ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1798 : ร่างแยกตัวจริง

ตอนที่ 1798 : ร่างแยกตัวจริง
  จางลู่แปลกใจ “ เจ้ารู้จักต้นไม้โกลาหลรึ ?”
การรู้จักต้นไม้โกลาหลก็หมายความว่าอยู่ในยุคเดียวกับต้นไม้โกลาหลรึมาจากยุคที่ไม่ต่างกันมาก
“ แน่นอนว่าข้ารู้จักมัน” จิตมรณะดูเหม่อลอย “ ข้าทำงานกับมันในการดูแลโกลาหลแห่งนี้ ข้าจะไม่รู้จักมันได้ยังไง ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางลู่ก็แปลกใจยิ่งกว่าเก่า จิตมรณะถึงกับรู้เรื่องนี้ด้วย
ในเวลาเดียวกันจางลู่ก็สงสัยเรื่องตัวตนของจิตมรณะ
“ เจ้ารู้จักต้นไม้โกลาหล เจ้าถึงกับรู้ว่าร่างแยกของจ้าวโกลาหลได้ร่วมมือกับต้นไม้โกลาหลในการดูแลโกลาหล ดูเหมือนว่ามันยากที่จะบอกตัวตนของเจ้าได้” จางลู่ หรี่ตาลง “ บอกมาว่าเจ้าเป็นใครกันแน่ ?”   จิตมรณะถอนหายใจออกมา “ ดูเหมือนว่าข้าพูดไปเจ้าคงไม่เชื่อ หากเป็นเช่นนั้นเจ้าจะถามข้าทำไมกัน ?”
“ มันไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อเจ้า มันเป็นเพราะเจ้าโกหกมากเกินไปต่างหาก” จางลู่มองไปที่จิตมรณะ “ หากเจ้าเป็นร่างแยกของจ้าวโกลาหลจริงๆแล้วทำไมต้องแต่งเรื่องขึ้นมาหลอกข้าด้วย ? เจ้าถึงกับให้ข้าไปหาไห่อู่เซิง ?”
จิตมรณะยังไม่ทันได้เปิดปากพูด จางลู่ก็พูดขึ้นมา “ เมื่อเจ้าบอกว่าเจ้าเป็นร่างแยกของจ้าวโกลาหล งั้นเจ้าบอกมาว่าเจ้าชื่ออะไร ? บอกข้าว่าจ้าวโกลาหลตายได้ยังไง หากเจ้าพูดถูก ข้าถึงจะเชื่อว่าเจ้าเป็นร่างแยกจริงๆ”
จิตมรณะเงียบไป
“ ทำไม เจ้าตอบไม่ได้รึ ?” จางลู่ฮึดฮัดออกมา “ เจ้าไม่คิดจะตอบเพราะเจ้าไม่รู้สินะ ?”
“ข้าคือซุนเหยียน” จิตมรณะพูดขึ้น “ เจ้ารู้จักต้นไม้โกลาหล เจ้าถามชื่อข้าจากเขาก็ได้ ข้าคิดว่าในโกลาหลแห่งนี้นอกจากร่างหลักและต้นไม้โกลาหลแล้ว ไม่มีใครอื่นอีกที่รู้จักชื่อข้า แน่นอนว่าหากไม่นับเจ้ากับเจ้าตัวเล็กนี่”
จางลู่ถึงกับชะงัก
เขาไม่คิดเลยว่าจิตมรณะจะรู้ชื่อนี้
จิตมรณะคือร่างแยกของจ้าวโกลาหลจริงๆรึ ?
“ แล้วจ้าวโกลาหลตายได้ยังไง ?” จางลู่ยังไม่เชื่อคำพูดของจิตมรณะ
“ บอกไปเจ้าอาจจะไม่เชื่อ ร่างหลัก..” จิตมรณะได้ถอนหายใจออกมาและพูดขึ้น “ เขาโดนสิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับผึ้งต่อยจนตาย” เมื่อพูดถึงผึ้ง จิตมรณะก็เผยท่าทีหวาดกลัวออกมา
“ แล้วไห่อู่เซิงล่ะ ?” จางลู่แปลกใจ
เรื่องการตายของจ้าวโกลาหล จิตมรณะและไห่อู่เซิงกลับตอบเหมือนกัน
นอกซะจากว่าทั้งสองจะพูดคุยกัน งั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสองจะให้คำตอบแบบเดียวกัน
“ แล้วเจ้ามีเป้าหมายอะไรในการสร้างลานแห่งวิวรณ์ขึ้นมา ?” จางลู่เริ่มเชื่อคำพูดของจิตมรณะ แม้ว่าจิตมรณะจะไม่ใช่ซุนเหยียน แต่ก็ต้องเกี่ยวข้องกับซุนเหยียน
จิตมรณะมองไปที่จางลู่แล้วพูดขึ้น “ ข้าบอกไปแล้วไม่ใช่รึ ? ลานแห่งวิวรณ์มีไว้เพื่อชุบชีวิตร่างหลัก”
“ไห่อูเซิงได้บอกข้าเรื่องการตายของจ้าวโกลาหล” จางลู่ไม่ได้รีบปฏิเสธแต่เขาก็ไม่ลังเลที่จะพูดขึ้น “ จ้าวโกลาหลได้ตายไปแล้ว แม้แต่สติของเขาก็โดนทำลายไปด้วย มันเป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นคืนชีพเขาขึ้นมา ไม่มีใครทำได้ เจ้าก็ไม่อาจจะทำอะไรได้” เขามองไปที่จิตมรณะแล้วถามขึ้น “ บอกมาว่าจริงๆแล้วเจ้าต้องการอะไร ?”
“ เจ้าไม่เชื่อข้าไม่ใช่รึไง ?” จิตมรณะเริ่มรำคาญ
“ หากเจ้าพูดมีเหตุผลแล้วทำไมข้าจะไม่เชื่อ ?” จางลู่พูดขึ้น
จิตมรณะฮึดฮัดออกมา มันเหมือนไม่อาจจะอธิบายคำตอบได้ “ ต้นไม้โกลาหลให้มันมาที่นี่ ตราบใดที่มันมาที่นี่ ข้าก็สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ ตอนที่ร่างหลักส่งมันกลับไปเกิดใหม่ ความทรงจำของมันน่าจะตื่นขึ้นแล้ว ! มันยืนยันได้ว่าข้าเป็นใคร ! “
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางลู่ก็เชื่อว่าจิตมรณะคือร่างแยกของจ้าวโกลาหล คือซุนเหยียนจริงๆ
มีแค่ซุนเหยียนเท่านั้นที่กล้าจะเผชิญหน้ากับต้นไม้โกลาหลและไม่กลัวต้นไม้โกลาหลบอกตัวตน
แต่จางลู่ไม่เข้าใจ ในเมื่อจิตมรณะคือร่างแยกของจ้าวโกลาหล งั้นทำไมมันถึงต้องโกหกเขา ?
“ ข้าเชื่อว่าเจ้าคือซุนเหยียนก็ได้” จางลู่พูดขึ้น
ซุนเหยียนแสดงท่าทีเฉยเมยออกมา  “ แต่แม้ว่าเจ้าจะเป็นซุนเหยียน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เจ้าทำอยู่ในตอนนี้เป็นเรื่องดี ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เจ้าทำเป็นเรื่องที่ถูกต้อง” จางลู่มองไปที่ซุนเหยียน “ บทบาทที่แท้จริงของลานแห่งวิวรณ์ อันที่จริงแม้ว่าเจ้าจะไม่บอกแต่ข้าก็พอเดาได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะพูดมันออกมา แน่นอนว่าหากเจ้าไม่อยากจะพูด งั้นก็ไม่เป็นไร ข้าแค่ทำลายลานแห่งนี้ก็เพียงพอแล้ว”
“ ไม่ !” ซุนเหยียนรีบตะโกนขึ้นมา “ ไม่ได้ !”
“ งั้นก็บอกเหตุผลที่ข้าไม่ควรทำลายมันมา” จางลู่มองไปที่ซุนเหยียน
ซุนเหยียนเงียบไป
หากเลือกได้ เขาอยากจะเลือกควบคุมหุ่นเชิดทั้งหมดฆ่าจางลู่และเสี่ยวเสียซะ แต่เขาไม่มีความสามารถที่จะทำแบบนั้น!
“ เจ้าอยากฟังข้าเล่าอะไรให้ฟังรึไม่ ?” ซุนเหยียนพูดขึ้นมาช้าๆ  จางลู่ยิ้มออกมา “ ข้ารอฟังอยู่”
ซุนเหยียนมองไปที่จางลู่ด้วยสีหน้าซับซ้อน เขาเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้น “ นานมาแล้วจ้าวโกลาหลได้สร้างโกลาหลแห่งนี้ขึ้นมา จากนั้นก็ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตแรกอย่างต้นไม้โกลาหลและดินแดนต่างๆ มีโลกขั้น 9 กำเนิดขึ้นมานับไม่ถ้วนรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตต่างๆ ความแข็งแกร่งของต้นไม้โกลาหลนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ จนจ้าวโกลาหลกังวลว่าต้นไม้โกลาหลนั้นอาจจะทำลายโกลาหล ดังนั้นจึงได้สร้างร่างแยกขึ้นมาชื่อว่าซุนเหยียน เขาได้สั่งให้ซุนเหยียนและต้นไม้โกลาหลคอยดูแลโกลาหลแห่งนี้ หน้าที่ของซุนเหยียน นอกจากการดูแลโกลาหลแล้วก็คือจับตาดูต้นไม้โกลาหลเอาไว้”
การตัดสินใจของจ้าวโกลาหลนั้นจางลู่ยังเข้าใจได้ ยังไงซะต้นไม้โกลาหลก็มีความสามารถในการทำลายโกลาหลจริงๆ
“ ผ่านมาหลายปี วันหนึ่งจ้าวโกลาหลก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นกับตัว เขาโดนผึ้งต่อยเขาบาดเจ็บหนักและอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเขาก็ตาย” ซุนเหยียนพูดขึ้นมา “ แต่ก่อนตายเขาได้ส่งต้นไม้โกลาหลกลับไปเกิดใหม่ ด้านหนึ่งก็เพื่อปกป้องต้นไม้โกลาหล อีกด้านก็เพราะกังวลว่าต้นไม้โกลาหลจะทำลายโกลาหล เขาหวังว่าการส่งต้นโกลาหลไปเกิดใหม่นี้จะพบกับข้อจำกัดมากกว่าเดิม ดังนั้นต้นไม้โกลาหลจึงอยู่ภายใต้ขีดจำกัดเหล่านั้น”
จางลู่พยักหน้า จ้าวโกลาหลนั้นรอบคอบ เขาคิดถึงความเป็นไปได้ทุกอย่าง
อย่างที่จ้าวโกลาหลคาดเอาไว้ ต้นไม้โกลาหลได้ผ่านการเกิดใหม่มานับครั้งไม่ถ้วนและมีข้อจำกัดมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้าย เนี่ยเวิ่นก็กำเนิดขึ้นมา บอกได้ว่าต้นไม้โกลาหลได้กำเนิดมาพร้อมกับขีดจำกัด ด้วยขีดจำกัดเหล่านั้นทำให้ต้นไม้โกลาหลไม่ใช่แค่ไม่อาจจะทำลายโกลาหลได้ แต่ยังต้องปกป้องโกลาหลจากการทำลายล้าง
“ สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือเขากังวลกับต้นไม้โกลาหลมากเกินไป แต่อันที่จริงกลับเป็นร่างแยกของเขาที่เปลี่ยนไป” เสียงของซุนเหยียนขมขื่นขึ้นมา
ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท