที
“เมื่อกี้เราไม่ได้ดูผิดใช่ไหม?”
“ท่านประธานจิ้นของเรากลับมาแล้ว!”
……
พนักงานหญิงต่างพากันกระโดดโลดเต้น ราวกับสาวน้อยในฤดูใบไม้ผลิ
จิ้นเฟิงเฉินสั่งให้เลขาเรียกผู้ถือหุ้นมารวมตัวกันที่ห้องประชุม
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้กลับมาที่บริษัทนานแล้ว แต่เขาก็ยังพอมีอำนาจหลงเหลืออยู่
ผู้ถือหุ้นของบริษัทหลายคนไม่มีเรื่องอะไรพวกเขาก็ไม่ค่อยอยู่ที่บริษัท
ได้รับข่าวว่าจิ้นเฟิงเฉินต้องการเจอกับพวกเขา แต่ละคนก็ไม่กล้าที่จะรอช้า
พากันรีบวิ่งเข้าไปในห้องประชุม
จิ้นเฟิงเฉินถือโอกาสตอนที่พวกเขากำลังเดินทางมา เขาก็ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับกิจการของบริษัทแล้วคร่าวๆ
“ประธานจิ้น ไม่เจอกันนานเลยนะ!”
“ประธานจิ้น”
ผู้ถือหุ้นพากันก้มหน้าทักทายจิ้นเฟิงเฉินด้วยรอยยิ้ม
จิ้นเฟิงเฉินก้มหน้าตอบรับอย่างสงบเสงี่ยม ยกคางขึ้นบอกให้พวกเขานั่งลง
เขาพูดถึงประเด็นสำคัญทันที บอกกับทุกคนว่าพ่อจิ้นส่งมอบตำแหน่งคุณท่านจิ้นออกมาแล้ว
ผู้ถือหุ้นของบริษัทบางคนรู้ข่าวนี้ตั้งนานแล้ว จึงไม่ได้มีการโต้แย้งใดๆ
แต่ว่าผู้ถือหุ้นส่วนน้อยไม่รู้เรื่องนี้ พวกเขาถึงขั้นพูดคัดค้านออกมา
“คุณท่านจิ้น คุณไม่ได้มาที่บริษัทนานขนาดนี้ ผมคิดว่าคุณควรทำความคุ้นเคยกับกิจการก่อน แล้วค่อยเข้ามารับตำแหน่งคุณท่านจิ้น”
“ผมก็คิดแบบนั้น”
……
จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้าขึ้นเหลือบมองคนสองสามคนที่กำลังพูด เขาพูดอย่างใจเย็น อธิบายเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ทั้งหมดที่บริษัทพบเจอในปีที่ผ่านมาอีกครั้ง
พึ่งจะพูดเสร็จ ผู้ถือหุ้นที่พูดคัดค้านเมื่อกี้ก็นับถือเขาขึ้นมาทันที
สามารถเข้าใจกิจการของบริษัทได้อย่างทะลุปรุโปร่งในเวลาอันสั้นแค่นี้ รวมถึงความสามารถที่จิ้นเฟิงเฉินแสดงให้เห็นก่อนหน้านี้ แต่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขายอมนับถือ
ข่าวที่จิ้นเฟิงเฉินเข้ารับตำแหน่งคุณท่านจิ้นบริษัทก็ได้แพร่กระจายไปทั่วบริษัททันที
ข่าวนี้ก็เหมือนหยดน้ำเย็นที่หยดลงในกระทะน้ำมันร้อน
พวกพนักงานหญิงก็ต่างพากันครึกครื้นขึ้นมาทันที
พากันเกาะกลุ่มเม้าท์มอยถึงเรื่องนี้
“ประธานจิ้นตอนนี้กลายเป็นคุณท่านจิ้นแล้ว! สุด สุดยอดไปเลย”
“คุณท่านจิ้นหล่อขนาดนี้ อยากมีลูกให้เขาจังเลย!!”
“พอได้แล้วเธอ เลิกเพ้อฝันได้แล้ว”
“มีคุณท่านจิ้นอยู่ บริษัทของเราจะต้องพัฒนาดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน”
……
ถึงแม้จะบอกว่าจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ปกปิดข่าว แต่ไม่รู้ว่าทำไมข่าวนี้ถึงได้รั่วไหลออกไปนอกบริษัท
เพื่อการพาดหัวข่าว มีนักข่าวหลายคนที่ได้ยินข่าวก็พากันรีบมาที่นี่
พวกเขาเฝ้าอยู่ที่ประตูใหญ่ของบริษัทจิ้นกรุ๊ป นั่งยองๆมองหาจิ้นเฟิงเฉินอยากได้ข่าวสารล่าสุด
การที่จิ้นเฟิงเฉินเข้ามารับตำแหน่งคุณท่านจิ้นบริษัท มันเป็นข่าวที่สำคัญมากในวงการธุรกิจ ถึงขั้นอาจจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของวงการธุรกิจเลยด้วยซ้ำ
ในตอนที่จิ้นเฟิงเฉินสองพี่น้องเดินออกมาจากบริษัท พวกนักข่าวก็ราวกับหมาป่าหิวโหยที่มองเห็นเนื้อ
พากันเข้าไปรุมล้อมพวกเขาทั้งสองคน และคำถามที่ล้นหลามก็ลอยเข้ามา
“ได้ยินมาว่าคุณจิ้นกลับมาครั้งนี้ คุณจะกลับมาอยู่ที่นี่ถาวรและเข้ารับตำแหน่งคุณท่านจิ้นของบริษัท ใช่ไหมคะ?”
“อยากทราบว่า ทำไมอดีตคุณท่านจิ้นลาออกจากตำแหน่งนี้คะ?”
“คุณคิดว่าความสามารถของตัวเองในตอนนี้ คุณมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะรับตำแหน่งคุณท่านจิ้นหรือไม่คะ?”
……
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและบอดี้การ์ดแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ฝั่งหนึ่งปกป้องสองพี่น้อง อีกฝั่งหนึ่งกั้นนักข่าวที่กระตือรือร้นเอาไว้
จิ้นเฟิงเฉินหยุดเดิน ใบหน้าที่หล่อเหลาหันไปทางกล้องสีดำหลายๆตัว
เขาเหลือบมองไมโครโฟนที่พยายามจะยื่นเข้ามาหาเขาแล้วพูดช้าๆว่า “ขอโทษครับ ตอนนี้ผมกำลังรีบ แต่เย็นวันนี้จิ้นกรุ๊ปจะจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมจินหัว ยินดีต้อนรับทุกคนไปร่วมงานครับ”
พูดเสร็จ จิ้นเฟิงเฉินก็พาจิ้นเฟิงเหราออกไปทันที
สองพี่น้องกลับไปถึงบ้าน สิ่งแรกที่ทำก็คือไปหาภรรยาของตัวเอง
จิ้นเฟิงเฉินก็บอกเจียงสื้อสื้อเกี่ยวกับงานเลี้ยงของเย็นวันนี้
เจียงสื้อสื้อเทนมร้อนแก้วหนึ่งให้เขา ได้ยินแล้วก็ยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องแต่งตัวไปร่วมงานเลี้ยงให้สวยหน่อยนะสิ?”
จิ้นเฟิงเฉินถือแก้วนมมาวางไว้บนโต๊ะ เอื้อมแขนไปกอดเอวของเจียงสื้อสื้อ จากนั้นก็ก้มหน้ากระซิบข้างหูเธอ
“คุณอยากจะแสดงความเป็นเจ้าของเหรอ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว ใครให้คุณท่านจิ้นของเราเป็นที่นิยมขนาดนี้ล่ะ”
เจียงสื้อสื้อกะพริบตาและพยักหน้าอย่างเด็ดขาด แต่หูของเธอกลับแดงขึ้นเรื่อยๆ
ช่วงเวลาพลบค่ำ ใกล้จะมืดแล้ว
ลานจอดรถของโรงแรมจินหัวแออัดไปด้วยรถ แม้แต่ถนนด้านนอกโรงแรมก็เต็มไปด้วยรถยนต์หรูหราทุกประเภท
จิ้นเฟิงเฉินในฐานะตัวเอกของงาน ตอนนี้กำลังเตรียมตัวอยู่กับเจียงสื้อสื้อและลูกอีกสองคนในห้องพักผ่อน
เนื่องจากส้งหวั่นชีงกำลังตั้งครรภ์ เธอจึงไม่ได้มาด้วย จิ้นเฟิงเหราก็เลยรีบออกไปต้อนรับแขก
ถึงแม้ประตูจะปิดอยู่แต่ก็ยังได้ยินเสียงวุ่นวายข้างนอก เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะพูดกับจิ้นเฟิงเฉินว่า “เฟิงเฉิน คุณออกไปต้อนรับแขกกับจิ้นเฟิงเหราก่อนก็ได้”
ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ทิ้งประโยคที่ว่า “เดี๋ยวผมมารับคุณ”เอาไว้ แล้วก็เดินออกไป
บรรยากาศครึกครื้นเป็นอย่างมาก นักธุรกิจจากทุกสาขาอาชีพมาเกือบหมดทุกคน
พวกเขาล้วนอยากจะมาทำความรู้จักกับคุณท่านจิ้นที่อายุน้อยที่สุดคนนี้
ตอนที่จิ้นเฟิงเฉินอกผายไหล่ผึ่งเดินเข้าไปหาจิ้นเฟิงเหรา ดึงดูดทำให้เกิดความโกลาหล
“คุณท่านจิ้นจิ้นออกไปแล้ว!”
“พระเจ้า หล่อจังเลย”
“ประธานจิ้นก็หล่อเหมือนกัน!”
……
ตอนที่สองพี่น้องยืนอยู่ด้วยกัน พวกผู้หญิงที่อยู่ในงานก็พากับจ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ยอมคลาดสายตา
จิ้นเฟิงเฉินสองคนพี่น้องเดิมทีก็หน้าตาคล้ายกันอยู่แล้ว เพียงแค่คนหนึ่งเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง อีกคนหนึ่งร้อนเหมือนไฟ
ยืนล้อมรอบตัวพวกเขาอยู่คือนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงจากทุกสาขาอาชีพ พวกเขาพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง
หลังจากนั้นไม่นาน เจียงสื้อสื้อก็พาเด็กน้อยน่ารักสองคนปรากฏตัวขึ้นที่งานเลี้ยง
จิ้นเฟิงเฉินหันกลับไปอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ก้าวเท้าออกไปหาเจียงสื้อสื้อ
ในตอนนั้นเอง น้ำค้างแข็งที่อยู่บนคิ้วของเขาดูเหมือนกำลังละลาย เหลือไว้เพียงความอ่อนโยนที่ทำให้คนหลงใหล
“สื้อสื้อ”
เสียงของจิ้นเฟิงเฉินราวกับวิโอลอนเชลโล ลึกซึ้งและอ่อนโยน
เดิมที่ไม่มีใครสังเกตเห็นการมาของเจียงสื้อสื้อ แต่มองเห็นพฤติกรรมของจิ้นเฟิงเฉิน ทุกคนก็เลยมองเห็นเธอ
จิ้นเฟิงเฉินเดินไปอยู่ข้างๆเจียงสื้อสื้อ ยื่นมือใหญ่ที่แห้งกร้านและอบอุ่นออกไปจับมือเล็กๆของเธอ
ชายที่ยืนอยู่ข้างจิ้นเฟิงเหราเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็หันมาถามว่า “ประธานจิ้น นั้นคือภรรยาของคุณท่านจิ้นใช่ไหม?”
จิ้นเฟิงเหราที่ถูกความหวานสาดเข้าใส่บึนปากขึ้นมา ในใจก็คิดถึงภรรยาของตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม
ได้ยินแบบนั้น จึงยิ้มอ่อนและพยักหน้า “อืม นั้นคือพี่สะใภ้ผมเอง”
“เหมาะสมกันจริงๆเลย! ได้ยินมาว่าประธานจิ้นก็มีภรรยาแล้ว?”
ชายคนนั้นถอนหายใจ มองไปที่คู่รักที่ช่างเหมาะสมกันคู่นั้นแล้วถามด้วยความสงสัย
พูดถึงส้งหวั่นชีงขึ้นมา ใบหน้าของจิ้นเฟิงเหราก็ซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ไม่ได้
“ใช่แล้ว ผมก็มีคนรักแล้ว”