ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1166 เรียกชื่อ​ของผมตรงๆก็ได้​

บทที่ 1166 เรียกชื่อ​ของผมตรงๆก็ได้​

เช้าวันรุ่งขึ้น ซ่างหยิงตื่นขึ้น​มา​พบว่าเค้กหายไปแล้ว​

เธอส่ายหน้า​อย่างอ่อนใจ ก่อนจะยิ้มแล้วพูดกับตัวเอง “เด็ก​หิวโซ​ตัวไหนกินไปแล้ว​ หรือจะถูกเอาไปทิ้งแล้วกันนะ”

“แม่บ้าน​ เธอเห็นเค้กที่อยู่​บนโต๊ะไหม” เธอหันไปถามแม่บ้าน​ที่กำลังงานยุ่ง

แม่บ้าน​หยุดงานในมือ แล้วเงยหน้าขึ้นมาตอบ “ไม่เห็นนะคะ”

“แล้วมันหายไปได้ยังไง​กัน​” ซ่างหยิงงงงวย

ในขณะนั้นเอง ฟางยู่เชินที่กลับจากการออกกำลังกายตอนเช้า และตรงไปที่ห้องครัวเพื่อเทน้ำดื่ม แล้วเหลือบเห็นซ่างหยิงยืนอยู่ในห้องอาหาร

“คุณ​แม่ กำลัง​คิดอะไรอยู่ครับ” เขาเดินไปถามด้วยความสงสัย

ซ่างหยิงนิ่งคิดอยู่สักพัก​ แล้วชี้ไปที่โต๊ะอาหาร “หนู​เวยเวยเอาเค้กมาให้เมื่อวาน แม่วางมันไว้บนโต๊ะอาหาร พอตื่นมาตอนเช้ากลับพบว่ามันหายไปแล้ว​”

“เค้กเหรอครับ” ฟางยู่เชินเลิกคิ้ว “ผมกินไปแล้วครับ”

“ลูกกินไปแล้ว​อย่างนั้น​เหรอ​” ซ่างหยิงประหลาดใจ

พอเห็นเธอตก​ใจ​ ฟางยู่เชินก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ “ทำไมครับ ผมกินไม่ได้เหรอครับ”

“โอ๊ย ปกติ​ลูกไม่ได้ไม่ชอบของหวานเหรอ”

ซ่างหยิงจำได้ว่าเค้กชิ้นนี้ค่อนข้างใหญ่เหมือนกัน​ แต่เขากลับกินเค้กจนหมด นี่มันไม่เหมือนเขาเลย

ปกติเขาจะไม่แตะต้องของหวานเลย

“ตอนที่​ท้องหิว อะไรก็อร่อยครับ”

ดวงตาของฟางยู่เชินล่องลอย ก่อนจะแสร้งถามด้วยสีหน้า​เรียบเฉย “คุณแม่​บอกว่าเป็นเค้กที่เวยเวยเอามาให้​อย่างนั้น​เหรอ​ครับ​”

“ใช่จ้ะ เธอทำเอง เดิมทีเธอจะเอามาให้เสี่ยวเป่ากับเถียนเถียน ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาจะกลับเมืองจิ่นไปแล้ว​”

“อ้อ” ฟางยู่เชินยิ้ม แล้วพูดว่า “คุณ​แม่ครับ ผมขึ้นไปอาบน้ำแล้ว ผมไม่กินข้าวเช้านะครับ”

“ทำไมถึงไม่กินข้าวเช้าล่ะลูก​” ซ่างหยิงมองตามแผ่นหลังของ​เขา แล้วตะโกน​ถาม

“มีธุระ​ต้อง​ไป​ทำครับ”

ฟางยู่เชินรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน

หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ฟางยู่เชินก็ออกไปข้างนอก​ทันที

เขาขับรถไปด้วย หันไปมองถุงที่วางอยู่ตรงเบาะนั่งข้างๆไปด้วย

ในถุง​บรรจุกล่องสร้อยคอเพชรรูปโคลเวอร์สี่ใบเส้นนั้น

คราวนี้เขาต้องมอบมันออกไปให้ได้

……

เหลียงซินเวยส่งอานอานไปโรงเรียน แล้วตรงไปที่ร้านเลย

วันนี้เธอทำงานกะเช้า

พอมาถึงร้าน เธอก็รีบเปลี่ยนชุดเครื่องแบบ แล้ว​เริ่มทำความสะอาดร้านพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน

จู่ๆ เพื่อนร่วมงานก็ตะโกนบอก “เวยเวย ด้านนอกมีหนุ่มหล่อกำลังมองพวกเราอยู่ล่ะ”

เหลียงซินเวยเหลือบมองเพื่อนร่วมงานของเธอที่ในแววตามีรูปหัวใจสีแดง จากนั้นก็มองไปทางที่เธอพูด

พอมองผ่านกระจกหน้าต่าง เธอจึงเห็นฟางยู่เชินที่ยืนอยู่ไม่ไกล รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ค่อยๆ จางลง

พอเพื่อนร่วมงานเห็นเธอจ้องไปที่อีกฝ่ายตาไม่กะพริบ​ เธอก็ดันศอกชนเธอเบาๆ แล้วพูดแซว “คิดไม่ถึงว่าจะมีวันที่ได้เห็นเธอมองผู้ชาย​ตาไม่กะพริบ​แบบนี้”

“ฉันออกไปข้างนอกแป๊บนึง​นะ” เหลียงซินเวยวางผ้าขี้ริ้วลง แล้วเดินออกไป

เพื่อนร่วมงานงุนงง “เธอจะไปไหน”

หลังจากนั้น เธอก็เห็นเหลียงซินเวยเดินไปทางที่ชายหนุ่มรูปหล่อ​ยืนอยู่ จึงอดที่จะหายใจเข้าลึก​ๆไม่ได้ “พระเจ้า พวกเขาคงไม่ได้ว่ารู้จักกันหรอกใช่ไหม​”

เหลียงซินเวยเดินมาหยุดตรงหน้าฟางยู่เชิน แล้ว​ถามด้วยรอยยิ้ม​ “คุณ​มาที่นี่ได้ยังไง​คะ”

ฟางยู่เชินเลิกคิ้ว “ผ่านมาทำธุระ​ครับ”

“อ๋อ” เหลียงซินเวยพยักหน้าเข้าใจ

ทั้งสองตกอยู่ใน​ความเงียบอีกครั้ง

เหลียงซินเวยก้มหน้าลง กัดเม้มริมฝีปาก พยายามหาหัวข้อสนทนา​

ในตอนนี้เอง ฟางยู่เชินก็พูดขึ้น​มา​ “ผมได้ยินมาว่าไม่กี่วันก่อนเป็นวันเกิดของคุณ ใช่ไหมครับ”

เหลียงซินเวยเงยหน้าขึ้นมา แล้วสบตาเข้ากับดวงตาสีเข้มลึกลับ​ของเขาโดยไม่คาดคิด หัวใจของเธอสั่นอย่างรุนแรง​ เธอรีบละสายตาออกไป แล้วตอบ “อืม” เบาๆ

“เดิมที ตั้งใจจะให้คุณในวันเกิดของคุณ แต่วันนั้นผมเห็นกู้เนี่ยนมาหาคุณ ฉันก็เลยไม่ได้เข้าไปหาคุณ”

ฟางยู่เชินพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้า​ของ​เขาเหมือนคาดหวังเล็กน้อย เขาอยากได้ยินคำอธิบายจากปากของเธอ

“คุณ​กู้เนี่ยนเหรอคะ” เหลียงซินเวยนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วยิ้มออกมา “คุณหมายถึงวันนั้นเหรอคะ เขามาเอาคุกกี้ให้ฉันค่ะ และพี่สื้อสื้อขอให้เขาเอามาให้”

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” ฟางยู่เชินแอบโล่งใจ เขาเหลือบมองถุงในมือ ก่อนจะยื่นให้ “นี่คือของขวัญวันเกิด​จากผมครับ”

เหลียงซินเวยเหลือบมองตัวอักษรภาษาอังกฤษที่อยู่ด้านนอกถุง จำได้ว่าเป็นถุงจากร้านขายเครื่องประดับที่เขาพาเขาไปเลือกของขวัญวันเกิดให้เย่เสี่ยวอี้

“ไม่ต้อง​หรอกค่ะ” เธอปฏิเสธ “ของขวัญราคาแพงแบบนี้ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”

“คุณ​จะไม่ยอมรับมันเหรอครับ” ฟางยู่เชินจงใจพูด “งั้นผมคงต้องทิ้ง ยังไงผมก็ไม่ได้ใช้​มันอยู่แล้ว​”

พอพูดจบ เขาก็เดินไปที่ถังขยะด้านข้าง

“รอเดี๋ยวค่ะ” เหลียงซินเวยรีบเดินตาม แล้วคว้าถุงนั้นมา “ฉันรับไว้ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”

 

เธอกอดถุงนั้นไว้แน่น หัวใจเธอเต้นแรงเพราะเขา

ฟางยู่เชินยกยิ้ม “คุณ​จะ​ไม่เปิดดูเหรอครับ”

เหลียงซินเวยเหลือบมองเขาเล็กน้อย​ ก่อนจะหยิบกล่องผ้ากำมะหยี่ออกจากถุงแล้วเปิดออกดู

ตอนที่​เธอเห็นสร้อยคอในกล่อง ดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง เธอก็มองหน้าฟางยู่เชินอย่างไม่น่าเชื่อ

ได้ยิน​แค่เสียงอ่อนโยนของเขาที่ดังก้องอยู่ในหูของเขา “วันนั้น​ผมเห็นคุณชอบสร้อยเส้นนี้มาก หลังจากที่คุณเดินจากไป ผมก็เข้าไปซื้อมันไว้ ตั้งใจจะหาโอกาสที่จะมอบมันให้กับคุณ”

เหลียงซินเวยรู้สึกซาบซึ้ง​ใจมาก เธอมองเขาที่กำลัง​ยิ้มอย่างอ่อนโยน ขอบตาของเธอก็ชื้นขึ้นมาเล็กน้อย

ถูกคนให้ความสำคัญ​มันรู้สึก​ดีแบบนี้นี่เอง

แต่เธอจะหลงตัวเองไม่ได้ เขาแค่มองว่าเธอเป็นเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น

เหลียงซินสูดหายใจเข้าลึก เพื่อหยุดความคิดที่ไม่ควรมี เหลียงซินเวยยิ้มบางๆ “ขอบคุณค่ะ คุณฟาง”

คำว่า “คุณฟาง” ทำให้ฟางยู่เชินต้องขมวดคิ้ว “คุณไม่จำเป็นต้องเรียกผมว่าคุณฟางก็ได้ เรียกชื่อ​ของผมตรงๆก็ได้​ ”

เหลียงซินเวยผงะไปเล็กน้อย​ ให้เรียกชื่อเขาตรงๆอย่างนั้น​เหรอ​

ยู่เชิน?

เธอรู้สึก​เขินอย่างอธิบายไม่ถูก เธอไม่กล้าเรียกแบบนั้น จึงตัดสินใจ​เรียกอีกแบบหนึ่ง

“งั้นฉันเรียกคุณ​ว่าพี่ฟางดีไหมคะ”

ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยพอใจนัก แต่เขาก็พยักหน้า “ก็ได้”

“ขอบคุณค่ะพี่ฟาง”

เหลียงซินเวยเก็บสร้อยคอไว้ “กินข้าวเช้าหรือยังคะ”

“ยังเลย”

เหลียงซินเวยนึกว่าเขาจะพูดว่าเขากินมาแล้ว แต่คิดไม่ถึง​ว่าเขาจะยังไม่ได้กิน จึงชะงัก​เล็กน้อย แล้ว​รีบได้สติ​กลับมา ก่อนจะหันไปมองที่ร้าน เพื่อนร่วมงานยังทำความสะอาดกันอยู่

“เอาอย่างนี้ ฉันจะพาคุณไปกินข้าวเช้าเอง” เหลียงซินเวยพูดเสนอ

ฟางยู่เชินพยักหน้า “ตกลง”

“งั้นคุณ​รอฉันเดี๋ยว​นะคะ ฉันขอไปบอกกับเพื่อนร่วมงาน​ก่อน”

ฟางยู่เชินมองดูเธอวิ่งเข้าไปในร้านด้วยสายตา​อ่อนโยน

“เวยเวย เธอรู้จักผู้ชายรูปหล่อคนนั้นเหรอ” พอเพื่อนร่วมงานเห็นเหลียงซินเวยเดินเข้ามา เธอก็รีบถาม

เหลียงซินเวยพยักหน้าเล็กน้อย “อืม เป็นเพื่อนกันน่ะ”

“เพื่อนเหรอ ทำไมเธอมีเพื่อนหล่อขนาดนี้ไม่แนะนำให้​ฉันรู้จักกบ้าง”

“เขามีคู่หมั้นแล้ว” เหลียงซินเวยนึกถึงเย่เสี่ยวอี้ขึ้น​มา​ ในใจรู้สึกอึดอัด​เล็กน้อย

เพื่อนร่วมงานรู้สึกหมดหวัง​ไปทันที “มีเจ้าของ​แล้ว​ ก็ช่างมันเถอะ​”

“ฉันจะพาเขาไปกินข้าวเช้า เดี๋ยว​กลับมานะ” เหลียงซินเวยพูด

เพื่อนร่วมงานพยักหน้า “ได้ เธอไปเถอะ ฉันจะช่วยพูดกับผู้จัดการให้”

“ขอบคุณนะ” เหลียงซินเวยรู้สึกขอบคุณเธอมาก

“ไม่เป็นไร ไปเร็ว อย่าปล่อยให้คนอื่นเขารอนาน”

เพื่อนร่วมงานมองดูเธอวิ่งออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอค่อยๆ จางลง เธอมีสีหน้า​กังวลมากขึ้นเล็กน้อย

ถึงแม้​เวยเวยจะบอกว่าเธอกับผู้ชายรูปหล่อคนนั้นเป็นแค่เพื่อนกัน อีกทั้ง​อีกฝ่ายก็มีคู่หมั้นแล้ว เวยเวยกับเขาสนิทสนม​กัน​ขนาดนี้จะไม่มีปัญหา​เหรอ

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท