ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 886 อ่านความคิดเขาไม่ออก

บทที่ 886 อ่านความคิดเขาไม่ออก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฟางรุ่ยจะกังวล แต่เขาไม่สามารถถามอะไรได้เลย ตอนนี้เขาทำได้เพียงรอดูการเปลี่ยนแปลง

ณ เมืองหลวงร้านอาหารมาร์เตีย

ฟางเฉิงและฟางอี้หมิงนั่งตรงข้ามกัน พวกเขาทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน ฟางเฉิงก็พูดว่าขึ้นว่า “อี้หมิง คิดว่าจิ้นเฟิงเฉินจะมาไหม?”

“ผมได้ส่งโลเคชั่นไปให้เขาแล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะมาหรือเปล่า” ฟางอี้หมิงก็ไม่รู้เช่นกัน

ไม่มีใครสามารถคาดเดาความคิดของจิ้นเฟิงเฉินได้

ในเดียวกัน ประตูห้องวีไอพีก็ถูกผลักเปิดออก จิ้นเฟิงเฉินก้าวขาเรียวยาวเดินเข้าไปด้านในด้วยชุดสูทเข้ารูป

เดิมทีคำเชิญจากสองพ่อลูกนี้ จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้วางแผนที่จะมา

แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่ลืมจุดประสงค์ของการเดินทางมาในครั้งนี้ ซึ่งต้องการติดต่อผู้รับผิดชอบSAกรุ๊ปผ่านฟางเฉิงและลูกชายของเขา

จึงจำเป็นต้องมา

เมื่อพบจิ้นเฟิงเฉินเดินมา หัวใจที่หดหู่อยู่ของฟางเฉิงก็สงบลงในที่สุด เขายิ้มทักทายว่า “เฟิงเฉิน มาแล้วเหรอครับ นั่งลงก่อนสิ พวกเรารอคุณอยู่เลย”

“นั่นสิเฟิงเฉิน นั่งก่อนเร็ว” หลินหลานภรรยาของลุงใหญ่ก็ได้พูดเชื้อเชิญด้วย

จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้าตอบรับอย่างเฉยเมยและนั่งลง

“ดูสิเฟิงเฉิน พวกเราไม่รู้ว่าคุณชอบอาหารแบบไหน ก็เลยสั่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้านนี้มาหมด ไม่รู้ว่ามีอะไรถูกใจบ้างไหม?”

ระหว่างที่พูด ฟางเฉิงก็จงใจเดินเข้าไปข้างๆจิ้นเฟิงเฉิน เพื่อจะรินไวน์ให้เขา

แต่จิ้นเฟิงเฉินยื่นมือเข้ามาขวางกั้นและปฏิเสธ “สื้อสื้อไม่ชอบให้ผมดื่ม ขอโทษนะครับ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟางเฉิงก็หยุดการเคลื่อนไหวของเขาลงด้วยความเขินอายเล็กน้อยและยิ้มขึ้น “ดูเหมือนว่าสื้อสื้อและคุณรักกันมากนะครับ”

เมื่อพูดถึงเจียงสื้อสื้อ การแสดงออกของจิ้นเฟิงเฉินก็ดูอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว เขายิ้มและตอบว่า “ใช่ครับ”

“สื้อสื้อโชคดีจริงๆที่มีสามีดีๆแบบนี้”

“ใช่ไหมล่ะ ถ้ามีคนแบบนี้อยู่ในครอบครัวของเราก็ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก”

……

การสรรเสริญเยินยอของคนเหล่านี้ ทำให้จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย

เขาจ้องไปที่ฟางอี้หมิง แล้วตัดไปที่หัวข้อว่า “คุณรู้จักกับSAกรุ๊ปได้อย่างไร?”

หลังจากถูกจิ้นเฟิงเฉินจ้องมองอย่างนั้น ฟางอี้หมิงก็รู้สึกประหม่าอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบออกมาอย่างรวดเร็วว่า “พอดีมีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมเดินทางไปทำธุรกิจที่ต่างประเทศ บังเอิญรู้จักกัน หลังจากนั้นก็คุยกันอยู่สองสามครั้ง ต่อมาก็ได้ทำความร่วมมือกันทางธุรกิจ มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน หากสิ่งที่ฟางอี้หมิงพูดเป็นจริง ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรซับซ้อน

หรือเขาจะคิดมากไปเอง?

“แล้วคุณรู้ภูมิหลังของSAกรุ๊ปหรือเคยเข้าไปในSAกรุ๊ปหรือเปล่า? คุณรู้จักพวกเขามากแค่ไหน?” จิ้นเฟิงเฉินถาม

ตอนนี้ฟางอี้หมิงถูกยิงคำถามเข้ามามากมาย เขาไม่รู้จักSAกรุ๊ปอย่างลึกซึ้งเท่าไรนัก

ดังนั้นเขาจึงยกมือลูบปลายจมูกทำท่าครุ่นคิด “ปกติผมจะติดต่อผ่านผู้จัดการทั่วไปและความร่วมมือต่างๆเขาจะติดต่อกับผมโดยตรง บริษัทนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”

เมื่อเห็นว่าสีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินดูไม่ดีนัก ฟางอี้หมิงก็เริ่มกลัวขึ้นมา

หลังจากที่เขาพูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็ขมวดคิ้วและเกิดความสงสัยขึ้นในใจ

เมื่อเห็นจิ้นเฟิงเฉินเงียบไป ฟางอี้หมิงก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นอีกครั้งว่า “ประธานจิ้น มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”

“ไม่มีอะไรครับ”

เมื่อพูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

ที่โต๊ะอาหาร ตระกูลฟางได้พยายามเอาอกเอาใจจิ้นเฟิงเฉิน เพื่อต้องการเพิ่มประทับใจให้กับจิ้นเฟิงเฉิน

แต่จิ้นเฟิงเฉินกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องของSAกรุ๊ปอยู่ในใจ เขาจึงเหม่อลอยเล็กน้อย

“เฟิงเฉิน ลองชิมนี่ดูสิ นี่เป็นเมนูใหม่ คืนนี้ดูเหมือนคุณไม่กินอะไรเลย” ฟางเฉิงใช้ตะเกียบ คีบซี่โครงหมูมาวางไว้บนจานของจิ้นเฟิงเฉิน

ร้านอาหารนี้ไม่เลวเลย อาหารก็รสชาติอร่อย

เพียงว่าจิ้นเฟิงเฉินไม่สามารถมามัวแต่สนใจเรื่องอาหารได้

หลังจากทานอาหารเสร็จ ทุกคนก็เดินไปยังทางเข้าร้านอาหาร

หลังจากกล่าวคำอำลากับพวกเขาแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็ก้าวขึ้นรถและจากไปทันที

ตระกูลฟางได้แต่มองหน้ากันและมองไปยังรถที่ค่อยๆขับห่างออกไป ฟางอี้หมิงถามขึ้นว่า “พ่อครับ พ่อว่าเขามีแผนอะไรอยู่?”

ฟางเฉิงเองก็คิดไม่ออก เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า “รอไปก่อน ไม่ว่าเขาจะมีแผนอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่พวกเราจะไปหาเรื่องได้”

การกระทำของจิ้นเฟิงเฉินในวันนี้ทำให้ฟางเฉิงเองก็ไม่สามารถเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ท่าทางแบบนั้นทำให้เขาถึงกับมึนงง

ระหว่างทางกลับโรงแรม จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยอย่างไม่ทราบสาเหตุ

เขาดึงคอออกแล้วจุดบุหรี่ขึ้นสูบ

ทันทีที่เขามาถึงโรงแรม กู้เนี่ยนก็มาถึงเช่นกัน

“คุณชายครับ มีชายคนหนึ่งอ้างว่าเป็นอาที่สองของคุณหญิงอยากเชิญชวนคุณชายไปกินข้าวที่บ้านพรุ่งนี้”

เมื่อนึกถึงฟางรุ่ยที่เขาพบในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณท่านฟางวันนั้น จิ้นเฟิงเฉินจึงยกมือขึ้นและพูดว่า “ปฏิเสธเขาไป บอกว่าพรุ่งนี้ผมไม่ว่าง นอกจากนี้ช่วยโทรตามฟางยู่เชินมาให้ผมหน่อย บอกว่าผมมีอะไรจะคุยกับเขา”

ฟางรุ่ยและฟางเฉิงเป็นพวกคนเจ้าเล่ห์กลุ่มเดียวกัน จิ้นเฟิงเฉินไม่ต้องการติดต่อกับพวกเขาอีก

“ครับ คุณชาย”

กู้เนี่ยนรับคำสั่งแล้วเดินทางออกไป

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ประตูห้องโรงแรมก็ถูกเคาะขึ้นอีกครั้ง ฟางยู่เชินเดินทางมาแล้ว

จิ้นเฟิงเฉินเดินไปเปิดประตูด้วยตนเอง เขาทักทายต้อนรับฟางยู่เชินและบอกกู้เนี่ยนว่า “ขอชาสองถ้วย”

หลังจากนั่งลงแล้วฟางยู่เชินก็มองไปที่จิ้นเฟิงเฉินด้วยความสงสัย

จิ้นเฟิงเฉินมาที่เมืองหลวงพร้อมกับกับฟางเฉิงและได้ร่วมรับประทานอาหารกับตระกูลของเขา เขาเองก็รู้เรื่องนี้

แม้ว่าเขามีคำถามมากมายต้องการถามจิ้นเฟิงเฉิน แต่ในที่สุดเขาก็หยุดมันไว้

จิ้นเฟิงเฉินหยิบเอกสารฉบับหนึ่งจากโต๊ะและยื่นให้ฟางยู่เชิน“”เป็นแหล่งข้อมูลลูกค้าที่เชื่อถือได้ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับคุณ ตอนนี้คุณยังต้องการฐานลูกค้าระยะยาวเพื่อวางรากฐานที่มั่นคงต่อไป”

จิ้นเฟิงเฉินรู้สถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลฟางดี ในเมื่อฟางยู่เชินต้องการกุมอำนาจ ตอนนี้เขาทำได้เพียงเตรียมการให้ดีเท่านั้น

มีเพียงการทำมันให้สำเร็จเท่านั้น จึงจะสามารถปิดปากของคนเหล่านั้นแล้วได้รับสิทธิ์ในการพูด

ฟางยู่เชิน หยิบมันขึ้นมาและอ่านชื่อบริษัทเหล่านั้นสองสามแห่ง เขาอดไม่ได้ที่จะแปลกใจเล็กน้อยและถามด้วยความสงสัยว่า “ทำไมครับ? คุณไม่ได้มีแผนจะร่วมมือกับคุณลุงและคนอื่นๆเหรอ?”

จิ้นเฟิงเฉินรู้ว่าเขาจะถามคำถามนี้ ดังนั้นจึงคิดแล้วพูดว่า “อืม แต่การร่วมมือกับพวกเขาเป็นทางเลือกสุดท้าย และมันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชีวิตสื้อสื้อ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ฟางยู่เชินก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ เขาพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?”

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท