“คุณผู้หญิง รบกวนคุณกลับไปก่อนได้ไหม รอจบงานเลี้ยงแล้วเราค่อยคุยกันอีกที ตกลงนะ”
ฟางรุ่ยถามหญิงสาวด้วยโทนเสียงเชิงปรึกษาหารือ
แต่หญิงสาวไม่ไว้หน้าเขาเลยสักนิด “ไม่ตกลง! ถ้าวันนี้ฉันออกจากประตูนี้ไป ก็ไม่ต้องคิดจะเจอฟางเย้นซินอีกแล้ว”
มองไม่ออกเลยว่าผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างฉลาด
เฉินหยุนก้าวเดินหน้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แนะนำด้วยคำพูดที่อ่อนโยน “ฉันรู้ว่าเย้นซินทำผิดต่อคุณ แต่วันนี้เป็นวันเกิดของพ่อเย้นซิน ฉันหวังว่าคุณจะไว้หน้าเราบ้าง ได้ไหม”
“ไว้หน้าพวกคุณงั้นเหรอ แล้วใครจะให้คำอธิบายต่อฉันกับลูก”
เมื่อพูดอย่างนั้นแล้วหญิงสาวก็ร้องไห้ “พวกคุณคิดว่าฉันอยากมาเอะอะโวยวายที่นี่เหรอ ถ้าไม่ใช่เพื่อลูกในท้องของฉัน ให้ตายฉันก็ไม่มีวันมาหรอก”
“น่าสงสัยจัง ไม่ว่ายังไงเด็กก็เป็นผู้บริสุทธิ์”
“ใช่ พูดตามตรงนะฟางเย้นซินน่ะทำตัวไม่เข้าท่าเกินไป ทำผู้หญิงท้องแล้วยังไม่มีความรับผิดชอบ”
“ดูเหมือนว่าฉันกลับไปต้องสอนลูกสาวให้ดีๆ แล้วว่าอย่าหาคนอย่างฟางเย้นซิน”
……
หูได้ยินแต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของพวกแขก พวกเขาเสียดสีเหน็บแนมฟางเย้นซินอย่างเปิดเผยไม่มีการปิดบังลักษณะน้ำเสียง
ฟางรุ่ยโกรธจนตัวสั่น เขาสั่งเสียงดัง “ไล่เธอออกไปเดี๋ยวนี้!”
ได้ยินดังนั้นเฉินหยุนก็ตกใจมาก รับห้ามไว้ “ไม่ได้นะ ในมือเธอมี…”
ยังไม่ทันได้พูดออกมาจนจบ ก็ได้ยินเสียงคนกรีดร้อง “เลือด มีเลือดออก!”
ฟางรุ่ยกับเฉินหยุนหันไปมอง เห็นปลายขวดไวน์แดงที่แตกแทงเข้าเนื้อของหญิงสาวไปแล้วจนเลือดไหล
เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวไม่สนใจชีวิตตัวเองอีกแล้ว
ถ้าเปลี่ยนเป็นปกติ พวกฟางรุ่ยอาจจะไม่สนใจว่าเธอจะตายหรือไม่ แต่วันนี้มีคนมากมายกำลังมองดูอยู่ พวกเขาไม่สามารถปล่อยผ่านได้
“ใจเย็นก่อน” ฟางรุ่ยพยายามทำให้หญิงสาวสงบลง “มีอะไรเราค่อยพูดค่อยจากันดีๆ”
หญิงสาวจ้องฟางเย้นซินอย่างเอาเป็นเอาตาย “ตราบใดที่พวกคุณให้ฟางเย้นซินแต่งงานกันฉัน ฉันก็จะกลับไปทันที”
“เอ่อ…” ฟางรุ่ยกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ถ้าเขาตกลงแล้วฟางเย้นซินแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ มันจะเสียหน้ามาก
ถ้าไม่ตกลง เป็นไปได้ว่าผู้หญิงคนนี้จะตายอยู่ที่นี่จริงๆ ขณะเดียวกันตระกูลฟางก็ต้องเสียหน้า
“พวกคุณสัญญากับเธอไปเถอะ ยังไงก็ตั้งครรภ์เด็กในตระกูลฟางของพวกคุณ” มีคนตะโกนมา
คนอื่นก็เห็นด้วย พากันตะโกนบอกให้ฟางรุ่ยกับเฉินหยุนสัญญาต่อการร้องขอของหญิงสาว
เวลานี้ฟางเถิงเดินเข้ามา เขาเห็นฟางรุ่ยกับภรรยาสีหน้าแย่มาก จึงพูดกับหญิงสาวว่า “ในเมื่อคุณมีลูกกับฟางเย้นซินแล้ว เช่นนั้นตระกูลฟางเราจะให้คำอธิบายกับคุณแน่นอน แต่วันนี้ไม่เหมาะที่จะพูดเรื่องนี้”
หญิงสาวจ้องเขา ไม่ได้พูดอะไร
“คุณวางขวดลงก่อน ทำร้ายตัวเองเพื่อผู้ชายคนเดียวมันไม่คุ้มค่า” เจียงสื้อสื้อก็เดินเข้ามาด้วย
เมื่อได้ยินเสียงของเธอ ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายวิบวับ
เจียงสื้อสื้อมองคนโดยรอบและพูดต่อไปว่า “เด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ คุณทำร้ายตัวเองก็เท่ากับทำร้ายเขาด้วย”
ภายใต้การโน้มน้าวของหญิงสาว เธอค่อยๆ วางขวดแตกในมือลง
พ่อบ้านกับคนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ เข้าไปควบคุมตัวเธอเอาไว้ทันที
ฟางรุ่ยแอบขยิบตา พวกเขาเข้าใจและกำลังจะลากเธอออกไป
“พี่รอง คุณทำแบบนี้ไม่ถูกหรือเปล่า” ฟางเถิงถามก่อนพ่อบ้านจะได้ขยับ
“น้องสาม คุณ!” ฟางรุ่ยกัดฟัน โกรธมากที่เวลาอย่างนี้เขาไม่เข้าข้างตน
“อะหยิง” ฟางเถิงเรียกซ่างหญิง “คุณพาคุณผู้หญิงคนนี้ไปพักก่อน รองานเลี้ยงจบแล้ว เราค่อยมาแก้ปัญหาเรื่องของเย้นซินกับเธออีกที”
“น้องสาม!” เมื่อฟางรุ่ยกับเฉินหยุนได้ยินก็ร้อนรนขึ้นมาทันที
ฟางเถิงหันหน้ามา “พี่รอง ผมคิดว่ามีแขกอยู่มากมาย ตระกูลฟางจะเสียหน้าไม่ได้นะ”
ถ้าพูดถึงเหตุผลนี้ ฟางรุ่ยกับเฉินหยุนจึงไม่พูดอะไรอีก ได้แต่นิ่งเงียบมองซ่างหยิงพาหญิงสาวขึ้นไปชั้นบน
ไม่ไกล เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินดูเรื่องตลกนี้กันอยู่เงียบๆ
“นี่ก็คือละครสนุกๆ ที่คุณบอกเหรอ” จิ้นเฟิงเฉินถาม
เจียงสื้อสื้อยักคิ้ว “เป็นยังไงบ้าง ดูดีไหม”
“คุณรู้จักผู้หญิงคนนั้นเหรอ”
“ไม่รู้จักสักหน่อย”
จิ้นเฟิงเฉินหันมองเธอ
เจียงสื้อสื้อมองหน้ากันกับเขาแล้วยิ้ม “ที่จริงฉันไม่รู้จักเธอหรอก ฉันตามหาเธอผ่านคนอื่น แต่ไม่ได้มีการเจอหน้า เพียงแต่คุยกันทางโทรศัพท์”
“คุณวางแผนไว้นานแล้วเหรอ”
ครั้งนั้นเธอเกือบถูกฟางเย้นซินลบหลู่ เดิมทีเขาต้องการลงมือเก็บกวาดฟางเย้นซินเอง แต่ถูกเธอห้ามไว้ เธอบอกว่าจะจัดการด้วยตัวเอง
หรือว่าจะเป็นเรื่องตลกที่เกิดขึ้นวันนี้
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “เขาชอบเล่นสนุกไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการให้เขารู้ว่าผู้หญิงไม่ได้รังแกกันได้ง่ายๆ ต้องให้เขาถูกฝังอยู่กับผู้หญิงตลอดชีวิตที่เหลือ”
สิ่งสำคัญที่สุดคือเธอรับไม่ได้ที่ฟางเย้นซินไม่ให้เกียรติผู้หญิง ดังนั้นจึงอยากสั่งสอนเขา
“คุณคิดว่าฟางเย้นซินจะยอมประนีประนอมเหรอ”
ในสายตาของจิ้นเฟิงเฉิน ฟางเย้นซินไม่ใช่คนที่จัดการได้ง่ายๆ เป็นไปไม่ได้ที่ครั้งนี้จะยอมเชื่อฟังประนีประนอม
เจียงสื้อสื้อยิ้ม “ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ธรรมดา อย่ามองว่าเธอนุ่มนิ่มอ่อนแอ ที่จริงแล้วเจ้าแผนการมาก เกรงว่าฟางเย้นซินจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอหรอก”
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้อยากรู้มากขนาดนั้น เขาโอบไหล่เจียงสื้อสื้อและพูดว่า “เรื่องหลังจากนี้คุณไม่ต้องสนอีก ให้พวกน้าชายรองน้าสะใภ้รองจัดการกันเอง”
เขาไม่อยากให้เธอเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่อย่างนั้นถ้าพวกฟางเย้นซินรู้เข้าไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
“ฉันก็ไม่อยากสนเหมือนกัน” เจียงสื้อสื้อบึนปาก “ยังไงฉันก็แค่อยากสั่งสอนฟางเย้นซิน เมื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเองแล้วก็พอแล้ว”
วันนี้ได้เห็นฟางเย้นซินขายขี้หน้าแบบนั้น เธอก็ได้ระบายความเกลียดชังแล้ว เรื่องต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับแผนของตัวหญิงสาวเอง
เมื่อดูละครสนุกๆ จบแล้ว เจียงสื้อสื้อรู้สึกหิวนิดหน่อย
“เฟิงเฉิน ฉันไปเอาอาหารมาทานก่อนนะ”
เมื่อพูดจบ ไม่รอให้จิ้นเฟิงเฉินตอบ เธอก็ก้าวกว้างไปที่โต๊ะบุฟเฟต์ทันที
ซ่างกวนหยวนจ้องมองจิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อตลอดเวลา ทันทีที่เห็นเจียงสื้อสื้อเดินออกไป บนใบหน้าก็เกิดความยินดีฉับพลัน พร้อมกับรีบก้าวเดินเข้าหา
“ประธานจิ้น” เธอเดินอย่างสง่างามไปตรงหน้าจิ้นเฟิงเฉิน มองเขาด้วยรอยยิ้มหวาน
จิ้นเฟิงเฉินเหลือบมองเธอเล็กน้อย
ตัวเขาแผ่รังสีของการไม่ต้อนรับคนแปลกหน้า
ซ่างกวนหยวนไม่ได้ถอย ยังคงชูแก้วไวน์ขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ประธานจิ้น ฉันดื่มให้คุณสักแก้วได้ไหมคะ”
จิ้นเฟิงเฉินยังคงไม่สนใจเธอ สายตาไปตกอยู่ที่ร่างซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าโต๊ะไม่ไกล
ซ่างกวนหยวนเริ่มทำหน้าไม่ถูกเล็กน้อย เธอหันมองตามสายตาของเขา แล้วในแววตาก็พลันบังเกิดร่องรอยความริษยา
“ความสัมพันธ์ของประธานจิ้นกับสื้อสื้อดีจังเลยนะคะ” เธอพูดพร้อมกับยิ้มอย่างไม่เต็มใจ
ยังคงไม่สนใจเธอ
คลื่นแห่งความหงุดหงิดถาโถมเข้ามาในจิตใจ เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ไปชั่วขณะ “ประธานจิ้น คุณเคยคิดบ้างไหมว่าที่จริงแล้วคุณกับสื้อสื้อไม่เหมาะสมกันเลยสักนิด”
เมื่อได้ยินดังนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็คิ้วขมวดเล็กน้อย ท่าทางที่นิ่งเฉยมีปฏิกิริยาขึ้นมาบ้าง เปลี่ยนท่าทีเป็นค่อนข้างไม่พอใจ
ซ่างกวนหยวนไม่ได้สังเกต พูดต่อไปว่า “คุณเหมาะสมกับผู้หญิงที่ก้าวไปข้างหน้าและถอยหลังไปพร้อมกับคุณได้ ผู้หญิงที่มีความสามารถช่วยงานคุณ สื้อสื้ออ่อนแอปวกเปียกเกินไป เธอมีแต่จะเป็นภาระให้คุณ”