สาเหตุสำคัญคือสถาบันวิจัยหลักถูกทำลาย สองสามวันมานี้เบอร์เกนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการจัดทีมวิจัยและสถาบันวิจัยใหม่
“คุณเบอร์เกน ผมหวังว่าคุณจะพาผู้หญิงคนนั้นมาโดยเร็วที่สุด”
ศาสตราจารย์คูรี่แทบจะรอที่จะทดสอบผลของยาที่เขาพัฒนาขึ้นไม่ไหว
“โอเค”
เบอร์เกนปากพูดตอบรับ แต่ในใจเขารู้สึกไม่ยินยอม
ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาสวยน่าทะนุถนอมมาก จะใช้เธอเป็นตัวทดลองในการวิจัยที่แสนโหดร้ายได้ยังไงกัน
เขาทำใจไม่ได้หรอก
ไม่รู้ว่ามองความคิดของเขาออกหรือเปล่า จู่ๆศาสตราจารย์คูรี่ก็พูดว่า “คุณเบอร์เกน ยังมีผู้หญิงสวยๆมากมายต่อแถวรอให้คุณเลือก ดังนั้นอย่าทำให้เสียเรื่องเด็ดขาด”
เบอร์เกนสีหน้าเย็นชาขึ้นมาทันที “คุณยังไม่มีสิทธิ์จะมาสั่งสอนผม”
ใบหน้าของศาสตราจารย์คูรี่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าลง “ขอโทษครับ ผมคนพูดมากไปเอง”
“คูรี่ คุณกับผมเป็นแค่ทำงานร่วมกัน คุณแค่ต้องทำวิจัยให้ดีก็พอแล้ว ส่วนเรื่องอื่นคุณไม่ต้องเข้ามายุ่ง”
“เข้าใจแล้วครับ”
เบอร์เกนเหลือบมองเขาด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วหันหลังเดินจากไป
เขาไม่ได้สังเกตว่าศาสตราจารย์คูรี่เงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังของเขา
หลังจากออกจากสถาบันวิจัย เบอร์เกนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดมิด ในใจเริ่มครุ่นคิด
สองวันที่เขาไม่ได้เจอโซเฟย่า ทำให้เขาคิดถึงอยู่เหมือนกัน ควรจะกลับไปหาเธอบ้างแล้ว
……
ในคืนที่แสนเงียบสงบ
เงาดำสองร่างปีนขึ้นไปบนกำแพงของบ้านพักอย่างรวดเร็ว พวกเขามองไปรอบๆด้าน พอเห็นว่าไม่มีใครยืนเฝ้า พวกเขาจึงเดินไปที่ด้านหลังของบ้านพักอย่างใจกล้า
“ผนังบ้านของที่นี้ไม่มีส่วนเว้าหรือนูนเลย ฉันจะปีนขึ้นไปได้ยังไงกัน” กู้เนี่ยนเดินเข้าไปสัมผัสผนังด้านนอกของบ้านพัก ก่อนจะขมวดคิ้วแน่น
“ใครให้คุณปีนขึ้นไปล่ะ” เห้อซูหานกรอกตามองบนใส่เขา แล้วเดินไปที่ประตู “นี่คือประตูหลัง ปกติแล้วพวกคนใช้จะใช้มันเข้าออก คุณลองไปสะเดาะกุญแจออกดู”
กู้เนี่ยนชี้ไปที่ตัวเอง “ผมเหรอ”
เขาไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม นี่เขาถูกสั่งให้สะเดาะกุญแจอย่างนั้นเหรอ
“ไร้สาระ ไม่ใช่คุณแล้วจะให้ฉันทำหรือไง” เห้อซูหานตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติ
“ฉันไม่ใช่ขโมย ฉันจะสะเดาะกุญแจได้ยังไง” กู้เนี่ยนตกตะลึง เสียงของเขาจึงดังขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
เห้อซูหานเอานิ้วแตะริมฝีปาก “ชู่ว ไม่เป็นก็ไม่เป็นสิ ทำไมคุณต้องพูดเสียงดังด้วย”
“ผมขอโทษ” กู้เนี่ยนรีบหันไปมองรอบ ๆด้าน “ดึกขนาดนี้ คงจะหลับกันหมดแล้วล่ะ ไม่ได้ยินหรอก”
“ถ้าไม่แน่ใจว่าปลอดภัย ก็ห้ามเข้าไปเสี่ยงอันตราย หลักการนี้คุณคงจะเข้าใจ”
เห้อซูหานกลัวจริงๆ ว่าทุกอย่างจะถูกกู้เนี่ยนทำพัง คำพูดคำจาของเธอจึงออกจะตั้งแง่ตั้งงอน
“เข้าใจแล้วครับเข้าใจแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดถึงเรื่องนี้ เราจะเข้าไปยังไงดี” กู้เนี่ยนรีบเปลี่ยนเรื่อง
นี่คือจุดประสงค์หลักของการมาที่นี่ในคืนนี้
“สะเดาะกุญแจเร็ว”
“ผมทำไม่เป็น”
กู้เนี่ยนยื่นมือออกเพื่อบิดล็อกประตูพร้อมกับพูดไปด้วย
แครก
ประตูเปิดออกจริงๆ!
กู้เนี่ยนหันกลับไปมองหน้าเห้อซูหานด้วยสายตาไม่น่าเชื่อ
เห้อซูหานเองก็ตกตะลึงเหมือนกัน
ประตูไม่ได้ล็อกอย่างนั้นเหรอ
“แม้แต่พระเจ้ายังช่วยเหลือพวกเราเลย รีบเข้าไปกันเถอะ” เห้อซูหานพูด
กู้เนี่ยนเดินเข้าไปก่อน ตามด้วยเห้อซูหาน
ดึกมากขนาดนี้แล้ว ไฟหลักในบ้านพักก็ปิดไปหมดแล้ว เหลือเพียงไฟติดผนังเพียงไม่กี่ดวงเท่านั้น
พวกเขาเดินติดกับผนัง แอบย่องขึ้นมาจนถึงชั้นแรกเบาๆ แล้วมองไปรอบ ๆอย่างระมัดระวัง พอเห็นว่าไม่มีใครรีบไปตรงที่บันไดทันที
“ขึ้นไปด้วยกันไหม” กู้เนี่ยนกระซิบถาม
เห้อซูหานนิ่งคิดอยู่สักพัก “ขึ้นไปเองเลย ฉันจะคอยมองทางระวังชั้นล่างไว้ให้ ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้เตือนคุณได้ทัน”
กู้เนี่ยนกดเครื่องสื่อสารที่หูของเขา แล้วพยักหน้า “ได้ คุณเองก็ระวังตัวด้วย”
“ไม่ต้องห่วงฉัน แต่คุณต่างหากที่ต้องระวังตัวเลย”
“เข้าใจแล้ว”
กู้เนี่ยนรีบขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว เห้อซูหานมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนจะเข้าไปซ่อนตัวอยู่ด้านหลังกระถางต้นไม้ข้างๆ
ชั้นบนยิ่งเงียบสงัด แสงไฟสลัว ถ้าไม่รู้คงจะคิดว่าตัวเองอยู่ในบ้านผีสิง
บนชั้นสามมีเพียงห้องเดียว ซึ่งน่าจะเป็นห้องที่น่าสงสัยที่คุณหญิงพูดไว้
กู้เนี่ยนจับที่กลอนประตูแล้วลองบิดดู และมันก็ถูกล็อกไว้จริงๆ
เขาหยิบลวดเส้นเล็ก ๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา
แม้ว่าเขาจะไม่รู้วิธีสะเดาะกุญแจ แต่แม้ว่าจะไม่เคยประสบด้วยตัวเองแต่ก็เคยเห็นและได้ยินมาบ้าง
เขาเรียนรู้มาจากในทีวี จึงสอดลวดเข้าไปในรูกุญแจ
ตึง ตึง
เสียงฝีเท้าดังมาจากบันได
กู้เนี่ยนรีบดึงลวดออก ก่อนจะมองไปรอบๆด้าน แล้วเข้าไปซ่อนตัวในมุมมืดอย่างรวดเร็ว แผ่นหลังแนบชิดกับกำแพง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ
ชายคนนั้นเดินไปที่ประตูห้อง ไม่รู้ว่าเป็นรู้สึกถึงอะไรบางอย่างหรือว่าคิดไปเอง ชายคนนั้นหันไปทางที่กู้เนี่ยนซ่อนตัวอยู่
กู้เนี่ยนกลั้นหายใจด้วยความตกใจ ก่อนจะสวดอ้อนวอนขออย่าให้ถูกจับได้
โชคดีที่ชายคนนั้นหันกลับไป ก่อนจะหยิบกุญแจออกมา แล้วเปิดประตูเดินเข้าไปในห้อง
พอประตูปิดลง กู้เนี่ยนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาสองมือเกาะไปที่ประตู แล้วแนบหูไปที่ประตู
แต่กลับไม่ได้ยินอะไรเลย
ถ้าคุณชายถูกขังอยู่จริงๆ ก็น่าจะมีเสียงอะไรบ้าง แต่กลับไม่มีเสียงอะไรออกมาเลย
ระบบเก็บเสียงจะดีเกินไปหรือเปล่า
ในขณะที่กู้เนี่ยนยังไม่ทันทำความเข้าใจได้ เขาก็เห็นว่าตัวล็อกประตูกำลังขยับ เขาก็รีบหลบไปด้านข้าง มือของเขากำหมัดแน่นด้วยความตึงเครียด
ชายคนนั้นล็อกประตูลงอีกครั้ง แล้วเดินลงไปชั้นล่าง
ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่เห็นกู้เนี่ยนเลย
กู้เนี่ยนถอนหายใจยาว ๆ เขาเดินไปที่บันได หลบอยู่ข้างผนัง จนเห็นว่าชายคนนั้นเดินลงไปที่ชั้นล่างแล้ว
เขาได้หวังว่าเห้อซูหานจะซ่อนตัวจากอีกฝ่ายได้
เขารีบเดินไปที่ประตูห้อง แล้วดึงลวดออกมาอีกครั้ง
หลังจากสะเดาะกลอนอยู่นาน ในที่สุดเขาก็ปลดล็อกประตูได้
เขาเปิดประตูเข้าไปทันที
น่าแปลกที่ไฟในห้องยังถูกเปิดสว่างอยู่
ดังนั้นจึงสามารถเห็นทุกอย่างในห้องได้อย่างชัดเจน
ไม่มีเงาของจิ้นเฟิงเฉินอยู่ในห้องนี้เลย แต่มีชั้นวางสองสามชั้น ที่มีตัวอย่างอวัยวะต่าง ๆ ที่ถูกแช่ไว้ในขวดฟอร์มาลิน
นี่เป็นครั้งแรกที่กู้เนี่ยนได้เห็นตัวอย่างของอวัยวะมนุษย์มากมายขนาดนี้
อาการคลื่นไส้ขึ้นมาจุกคอของเขา
เขารีบปิดปากของเขา แล้วหันหลังวิ่งออกจากห้องไป
พระเจ้า
เบอร์เกนมีงานอดิเรกแปลกๆแบบนี้เหรอเนี่ย นี่เขารวบรวมตัวอย่างอวัยวะมนุษย์เยอะถึงขนาดนี้เลยเหรอ
กู้เนี่ยนสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับอาการคลื่นไส้ ก่อนจะปิดประตูลง แล้วรีบลงไปชั้นล่างเพื่อไปรวมตัวกับเห้อซูหาน
“คุณพบคุณชายหรือยัง” พอเห้อซูหานเห็นเขาเดินลงมา จึงรีบถามอย่างอดไม่ได้
กู้เนี่ยนส่ายหน้า “ไม่เจอครับ”
เห้อซูหานขมวดคิ้ว “ทำไมถึงไม่เจอล่ะ”
กู้เนี่ยนมองไปรอบๆ ด้านที่ยังคงอยู่ในความเงียบสงบ “กลับไปแล้วค่อยคุยกันเถอะ ที่นี่ไม่ปลอดภัย”
ทั้งสองจึงรีบออกจากบ้านพักไป
ทันทีที่กลับขึ้นมาบนรถ เห้อซูหานจึงถามออกมา “คุณชายไม่อยู่ในห้องนั้นเหรอ”
“คุณชายไม่ได้อยู่ที่นี่”
“แล้วทำไมห้องนั้นถึงถูกล็อกไว้ล่ะ”
คำถามนี้ทำให้กู้เนี่ยนนึกถึงตัวอย่างอวัยวะมนุษย์อีกครั้ง เขาจึงอดที่จะอ้วกแห้งๆออกมาไม่ได้
เห้อซูหานนึกว่าเขาไม่สบาย จึงถามด้วยความเป็นห่วง“คุณเป็นอะไรไป”
“มันน่าขยะแขยงมาก” กู้เนี่ยนสั่นเทา “คุณรู้ไหมว่าในห้องนั้นคืออะไร”
“อะไร”
“ตัวอย่างอวัยวะ ตัวอย่างอวัยวะเต็มไปหมดเลย” กู้เนี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดต่อ “ผมไม่รู้จริงๆ ว่าเบอร์เกนมีงานอดิเรกพิสดารแบบนี้ ถึงได้เก็บรวบรวมอวัยวะของมนุษย์แบบนี้”
เห้อซูหานขมวดคิ้ว “เขามีงานอดิเรกพิสดารอะไรมันเกี่ยวอะไรกับพวกเรา ตอนนี้เรามั่นใจแล้วว่าคุณชายไม่ได้อยู่ทีนี่ แล้วเขาจะไปอยู่ที่ไหน”
กู้เนี่ยนนิ่งเงียบ
จริงสิ แล้วคุณชายอยู่ที่ไหนกันแน่