“ปล่อย!”
เบอร์เกนพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
ลี่ซาสีหน้าเปลี่ยนไป ปล่อยมือออกไปอย่างไม่เต็มใจนัก สายตามองไปยังใบหน้าที่เย็นชาของเขา ถึงแม้เธอจะเตรียมใจมาแล้วก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี
“จะดุแบบนั้นไปทำไมคะ?” พยายามทำตัวสงบ แล้วบ่นด้วยน้ำเสียงที่ผเย้ายวน
“ทำไมคุณถึงยังไม่กลับอิตาลีไปอีก?” เบอร์เกนถามด้วยเสียงที่ดังขึ้น
“ฉัน……” ลี่ซาสายตาเลิกลัก แล้วอ้างออกมาลอยๆ ว่า “ฉันแค่ยังไม่อยากไปจากคุณ เลยยังไม่ได้กลับอิตาลีค่ะ”
“แน่ใจเหรอครับ?” เบอร์เกนไม่มีทางเชื่อหรอก
“แน่ค่ะ” ลี่ซาเชิดคางขึ้นมาด้วยความมั่นใจ ด้วยท่าทางที่มีเหตุมีผลมากๆ
เบอร์เกนขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ลี่ซา ต่อหน้าผมไม่ต้องเล่นละครหรอกครับ คุณทำอะไรลงไป เราต่างก็รู้อยู่แก่ใจดี”
นี่เขาหมายความว่ายังไง?
หรือเขารู้เรื่องที่เจียงสื้อสื้อได้รับบาดเจ็บแล้วอย่างนั้นเหรอ?
ถึงแม้ลี่ซาจะมีความรู้สึกละอายใจบ้าง แต่ปากก็ยังพูดออกไปอย่างมีเหตุมีผลว่า “ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ ยังไงที่ฉันยังไม่กลับอิตาลีก็เพราะไม่อยากแยกจากคุณ พอถึงเวลาฉันแค่อยากมาเซอร์ไพรส์คุณเท่านั้น”
เบอร์เกนจ้องเธอด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยไปพักหนึ่ง จากนั้นค่อยตะโกนออกไปว่า “คาร์อัน”
คาร์อันอยู่ที่นี่เหรอ?
ลี่ซาเบิ่งตาโตอย่างทำอะไรไม่ถูก หันไปมอง แล้วเห็นคาร์อันเดินออกจากห้องมา
เธอขมวดคิ้วอย่างแรง สบตากับคาร์อัน คาร์อันรีบหลบตาออก เดินก้มหน้ามาจนถึงตรงหน้าของเบอร์เกน
“คุณท่าน”
“บอกคุณหญิงไปสิว่าเธอสั่งให้คุณไปทำอะไรบ้าง” เบอร์เกนเดินไปนั่งลงที่โซฟา ไขว่ห้าง มองดูทั้งสองด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
“คุณหญิงเธอ……” คาร์อันเงยหน้าขึ้นมามองลี่ซา แล้วรีบก้มหน้าลงไป
ลี่ซากำหมัดแน่น แล้วพูดเตือนไปเบาๆ ว่า “คาร์อัน จะพูดอะไรก็ระวังหน่อย ห้ามพูดมั่วๆ นะ”
คาร์อันเหงื่อเย็นไหลออกมาที่หน้าผาก เขากัดฟันแน่น แล้วพูดออกมาในฮึดเดียว “ที่คุณหญิงไม่ได้กลับอิตาลี เพราะกังวลเรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนของคุณท่านกับเจียงสื้อสื้อ จึงอยู่ต่อเพื่อจับตาดูครับ”
“คาร์อัน!” ลี่ซาตะคอกออกมาด้วยความโมโห “นี่แกพูดบ้าอะไรออกมา?”
“คุณหญิง คุณยอมรับเถอะครับ คุณท่านเขารู้เรื่องทุกอย่างแล้ว” คาร์อันพยายามเกลี้ยกล่อมเธออย่างเต็มที่
ลี่ซาโกรธหนักยิ่งกว่าเดิม แสดงสีหน้าที่โหดเหี้ยมออกมา “เรื่องที่ฉันไม่ได้ทำ ทำไมฉันถึงต้องยอมรับด้วย?”
เธอหายใจเข้าลึกๆ กัดฟันแล้วด่าทอไปว่า “คาร์อัน เสียแรงที่ฉันเลี้ยงดูแกเป็นอย่างดี แต่แกกลับร่วมมือกับเบอร์เกนมาใส่ร้ายฉันอย่างนั้นเหรอ?”
คุณหญิง ผมขอโทษ
คาร์อันแอบพูดอยู่ในใจ แต่เขาก็ยังไม่หยุดเกลี้ยกล่อม “คุณหญิงครับ ผมรู้ว่าคุณรักคุณท่านมาก กลัวว่าเขาจะไปชอบผู้หญิงคนอื่นเข้า แต่คุณก็ควรบอกเขาไปตรงๆ แล้วไม่ใช่มาแอบจับตาดูเขาแบบนี้ คุณว่าใช่มั้ยครับ?”
“นี่แก……” ลี่ซากำลังจะด่าเขา แล้วก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติในคำพูดนั้น
ตั้งแต่เมื่อกี้จนถึงตอนนี้ คาร์อันยังไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ขับรถชนเจียงสื้อสื้อเลย แต่เขาเอาแต่ย้ำเรื่องที่เธอแอบจับตาดูเบอร์เกน
เธอขมวดคิ้วแล้วมองหน้าคาร์อัน หรือความจริงแล้วเขากำลังช่วยเธออยู่?
จู่ๆ ลี่ซาก็เงียบลงไป คาร์อันรู้ว่าเธอนั้นรู้ตัวแล้ว จึงได้อาศัยจังหวะที่เหล็กกำลังร้อนดีเกลี้ยกล่อมไปว่า “คุณหญิงคุณยอมรับเถอะครับ คุณท่านต้องเข้าใจคุณแน่”
ดวงตาของลี่ซาเปลี่ยนทิศ เปลี่ยนไปจ้องอยู่บนตัวของเบอร์เกนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ แล้วพูดด้วยความน้อยใจว่า “อย่าโกรธเลยนะคะ ฉันผิดไปแล้ว”
เบอร์เกนดูไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย
“ก็ได้ค่ะ ฉันยอมรับก็ได้ว่าฉันกลัวคุณกับเจียงสื้อสื้อนั่นจะมีอะไรกัน เลยยังไม่ได้กลับอิตาลีค่ะ”
“แล้วยังมีอะไรอีก?” เบอร์เกนหันมาจ้องหน้าเธอ
ลี่ซาขมวดคิ้ว “แล้ว? แล้วอะไรอีกคะ?”
เธอมองไปที่คาร์อัน แล้วพูดด้วยความสงสัยว่า “คาร์อัน ยังมีอะไรอีกมั้ย?”
“ไม่มีแล้วครับ”
พอได้ยินคำตอบของคาร์อัน เบอร์เกนก็ได้ยิ้มออกมา รอยยิ้มนั่นกลับมีแววตาที่เย็นชา เขาหันไปมองคาร์อันด้วยสายตาที่ดุร้าย “คุณมั่นใจจริงๆ ใช่มั้ยว่าไม่มีแล้ว?”
คาร์อันพยายามตอบไปว่า “ไม่มีแล้วครับ”
ไม่นึกเลยว่าเขาจะตอบมาแบบนั้นจริงๆ เบอร์เกนถึงกับไขว้เขวไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตั้งสติได้ ยกสองมือขึ้นมาแล้วปรบมือ “คาร์อัน ทำได้ดี ฉันเคยให้โอกาสคุณไปแล้วนะ”
พอนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเพิ่งประสบมา คาร์อันก็เริ่มร้อนรนขึ้นมา เขาจึงรีบพูดไปว่า “คุณท่านครับ คุณหญิงเธอไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นแล้วจริงๆ นะครับ”
“แล้วทำไมคุณถึงไปอยู่ที่แถวบ้านตระกูลฟางล่ะ?”
“ผะ……ผมไปจับตาดูเจียงสื้อสื้อครับ” คาร์อันหาเหตุผลออกมาลอยๆ
“จับตาดูอย่างนั้นเหรอ?” เบอร์เกนขมวดคิ้ว “ดึกขนาดนั้นแล้วยังมีอะไรให้เฝ้าอีก?”
คาร์อันสำลัก ไม่รู้จะตอบยังไงไปครู่หนึ่ง
พอเห็นท่าไม่ดี ลี่ซาก็รีบพูดออกไปว่า “ฉันเป็นคนสั่งให้เขาไปเอง ฉันกลัวคุณจะไปหาเธอกลางดึก”
พอคาร์อันได้ยินแบบนั้น ก็แอบโล่งอกไปมาก
ขอแค่คุณหญิงอยู่ด้วย คุณท่านก็ยังไม่น่าจะทำอะไรเขา
“ลี่ซา คุณคิดว่าผมจะเชื่อคุณรึไง?” เบอร์เกนยิ้มออกมาอย่างเยาะเย้ย “คุณกับคาร์อันคิดจะร่วมมือกันสองคนเพื่อแหกตาผมอย่างนั้นเหรอ?”
“แหกตาคุณ?” ลี่ซาถามกลับ “เราไปแหกตาคุณตรงไหน?”
เบอร์เกนจ้องเขม็งมาที่เธอ แล้วเข้าไปบีบคางของเธอ หรี่ตามองด้วยแววตาที่โหดเหี้ยม “ผมจะถามคุณอีกรอบ ตกลงคุณได้ทำเรื่องอะไรที่มันเป็นการทำร้ายเจียงสื้อสื้อรึเปล่า?”
นี่เขาถึงกับทำแบบนี้กับเธอเพราะผู้หญิงคนอื่น!
ลี่ซารู้สึกโมโหขึ้นมาจากใจ แล้วพลั้งปากพูดไปว่า “ถ้ามีแล้วจะทำไม? ฉันจะบอกอะไรคุณนะ เบอร์เกน คุณห้ามทำอะไรฉันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นตระกูลอเนรีย์ไม่มีทางปล่อยคุณไว้แน่”
ตระกูลอเนรีย์อีกแล้ว!
เธอเอาแต่ตระกูลอเนรีย์มาข่มขู่เขาอยู่ทุกครั้งไป
ทั้งคู่ประชันหน้ากัน ไม่มีใครยอมใคร บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันที
สุดท้าย เบอร์เกนก็เป็นฝ่ายที่ปล่อยมือออก หายใจเข้าลึกๆ “ก่อนหน้านี้คุณทำอะไรไป ผมจะไม่ติดใจเอาความ แต่คุณจำเป็นต้องกลับอิตาลี”
ลี่ซานวดๆ คางที่ถูกบีบจนเจ็บ แล้วปฏิเสธเสียงแข็งไปว่า “ฉันไม่มีทางกลับอิตาลีเด็ดขาด”
“ลี่ซา อเนรีย์!” เบอร์เกนคำรามออกมาเบาๆ อย่างสุดจะทน
“คุณไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ทำอะไรเจียงสื้อสื้อทั้งนั้น ฉันแค่จะอยู่ข้างๆ คุณ อย่างไม่ยอมห่าง” มุมปากของลี่ซายิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
ขอแค่มีตระกูลอเนรีย์อยู่ เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ เขาก็มีแต่ต้องเป็นฝ่ายที่ยอมอ่อนข้อให้ตลอดไป
ต่อให้ไม่พอใจ สมองของเบอร์เกนก็ยังปลอดโปร่งอยู่ เขารู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองทำอะไรลี่ซาไม่ได้
แต่เมื่องานวิจัยของเขาสำเร็จ ในสายตาเขาตระกูลอเนรีย์ก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น
พอคิดได้แบบนั้น เขาถึงสงบใจลงได้
“ได้ครับ คุณสามารถอยู่ต่อได้ แต่ผมจะสั่งคนให้จับตาดูคุณไว้” เบอร์เกนพูด
ลี่ซายักคิ้วขึ้น “คุณไม่ต้องส่งคนมาจับตาดูฉันก็ได้ คุณแค่จับตาดูฉันเองก็พอแล้ว ในเมื่อคุณไปไหน ฉันก็ไปนั่น”
เธอไม่มีทางปล่อยให้เขากับเจียงสื้อสื้อได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพังอย่างแน่นอน
เบอร์เกนมองหน้าเธออยู่พักหนึ่ง ถึงได้พูดออกมาคำหนึ่งว่า “แล้วแต่คุณ”
พูดจบ เขาก็เดินเข้าห้องไปเลย
สีหน้าที่เคร่งเครียดของคาร์อันผ่อนคลายลงทันที เขาเงยหน้าขึ้นมามองไปยังลี่ซาด้วยแววตาที่ตื้นตัน
ลี่ซาเดินมาตรงหน้าเขา หันไปมองประตูห้องที่ปิดอยู่ แล้วพูดเบาๆ ว่า “จำไว้ อะไรที่ควรพูดก็พูด อะไรที่ไม่ควรพูดก็ไม่ต้องพูด”
คาร์อันพยักหน้า “ครับ”
ลี่ซาจ้องเขม็งไปยังประตูห้องที่ปิดสนิท มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มที่พึงพอใจ