เย่เฉินหยุนเดินไป มองดูเหลียงซินเวยที่ได้สิ้นหวังแบบนั้น ถอนหายใจ “เธอรักเขาแท้ๆ ทำไมต้องผลักไสเขาออก?”
“ทำไม?” เหลียงซินเวยเงยหน้า มุมปากก็ได้ยิ้มอย่างขมขื่น “เพราะว่า……ฐานะที่โดดเด่น”
“ดูฟางยู่เชินแล้วเหมือนว่าไม่ได้แคร์เรื่องนี้นะ”
“เขาไม่แคร์ แต่พ่อแม่ของเขาแคร์”
ประโยคเดียวก็ได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมด
“พ่อแม่ของเขามาหาเธอ?” เย่เฉินหยุนถาม
เหลียงซินเวยไม่ได้ตอบ
เย่เฉินหยุนขมวดคิ้ว “เป็นเพราะน้องสาวของฉันสินะ”
มองออกเลยว่าพ่อแม่ของฟางยู่เชินพอใจกับเสี่ยวอี้มากๆ และก็เป็นแบบนี้ ต้องไม่มีทางยอมรับลูกชายของตัวเองคบหากับผู้หญิงที่มีฐานะธรรมดาแน่ๆ
“เดิมทีฉันก็เทียบไม่ได้กับคุณหนูเย่ ไม่ว่าเป็นคนหรือฐานะทางบ้าน ก็เทียบไม่ได้”
พูดถึงตรงนี้ เหลียงซินเวยก็ได้หัวเราะสมเพชตัวเองสักพัก “เจ็บสั้นดีกว่าเจ็บยาว ตัดความรู้สึกครั้งนี้เร็วหน่อย ก็ผ่านความเจ็บปวดหลังจากนี้ง่ายขึ้น”
“เธอรู้สึกแฟร์เหรอ?” เย่เฉินหยุนมองเธอที่ร้องไห้จนตาทั้งสองแดง ถามด้วยความสงสาร
เหลียงซินเวยสูดหายใจเข้าลึกๆ “รู้สึกไม่แฟร์แล้วทำยังไงได้?”
ถ้าเกิดเธอไม่เลิกกับยู่เชิน งั้นซ่างหยิงต้องไม่ปล่อยเธอกับอานอานไปแน่
เธอนั้นไม่เป็นไร แต่อานอานยังเป็นแค่เด็ก เธอไม่สามารถที่จะเห็นเขามาบาดเจ็บเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเองได้
คิดถึงตรงนี้ เธอก็ได้เงยหน้า จ้องกับสายตาของเย่เฉินหยุน เจาะประเด็ดไปว่า “เมื่อก่อนคุณกับพี่สาวของฉันก็ได้เจอกับปัญหาแบบเดียวกันใช่ไหม?”
คำถามที่ถูกยิงมาอย่างไม่ได้ตั้งตัว เย่เฉินหยุนอึ้งไปเลย
“คุณตกใจมากใช่ไหมที่ฉันรู้เรื่องคุณกับพี่สาวของฉัน” พอพูดถึงพี่สาวที่ได้ตายไป ตาของเหลียงซินเวยก็ได้มีน้ำตาอีกครั้ง “เธอรักคุณมาก ต่อให้เป็นชั่วเวลาสุดท้ายของชีวิต ถูกครั้งที่ได้สลบไปชื่อที่เรียกออกมาเป็นชื่อคุณทั้งนั้น”
ซีเอน
เย่เฉินหยุนรู้สึกว่าหัวใจนั้นเหมือนว่ามีมือล่องหนที่ได้มาบีบอย่างแรง เจ็บมาก
“เมื่อก่อนฉันไม่เข้าใจการกระทำของพี่สาวฉัน มักคิดว่าไหนๆ เธอก็รักคุณขนาดนี้ ทำไมยังต้องเลิกกับคุณ ถึงขั้น……”
เหลียงซินเวยเจ็บปวดจนพูดต่อไม่ได้
เย่เฉินหยุนก็ได้ค่อยๆ หลับตา “ขอโทษ ฉันเองที่ทำผิดต่อพี่สาวเธอ”
เหลียงซินเวยก็ได้ถอนหายใจยาวๆ “พูดขอโทษมากขนาดไหน ก็ทำให้พี่สาวฉันกลับมาไม่ได้”
จริงสินะ ซีเอนกลับมาไม่ได้อีกแล้ว
คิดถึงตรงนี้ หน้าอกของเย่เฉินหยุนก็ได้หน่วงจนแทบหายใจไม่ออก
“ไหนๆ เธอก็รู้ถึงความเจ็บปวดของพี่สาวเธอ งั้นทำไมเธอถึงยังจะเลิกกับฟางยู่เชิน?” เย่เฉินหยุนถามอย่างไม่เข้าใจ
“เพราะว่าฉันรักเขา ก็เหมือนพี่สาวฉันที่รักคุณ เพื่อที่จะอวยพรคุณ เติมเต็มความต้องการของครอบครัวพวกคุณ เธอเลือกที่จะจากไป”
รักคนคนหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องครอบครองคนคนนั้น
บางครั้งที่ปล่อยมือ ก็หวังแค่ว่าเขานั้นจะมีความสุขกว่านี้
เพราะเหลียงซีเอน เย่เฉินหยุนก็ได้สงสารเหลียงซินเวยมากกว่าเดิม แล้วก็พูดว่า “ต่อไปให้ฉันดูแลเธอกับอานอาน คิดซะว่าเป็นการชดเชยกับซีเอน”
“ไม่จำเป็นค่ะ” เหลียงซินเวยก็ได้ปฏิเสธไป “ฉันกับอานอานจะไปจากเมืองหลวง ไปเริ่มใช้ชีวิตใหม่ในที่ที่ไม่มีคนรู้จักพวกเรา”
“พวกเธอจะไปจากเมืองหลวง?” เย่เฉินหยุนประหลาดใจเล็กน้อย
“ค่ะ” เหลียงซินเวยพยักหน้า “ฉันรู้นิสัยของยู่เชินดี เขาไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ แน่ แต่ว่า แค่ฉันจากไป เวลาผ่านไปนานแล้ว ความรู้สึกที่เขามีให้ฉันก็ต้องจางหายไปด้วย”
แบบนั้น เขาถึงได้สามารถที่จะเริ่มชีวิตใหม่ของตัวเองได้จริงๆ สักที
“เธอวางแผนว่าจะไปที่ไหน?” เย่เฉินหยุนถาม
“ยังไม่รู้ค่ะ”
เหลียงซินเวยเช็ดน้ำตา “พี่เย่ รอให้ฉันกับอานอานจากไปแล้ว คุณก็อย่าลืมที่ได้ไปเยี่ยมหาพี่สาวฉันบ่อยๆ เธอคงอยากให้พี่ไปเที่ยวหาเธอมากแน่ๆ”
เย่เฉินหยุนพยักหน้า “ได้”
……
ฟางยู่เชินกลับไปถึงบ้าน พึ่งเข้าไปที่ห้องรับแขก ก็ได้ยินซ่างหยิงที่ถามอย่างหงุดหงิด “วันนี้ทำไมถึงได้กลับบ้านดึกขนาดนี้? ไปหาผู้หญิงคนนั้นมาอีกแล้วใช่ไหม?”
เดิมทีฟางยู่เชินอยากที่จะถามเธอเกี่ยวกับเรื่องเหลียงซินเวยดีๆ แต่พอได้ยินประโยคนี้ อารมณ์เขาก็ได้ขึ้นมาเลยทันที
“แม่ครับ เธอมีชื่อ เธอชื่อเวยเวย!”
น้ำเสียงของเขาไม่ดีเอามากๆ ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ตะคอกเล็กน้อย
ซ่างหยิงก็ได้อึ้งไปไม่กี่วิ ถึงได้ตั้งสติได้ คิ้วขมวด “แม่ก็แค่ถามว่าลูกไปไหนมากเอง ลูกอารมณ์เสียขนาดนี้ทำไม?”
ฟางยู่เชินก็ได้สูดหายใจเข้าลึกๆ กดความหงุดหงิดในใจลงไป ก็ได้ถามอย่างอดทนว่า “แม่ครับ แม่ไปหาเวยเวยมาใช่ไหม?”
สีหน้าของซ่างหยิงก็ได้เปลี่ยน ไม่นานก็ได้ปรับกลับมา พูด “ลูกพูดอะไรอยู่ ทำไมแม่ฟังไม่รู้เรื่อง?”
“แม่ครับ แม่ไปหาเวยเวยมาใช่ไหม?”
ไหนๆ เธอฟังไม่รู้เรื่อง งั้นเขาก็ถามไปอีกรอบ
“เธอเป็นคนบอกกับลูก?” ซ่างหยิงถาม
“เปล่า เธอไม่ได้พูดอะไรทันนั้น ผมเป็นคนเดาเอง” ฟางยู่เชินก็ได้มองเธอไม่ห่าง
ซ่างหยิงก็ได้รนไปเล็กน้อยทันที “ใช่ แม่เคยไปหาเธอ แต่ว่าแม่ไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”
“จริงเหรอครับ?” ฟางยู่เชินหัวเราะอย่างประชด “ยิ่งแม่พูดแบบนี้ ก็ได้ยืนยันแล้วว่าแม่ได้พูดอะไรกับเธอไป ไม่อย่างนั้นทำไมอยู่ๆเธอถึงได้มาบอกเลิกผม”
ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของซ่างหยิงก็ดีใจ ก็ได้ถามอย่างตื่นเต้นว่า “เธอจะเลิกกับลูกจริงเหรอ?”
ไฟก็ได้ปะทุขึ้นอีกครั้ง แต่ว่าฟางยู่เชินก็ได้อดทนไปเลยแบบนั้น ปฏิเสธไปว่า “เปล่าครับ พวกเราไม่มีทางที่จะเลิกกัน”
ซ่างหยิงก็ได้ผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด
หรือว่าเหลียงซินเวยผู้หญิงคนนั้นก็แค่กำลังหลอกเธอ ที่จริงไม่ได้อยากที่จะเลิก?
“แม่ครับ ผมขอพูดอีกรอบนะครับ ชาตินี้ผมจะรักแค่เวยเวยคนเดียว และก็จะขอแต่งเธอเข้าบ้านคนเดียว ผู้หญิงคนอื่น ผมไม่เอาทั้งหมด”
ฟางยู่เชินก็ได้พูดจุดยืนของตัวเองไปชัดเจน
สีหน้าของซ่างหยิงก็ไม่ดีขึ้นมา “ผู้หญิงคนนั้นมันมีอะไรดีกันแน่ มีค่าพอที่จะให้ลูกรักฝังใจขนาดนี้?”
“ในสายตาของผม เธอดีที่สุดครับ”
ซ่างหยิงโมโหจนหัวเราะออกมา “ได้ งั้นพวกเราก็มาดูกัน ว่าลูกมองผิดไป หรือว่าแม่มองถูกคน”
ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว “แม่จะทำอะไรอีก?”
“ตอนนี้ลูกกล้าที่จะตั้งคำถามกับแม่เหรอ? แม่เป็นแม่ของแก แกใช้ท่าทางแบบนี้กับแม่ แกรู้สึกว่าถูกเหรอ?” ซ่างหยิงไม่ตอบแต่ถามกลับ
“แม่ครับ ผมพูดกับแม่อย่างจริงจัง ถ้าเกิดแม่กล้าที่จะทำร้ายเวยเวย งั้นก็อย่าหาว่าผมไม่ได้สนใจความรู้สึกของแม่กับพ่อ”
“เด็กนี่! นี่แกกำลังข่มขู่แม่เหรอ?” ซ่างหยิงก็ได้โมโหจนตัวสั่น ใช้มือชี้ไปที่จมูกของเขาแล้วก็ด่า “แกดูสภาพของแกตอนนี้ว่าเป็นยังไงไปแล้ว กับผู้หญิงคนเดียวก็ได้มีท่าทางแบบนี้กับแม่ ได้คิดถึงความรู้สึกของแม่บ้างไหม!”
พูดถึงตรงนี้ ซ่างหยิงร้องไห้ออกมาเลย ร้องไห้ไปต่อว่าเขาไปว่า “แม่ก็แค่อยากให้อนาคตแกได้อยู่อย่างสงบสุข ราบรื่น แม่ผิดเหรอ?”
ค่ำคืนนี้ มองเห็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของตัวเองสองคนร้องไห้
ฟางยู่เชินก็ได้ยกมือไปนวดหว่างคิ้วของตัวเอง น้ำเสียงอ่อนลงมาก “แม่ครับ ผมเข้าใจความลำบากของแม่ แต่ว่าแม่ช่วยคิดในมุมของผมได้ไหม ว่าผมนั้นต้องการอะไรกันแน่”
เขาต้องการความสัมพันธ์ที่เขาได้ตัดสินใจเอง
เขาคาดหวังจริงๆ ว่าพวกเขาสามารถที่จะเข้าใจตน