ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่1088มันไม่ทันการณ์แล้ว

บทที่1088มันไม่ทันการณ์แล้ว

จิ้นเฟิงเหรารีบไปที่สนามบิน พอเจอฟางยู่เชินแล้ว เขาก็รีบถามอย่างร้อนใจว่า “ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น?

“คุณช่วยใจเย็นก่อน” ฟางยู่เชินพูดให้เขาสงบสติอารมณ์ลงก่อน ค่อยพูดต่อว่า “สื้อสื้อพาลูกๆ ออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน ของเธอข้างนอก มีหญิงต่างชาติพาคนหนึ่งมาอุ้มเถียนเถียนไปในช่วงที่พวกเธอไม่ทันระวัง เธอข่มขู่สื้อสื้อและขอให้สื้อสื้อตามกับเธอไป”

“ผู้หญิงต่างชาติเหรอ?” จิ้นเฟิงเหราขมวดคิ้วอย่างแรง

ฟางยู่เชินพยักหน้า “ครับ ผมขอให้ผู้ช่วยเอาวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของในเวลานั้นมาแล้ว ถ้าผมเดาไม่ผิดละก็…… ”

พอพูดถึงจุดนี้ ใบหน้าของเขาเริ่มจริงจังขึ้นมา

“มีอะไรเหรอครับ?” จิ้นเฟิงเหราถาม

“น่าจะเป็นคนของเบอร์เกน วันก่อนผมเพิ่งโทรคุยกับเฟิงเฉิน เขาบอกผมว่าเบอร์เกนวิจัยยาออกมาได้แล้ว เหลือแค่ผลการทดสอบของยาเท่านั้น”

เมื่อได้ยินแบบนั้น จิ้นเฟิงเหราก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง “หรือว่าพวกเขาต้องการทำการทดสอบกับคนอย่างนั้นเหรอ?”

“นั่นแหละคือสิ่งที่เฟิงเฉินพูดกับผม เขาบอกกับผมว่าพยายามอย่าให้สื้อสื้อออกจากบ้าน แต่……ผมขอโทษ ผมประมาทเกิดไป”

ฟางยู่เชินรู้สึกเสียใจมาก

เสียใจกับความประมาทของตัวเอง สื้อสื้อถึงได้ถูกจับตัวไป

จิ้นเฟิงเหราถอนหายใจออกมา “คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษ มันไม่ใช่ความผิดของคุณ ต่อให้สื้อสื้อไม่ออกไปข้างนอกพวกเขาก็จะหาวิธีมาจับเธอไปอยู่ดี สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือเราต้องทำยังไงถึงจะช่วยเธอกลับมาได้”

ฟางยู่เชินพยักหน้า “จริงสิ โทรศัพท์ของเฟิงเฉินติดต่อไม่ได้เลย คุณมีวิธีอื่นที่สามารถติดต่อเขาได้หรือเปล่า?”

“อันที่จริง……” จิ้นเฟิงเหราลังเลไปครู่หนึ่ง “พี่ชายของผมก็ถูกคุมตัวไปแล้วเหมือนกัน เราจึงไม่สามารถติดต่อเขาได้ชั่วคราว”

“คุณพูดว่าอะไรนะ?” ฟางยู่เชินตกใจมากเมื่อได้ยินข่าวนี้

จิ้นเฟิงเฉินยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ตอนนี้เราไม่เพียงต้องหาวิธีที่ช่วยพี่สะใภ้ของผม แต่เรายังต้องหาทางช่วยพี่ชายของผมด้วย”

ฟางยู่เชินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดไปว่า “ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม ผมก็ต้องช่วยสองคนนั้นกลับมาให้ได้”

“รบกวนด้วยครับ” จิ้นเฟิงเหราถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “ผมไปอิตาลีไม่ได้ แต่ผมจะส่งคนไปกับคุณ หากคุณมีปัญหาอะไรสามารถติดต่อผมได้ทุกเมื่อ”

“ครับ” ฟางยู่เชินพยักหน้า

………

เครื่องบินลงจอดที่สนามบินบนเกาะซิซิลี

ข่ายสื้อลินพาเจียงสื้อสื้อเดินออกจากสนามบินและเข้าไปนั่งในรถเก๋งสีดำที่รออยู่ตรงทางออกนานแล้ว

“คุณจะพาฉันไปไหน?” เจียงสื้อสื้อมองดูทิวทัศน์ที่อยู่นอกรถแล้วหันมามองข่ายสื้อลิน

ข่ายสื้อลินยิ้มออกมาเล็กน้อย “ถึงแล้วคุณก็จะรู้เองแหละ”

เจียงสื้อสื้อกัดริมฝีปากล่าง สองมือกำแน่น เธอจะรอแค่ให้คนช่วยอย่างเดียวไม่ได้ เธอต้องหาทางช่วยตัวเองให้ได้ก่อนไม่รู้ว่าเฟิงเฉินจะรู้เรื่องที่เธอถูกจับมาแล้วแล้วหรือยัง

“เจียงสื้อสื้อ อย่าคิดว่าจิ้นเฟิงเฉินจะมาช่วยเธอเลย ตอนนี้เขาเองก็เอาตัวไม่รอดเหมือนกัน”

คำพูดของข่ายสื้อลินราวกับสายฟ้าที่ผ่ามาในตอนที่ท้องฟ้าสดใส เจียงสื้อสื้อถึงกับงง”คุณหมายความว่าอย่างไร?”

คงไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับเฟิงเฉินใช่ไหม?

“ตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินเขากำลังไปเป็นแขกอยู่ที่บ้านของคุณเบอร์เกนแล้ว”

ดวงตาของเจียงสื้อสื้อเบิกกว้างขึ้นในทันที”คุณแค่จับฉันไปก็พอแล้ว ทำไมถึงยัง…”

เธอไม่สามารถยอมรับได้

และไม่ยอมให้จิ้นเฟิงเฉินต้องมาถูกทำร้ายเพราะเธอเด็ดขาด

“ไม่มีเหตุผล” ข่ายสื้อลินจ้องเขม็งมาที่เธอด้วยความเย็นชา “สิ่งที่คุณเบอร์เกนทำไม่เคยต้องการเหตุผลมาก่อน”

“ในเมื่อคุณจับฉันมาแล้ว ก็ปล่อยเขาไปซะ!”

เมื่อเห็นเจียงสื้อสื้อใส่อารมณ์แล้ว ข่ายสื้อลินก็ตะคอกออกไปว่า “ทางที่ดีคุณควรใจเย็นกว่านี้หน่อย ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจนะ!”

กัดฟันและจ้องเขม็งไปที่เธอ สองมือกำแน่น เล็บของเธอฝังลึกลงไปในฝ่ามือ

“เจียงสื้อสื้อ ครั้งนี้ คุณไม่ต้องหวังว่าจะมีใครช่วยคุณได้” ข่ายสื้อลินยื่นมือออกไปลูบแก้มของเธอ ความพึงพอใจปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ

เฟิงเฉิน

เจียงสื้อสื้อเรียกชื่อของเขาอย่างเงียบๆอยู่ในใจ คิดถึงความปลอดภัยของเขา น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้

ข่ายสื้อลินใช้ปลายนิ้วสัมผัสกับน้ำตาอันอบอุ่น ความดุร้ายแวบขึ้นมาในแววตาของเธอ ทันใดนั้นเธอก็บีบคอของเจียงสื้อสื้อเอาไว้ เธอโน้มตัวเข้าไปใกล้ แล้วค่อยๆพูดผ่านฟันที่กัดแน่นทีละคำ “ฉันเกลียดผู้หญิงที่ร้องไห้ที่สุด เก็บน้ำตาของเธอกลับไปซะ ได้ยินมั้ย?”

“ฮึ” จู่ๆเจียงสื้อสื้อก็ขำออกมา สายตาที่มองเธอเต็มไปด้วยความประชด “คุณเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันด้วยไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้ใจร้ายกับผู้หญิงถึงขนาดนี้ล่ะ?”

“เปล่า ฉันแค่เกลียดที่เห็นคุณร้องไห้ อย่าคิดว่าแสร้งทำเป็นอ่อนแอ แล้วฉันจะใจอ่อน ไม่มีทาง”

ข่ายสื้อลินปล่อยมือออก แล้วขำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมผู้ชายถึงต้องชอบผู้หญิงแบบคุณด้วย ผู้หญิงที่ไร้ประโยชน์มันมีดีอะไรกันแน่?”

เจียงสื้อสื้อเอามือไปลูบลำคอที่เจ็บ โดยไม่ส่งเสียง

ข่ายสื้อลินชำเลืองมองเธอแวบหนึ่ง สายตาเป็นประกาย จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเธอทันที

“ฉันคิดว่าต้องมีคนอยากพบคุณแน่ๆ” ข่ายสื้อลินพูดขณะที่ส่งรูปออกไป

โทรศัพท์ก็ดังขึ้นแทบจะในทันที

เธอรับสาย จากนั้นก็เปิดลำโพง “ข่ายสื้อลิน ถ้าคุณกล้าทำร้ายเธอ ผมไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่”

เสียงที่เคร่งขรึมของฝู้จิงเหวินดังออกมามาจากลำโพง

เจียงสื้อสื้อรู้ตกใจและตะโกนโดยไม่รู้ตัว “พี่ฝู้ … ”

ก่อนที่เธอจะได้พูดออกมา ข่ายสื้อลินก็เอื้อมมือไปปิดปากของเธอเอาไว้

“สื้อสื้อ สื้อสื้อ!” ฝู้จิงเหวินที่อยู่อีกฟากของโทรศัพท์ตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่มีการตอบสนองใด

เขาโกรธแล้ว “ข่ายสื้อลิน คุณทำอะไรกับสื้อสื้อ?”

ข่ายสื้อลินมองเจียงสื้อสื้อที่น้ำตานองหน้า ความหึงหวงในใจปะทุขึ้น เธอหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดออกมาช้าๆว่า “ฝู้จิงเหวินคุณกำลังร้อนรนและปวดใจมากไหม?”

“ข่ายสื้อลิน!” ฝู้จิงเหวินกัดฟันแล้วพูดออกมา

“ฝู้จิงเหวิน คุณรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไปขอร้องเบอร์เกน ให้ฉันไปจับเจียงสื้อสื้อด้วยตนเอง”

อีกฟากของโทรศัพท์เงียบลง

ข่ายสื้อลินพูดต่อ “มันเป็นเพราะคุณ ถ้าคุณตอบรับฉันตั้งแต่ตอนนั้น ว่าจะไม่ทำอะไรที่ไม่เอื้ออำนวยต่อสถาบัน ฉันก็จะไม่ไปหาเบอร์เกน และเจียงสื้อสื้อก็ไม่ต้องมาอยู่ที่นี่ ดังนั้นทุกอย่างมันจึงเป็นความผิดของคุณ”

เจียงสื้อสื้อส่ายหน้าอย่างแรง เธออยากบอกฝู้จิงเหวินว่ามันไม่ใช่ความผิดของเขา แต่ทำไมปากของเธอต้องถูกปิดไว้ด้วย เธอไม่สามารถส่งเสียงออกไปได้เลย

“คุณต้องการให้ผมทำอะไร คุณถึงจะยอมปล่อยสื้อสื้อไป?” ฝู้จิงเหวินถาม

“ฮ่าฮ่า…” จู่ๆข่ายสื้อลินก็หัวเราะออกมา

นี่เธอบ้าไปแล้วเหรอ?

เจียงสื้อสื้อจ้องมองเธอที่กำลังหัวเราะออกมาไม่หยุด

ไม่รู้ว่าเธอรู้สึกไปเองหรือเปล่า เหมือนภายใต้เสียงหัวเราะของเธอจะมีความเศร้าแอบแฝงอยู่ด้วย

“มันสายไปแล้ว ตอนนี้มันสายไปแล้ว” หลังจากที่ข่ายสื้อลินหยุดหัวเราะ เธอก็พูดออกมาเบา

ถ้าเขายอมตอบตกลงกับเธอตั้งแต่แรกเธอก็ไม่มีทางอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเขา ถ้าอย่างนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็จะเหมือนเดิม

แต่ตอนนี้ มันสายเกินไปแล้ว

เขาต้องเกลียดเธอเข้าไส้ไปแล้ว

“ข่ายสื้อลิน ฟังผมนะ มันยังไม่สายเกินไป ปล่อยสื้อสื้อไปซะ ผมจะไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อสถาบันเด็ดขาด”

“ฝู้จิงเหวิน ฉันบอกไปแล้ว ว่ามันสายไปแล้ว!”

หลังจากพูดจบ ข่ายสื้อลินก็วางสายไปทันที

เธอดึงมือที่ปิดปากของเจียงสื้อสื้อกลับมา เอนหลังพิงเก้าอี้ ยกมือขึ้นวางไว้บนตาของเธอ

ความโศกเศร้าอันเบาบางปกคลุมเธอไว้

เจียงสื้อสื้อขยับปากพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ยังไม่พูดออกมา เธอหันไปมองข้างนอก

ภายในรถตกอยู่ในความเงียบสงัด

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท