ออกจากวิลล่า ซ่างกวนหยวนสะบัดมือของซ่างกวนเชียนออกอย่างแรง แล้วหันกลับเข้าไปข้างใน
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
ซ่างกวนเชียนก้าวเข้าไปขวางตรงหน้าเธอ
“พี่ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”ซ่างกวนเชียนตะคอกใส่เขา
เธอผลักซ่างกวนเชียนออกไปอย่างแรง คิดที่จะผลักให้หลบออกไป
ถึงยังไงมันก็มีความเหลื่อมล้ำระหว่างแรงของผู้ชายและผู้หญิงอยู่ดี เธอแทบจะผลักซ่างกวนเชียนไม่ขยับเลยสักนิด
“เธอก่อเรื่องมามากพอแล้วยัง?”ซ่างกวนเชียนโมโหแล้ว คว้ามือของเธอเอาไว้อย่างแรง
ซ่างกวนหยวนอึ้งตะลึงไป ก่อนจะตอบสนองกลับมาทันที หมอบลงไปร้องไห้ออกมาสุดเสียง
“พวกพี่รังแกฉัน รังแกฉัน!”เธอร้องพลางตะโกนออกมา
พอเห็นแบบนี้ ซ่างกวนเชียนก็รู้สึกไม่สบายอยู่ภายในใจ
เขานั่งยองลง มองซ่างกวนหยวนที่ร้องไห้จนตาแดงด้วยความปวดใจ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน”หยวนหยวน เธอยอดเยี่ยมขนาดนี้ จะต้องหาคนที่ดีกว่าจิ้นเฟิงเฉินได้แน่นอน”
“ฉันไม่เอา ฉันต้องการแค่เขาคนเดียวเท่านั้น”
ซ่างกวนหยวนยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาอย่างแรง เงยหน้าขึ้นมองไปยังวิลล่า แววตาแฝงไปด้วยความมุ่งมั่นแน่วแน่
เธอไม่มีทางปล่อยไปแบบนี้แน่นอน
จิ้นเฟิงเฉิน เธอจะต้องได้มาให้ได้!
พอคิดถึงตรงนี้ เธอก็ลุกขึ้นยืน”ฉันจะไปหาคุณย่า”
ซ่างกวนเชียนขมวดคิ้ว”เธอคิดที่จะทำอะไร?”
“พี่ไปส่งฉัน หรือจะให้ฉันหาวิธีไปเอง?”ซ่างกวนหยวนไม่ตอบแต่ถามกลับ
ซ่างกวนเชียนถอนหายใจออกมาเบาๆ “เดี๋ยวพี่ไปส่งเธอเอง”
ซ่างกวนหยวนยกมุมปาก ก่อนจะหันเดินไปยังรถที่จอดอยู่ข้างนอก
มองเงาหลังของเธอ ซ่างกวนเชียนในตาแฝงไปด้วยความกังวล
เรื่องมาจนถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่ยอมปล่อยไป
จะดิ้นรนจนถึงเท่าไรกันถึงเธอจะเข้าใจว่าเรื่องบางเรื่องมันฝืนทนไม่ได้จริงๆ
ถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะก้าวขาเดินตามไป
……
หลังจากการผ่าตัดแล้ว ในที่สุดร่างกายของนายท่านหญิงก็ค่อยๆ ดีขึ้นอย่างช้าๆ
พอเห็นหลานชายหลานสาวมาหา นายท่านหญิงก็ดีใจจนยิ้มไม่หุบ
“เสี่ยวเชียน หยวนหยวน พวกหลานมีเวลาว่างมาหาย่าได้ยังไงกันล่ะเนี่ย?”
“คุณย่า ร่างกายของท่านเป็นยังไงบ้างครับ?”ซ่างกวนเชียนถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ”
นายท่านหญิงหัวเราะเหอะๆ เธอหันสายตามองไปยังซ่างกวนหยวน ตอนนี้จึงได้สังเกตว่าตาของซ่างกวนหยวนบวมแดง
“เป็นอะไรไป? ร้องไห้มาหรือไง?”นายท่านหญิงจูงซ่างกวนหยวนมานั่งลงใกล้ๆ ตัวเอง มองดูเธอด้วยความเป็นห่วงเอ็นดู
“คุณย่า ต้องจัดการให้หนูนะคะ!”ซ่างกวนหยวนร้องไห้ออกมา
“โอ๋ อย่าร้องสิ ไม่ร้องนะ”นายท่านหญิงรีบช่วยเธอเช็ดน้ำตา”อยากจะให้ย่าจัดการอะไรให้ว่ามาเลย”
“คุณย่า เฟิงเฉินเขาไม่เอาหนูแล้ว!”พอพูดถึงตรงนี้ ซ่างกวนหยวนก็ร้องไห้อย่างเศร้าเสียใจขึ้นไปอีก
“ไม่เอาหลานแล้ว?”นายท่านหญิงขมวดคิ้ว”นี่หมายความว่ายังไง?”
เธอหันไปมองซ่างกวนเชียน
ซ่างกวนเชียนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันนี้ให้กับนายท่านหญิงฟังไปจนหมด
นายท่านหญิงฟังจบ ก็ตบโต๊ะอย่างแรง”เขากล้าทำขนาดนี้เชียวเหรอ? ลืมข้อตกลงที่ให้ไว้กับย่าอย่างนั้นเหรอ?”
“คุณย่า ท่านอย่าโกรธเลย ระวังสุขภาพนะครับ”ซ่างกวนเชียนเห็นเธอโกรธขนาดนี้ ในใจก็ประหม่าขึ้นมา
กว่าสุขภาพของเธอจะดีขึ้นมาก็ไม่ใช่ง่ายๆ เลย อาจจะได้รับผลกระทบเพราะเรื่องนี้ก็ได้
“หลานสาวของย่าถูกคนรังแกจนเป็นแบบนี้ ย่าจะสนใจสุขภาพของตัวเองทำไมอีกล่ะ?”นายท่านหญิงพูดขึ้นด้วยความโมโห
“คุณย่า ต่อให้ท่านโกรธ ก็เปลี่ยนเรื่องอะไรไม่ได้แล้ว ถูกไหมล่ะครับ?”ซ่างกวนเชียนพูดโน้มน้าวเบาๆ
นายท่านหญิงได้ฟังคำพูดของเขา ก็ยิ่งโกรธขึ้นไปอีก”หลานหมายความว่ายังไง หลานคิดจะปล่อยไปแบบนี้อย่างนั้นเหรอ? หยวนหยวนเป็นน้องสาวของหลานนะ หลานคิดจะยืนดูเธอถูกกลั่นแกล้งรังแกอยู่เฉยๆ ไม่ช่วยอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?”
“คุณย่า ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะครับ”ซ่างกวนเชียนรู้สึกหมดแรงสู้”ผมแค่อยากจะบอกว่า พวกเราสามารถหาวิธีแก้ปัญหาได้ ไม่จำเป็นต้องโมโหขนาดนี้”
“ถ้าอย่างนั้นหลานมีวิธีอะไร?”นายท่านหญิงถามขึ้น
“ผม……ยังคิดไม่ออกตอนนี้”
นายท่านหญิงกรอกตามองบนใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ ตบลงที่มือของซ่างกวนหยวน พูดปลอบใจ”หลานวางใจได้ เรื่องนี้ย่าจะจัดการให้หลานแน่นอน”
ซ่างกวนหยวนสูดน้ำมูก”ขอบคุณนะคะคุณย่า”
“เด็กโง่ ไม่เอา อย่ามาพูดแบบนี้กับย่าสิ”นายท่านหญิงลูบผมที่ติดอยู่ตรงแก้มของเธอ”มีย่าอยู่ด้วย จะไม่ให้หลานโดนเอาเปรียบเลยแม้แต่นิดเดียว”
จากนั้นเธอก็หันไปพูดกับซ่างกวนเชียน”ติดต่อตระกูลจิ้น บอกว่าย่าอยากพบจิ้นเฟิงเฉิน”
“ครับ”
ซ่างกวนเชียนหันมองซ่างกวนหยวนหนึ่งที ก่อนจะหันตัวเดินออกไปโทรศัพท์
“คุณย่า ท่านว่าเฟิงเฉินจะไม่เอาหนูจริงๆ แล้วใช่ไหม?”ซ่างกวนหยวนพูดถาม
นายท่านหญิงยิ้มอย่างอบอุ่น”ไม่มีทางหรอก หยวนหยวนของพวกเรายอดเยี่ยมขนาดนี้ เขาจะไม่เอาหลานได้ยังไงกันล่ะ?”
“แต่หนูกลัว”ซ่างกวนหยวนก้มหัวซบลงไปที่ไหล่ของนายท่านหญิง
“ไม่ต้องกลัว มีย่าอยู่ด้วย”
นายท่านหญิงตบลงที่มือของเธอเบาๆ สองตาที่ฉลาดหลักแหลมเผยให้เห็นถึงความดุร้าย
เธอไม่มีทางให้ใครหน้าไหนมารังแกหยวนหยวนอย่างแน่นอน
ต่อให้อีกฝั่งจะเป็นคนของตระกูลจิ้นก็ตาม
ซ่างกวนเชียนติดต่อไปหากู้เนี่ยน คิดจะให้เขาช่วยนัดจิ้นเฟิงเฉินให้ แต่กลับถูกปฏิเสธ
“ขอโทษครับ ท่านประธานกรรมการของพวกเราไม่ขอพบกับใครทั้งนั้น”
พูดจบกู้เนี่ยนก็วางสายลง
ซ่างกวนเชียนมองไปรอบๆ สีหน้าท่าทีหมดหนทาง
ถ้าเป็นไปได้ เขาก็ไม่อยากให้หยวนหยวนกับจิ้นเฟิงเฉินเกี่ยวข้องอะไรกันอีก
แต่ตอนนี้ นายท่านหญิงยื่นมือเข้ามาช่วย เรื่องนี้ก็เลยไม่ใช่เรื่องที่เขาจะสามารถควบคุมได้แล้ว
พอคิดถึงตรงนี้ เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง เข้าไปในห้องผู้ป่วย เล่าสถานการณ์ให้กับนายท่านหญิงไปตามตรง
“ย่าไม่สนว่าหลานจะใช้วิธีอะไร ย่าต้องได้เจอกับจิ้นเฟิงเฉินให้ได้”
นายท่านหญิงพูดขนาดนี้แล้ว ซ่างกวนเชียนก็ไม่มีทางเลือก ทำได้แค่ทำตามคำสั่งอย่างเชื่อฟัง”ผมทราบแล้วครับ คุณย่า”
หลังจากนั้นสองสามวัน ซ่างกวนเชียนก็พยายามคิดหาวิธีติดต่อกับจิ้นเฟิงเฉิน แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง ต่อมาจึงได้รู้ว่าที่แท้จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้อยู่ในประเทศแล้ว
“ต่อให้เขาหลบซ่อนไปไกลจนสุดขอบฟ้า ฉันก็จะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินหาเขาให้เจอให้ได้!”
นี่เป็นคำพูดที่ซ่างกวนหยวนพูดกับซ่างกวนเชียนหลังจากที่ได้รู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้อยู่ในประเทศแล้ว
ความมุ่งมั่นตั้งใจของเธอทำให้ซ่างกวนเชียนรู้สึกตื่นตระหนกไม่น้อย
จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าความรักที่เธอมีต่อจิ้นเฟิงเฉินมันบิดเบี้ยวไปหมดแล้ว
เขาเคยลองพยายามโน้มน้าวให้เธอปล่อยวางลง แต่ก็โดนโต้ตอบกลับมาหรือไม่ก็จะเอานายท่านหญิงมาจัดการกับเขาแทนทุกครั้ง
แถมนายท่านหญิงก็สั่งไว้แล้ว ภารกิจของเขาคือต้องหาเบาะแสของจิ้นเฟิงเฉินให้เจอให้ได้
เขารู้สึกหมดหนทาง ทำได้แค่ทำตามคำสั่ง
……
เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินแล้วก็มีเด็กอีกสองคนมาถึงสถานที่ที่จิ้นเฟิงเฉินอาศัยอยู่สมัยที่อยู่ฝรั่งเศส
เป็นวิลล่าหลังเดี่ยว มีสวน เป็นช่วงฤดูดอกไม้บานพอดี มีดอกไม้มากมายหลายชนิดบานเต็มไปหมด สวยงามมากๆ
ช่วงวันเวลาที่อยู่ที่ฝรั่งเศส ทุกวันล้วนแต่เป็นวันที่มีความสุข
ตื่นมาตอนเช้า เจียงสื้อสื้อก็ลงมาเตรียมอาหารเช้าข้างล่าง
เสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนออกไปวิ่งเล่นในสวน จิ้นเฟิงเฉินนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น มองออกไปนอกหน้าต่าง สายตาจับจ้องอยู่ที่เด็กๆ ทั้งสองคน สีหน้าอ่อนโยน
บางครั้ง เขาก็หันไปมองเจียงสื้อสื้อที่กำลังยุ่งอยู่ในห้องครัว มุมปากยกขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เขาชอบช่วงเวลาที่เงียบสงบและอบอุ่นแบบนี้มาก
แต่……
เขาหันสายตากลับมา ก้มลงมองต่ำ ปกปิดความสิ้นหวังในดวงตา
ถ้าความจำของเขาฟื้นกลับมาได้มากกว่านี้ล่ะก็
“แด๊ดดี้!”
ตามมาด้วยเสียงที่คมชัดและอ่อนหวานของเถียนเถียน ร่างกายที่นุ่มนิ่มเล็กบางกระโจนเข้ามาในอ้อมกอดของเขา ขัดจังหวะความคิดของเขา
เถียนเถียนนั่นเอง
“แด๊ดดี้ หม่ามี๊บอกว่ากินข้าวเช้าได้แล้ว”
เถียนเถียนเงยหน้าที่เรียวเล็กขึ้นมา
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเล็กน้อย”ได้เลย รู้แล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปกันเถอะ”
เถียนเถียนกระโดดลงจากโซฟา จูงมือของเขาเดินไปยังห้องอาหาร