“นี่นายจะทำอะไร? ปล่อยฉันนะ!” เจียงสื้อสื้อใช้แรงต่อสู้ เพื่อจะได้หลุดออกจากมือของเขา
แต่ว่าพละกำลังระหว่างชายหญิงต่างกันมาก เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางเย้นชิง
“เฟิงเฉิน!”
ในช่วงกระชั้นชิดและไม่มีวิธีอื่นแล้ว เธอทำได้แค่ตะโกนออกมา
แต่ว่าเสียงผู้คนโดยรอบต่างเซ็งแซ่ แถมตรงนี้ยังเป็นมุมห้องด้วย เสียงของเธอถูกกลบ จิ้นเฟิงเฉินที่กำลังพูดคุยกับคนอื่นอยู่จึงไม่ได้ยิน
“พวกเขาไม่ได้ยินหรอก” ฟางเย้นชิงยิ้มให้อย่างภาคภูมิใจ
“ฟางเย้นชิง! ฉันมีศักดิ์เป็นน้องสาวของแกนะ นี่แกบ้าไปแล้วหรือยังไง?” เจียงสื้อสื้อทำตาเขียวปั๊ดใส่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอสังเกตเห็นสายตาของเขาที่จ้องมองมาที่ตนเองอย่างผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้คิดลึกอะไร แต่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าบ้าบิ่นได้ขนาดนี้ ถึงขั้นมีความคิดกับตนเองที่นี่ได้
“ฉันก็แค่อย่างคุยกับคุณ ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”
ท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่องของฟางเย้นชิง ในใจของเจียงสื้อสื้อกระวนกระวายมาก เธอเริ่มต่อสู้อีกครั้ง “แกรีบปล่อยฉันนะ!”
“น้องสาวที่แสนดีของฉัน อย่าทำแบบนี้ ฉันจะเสียใจนะ”
ฟางเย้นชิงใช้แรงดึงเธอเข้าหาตนเอง จากนั้นก็ก้มศีรษะลง
เจียงสื้อสื้อตัวสั่นเทา พร้อมทั้งหลับตาตามสัญชาตญาณ และใช้แรงต่อสู้อยู่ตลอด
“โอ๊ย!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้น
เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่ามือเริ่มผ่อนลงแล้ว เมื่อลืมตาขึ้นมา ก็เห็นว่าฟางเย้นชิงไปนอนกองอยู่ที่พื้น
“หน้าด้านจริงๆ !”
เด็กสาวหน้าตาสวยมากคนหนึ่งเดินมาอยู่ตรงหน้าเธอ พร้อมทั้งพูดดูถูกฟางเย้นชิงที่นอนกองอยู่ที่พื้น
เจียงสื้อสื้อตั้งสติได้ทันที “….คุณช่วยฉันไว้?”
เด็กสาวหันกลับมาหาเธอ ได้แต่ยักไหล่เท่านั้น
“ขอบคุณนะ” เจียงสื้อสื้อรีบขอบคุณทันที “ถ้าไม่ใช่คุณ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี?”
เด็กสาวได้แต่ยิ้มหวานให้ “ไม่ต้องขอบคุณหรอก ฉันทนไม่ได้ที่ต้องเห็นผู้หญิงมาถูกทำร้ายแบบนี้”
“มึงเป็นใคร? ถึงกล้าเสือกเรื่องของคุณชายอย่างกู!” ฟางเย้นชิงลุกขึ้นมา พร้อมทั้งจ้องมองเด็กสาวคนนั้นตาเขม็งด้วยความโกรธแค้น
เด็กสาวส่งเสียงอย่างดูถูก “ฉันไม่ได้สนว่าแกเป็นใคร แกมารังแกคนมันไม่ถูกต้อง!”
“เธอมีศักดิ์เป็นน้องสาวของฉัน แล้วฉันจะไปรังแกเธอได้ยังไง?” ฟางเย้นชิงพูดแก้ตัว
“มีศักดิ์เป็นน้องสาว?” เด็กสาวเริ่มแปลกใจเล็กน้อย
เมื่อครู่สิ่งที่เธอเห็นมันไม่ได้เหมือนกับสิ่งที่เขาพูดถึงความสัมพันธ์เกี่ยวดองกันเลย
เจียงสื้อสื้อรู้ว่าเธอกำลังแปลกใจอะไรอยู่ และรีบอธิบายอย่างไม่เต็มใจ “ฉันมีศักดิ์เป็นน้องสาวของเขาจริงๆ แต่จิตใจเขาคิดไม่ซื่อนั่นก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน”
เด็กสาวตกใจจนเบิกตาโต เธอหันศีรษะไปมองฟางเย้นชิง แล้วส่ายหน้าไปมา “แกนี่มันสัตว์นรกชัดๆ กล้าทำมิดีมิร้ายกับน้องสาวของตนเอง…”
ขนาดเธอเองยังไม่กล้าพูดต่อ เพราะว่ามันสกปรกโสมมมาก
“ฉัน…ฉันจะไม่ปล่อยพวกแกไป” ฟางเย้นชิงถลึงตามองเจียงสื้อสื้ออย่างโหดเหี้ยม จากนั้นก็เดินหนีไป
“พวกสถุ่น สัตว์นรก!” เด็กสาวด่าทอตามหลังเขาไปหลายประโยค
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจ ดีที่ว่ามีคนเข้ามาช่วย ไม่งั้นตนเองก็คงหมดท่าแน่
“ต่อไปอยู่ให้ห่างจากผู้ชายคนนั้นซะ”
เด็กสาวพูดจบก็หันหลังเตรียมเดินจากไป
“รอเดี๋ยว” เจียงสื้อสื้อรีบเรียกหยุดเธอเอาไว้
“หือ?” เด็กสาวหันศีรษะกลับมา
เจียงสื้อสื้อเดินไปทางด้านหน้าของเธอ จากนั้นก็ยื่นมือขวาออกมา พลันฉีกยิ้มให้ “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเจียงสื้อสื้อ”
เด็กสาวเลิกคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็จับมือเธอตอบ “ซ่างกวนหยวน”
“วันนี้ขอบคุณคุณมากจริงๆ ถ้าไม่ใช่คุณ ฉันก็คงหมดสภาพไปแล้ว”
เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เจียงสื้อสื้อเริ่มมีอาการใจสั่นเป็นพักๆ
ซ่างกวนหยวนยิ้มให้ “ต่อไปถ้าเจอคนพรรค์นี้อีก ลงมือให้หนัก รู้ไหม?”
“รู้แล้ว” เจียงสื้อสื้อพยักหน้าให้
“สื้อสื้อ” จิ้นเฟิงเฉินเดินเข้ามาหา
“เฟิงเฉิน” เจียงสื้อสื้อมองเขาอย่างดีใจ
ตอนที่ซ่างกวนหยวนเห็นจิ้นเฟิงเฉิน แววตาทอประกายเล็กน้อย!แต่ก็หายวับเป็นปกติไปในพริบตา
“สื้อสื้อ คนนี้คือ….” เธอใช้สายตาซักถามไปทางเจียงสื้อสื้อ
“เขาคือสามีของฉันเอง” เจียงสื้อสื้อดึงมือของจิ้นเฟิงเฉิน พร้อมทั้งยิ้มออกมาอย่างหวานชื่น ซ่างกวนหยวนเบิกตาโตอย่างแปลกใจ “คุณแต่งงานแล้วเหรอ?”
“ใช่ แถมยังเป็นคุณแม่ลูกสองด้วย” เจียงสื้อสื้อปัดผมที่อยู่ข้างแก้มออกและทัดหู
ซ่างกวนหยวนยิ้มเล็กน้อย “มองไม่ออกเลย”
เจียงสื้อสื้อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหันไปหาจิ้นเฟิงเฉินแล้วพูดออกมา “คุณหนูซ่างกวนเพิ่งช่วยฉันมาเมื่อครู่เอง”
“ช่วยเหรอ?” จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว
เจียงสื้อสื้อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้เขาฟัง
หลังจากฟังจบแล้ว ใบหน้าของจิ้นเฟิงเฉินถึงขั้นดำทะมึน อุณหภูมิรอบตัวค่อยลดระดับลงไปหลายองศา
ฟางเย้นชิงคนนั้นเบื่อชีวิตแล้วใช่ไหม?
“ดังนั้นคุณหนูซ่างกวนมาช่วยฉันเวลาพอดี พวกเราควรจะตอบแทนเธอให้ดี”
จิ้นเฟิงเฉินเก็บงำความรู้สึกโกรธแค้นดั่งไฟแผดเผาที่อยู่ในใจ พร้อมทั้งพยักหน้าให้ซ่างกวน “ขอบคุณที่คุณช่วยเจียงสื้อสื้อไว้”
ซ่างกวนหยวนยิ้มตอบ “ไม่ต้องขอบคุณหรอก ไม่ว่าใครมาเจอเรื่องแบบนี้เข้าก็ต้องช่วยทั้งนั้นแหละ”
“คุณหนูซ่างกวน หรือไม่ขอช่องทางการติดต่อของคุณเอาไว้ได้ไหมคะ วันหน้าฉันจะเชิญคุณทานข้าว” เจียงสื้อสื้อกล่าวออกมา
ซ่างกวนหยวนปฏิเสธ แต่ว่าเจียงสื้อสื้อยังคงยืนกรานอยู่เช่นเดิม
ท่ามกลางความหมดปัญญา ทั้งสองคนเลยแลกเบอร์โทรศัพท์กัน
หลังจากบันทึกเบอร์โทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว เจียงสื้อสื้อยิ้มอย่างพอใจแล้ว “ไว้วันหน้าฉันจะติดต่อคุณกลับไปนะคะ”
ซ่างกวนหยวนพยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร
เธอเหลือบตามองจิ้นเฟิงเฉิน จากนั้นก็ยิ้มให้ “ไม่รบกวนพวกคุณแล้ว”
พูดจบ ไม่ได้รอให้เจียงสื้อสื้อตั้งตัว ก็หันหลังเดินออกไป
“ไม่ใช่แค่หน้าตาสะสวย ยังใจดีซะขนาดนี้”
ยืนมองด้านหลังของซ่างกวนหยวน เจียงสื้อสื้อหันศีรษะกลับไปถามจิ้นเฟิงเฉิน “คุณว่าใช่ไหม?”
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ตอบ นัยน์ตาดำขลับจับจ้องไปที่ใบหน้าชายเล็กๆ ของเธอ
เจียงสื้อสื้อเม้มริมฝีปากเอาไว้ และก้มหน้าลง “ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น”
จิ้นเฟิงเฉินเดินไปดักทางด้านหน้า พร้อมทั้งยื่นมือออกมาโอบตัวเธอเข้าสู้อ้อมกอด พลางกระซิบเสียงต่ำ “ถ้าไม่ใช่มีคนเข้ามาช่วยคุณ ตอนนี้คุณ….”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ความหนาวเหน็บมันพุ่งแล่นขึ้นหัวใจ
เขาไม่กล้าจะพูดให้จบ
“ผิดที่ผมเอง”
มือที่โอบเธอเอาไว้รัดแน่น ใบหน้าของเขาเขียนประทับความเสียใจไว้เต็มหน้า
เขาไม่ควรที่จะทิ้งเธอไว้ให้อยู่คนเดียว ควรที่อยู่เป็นเพื่อนเธอด้วย
ถ้าวันนี้เธอเป็นอะไรไป งั้นเขาก็ไม่มีวันให้อภัยตนเองไปชั่วชีวิต
“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับคุณเลย ไม่โทษคุณหรอก”
เจียงสื้อสื้อกอดเขาเอาไว้ พร้อมทั้งใช้ศีรษะแนบพิงลงบนแผงอกของเขา พร้อมทั้งพูดอย่างแผ่วเบา “เฟิงเฉิน เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้มันเป็นอุบัติเหตุ คุณอย่าได้โทษตนเองเลย”
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้พูดต่อ ได้แต่กอดเธอเอาไว้แน่น
ไม่ว่าจะยังไง เขาไม่มีวันปล่อยฟางเย้นชิงไปเป็นอันขาด
……
ฟางยู่เชินจ้องมองทั้งสองคนกอดกันเกลียว ได้แต่ยิ้มอย่างทำอะไรไม่ได้ รอยยิ้มปะปนอาการอิจฉาตาร้อนอยู่เล็กน้อย
เมื่อไหร่กันที่เขาจะพบเจออีกครึ่งชีวิตของตนเองนะ?
“ประธานฟาง”
ตอนที่กำลังคิดอยู่ใน พลันมีเสียงแว่วๆ ดังจนเรียกเตือนเขาขึ้นมาข้างหู
เขาหันศีรษะกลับไป ก็เห็นท่านประธานของงานเลี้ยง ——ซ่างกวนเชียน
“สวัสดีครับคุณซ่างกวน”
“คุณไม่ใช่พูดว่าคืนนี้มีคนที่ต้องการแนะนำให้ผมรู้จักไม่ใช่เหรอ?” ซ่างกวนเชียนยิ้มถาม
“เป็นไปตามนั้นไม่ผิดหรอกครับ แต่ว่า …..” สัญชาตญาณของฟางยู่เชินเหลือบมองไปทางพวกเขาจิ้นเฟิงเฉิน จากนั้นก็พูดต่อ “แต่ว่าตอนนี้ไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่”
ซ่างกวนเชียนมองตาสายตาของเขาไป เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนกำลังกอดกันอยู่นั้น ถึงกลับตกใจเล็กน้อย “พวกเขาคือคนที่คุณต้องการแนะนำให้ผมรู้จัก?”
“ครับ เจียงสื้อสื้อมีศักดิ์เป็นน้องสาวของผมเอง และ …จิ้นเฟิงเฉินสามีของเธอ”
เมื่อได้ยินคำว่า “จิ้นเฟิงเฉิน” แล้ว ซ่างกวนเชียนตกใจมากกว่าเดิม “คุณท่านจิ้นของจิ้นกรุ๊ป จิ้นเฟิงเฉินเหรอ?”
“ครับ คือเขาครับ”
เมื่อได้คำตอบอย่างแน่ชัดแล้ว ซ่างกวนเชียนรีบพูดทันที “เช่นนั้นรีบให้พวกเขาเข้ามา ผมกำลังอยากจะรู้จักประธานจิ้นอยู่พอดี”
ดูเหมือนว่าเขาเริ่มตื่นเต้นเล็กน้อย ฟางยู่เชินยังตั้งตัวไม่ทัน
“เร็วสิ ยังจะยืนอยู่ทำไม?” ซ่างกวนเชียนรีบพูดทักท้วง
“อ้อ” ฟางยู่เชินตั้งสติได้ “ผมจะไปเรียกพวกเขาให้เดี๋ยวนี้”
ในสายตาของซ่างกวนเชียน คือฟางยู่เชินกำลังเดินไปทางจิ้นเฟิงเฉิน
“อะแฮ่ม”
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ฟางยู่เชินส่งเสียงกระแอมเบาๆ
เจียงสื้อสื้อเมื่อได้ยินเสียงก็รีบผลักจิ้นเฟิงเฉินออกอย่างรีบร้อน พร้อมทั้งมองไปแล้วเอ่ยทัก “พี่ชาย”