ฝู้จิงเหวินไม่ได้บอกพวกเจียงสื้อสื้อ ว่าเขาถูกไล่ออกจากทีมวิจัยของเบอร์เกนแล้ว
ตั้งแต่วินาทีที่เขาตีคนที่เฝ้าติดตามเขาจนสลบ เขาก็ถือว่าแตกหักกับเบอร์เกนแล้ว
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะเข้าไปเจอกับเบอร์เกนอีกครั้ง อย่าว่าแต่จะเข้าไปหาเบาะแสของจิ้นเฟิงเฉินจากปากของเบอร์เกนเลย
แต่มีคนคนหนึ่งที่ทำได้
“ดึกขนาดนี้คุณเรียกฉันออกมามีเรื่องอะไรคะ” ข่ายสื้อลินนั่งลงตรงข้ามฝู้จิงเหวิน มองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ
“ระลึกความหลัง” ฝู้จิงเหวินช่วยเทไวน์ให้เธอหนึ่งแก้ว
ข่ายสื้อลินอดที่จะยิ้มเยาะเย้ยไม่ได้ “ระลึกความหลัง” ข่ายสื้อลินอดที่จะพูดเยาะเย้ยไม่ได้
นี่มันเรื่องตลกชัดๆ พวกเธอไม่ใช่เพื่อนกัน รู้จักกันก็ไม่นาน จะเอาความหลังที่ไหนมาระลึกถึง
“เบอร์เกนทำให้คุณลำบากใจหรือเปล่า” ฝู้จิงเหวินมองหน้าเธอ แล้วถาม
ข่ายสื้อลินขมวดคิ้ว “นี่คุณกำลังเป็นห่วงฉันอยู่หรือไง”
ฝู้จิงเหวินเลิกคิ้วปิดปากเงียบ
ข่ายสื้อลินหัวเราะ ในเสียงหัวเราะแฝงไปด้วยการเสียดสี “ฝู้จิงเหวิน อย่ามาใช้ไม้นี้ ฉันยังมองคุณไม่ออกหรือไง คุณจะต้องมีเรื่องให้ฉันช่วยแน่ๆ”
ในเมื่อเธอเดาได้แล้ว ฝู้จิงเหวินก็ไม่พูดอ้อมค้อมอีก เขาบอกจุดประสงค์ของเขาออกมาตรงๆ “ผมอยากให้คุณช่วยผมไปสอบถามเบาะแสของจิ้นเฟิงเฉินจากเบอร์เกน”
“อะไรนะ” ข่ายสื้อลินนึกว่าเธอฟังผิดไป “คุณอยากรู้ที่อยู่ของจิ้นเฟิงเฉินอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่ครับ”
ข่ายสื้อลินเลิกคิ้ว “นั่นมันศัตรูหัวใจของคุณเลยนะ คุณจะหาเขาทำไม หรือว่าจะทำเพื่อผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว”
ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องถามก็น่าจะรู้ นอกจากผู้หญิงคนนั้น เขาคงไม่มาขอความช่วยเหลือจากเธอเพื่อคนอื่นอยู่แล้ว
ฝู้จิงเหวินนิ่งเงียบ
“ฝู้จิงเหวิน คุณคิดว่าฉันเป็นอะไรกันแน่” ข่ายสื้อลินถาม
คำถามนี้ไม่รู้ว่าเธอถามเขากี่ครั้งแล้ว เธอเองก็ไม่รู้ว่าเธอคาดหวังคำตอบอะไรจากเขา
ความนิ่งเงียบระหว่างทั้งสองแผ่ขยายรอบตัว แม้แต่เสียงเข็มตกพื้นยังได้ยิน
หลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน ริมฝีปากของข่ายสื้อลินยกยิ้มเยาะเล็กน้อย “ช่างเถอะ ถือซะว่าฉันไม่ได้ถาม”
“เพื่อน” ฝู้จิงเหวินพูดขึ้นมากะทันหัน
ข่ายสื้อลินยกยิ้ม แต่รอยยิ้มของเธอเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “เพื่อนอย่างนั้นเหรอ ฉันว่าฉันถูกคุณกำหนดความสัมพันธ์ตามความต้องการของคุณมากกว่า คุณคิดว่าฉันเป็นเพื่อนก็ต่อเมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือจากฉันเท่านั้นเอง”
“ข่ายสื้อลิน ผมต้องการความช่วยเหลือของคุณจริงๆ” ฝู้จิงเหวินมองหน้าเธอด้วยสายตาจริงจัง
ฝู้จิงเหวินอยากปฏิเสธเขา แต่พอเอ่ยปากพูดกลับกลายเป็นว่า “ฉันช่วยคุณก็ได้ แต่คุณต้องทำตามเงื่อนไขของฉันหนึ่งข้อ”
“คุณว่ามาได้เลย”
“สัญญากับฉัน ว่าจากนี้ไปจะไม่ไปเจอกับเจียงสื้อสื้ออีก”
คราวที่แล้ว เธอบอกให้เขาลืมเจียงสื้อสื้อไปซะ
เขารับปากอย่างรวดเร็ว แต่แล้วยังไงล่ะ ตอนนี้เขากลับมาขอร้องเธอเพื่อผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว ในเมื่อเป็นอย่างนี้ จากนี้ไปก็อย่าได้เจอกันอีกเลย
ฝู้จิงเหวินได้ยินอย่างนั้น คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันแน่น
พอเห็นสีหน้าลำบากใจของเขา ข่ายสื้อลินจึงยิ้มเยาะ “ฉันคิดว่า คุณคงไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ ดังนั้นฉันเองก็จะไม่ช่วยคุณเช่นกัน”
พอพูดจบ เธอก็ลุกขึ้นและเดินจากไป
“รอก่อนครับ” ฝู้จิงเหวินจับมือเพื่อรั้งเธอไว้
เธอหันกลับมา
เขาเงยหน้าขึ้นมอง
ดวงตาของทั้งสองคนจึงสบตากัน
“ถ้าผมรับปาก คุณจะช่วยผมจริงๆ ใช่ไหม”
ฝู้จิงเหวินกลัวว่าเธอจะกลับคำ
ข่ายสื้อลินหัวเราะ “ถ้าคุณไม่เชื่อใจฉัน งั้นก็ไม่จำเป็นต้องมาหาฉัน”
ฝู้จิงเหวินหรี่ตาลง “ตกลง ผมรับปากเงื่อนไขของคุณ”
“คุณแน่ใจเหรอ” ข่ายสื้อลินคิดไม่ถึงว่าเขาจะรับปาก
“ใช่ แต่ผมต้องการเบาะแสของจิ้นเฟิงเฉินวันพรุ่งนี้เลย” นี่คือเงื่อนไขของฝู้จิงเหวินเช่นกัน
ข่ายสื้อลินพยักหน้า “โอเค งั้นก็ตกลงตามนี้”
“อืม”
“มีอะไรอีกไหมจะพูดอีกไหม” ข่ายสื้อลินเอ่ยถาม
ฝู้จิงเหวินส่ายหน้า
ถึงแม้จะรู้ว่าจะได้คำตอบอย่างนี้ แต่ข่ายสื้อลินก็อดที่จะรู้สึกผิดหวังไม่ได้
“งั้นฉันกลับล่ะ”
หลังจากที่ข่ายสื้อลินเดินออกไป ฝู้จิงเหวินก็ยังนั่งอยู่อีกนาน ก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินจากไป
——
หลายวันมานี้ทีมวิจัยกำลังจัดทีมใหม่ ข่ายสื้อลินเดินทางมาที่สถาบันวิจัย พอเห็นศาสตราจารย์คูรี่ก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย“ศาสตราจารย์คะ ช่วงนี้คุณเบอร์เกนจะเข้ามาไหมคะ”
ศาสตราจารย์คูรี่ที่กำลังยุ่ง เหลือบมามองเธอเล็กน้อย สีหน้าของเขาไม่ทุกข์ไม่ร้อน “ผมไม่ใช่ผู้ช่วยของเขา จะไปรู้ตารางงานของเขาได้ยังไง”
ข่ายสื้อลินชะงัก ก่อนจะยิ้มแหยออกมา “ศาสตราจารย์คะ แล้วเมื่อไหร่คุณเบอร์เกนจะส่งผู้หญิงคนนั้นมาสักทีคะ”
นี่คือสิ่งที่ศาสตราจารย์คูรี่ให้ความสำคัญมากที่สุด
พอเธอถามขึ้นมา ศาสตราจารย์คูรี่ก็วางเอกสารในมือของเขาทันที ดวงตาของเขาหรี่ลง สีหน้าของเขาเคร่งเครียดมาก“ผมต้องขอให้เบอร์เกนส่งคนมาให้เร็วที่สุด การวิจัยของเราต้องดำเนินการโดยเร็วที่สุด”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ข่ายสื้อลินก็มีสีหน้าดีใจ แล้วพูดเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว “คุณพูดถูกแล้วค่ะ การวิจัยจำเป็นต้องดำเนินการโดยเร็วที่สุด”
ศาสตราจารย์คูรี่ชำเลืองมองเธอ ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือด้านข้างออกมาโทรหาเบอร์เกนทันที
ในเวลานี้เอง เบอร์เกนเดินตรงเข้ามาในห้อง
“คูรี่”
ศาสตราจารย์คูรี่หันกลับมา แล้วเห็นเขา จึงรีบกดวางสาย แล้วเดินไปหาเขาอย่างรวดเร็ว “พาเธอมาด้วยหรือเปล่า”
สีหน้าของเบอร์เกนดูไม่น่ามองเอามากๆ เขาส่ายหน้าไปมา “หนีไปแล้ว”
“หนีไปแล้ว” เสียงของศาสตราจารย์คูรี่ดังขึ้นมาทันที “ทำไมถึงหนีไปได้ล่ะ”
เบอร์เกนไม่ได้พูดอธิบาย แต่กลับพูดว่า “ผมส่งคนไปหาเบาะแสของเธอแล้ว ไม่นานผมก็จะจับเธอกลับมาได้”
ข่ายสื้อลินที่อยู่ด้านข้างก็ตกใจมากเหมือนกัน เธอไม่คิดว่าเจียงสื้อสื้อจะหนีออกไปภายใต้การควบคุมของเบอร์เกนได้
นี่เธอดูถูกความสามารถของเจียงสื้อสื้อเกินไปหรือเปล่า
“เบอร์เกน ผมรอต่อไปไม่ไหวแล้วนะ ผมต้องเริ่มการวิจัยโดยเร็วที่สุด” ศาสตราจารย์คูรี่พูด
เบอร์เกนเริ่มมีสีหน้าหมดความอดทน “ผมรู้ ผมก็ส่งคนออกไปตามหาแล้วไง”
ศาสตราจารย์คูรี่จ้องหน้าเขาสักพัก ก่อนจะพูดขึ้นมาอีกครั้ง “โอเค ผมจะรออีกสองสามวัน แต่คราวนี้คุณต้องพาเธอมาที่สถาบันวิจัยมาทันทีที่คุณจับเธอได้”
เบอร์เกนขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาเห็นได้ชัดว่าเริ่มไม่พอใจแล้ว “คูรี่ นี่คุณกำลังสั่งผมอยู่หรือไง”
“ไม่ครับ ผมกำลังทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม” ศาสตราจารย์คูรี่จ้องหน้าเขากลับอย่างไม่เกรงกลัว
“คุณเบอร์เกนคะ”
ข่ายสื้อลินที่เงียบมาตลอดพูดแทรกขึ้นมา “จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้อยู่ในมือคุณเหรอคะ คุณสามารถใช้เขาเพื่อบังคับให้เจียงสื้อสื้อปรากฏตัวออกมาได้นี่คะ”
พอพูดถึงจิ้นเฟิงเฉิน ใบหน้าของเบอร์เกนก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้น “เขาไม่ได้อยู่กับผมแล้ว”
ข่ายสื้อลินประหลาดใจมาก “ทำไมถึงเป็นแบบนี้คะ”
“ฉันทำข้อเสนอกับซ่างกวนหยวนไว้ เธอพาเขาไปแล้ว”
เบอร์เกนรู้สึกเสียใจทีหลังมาก ถ้าจิ้นเฟิงเฉินยังอยู่ในเงื้อมมือของเขา เขาสามารถบีบบังคับให้เจียงสื้อสื้อปรากฏตัวได้อย่างแน่นอน
แต่มาพูดตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว
“ซ่างกวนหยวนเหรอคะ” ข่ายสื้อลินรู้สึกว่าชื่อนี้คุ้นหูมาก
“เป็นคนที่ไม่สำคัญคนหนึ่ง”
ข่ายสื้อลินไม่กล้าถามอีก จึงได้แต่พยักหน้าเข้าใจ “โอเคค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”
“เบอร์เกน ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีไหน คุณจะต้องจับตัวเธอมาให้ได้ ไม่อย่างนั้น งานวิจัยของเราไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้” ศาสตราจารย์คูรี่ตอกย้ำถึงความสำคัญของเรื่องนี้
“ผมรู้ ผมร้อนใจมากกว่าคุณอีก” เบอร์เกนสูดหายใจเข้าลึก ระงับความโกรธในใจของเขาไว้ “คุณดำเนินการวิจัยในส่วนอื่นไปก่อน แล้วฉันจะรีบหาตัวเธอมาให้เร็วที่สุด”
เขาพูดทิ้งท้าย ก่อนจะเดินจากไป
หลังจากได้รับข่าวที่เธอต้องการ ข่ายสื้อลินก็รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เธอรู้สึกดีใจเล็กน้อย
ขอแค่เอาข่าวนี้ไปบอกกับฝู้จิงเหวิน ถ้าอย่างนั้นจากนี้ไป เขาก็จะไม่สามารถไปเจอเจียงสื้อสื้อได้อีกแล้ว
แค่คิดได้แบบนี้ เธอก็ไม่สามารถยับยั้งความดีใจของเธอได้ แม้แต่การก้าวเดินของเธอก็เร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว