ตอนที่ฟางยู่เชินมาถึงนั้น เหลียงซินเวยก็ได้ยิ้มให้เขา ถาม “วันนี้ทำไมพี่ไม่ทำงานคะ?”
“ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าฉันคิดถึงเธอน่ะ?” ฟางยู่เชินมองเธอเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่
“เลิกล้อเล่นได้แล้วค่ะ” เหลียงซินเวยก็ได้จ้องเขาอย่างโมโหเล็กน้อย “วันนี้ไม่ได้เป็นวันเสาร์อาทิตย์ แล้วก็ยังเป็นเวลางาน พี่มีเรื่องยุ่งยากอะไรแล้วใช่ไหม?”
ฟางยู่เชินก็ได้หัวเราะออกมา “เห็นทีปิดบังเธอไม่ได้แล้ว”
“มีเรื่องจริงๆ เหรอคะ?” เหลียงซินเวยขมวดคิ้ว
“ไม่ใช่เรื่องของฉัน มีคนไปหาฉันที่บริษัท ฉันไม่อยากเจอหล่อน”
“คงไม่ได้เป็นเย่เสี่ยวอี้ใช่ไหม?”
ฟางยู่เชินเลิกคิ้ว ก็ได้พยักหน้าอย่างไม่ยอมรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ
“เป็นเธอจริงด้วย” ในใจของเหลียงซินเวยก็ได้ไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
โดยเฉพาะตอนที่คิดถึงเรื่องที่คุยโทรศัพท์กับเขาเมื่อคืน เย่เสี่ยวอี้ก็ได้อยู่ด้วยกันกับเขา
ครอบครัว……
เหลียงซินเวยคิดถึงคำว่า “ครอบครัว” ที่พูดออกมาจากปากเขา
เห็นว่าสีหน้าของเธอไม่ปกติ ฟางยู่เชินรู้ว่าเธอต้องคิดมากแล้วแน่ๆ ก็ได้หัวเราะแล้วก็หยอกว่า “หึงแล้วเหรอ?”
“หา?” เหลียงซินเวยได้อึ้ง
ฟางยู่เชินก็ได้ยิ้มให้เธอ แล้วก็ค่อยๆ พูดเรื่องเมื่อคืนออกไป
“เมื่อวานแม่ฉันเป็นคนเตรียมการ เดิมทีก็แค่ทานข้าวกับพวกครอบครัวของสื้อสื้อ ใครจะไปรู้ว่าแม่ของฉันก็ได้เรียกพวกเย่เสี่ยวอี้มาด้วย”
เหลียงซินเวย “อ่อ” ออกไป ไม่ได้พูดอะไร
“ทำไม? เธอไม่เชื่อเหรอ?” ฟางยู่เชินถาม
“ฉันต้องเชื่ออยู่แล้ว” เหลียงซินเวยก็ได้ยิ้มให้เขา แต่ว่าในใจก็ยังอึดอัดเล็กน้อย
สำหรับพ่อแม่ของเขาแล้ว ก็ได้คิดว่าเย่เสี่ยวอี้เป็นครอบครัวเดียวกันตั้งนานแล้ว เพราะงั้นอยากให้พวกเขายอมรับเธอ เกรงว่าจะยากเอามากๆ
“เอาหน่า ไม่ต้องคิดมาแล้ว” ฟางยู่เชินก็ได้กอดไหล่ของเธอ “ท้องของฉันหิวแล้ว ยุ่งเสร็จหรือยัง? กลับบ้านไปต้มหมี่ให้ฉันกินได้ไหม?”
งานรวมตัวทานอาหารนี้ ใกล้บ้านเหลียงซินเวยมากๆ
“พี่ไม่ได้ทานข้าวเช้า?” เหลียงซินเวยก็ได้หันหน้าไปมองเขา
“ตอนเช้าก็ได้ยุ่งเรื่องส่งพวกสื้อสื้อเขาไปที่บ้านตระกูลซ่างกวน ไม่ได้สนใจเรื่องทานข้าวเช้าน่ะ”
“งั้นเป็นไงบ้างคะ?” เหลียงซินเวยไล่ถาม
“พวกเรากลับบ้านไปแล้วคุยไป”
ฟางยู่เชินก็ได้กอดเธอแล้วก็เดินไปทางรถ
……
กลับไปที่บ้าน เหลียงซินเวยก็ได้ตรงไปเตรียมตัวต้มหมี่ที่ห้องครัว และฟางยู่เชินก็ได้เอาโทรศัพท์ที่ได้ดังอยู่ตลอดไปที่ระเบียง
เขารับสาย ปลายสายก็ได้ส่งที่ร้อนรนของส้งหยาวมา “ท่านประธานครับ คุณกลับมาหน่อยได้ไหมครับ? คุณหนูเย่ใกล้ที่จะพลิกห้องทำงานของคุณแล้วครับ!”
ฟางยู่เชินยังไม่ทันที่จะตอบ ปลายสายก็ได้ส่งเสียงแหลมของเย่เสี่ยวอี้มา
“นายคุยโทรศัพท์กับเขา ใช่ไหม?”
เย่เสี่ยวอี้เดินไปข้างหน้าส้งหยาว สายตาที่น่ากลัวก็ได้มองเขา
ส้งหยาวก็ได้กลืนน้ำลาย ก็ได้พยายามยิ้มออกมา “คุณหนูเย่ คุณไปที่ห้องประชุมก่อนดีไหมครับ ผมช่วยคุณถามว่าท่านประธานจะกลับมาตอนไหน”
“เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน!” เย่เสี่ยวอี้ยื่นมือไป
“ไม่ต้องแล้วมั้งครับ” ส้งหยาวก็ได้เอาโทรศัพท์ไปซ่อนไว้หลังตัวอย่างอัตโนมัติ
สายตาของเย่เสี่ยวอี้ก็ได้ส่องความน่ากลัวมา พุ่งเข้าไป ก็ได้แย่งโทรศัพท์ของเขามา
“คุณหนูเย่!” ส้งหยาวร้อนรนเลย อยากที่จะแย่งโทรศัพท์กลับมา
พอสายตาที่แหลมคมได้ส่งมา ส้งหยาวก็ทำได้แค่ยอมแพ้ ในใจก็ได้ถอดหายใจออกมาหนักๆ ทำไมท่านประธานต้องเอาเรื่องนี้ให้ตนจัดการด้วยนะ?
ฟางยู่เชินไม่ได้วางสาย แค่ฟังเสียงของทางนั้น ก็สามารถที่จะเดาได้แล้วว่าส้งหยาวลำบากขนาดไหน
เขาก็ได้ยกมือไปนวดหว่างคิ้วของตัวเอง พูดเสียงเย็นชาว่า “เย่เสี่ยวอี้ เธอจะต้องให้ฉันพูดไปอีกกี่ครั้งถึงจะเข้าใจ?”
“ฟางยู่เชิน!” เย่เสี่ยวอี้โมโห
ไม่อยากที่จะพูดกับเธอไปมากกว่านี้ ฟางยู่เชินก็ได้พูดไปตรงๆ ว่า “ฉันพูดไปอีกรอบนะ ฉันไม่ได้ชอบเธอ ฉันก็ไม่มีทางที่จะแต่งงานกับเธอ เธอตายใจไปซะเถอะ”
เย่เสี่ยวอี้ก็ได้โมโหจนหน้าซีด เธอก็ได้กัดฟันแน่น “นายอยากที่จะแต่งงานกับนังแพศยานั่น?”
ฟางยู่เชินเงียบไปเลย
เย่เสี่ยวอี้หัวเราะออกมา เสียงหัวเราะก็ได้แสบหูเล็กน้อย
ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว
“ฉันเตือนนายไว้นะ นายไม่แต่งงานกับฉัน ก็อย่าคิดที่จะแต่งงานกับนางแพศยานั้น! มีฉันอยู่วันหนึ่ง พวกนายอย่าคิดที่จะแต่งงาน!”
ข่มขู่แบบนี้ออกไปเสร็จ เย่เสี่ยวอี้ก็ได้วางสายไป
ฟางยู่เชินจับโทรศัพท์แน่น สีหน้าได้นิ่งเครียดเล็กน้อย
เหลียงซินเวยก็ได้เดินไปข้างๆ เขา แล้วก็ได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่เยือกเย็นที่ส่งมาจากตัวของเขา พอเห็นว่าสีหน้าเขาไม่ปกติ ก็ได้ถามอย่างเป็นห่วงว่า “เป็นอะไรเหรอคะ? เกิดเรื่องที่บริษัทเหรอ?”
ตอนที่ได้ยินเสียงของเธอนั้น ฟางยู่เชินก็ได้รีบเก็บบรรยากาศเยือกเย็นบนตัว ยิ้มอย่างอ่อนโยน “เปล่า”
เหลียงซินเวยเลิกคิ้ว ถามลองเชิงว่า “หรือว่าเป็นเย่เสี่ยวอี้?”
ฟางยู่เชินเงียบไปสักพัก จากนั้นก็ได้ลูบหัวของเธอ ยิ้มพูด “ไม่ต้องคิดมาก”
จากนั้นก็ได้เปลี่ยนเรื่อง “ต้มหมี่เสร็จแล้วเหรอ?”
“เสร็จแล้วค่ะ”
“ฉันหิวมากเลย สามารถที่จะกินสองถ้วยได้แล้ว”
ฟางยู่เชินก็ได้พูดไปแล้วก็เข้าบ้านไป
เหลียงซินเวยหันไป มองแผ่นหลังของเขา คิ้วบางก็ได้ค่อยๆ ขมวด เขาต้องมีเรื่องปิดบังตัวเองแน่ๆ
เย่เสี่ยวอี้ก็ได้ออกไปจากฟางซื่อกรุ๊ป จากนั้นก็ได้ตรงไปที่บ้านใหญ่ตระกูลฟาง
พอเห็นซ่างหยิง ก็ได้ฟ้องเรื่องฟางยู่เชินไปด้วยความโมโห
“คุณป้าคะ ยู่เชินทำเกินไปแล้วนะคะ! หนูไปหาเขาที่บริษัท เขากลับหลบหนู ไม่ยอมเจอหนู เขา……”
เย่เสี่ยวอี้โมโหจนร้องไห้
ซ่างหยิงก็ได้รีบลากเธอไปนั่งที่ห้องรับแขก พูดปลอบว่า “หนูอย่าพึ่งโมโหไป มีเรื่องอะไรก็พูดกับป้า ป้าต้องออกตัวแทนหนูแน่จ้ะ”
เย่เสี่ยวอี้เช็ดน้ำตา ถาม “คุณป้าคะ ป้ารู้เรื่องที่ยู่เชินคบหากับเหลียงซินเวยไหมคะ?”
เธอรู้แล้ว?
ซ่างหยิงอึ้งไปสักพัก ก็ได้แกล้งทำสีหน้าที่ประหลาดใจออกมา “หนูพูดอะไร? คบหาอะไร?”
“ยู่เชินคบหากับเหลียงซินเวยอยู่”
เย่เสี่ยวอี้ก็ได้พูดย้ำออกไปอีกครั้ง จ้องมองซ่างหยิงแน่น เหมือนว่าอยากที่จะจำผิดจากสีหน้าของเธอ
“เสี่ยวอี้ จะพูดอะไรมั่วๆ ไม่ได้นะ ยู่เชินจะไปคบหากับคนอื่นได้ยังไง?” ซ่างหยิงก็ได้มีสีหน้าแกล้งทำเป็นไม่เชื่อออกมา
“คุณป้า เป็นเรื่องจริงค่ะ” เย่เสี่ยวอี้ร้อนใจไปเลย “ยู่เชินยอมรับเองเลยนะคะ”
“เด็กคนนั้น……” ซ่างหยิงก็ได้บ่นไปคำ ในใจก็ได้โมโหเอามากๆ
เย่เสี่ยวอี้ฟังไม่ชัด “คุณป้า คุณป้าพูดอะไรเหรอคะ?”
“ป้าว่าเด็กคนนั้นมันเกินไปจริงๆ!” ซ่างหยิงก็ได้แสดงออกมาว่าโมโหเอามากๆ
“คุณป้าค่ะ ที่จริงก็ไม่ใช่ความผิดของยู่เชิน” ถึงแม้ว่าเย่เสี่ยวอี้โกรธฟางยู่เชิน แต่ว่าก็ยังอดไม่ได้ที่จะไม่แก้ตัวให้เขา “เป็นเหลียงซินเวยที่อ่อยยู่เชิน ยู่เชินโดนเธอหลอกเท่านั้น!”
“อ่อย?” ซ่างหยิงขมวดคิ้ว
“ใช่ค่ะ เหลียงซินเวยผู้หญิงคนนั้นได้พยายามอ่อยยู่เชิน ไม่อย่างนั้นยู่เชินถึงได้คบหาอยู่กับเธอ?” พูดถึงเรื่องนี้ เย่เสี่ยวอี้ก็ได้โมโหจนกัดฟัน
เหลียงซินเวยเป็นคนแบบนั้นจริงๆ เหรอ?
ซ่างหยิงไม่เชื่อเล็กน้อย เพราะว่าจากการที่เธอรู้จักกับเหลียงซินเวย ไม่ได้เป็นผู้หญิงที่มีความคิดที่ไม่บริสุทธิ์
“เสี่ยวอี้ หนูวางใจเถอะ เรื่องนี้ป้าจัดการให้หนูเอง”
ขอแค่ฟางเย่สองตระกูลยังมีสัญญาแต่งงานกันอยู่ นี่เป็นลูกชายของตนที่ทำเกินไปจริงๆ
เธอที่เป็นแม่จำเป็นที่จะต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย เลี่ยงที่จะไม่ให้เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นในภายหลัง ไม่งั้นวุ่นวายแน่
“คุณป้า ขอบคุณนะคะ” เย่เสี่ยวอี้คิดว่าขอแค่เธอออกหน้า ฟางยู่เชินต้องกลับตัวกลับใจแน่ๆ
ซ่างหยิงยิ้ม “กับป้าไม่ต้องเกรงใจหรอกจ้ะ ต่อไปก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”
เย่เสี่ยวอี้หัวเราะด้วยความดีใจ
แต่ซ่างหยิงมองเธอ สายตาก็ได้มีความกังวลเล็กน้อย