ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1284 จะอยู่ข้างคุณตลอดไป

บทที่ 1284 จะอยู่ข้างคุณตลอดไป

ฟางยู่เชินคับแค้นในใจ อยากจะผลักเธอออก

แต่เสียงสะอื้นไห้ที่ดังมาจากในอ้อมอก บีบเค้นหัวใจเขาแต่ละครั้งๆ แม้แต่จะหายใจยังเจ็บปวด

สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว กอดหญิงสาวในอ้อมอกเอาไว้แน่น เหมือนกับจะเอาตัวเธอฝังเข้าไปในร่างของตนเองอย่างนั้น

“ฉันไม่ต้องการเลิก!”เหลียงซินเวยพูดด้วยเสียงแหบพร่า

ฟางยู่เชินซุกศีรษะเข้าไปในซอกคอของเธอ น้ำเสียงทั้งเคร่งขรึมทั้งแห้ง “อยู่กับผม คุณจะได้รับบาดเจ็บ……”

พูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกเหลียงซินเวยตัดบท “ฉันไม่กลัว ขอแค่มีคุณอยู่ข้างๆ ฉันก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”

“ยัยโง่”ในใจฟางยู่เชินก็อ่อนระทวย

เธอยังไม่กลัว เขาเป็นผู้ชายอกสามศอกจะต้องกลัวอะไรอีก

ในยามค่ำคืน พวกเขาต่างกอดกันและกันแน่น แยกกันไม่ออกเสมือนกับว่าเป็นร่างเดียวกันอย่างนั้น

อานอานรอนานมากแล้ว กว่าลุงฟางของเขาจะมา

วินาทีที่ประตูเปิดนั้น เขารีบพุ่งตัวไปทันที มองเห็นฟางยู่เชินเดินเข้ามา เรียกอย่างตื่นเต้นว่า “ลุงฟาง”

ความชื่นชอบที่อานอานมีต่อฟางยู่เชิน ทุกครั้งล้วนแสดงออกมาทางสีหน้าโดยไม่ปิดบังแม้แต่น้อย

ฟางยู่เชินก้าวมาข้างหน้า บีบแก้มของเขา ยิ้มพลางถามว่า “ทำการบ้านเสร็จแล้วเหรอ”

“ทำเสร็จตั้งนานแล้วครับ”

“เก่งจริงๆ “ฟางยู่เชินขยี้ศีรษะเล็กๆ ของเขาอย่างรักใคร่เอ็นดู

“อย่ายืนตรงนี้เลย เข้าไปเถอะ”

เพราะร้องไห้มา เสียงของเหลียงซินเวยจึงแหบพร่า

พออานอานได้ยินก็รู้ว่าผิดปกติ มองไปที่เธอ ก็พบว่าตาเธอแดงๆ คิ้วเล็กๆ ขมวดขึ้นมา “แม่ครับ แม่ร้องไห้เหรอครับ”

เหลียงซินเวยยิ้มพลางส่ายหน้า “ไม่ได้ร้องจ้ะ ลมพัดทรายเข้าตา”

“อ้อ”อานอานคิดว่าเป็นเรื่องจริง จึงไม่ได้ถามอะไรต่อไปอีก

เขาจูงมือฟางยู่เชินเดินเข้าไปข้างใน เดินพลางพูดพลางว่า “แม่ตั้งใจทำกุ้งผัดเปรี้ยวหวานที่ลุงชอบทานไว้แล้ว แม่ตั้งใจเปิดตำราอาหารทำเลยนะครับ”

ได้ยินดังนั้น ฟางยู่เชินก็มองไปยังเหลียงซินเวย

ดวงตาสี่ดวงประสานกัน

เหลียงซินเวยหลบสายตาอย่างเขินอาย “ฉันทำไม่เป็น ถ้าไม่อร่อย จะว่ากันไม่ได้นะคะ”

สายตาของฟางยู่เชินลึกซึ้งขึ้นมา พูดด้วยเสียงขรึมว่า “ขอแค่เป็นของที่คุณทำ ผมก็ชอบหมด”

ได้ยินประโยคนี้ เหลียงซินเวยก็รู้สึกชุ่มชื่นในหัวใจ

เธอรีบเดินไปที่ห้องครัว เอาอาหารที่เย็นชืดไปแล้วมาอุ่นให้ร้อนอีกครั้ง ค่อยนำมาตั้งบนโต๊ะ

อานอานลากฟางยู่เชินมานั่งลงแล้ว สองมือซ้อนกันวางไว้บนโต๊ะ รอทานอาหารอย่างเชื่อฟัง

อาหารสามอย่างน้ำแกงหนึ่งอย่าง

แม้จะเป็นอาหารบ้านๆ ธรรมดาทั่วไป แต่กลิ่นหอมที่ลอยละล่องอยู่ในอากาศ บวกกับแสงไฟที่สาดส่องลงมาจากเหนือศีรษะ ทั้งหมดอบอุ่นสวยงามขนาดนั้น

“หิวกันแล้วสินะคะ รีบทานเถอะ”

เหลียงซินเวยเอาข้าวที่ตักเรียบร้อยแล้ววางตรงหน้าพวกเขาทีละคน

จากนั้นก็นั่งลงตรงข้ามฟางยู่เชิน มองเขาด้วยสายตาที่คาดหวัง

ฟางยู่เชินเข้าใจความหมายของเธอ หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบกุ้งใส่ในปาก

อืม……หวานไปหน่อย

แต่เขาก็ยังยิ้มพลางเอ่ยว่า “อร่อยมาก”

เหลียงซินเวยตาเป็นประกาย “จริงเหรอคะ”

“แม่ครับ อร่อยมากจริงๆ ครับ”อานอานก็พูดยืนยันด้วย

เหลียงซินเวยกินกุ้งด้วยตนเอง ก็เบิกตาโตด้วยความดีใจ “อร่อยจริงๆ ”

ตอนแรกก็กังวลว่าทำครั้งแรกอาจจะไม่ดีนัก แต่ตอนนี้ในที่สุดก็สบายใจแล้ว

อาหารสามอย่างบวกน้ำแกงหนึ่งอย่างแทบจะถูกฟางยู่เชินและอานอานกินหมด

มองอาหารแต่ละจานถูกกินจนเกลี้ยง ในใจเหลียงซินเวยก็มีความสุขเต็มเปี่ยม

ที่แท้การมองเห็นคนที่ตนเองรักกินอาหารที่ทำด้วยฝีมือตนเอง มันมีความสุขและอิ่มเอมใจมากขนาดนี้

หลังจากกินเสร็จแล้ว เหลียงซินเวยก็เตรียมเก็บจานชาม แต่กลับถูกฟางยู่เชินกดมือเธอเอาไว้

เงยหน้า สบตากับนัยน์ตาดำขลับของเขา

“ผมล้างเอง”เขาพูด

เหลียงซินเวยอ้าปากจะปฏิเสธ แต่กลับได้ยินเขาพูดว่า “คุณทำอาหาร ผมล้างจานก็สมเหตุสมผลดีแล้ว”

เขาพูดขนาดนี้แล้ว เหลียงซินเวยก็ปล่อยเขาไป

ฟางยู่เชินเก็บจานชามอย่างเรียบร้อย ยกไปที่ห้องครัว

เหลียงซินเวยหันกลับไป สายตาที่อ่อนโยนมองไปที่เขา

ห้องครัวดูคับแคบอย่างเห็นได้ชัดเพราะร่างที่สูงใหญ่ของเขา

เสียงน้ำดังอยู่ข้างหู เธอเดินเข้าใกล้โดยไม่รู้ตัว ภายใต้น้ำที่ไหลนั้น กระดูกข้อนิ้วมือของเขาเห็นชัด เรียวยาว ดูดีเป็นพิเศษ

ฟางยู่เชินหันไปมองเธอ มุมปากมีรอยยิ้มบางๆ ขึ้นมา “ไปดูทีวีเถอะ อีกเดี๋ยวผมล้างเสร็จก็จะไป”

“ไม่เอา ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ”

มีความออดอ้อนแบบเด็กผู้หญิงแฝงอยู่ในน้ำเสียงเธอ

รอยยิ้มที่มุมปากของฟางยู่เชินกว้างขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ยักคิ้ว “ผมเข้าใจว่าคุณทำใจไม่ได้ที่ต้องแยกจากผมได้มั้ยนะ”

พอเขาถามแบบนี้ เหลียงซินเวยนึกถึงเรื่องเลิกกันที่เขาเพิ่งพูดเมื่อครู่ ก็หน้าบึ้งทันที พูดอย่างเย็นชาว่า “ใครทำใจจากคุณไม่ได้กัน!”

จากนั้นก็หมุนตัวเดินหนีไป

เธอโกรธแล้วเหรอ

ฟางยู่เชินชะงักมือ หันไปดูมองเธอเดินไปนั่งที่ห้องรับแขก มุมปากยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว ดูท่าทางจะโกรธจริงๆ

ล้างจานชามเสร็จแล้ว ฟางยู่เชินก็มาที่ห้องรับแขก

อานอานรีบดึงเขานั่งลง “คุณลุง นั่งครับ”

“ขอบใจจ้ะ”สายตาฟางยู่เชินมองไปยังเหลียงซินเวยที่อยู่ข้างๆ อานอาน

เหลียงซินเวยทำเหมือนไม่เห็นการมาของเขาอย่างนั้น จ้องมองที่ทีวี สีหน้าท่าทางเฉยเมยเล็กน้อย

ฟางยู่เชินกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ก้มหน้าพูดอะไรบางอย่างข้างๆ หูอานอาน อานอานลุกขึ้นยืนทันที “ผมกลับห้องไปอ่านหนังสือ ไม่รบกวนพวกคุณแล้วนะครับ”

เหลียงซินเวยคิดว่าตัวเองหูฝาด มองอานอานวิ่งเข้าห้องไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ

จากนั้น เธอก็มองเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของฟางยู่เชินอย่างไม่ตั้งใจ อึ้งตะลึงไปเล็กน้อย รีบหันหน้าหนีทันที หันด้านหลังศีรษะให้เขา

ฟางยู่เชินขยับ เข้าใกล้เธอ ถามเบาๆ ว่า “โกรธแล้วเหรอ”

เหลียงซินเวยยังไม่พูดอะไร

“เพราะเรื่องเลิกกันเหรอ”เขาถามอีก

ก็ยังไม่มีการตอบโต้ใดๆ

เขาได้แต่ถอนหายใจ ค่อยๆ พูดว่า “คุณรู้มั้ยตอนที่ผมเห็นคลิปวิดีโอนั้น ในใจผมกลัวมากขนาดไหน กลัวว่าตอนนั้นถ้าไม่ได้หลบ แจกันอันนั้นจะทิ่มไปที่ศีรษะของคุณ”

ทุกครั้งที่นึกถึง เขาก็ยังอดกลัวไม่ได้

เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย น่ากลัวมากจริงๆ

เหลียงซินเวยอดใจอ่อนไม่ได้ เธอหันหน้ามา “ดังนั้นคุณก็เลยอยากเลิกกับฉัน”

ฟางยู่เชินหัวเราะเบาๆ “ผมคิดว่าแค่พวกเราเลิกกัน เย่เสี่ยวอี้ก็จะไม่ไปหาเรื่องคุณอีก คุณก็จะใช้ชีวิตเป็นปกติเหมือนเมื่อก่อน”

“อย่างนั้นคุณเคยถามความคิดฉันมั้ย”เหลียงซินเวยถาม

มองเข้าไปในดวงตาที่สะอาดบริสุทธิ์ ของเธอ ฟางยู่เชินพูดเบาๆ ว่า “ผมขอโทษ”

“ฉันไม่ต้องการคำขอโทษ”เหลียงซินเวยส่ายหน้า “ฉันแค่อยากจะอยู่กับคุณ ต่อให้ยากลำบากแค่ไหน ฉันก็จะอดทนต่อไป”

ความอดทนของเธอทำให้ฟางยู่เชินเกิดความรู้สึกผิดในใจ

เขาช่างเห็นแก่ตัวจริงๆ

คิดว่าการเลิกกันคือการปกป้องเธอ ไม่รู้ตัวเลยว่าเป็นการใช้อีกวิธีหนึ่งมาทำร้ายเธอ

“ต่อไปผมจะไม่ทำแล้ว”ฟางยู่เชินเอาเธอเข้ามาในอ้อมกอด สัญญาเบาๆ ข้างหูเธอ “ผมจะไม่พูดเรื่องเลิกกันอีก ผมจะอยู่ข้างคุณตลอดไป”

เหลียงซินเวยค่อยๆ ยกมุมปากขึ้น “ทำให้ได้อย่างที่พูดนะคะ”

ฟางยู่เชินผลักเธอออก ก้มลงมา

ดวงตาสี่ดวงประสานกัน

เสียงที่ทุ้มต่ำของเขาดังขึ้นข้างๆ หู “เวยเวย ผมจะใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตเพื่อรักคุณ”

เหลียงซินเวยยิ้ม เกิดเมฆหมอกปกคลุมอยู่ในดวงตาเธอบางๆ หนึ่งชั้น

ฟางยู่เชินก้มหน้า จูบลงบนริมฝีปากเธอ

รักสุดซึ้งจนไม่อาจแยกจากกันได้

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท