นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เถียนเถียนเข้าร่วมงานเลี้ยงที่บรรยากาศครึกครื้นแบบนี้ เธอกะพริบตามองดูแด๊ดดี้ของตัวเอง
จากนั้นก็จับมือเสี่ยวเป่า เดินตามผู้ใหญ่สองคนอยู่ข้างหลัง
แสงไฟส่องกระทบครอบครัวนี้ทั้งสี่คน
เจียงสื้อสื้อใส่ชุดราตรีสีฟ้าอ่อน ปล่อยผมยาวลงไปด้านหลัง ผิวขาวละเอียดอ่อน ไม่มีเครื่องประดับใดๆบนตัว
มองดูช่างสูงส่งและไม่เหมือนใคร ทุกอิริยาบถแสดงออกถึงความสง่างาม
หนูน้อยน่ารักสองคนที่อยู่ข้างหลังยิ่งไม่ต้องพูดถึง น่ารักจนทำให้คนที่อยู่ในงานต่างพากันรักและเอ็นดู
พวกผู้หญิงมองดูจิ้นเฟิงเฉินจับมือเจียงสื้อสื้อ ใบหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยความอิจฉา
ผู้หญิงบางคนที่คิดอะไรกับจิ้นเฟิงเฉิน พอเห็นเจียงสื้อสื้อ พวกเธอก็ล้มเลิกความคิดนั้นในทันที
ยังไม่ต้องพูดถึงออร่าและหน้าตาที่สวยงามของเจียงสื้อสื้อ สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ชื่อเสียงที่จิ้นเฟิงเฉินรักและเอ็นดูคุณหญิงเป็นที่รู้กันไปทั่ว!
ต้นแบบของการรักและเอ็นดูภรรยาอย่างบ้าคลั่ง?
นักธุรกิจพวกนั้นต่างพากันหัวเราะและพูดว่า “คุณท่านจิ้น นี่คือภรรยาของคุณใช่ไหม?”
“คุณสองคนช่างเกิดมาคู่กันจริงๆ”
“ลูกน้อยทั้งสองคนก็น่ารักมากเลย อย่างกับออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันกับคุณ”
……
ถึงแม้ว่าคำพูดพวกนี้จะเป็นเพียงคำชมธรรมดาๆ แต่จิ้นเฟิงเฉินชอบที่ได้ยินมัน ถึงขั้นแนะนำเจียงสื้อสื้อให้พวกเขารู้จักอย่างเคร่งขรึม
“นี่คือภรรยาของผม เจียงสื้อสื้อ”
พูดเสร็จ จิ้นเฟิงเฉินก็ดึงหนูน้อยสองคนเข้ามา “ลูกชายของผม เสี่ยวเป่า ลูกสาว เถียนเถียน”
จากนั้นผู้คนก็พากันชื่นชมอีกครั้ง
เมื่อทุกคนมาถึงแล้ว งานเลี้ยงก็ครึกครื้นขึ้นกว่าเดิม ผู้หญิงพวกนั้นก็ไม่กล้าที่จะคิดอะไรกับจิ้นเฟิงเฉินอีกต่อไป
ตอนที่จิ้นเฟิงเฉินสองพี่น้องกำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องงานกับคนอื่นๆ เจียงสื้อสื้อก็พาหนูน้อยสองคนไปอีกด้านหนึ่ง หยิบขนมให้พวกเขากิน
“สวัสดีค่ะ คุณหญิงจิ้น”
มีผู้หญิงหน้าหวานคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายเจียงสื้อสื้อด้วยรอยยิ้ม
เจียงสื้อสื้อหันหน้าไปมอง ช่างเป็นใบหน้าที่แปลกตา
แต่ตามมารยาท เธอก็ยิ้มและก้มหน้าตอบกลับไป “สวัสดีค่ะ”
“ฉัน ฉันอยู่โรงเรียนเดียวกันคุณ! ฉันเป็นรุ่นน้องคุณ ได้ยินชื่อของคุณมานานแล้ว!”
ผู้หญิงคนนั้นดีใจและตื่นเต้น พูดจาติดๆขัด ราวกับว่าได้เจอกับไอดอลของตัวเอง
เจียงสื้อสื้อหัวเราะ ป้อนเค้กชิ้นเล็กๆในมือให้เถียนเถียนกิน และพูดกับเธออย่างนุ่มนวลว่า“จริงเหรอ แสดงว่าเรามีวาสนาต่อกัน ตั้งใจเรียนนะ”
ผู้หญิงคนนั้นได้รับการตอบกลับมา เธอตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดขึ้นมา เธอพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ค่ะ!”
พวกผู้หญิงคนอื่นๆเห็นแบบนี้ ก็พากันเดินตามผู้หญิงคนนั้นเข้ามาทักทายกับเจียงสื้อสื้อ
“คุณหญิงจิ้น คุณจำฉันได้ไหม เราเจอกันที่งานเลี้ยงครั้งก่อน”
“คุณนายจิ้น ไม่เจอกันนานเลย”
……
มองดูใบหน้าที่แปลกตารอบตัวพวกนี้ เจียงสื้อสื้อถึงกับรู้สึกสับสนและทำอะไรไม่ถูก
แต่เธอก็ไม่ได้แสดงสีหน้าออกมาแม้แต่น้อย ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ใจกว้าง ยิ้มก้มหน้าให้กับทุกคน
ท่ามกลางผู้คนมากมายที่ล้อมรอบ เถียนเถียนก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมา
“หม่ามี๊ ตรงนี้น่าเบื่อมากเลย!” เธอยื่นมือเล็กๆของตัวเองมาดึงนิ้วของเจียงสื้อสื้อ และพูดอย่างกระปรี้กระเปร่า
เจียงสื้อสื้อก็เลยถือโอกาสขอโทษผู้หญิงที่อยู่ล้อมรอบเธอ “ขอโทษด้วยนะคะ ฉันขอพาลูกทั้งสองคนออกไปไปสูดอากาศข้างนอกก่อนนะคะ”
“ได้ค่ะ ได้ค่ะ!”
เจียงสื้อสื้อยิ้มให้พวกเธออีกครั้ง จากนั้นก็พาหนูน้อยสองคนออกมาจากฝูงชน เลือกไปนั่งที่ใกล้ๆระเบียงเล็ก
จิ้นเฟิงเฉินทนปล่อยให้เจียงสื้อสื้ออยู่คนเดียวนานไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะมีเถียนเถียนและเสี่ยวเป่าอยู่ด้วยก็ไม่ได้
เขาปัดหน้าที่ของตัวเองอีกครั้ง เอาแขกพวกนี้โยนไปให้จิ้นเฟิงเหรารับมือ ส่วนตัวเองก็เดินหาเจียงสื้อสื้อ
“เดิมทีให้คุณมางานเลี้ยงเป็นเพื่อนผม แต่สุดท้ายกลับให้คุณดูแลลูกสองคนด้วยตัวเอง”
“ไม่เป็นไร คุณพึ่งได้รับตำแหน่ง เรื่องที่ต้องทำก็เยอะเป็นเรื่องธรรมดา”
เจียงสื้อสื้อพูดพร้อมกับป้อนขนมชิ้นเล็กๆให้จิ้นเฟิงเฉินกิน
เมื่อทั้งสองคนกำลังสวีทหวานกันอยู่ นอกห้องจัดงานเลี้ยงก็เกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง
ถึงขั้นได้ยินเสียงด่าของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
จิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้ออยู่ใกล้กับทางเข้าห้องจัดงานเลี้ยงมากที่สุด เมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย พวกเขาก็ลุกออกไปดูทันที
“เกิดอะไรขึ้น?” จิ้นเฟิงเฉินใช้เสียงต่ำถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าห้องจัดงานเลี้ยง
“คุณจิ้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็แค่มีคนแปลกหน้าคนหนึ่งจะเข้าไปในงานให้ได้”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูดด้วยความลำบากใจ “เขาแปลกหน้ามาก เราเลยไม่กล้าปล่อยให้เขาเข้าไป แต่ เขา เขาอ้างว่าเป็นอาของคุณหญิงจิ้น”
เจียงสื้อสื้อตกใจ ทันใดนั้นในหัวก็นึกถึงคนพิสดารสองคนของตระกูลฟางขึ้นมาทันที
เธอหันหน้าไปมอง บังเอิญหันไปสบตากับจิ้นเฟิงเฉินพอดี
“คุณจิ้น ผมจะให้คนไปไล่เขาออกไปเดี๋ยวนี้” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นว่าพวกเขาเงียบ คิดว่าทำให้พวกเขาไม่พอใจ จึงรีบพูดออกมาอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้อง เดี๋ยวผมไปดูเอง”
จิ้นเฟิงเฉินปฏิเสธด้วยเสียงต่ำ จากนั้นก็พาเจียงสื้อสื้อและลูกทั้งสองคนเดินออกไปด้วย
ตรงสุดทางเดิน ทั้งสองคนเห็นอาใหญ่ของตระกูลฟางที่มีชื่อว่าฟางเฉิงกำลังถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรั้งเอาไว้
“ผมบอกว่าแล้วว่า ผมเป็นอาของภรรยาคุณท่านจิ้น รีบปล่อยผมเข้าไปเดี๋ยวนี้”
เสียงที่เย่อหยิ่งของฟางเฉิงดังออกมาจากระยะไกล “เดี๋ยวพวกนายได้เห็นดีแน่”
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้วขึ้นมาทันที สายตามีความไม่พอใจเล็กน้อย
เสียงของเขายังดึงดูดความสนใจของแขกจำนวนไม่น้อย
“สื้อสื้อ เฟิงเฉิน อาเอง!”
สายตาที่เฉียบแหลมของฟางเฉิงมองไปเห็นเจียงสื้อสื้อและจิ้นเฟิงเฉิน เขาก็ยกมือขึ้นโบกอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกันก็ยังมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วยสายตาที่หยิ่งผยอง
ราวกับกำลังโอ้อวดว่าสิ่งที่เขาพูดไม่ใช่เรื่องโกหก
เจียงสื้อสื้อทั้งสองคนเดินเข้ามาข้างหน้าฟางเฉิง ยิ้มอ่อนและก้มหน้าให้ฟางเฉิง จากนั้นก็ขมวดคิ้วและถามว่า “คุณอา มีเรื่องด่วนอะไรเหรอ?”
“แน่นอนสิ อามาพูดคุยเรื่องธุรกิจ รู้ว่าคืนนี้พวกเธอจัดงานเลี้ยงที่นี้ ก็เลยมาหาพวกเธอ”
ฟางเฉิงตอบกลับมาในขณะเดียวกันก็ยังไม่ลืมที่จะถือโอกาสฟ้อง ท่าทางแบบนั้นน่าหมั่นไส้ที่สุด “แต่ใครจะรู้ว่าจะถูกห้ามไม่ให้เข้าไป”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนนั้นเห็นว่าฟางเฉิงเป็นอาของเจียงสื้อสื้อจริงๆ ทันใดนั้นก็เหงื่อตกทันที
พวกเขาแอบเงยหน้าขึ้นมองจิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้อ
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้”
เจียงสื้อสื้อตอบกลับไป
แต่ฟางเฉิงก็ไม่ได้สนใจท่าทางเย็นชาของเจียงสื้อสื้อ เขาหันไปมองจิ้นเฟิงเฉิน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มประจบสอพลอ “เฟิงเฉิน อารู้หมดแล้ว นายมีเก่งจริงๆเลย!”
เขาพูดพร้อมกับยื่นมือออกไปตบที่ไหล่ของจิ้นเฟิงเฉินเบาๆ แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับหลบอย่างเงียบๆ
“ไม่ว่ายังไง อาก็อยากจะมาแสดงความยินดีกับนายที่นี่”
ร่องรอยของความอับอายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฟางเฉิง แต่ก็ถูกซ่อนกลับไปอย่างรวดเร็ว เขาพูดอย่างเฟรนลี่ว่า “ยินดีด้วยที่ได้ครอบครองจิ้นกรุ๊ปทั้งหมด!”