กลางคืน จิ้นเฟิงเหรากลับมาถึงบ้าน พบว่าฟางยู่เชินก็อยู่ด้วย รู้สึกแปลกใจอย่างยิ่ง
“ยู่เชิน ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ได้”
ฟางยู่เชินยิ้มอ่อนๆ“มาเยี่ยมสื้อสื้อ พร้อมกับมาบอกข่าวพี่ชายคุณด้วย”
“มีข่าวของพี่ชายผมเหรอ”จิ้นเฟิงเหราดีใจอย่างมาก“คุณพูดจริงเหรอ”
“จริงสิ”คนที่ตอบคือเจียงสื้อสื้อ เธอพูดต่อว่า“ที่พี่ชายฉันมาก็เพื่อที่จะมาปรึกษากับคุณว่าจะช่วยเฟิงเฉินอย่างไร”
จิ้นเฟิงเหรารีบไปนั่ง“อย่างนั้นบอกผมมา ว่าตอนนี้พี่ชายผมอยู่ที่ไหน”
“สิงคโปร์”
พอจิ้นเฟิงเหราได้ยิน ก็ยิ้ม“ที่แท้การคาดการณ์พวกเราก็ถูกต้อง”
“อืม”ฟางยู่เชินพยักหน้า“คนที่แอบสะกดรอยตามซ่างกวนเชียน ถ่ายรูปพี่ชายนายได้”
เขาล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา กดเปิดภาพถ่าย ยื่นไปให้
จิ้นเฟิงเหรารับมา มองอย่างจริงจัง ขมวดคิ้ว“เป็นพี่ชายผมจริงๆ แต่ทำไมถึงถ่ายมาได้ง่ายๆขนาดนี้”
พอเขาถามเช่นนี้ เจียงสื้อสื้อเหลือบมองเขา“เฟิงเหรา นายหมายความว่าอะไร ไม่อยากให้ถ่ายรูปพี่นายได้เหรอ”
“พี่สะใภ้ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”จิ้นเฟิงเหรารีบอธิบาย“ความหมายของผมคือพวกเราพยายามมากมายขนาดก็ยังหาไม่เจอ แต่ครั้งนี้กลับถ่ายรูปมาได้ง่ายๆ หรือว่าพวกคุณไม่รู้สึกแปลกใจเลย”
เจียงสื้อสื้อครุ่นคิด“ก็แปลกใจอยู่บ้างจริงๆ”
ฟางยู่เชินมองพวกเขา กลั้นขำไว้ไม่อยู่ “เอาละ พวกคุณไม่ต้องรู้สึกแปลกใจ นี้น่าจะเป็นซ่างกวนเชียนจงใจให้พวกเราถ่ายได้”
“หืม”เจียงสื้อสื้อแปลกใจมาก“ทำไมเขาถึง……”
ซ่างกวนหยวนเป็นน้องสาวของซ่างกวนเชียน ว่ากันตามเหตุผล ซ่างกวนเชียนน่าจะช่วยซ่างกวนหยวนถึงจะถูก
จิ้นเฟิงเหราเองก็ประหลาดใจไม่น้อย“ยู่เชิน คุณมั่นใจแล้วเหรอ หรือว่าคุณแค่คาดเดา”
ฟางยู่เชินนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง จึงเอ่ยว่า“ความจริงเป็นการคาดเดาของผม แต่ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ซ่างกวนเชียนเป็นห่วงใส่ใจซ่างกวนหยวนมาก ไม่ใช่เป็นห่วงแบบพี่น้องอย่างนั้น แต่……”
เขาชะงัก“เป็นความห่วงใยระหว่างชายหญิง”
ความห่วงใยระหว่างชายหญิงเหรอ
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว“พี่ พี่รู้มั้ยว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ จะพูดส่งเดชไม่ได้นะ”
ฟางยู่เชินยิ้ม“พี่ไม่ได้พูดส่งเดช ความจริงก็เป็นเช่นนี้”
“ผมพอจะรู้เรื่องของตระกูลซ่างกวนอยู่บ้าง”จิ้นเฟิงเหราพูด“ผมรู้ว่าซ่างกวนเชียนเป็นแค่ลูกบุญธรรม ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับซ่างกวนหยวน”
“ดังนั้นซ่างกวนเชียนก็เลยชอบซ่างกวนหยวนเหรอ”เจียงสื้อสื้อถามอย่างไม่แน่ใจ
ฟางยู่เชินพยักหน้า“ดังนั้นเขาก็อาจจะช่วยพวกเรา”
“คุณคิดจะขอความช่วยเหลือจากเขาเหรอ”จินเฟิงเหราถาม
“อืม”ฟางยู่เชินถอนหายใจอีก“ตอนนี้นอกจากขอให้เขาช่วยแล้ว ผมก็คิดวิธีอื่นไม่ออกจริงๆ เพราะพวกเราไม่สามารถใช้กำลังปะทะ ไปแย่งคนมาโดยตรงได้ แบบนั้นไม่เป็นผลดีต่อพวกเรา”
แม้ว่ากำลังของสำนักหยานในตอนนี้จะไม่เหมือนเมื่อก่อน แต่เขาก็ยังไม่อยากทำเรื่องให้วุ่นวายใหญ่โต
จิ้นเฟิงเหราพยักหน้า“ที่คุณพูดก็ถูก ไม่เป็นผลดีต่อพวกเราจริงๆ ซ่างกวนหยวนสามารถพาพี่ชายผมไปซ่อนที่อื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้”
“ไม่ได้นะ” เจียงสื้อสื้อร้อนใจ“ถ้าเธอเอาตัวเฉินเฟิงไปอีกครั้ง พวกเราคงไม่สามารถเอาเฟิงเฉินกลับมาได้จริงๆ”
เธอไม่อยากเห็นผลลัพธ์อย่างนั้นจริงๆ
ดังนั้นครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรต้องเอาคนกลับมาให้ได้
“สื้อสื้อ เธออย่าเพิ่งใจร้อน พวกเราจะต้องหาวิธี”ฟางยู่เชินรีบปลอบเธอ
“ฝากพวกคุณด้วยนะ”
เจียงสื้อสื้อนอกจากฝากความหวังไว้กับพวกเขาแล้ว เธอก็ทำอะไรไม่ได้
จิ้นเฟิงเหรายิ้ม“พี่สะใภ้ เชื่อในตัวพวกเรานะ”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า“อืม ฉันเชื่อในตัวพวกคุณ”
……
หลังจากทะเลาะกับซ่างกวนหยวนแล้ว ซ่างกวนเชียนก็กลับเมืองหลวงทันที เพื่อไปเยี่ยมนายท่านหญิง ที่โรงพยาบาล
นายท่านหญิงที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยตามวัยนั้นซีดไม่มีสีเลือดเลยแม้แต่น้อย ขาวซีดจนเขียวเล็กน้อย “คุณย่า”เขาเดินไปที่ข้างหน้าเบาๆ
ได้ยินเสียงนายท่านหญิงก็ค่อยๆลืมตา ตอนที่มองเห็นเขา ในดวงตาที่ขุ่นมัวคู่นั้นเปี่ยมไปด้วยความปีติยินดี มุมปากค่อยๆโค้งขึ้น
“เสี่ยวเชียน”
เสียงแหบพร่าทำให้ภายในใจของซ่างกวนเชียนเศร้าทันที เขากุมมือของนายท่านหญิงเอาไว้ ฝืนคลี่ยิ้มออกมา “คุณย่า ผมอยู่นี่ครับ”
“หยวนหยวนล่ะ”นายท่านหญิงถาม
“หยวนหยวนยังทำงานยุ่งอยู่ที่ต่างประเทศเลยครับ คงต้องอีกสักระยะหนึ่งเธอจึงจะได้กลับมา”ซ่างกวนหยวนได้แต่พูดโกหกต่อไป
เขาเห็นดวงตานายท่านหญิงหรี่วูบลงมาในทันที ในใจก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น
ตอนนี้ เขากลับรู้สึกเกลียดซ่างกวนหยวนเล็กน้อย
เกลียดความดื้อรั้นของเธอ เกลียดความเห็นแก่ตัวของเธอ เกลียดความ ไร้หัวใจของเธอ
“ทำไมเธอถึงงานยุ่งขนาดนี้นะ”นายท่านหญิงพูดอย่างช้ามากๆ ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความท้อแท้สิ้นหวัง
ซ่างกวนเชียนรีบพูดว่า“คุณย่า คุณย่าวางใจเถอะครับ ผมจะโทรไปหาเธอ ให้เธอกลับมาเร็วหน่อย”
“ช่างเถอะ”นายท่านหญิงส่ายหน้าเบาๆ“ถ้าเธออยากกลับมา ก็คงกลับมานานแล้ว”
พูดมาถึงตรงนี้ นายท่านหญิงยิ้มอย่างขมขื่น“นี่เธอยังเกลียดฉันอยู่สินะ”
“เปล่าครับ เธอไม่ได้เกลียดคุณย่า……”
ซ่างกวนเชียนอยากจะอธิบาย แต่กลับได้ยินนายท่านหญิงพูดว่า “เสี่ยวเชียน ฉันรู้จักหยวนหยวนดีมากกว่าเธอ เธอหัวดื้อมาตั้งแต่เด็ก มีความคิดเป็นของตนเอง คนอื่นไม่สามารถเปลี่ยนความคิดเธอได้”
บนใบหน้าของนายท่านหญิงเผยให้เห็นความคิดถึง“ยังจำได้ว่าตอนเด็กๆเธอชอบของเล่นชิ้นหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ร้องจะซื้อกลับบ้านให้ได้ พ่อแม่นายไม่ยอม เธอก็มาหาฉันกับปู่ ตอนนั้นเธอน่ารักขนาดไหน ยิ้มดีใจมากแค่ไหน แต่นับตั้งแต่……”
นายท่านหญิงมองซ่างกวนเชียน บีบมือของเขา แล้วก็ยิ้ม“เสี่ยวเชียน หลายปีมานี้ลำบากนายแล้ว”
ซ่างกวนเชียนส่ายหน้า “คุณย่า ผมไม่ลำบาก ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่คุณย่า แล้วก็คุณพ่อคุณแม่ ผมก็คงไม่สุขสบายอย่างตอนนี้แน่นอน”
นายท่านหญิงเผยให้เห็นรอยยิ้มอย่างโล่งใจ ถอนหายใจพูดว่า“น่าเสียดายหยวนหยวนไม่เข้าใจนาย คิดว่านายทำให้พ่อกับแม่เธอตาย”
ได้ยินดังนั้น นัยน์ตาซ่างกวนเชียนมีอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะสัมผัสได้ เขาตบมือนายท่านหญิงเบาๆ พูดปลอบใจว่า“คุณย่า คุณย่าไม่ต้องคิดเรื่องนี้แล้วนะครับ พักผ่อนเยอะๆ จะได้กลับบ้านเร็ว”
นายท่านหญิงถอนหายใจอีก“เสี่ยวเชียน ไม่ต้องปลอบย่าหรอก ย่ารู้สภาพร่างกายตัวเองดี”
พูดมาถึงตรงนี้ เธอหันไปมองนอกหน้าต่าง เสียงเบามากๆ แฝงด้วยเลื่อนลอยเล็กน้อย“ถึงเวลาที่ย่าจะไปอยู่เป็นเพื่อนปู่แล้ว”
“คุณย่า”ซ่างกวนเชียนหางตารื้น อดไม่ได้ที่จะกุมมือของนายท่านหญิงเอาไว้แน่น
ภายในห้องผู้ป่วยก็เงียบลงในชั่วพริบตา บรรยากาศเปลี่ยนเป็นโศกเศร้าเล็กน้อย
นานพักใหญ่ ซ่างกวนเชียนจึงเอ่ยว่า“คุณย่า คุณย่าไม่ต้องห่วง ผมจะพาหยวนหยวนมาเยี่ยมคุณย่าให้ได้”
นี่คือสิ่งที่เขายืนยันกับนายท่านหญิง
นายท่านหญิงหันหน้ามา มองเขาด้วยความรักใคร่“ไม่ต้องฝืนใจเธอ เธออยากมาก็มาเอง”
“แต่ว่าคุณย่า ผมกลัวว่า……”
เขากลัวว่าคุณย่าอาจจะรอไม่ถึงวันที่ซ่างกวนหยวนจะมาเยี่ยมเธอสักครั้ง
นายท่านหญิงส่งรอยยิ้มปลอบให้เขาสบายใจ“ไม่ต้องห่วง ถ้าหยวนหยวนยังไม่มา ย่าก็ไม่มีทางหลับตาได้หรอก”
“คุณย่า”ซ่างกวนหยวนรู้สึกว่าหน้าอกเหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่กดทับอยู่ ทับจนเขารู้สึกทรมาน
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาจะต้องพาซ่างกวนหยวนมาเยี่ยมนายท่านหญิงให้ได้