ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1362 แกะเข้าปากเสือ

บทที่ 1362 แกะเข้าปากเสือ

ฟ้ามืดมนลง ครอบครัว 4 คนก็เพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน

เจียงสื้อสื้อเพิ่งจะเข้ามาในบ้าน ตอนที่กำลังเปลี่ยนรองเท้าอยู่ตรงโถงทางเดินนั้น ก็ได้ยินเสียงที่คุณเคยดังขึ้น

“สุขภาพดีขึ้นมากแล้ว แต่ว่าต้องอยู่เป็นเพื่อนพ่อของฉัน ก็เลยไม่ได้กลับมาที่เมืองจิ่นเลย”

แม่!

เจียงสื้อสื้อเปลี่ยนรองเท้าอย่างรวดเร็วขึ้นมาก แล้วก็ก้าวยาวเดินไปที่ห้องรับแขก

แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ฟางเสว่มั่นกับแม่จิ้นกำลังนั่งพูดคุยกันอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น

“แม่!”เธอตะโกนด้วยความเซอร์ไพรส์

พอได้ยินเสียงนั้น ฟางเสว่มั่นกับแม่จิ้นก็หันหน้ามามองเธอพร้อมกัน

ตอนที่เห็นเธอนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของฟางเสว่มั่นก็สดใสมากยิ่งขึ้น “พวกลูกกลับมาแล้วเหรอ”

“คุณยาย!”

เสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนวิ่งเข้ามา แล้วก็โผล่เข้าไปในอ้อมแขนของฟางเสว่มั่น

“เด็กดี” ฟางเสว่มั่นยิ้มพร้อมกับเอามือกอดเด็กน้อยเอาไว้

“แม่ ทำไมถึงมาได้ล่ะคะ?”เจียงสื้อสื้อเดินเข้ามาใกล้ คลี่ยิ้มพร้อมกับเอ่ยปากถาม

“ก็ต้องเพราะว่าคิดถึงหนูน่ะสิ”แม่จิ้นตอบคำถามแทนฟางเสว่มั่น

เจียงสื้อสื้อมองแม่ของตัวเอง สุขภาพเธอฟื้นฟูขึ้นมาก แต่ว่าสีหน้ายังคงดูซีดเซียวเล็กน้อย

พอคิดว่าเธอจากเมืองหลวงมาเมืองจิ่นคนเดียวนั้น เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกผิดขึ้นมาในทันที

“แม่ ขอโทษนะคะ ที่ช่วงนี้หนูไม่ได้โทรหาแม่เลย”

เพราะว่าเรื่องของจิ้นเฟิงเฉิน ทำให้เธอละเลยแม่ของเธอไปเลยจริงๆ

ฟางเสว่มั่นยิ้มแล้วก็ส่ายหน้าเบาๆ “ไม่ต้องพูดว่าขอโทษเลย แม่รู้ว่าลูกยุ่ง ก็เลยมาเยี่ยมพวกลูกด้วยตัวเอง แล้วก็หลานๆ อีก”

พอพูดถึงตรงนี้ เธอก็เงยหน้าขึ้นมองจิ้นเฟิงเฉิน แล้วก็ถามด้วยความเป็นห่วง “เฟิงเฉิน ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?”

“ทุกอย่างค่อนข้างดีครับ” จิ้นเฟิงเฉินตอบ

ฟางเสว่มั่นพยักหน้าอย่างสบายใจ “ถ้าอย่างนั้นก็ดี”

“แม่ แล้วแม่ล่ะ? สุขภาพโอเคใช่ไหม?”เจียงสื้อสื้อพูดด้วยความเป็นห่วง “จะมาเมืองจิ่นทำไมไม่บอกหนูเลย หนูไปรับก็ได้”

จากเมืองหลวงถึงเมืองจิ่น จะบอกว่าไกลก็ไม่ไกล แต่ว่าก็มีระยะทางประมาณหนึ่งเลย กลัวว่าร่างกายของเธอจะไม่ไหว

“แม่ไม่เป็นไร” ฟางเสว่มั่นยิ้มอย่างไม่มีทางเลี่ยง “ไม่ได้อ่อนแอขนาดที่พวกลูกคิดหรอก”

“เดี๋ยวคุณตาล่ะคะ?”เจียงสื้อสื้อถามอีกครั้ง

“น้าสะใภ้เล็กของลูกดูแลอยู่” ฟางเสว่มั่นดึงมือเธอ ให้เธอนั่งลงข้างๆ ตัวเอง “ลูกนั่นแหละ ทำไมถึงได้ปิดบังเรื่องที่สำคัญขนาดนี้กับแม่?”

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามของแม่ เจียงสื้อสื้อก็อึ้งไป แล้วก็หันไปมองแม่จิ้น

แม่จิ้นยิ้มขอโทษ “แม่ไม่รู้ว่าพวกลูกไม่ได้บอกแม่แท้ๆ ของตัวเอง ก็ได้ปากรั่วไปนิดหนึ่ง”

“ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าแม่มาในวันนี้ ก็คงไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้กับเฟิงเฉิน” ฟางเสว่มั่นหน้าบึ้ง แกล้งทำเป็นมองเธอด้วยสายตาไม่พอใจ “เด็กน้อยคนนี้เอาแต่พูดข่าวดีปิดบังข่าวร้ายตลอดเลย”

“แม่ เหลือแค่กลัวเรื่องสุขภาพของแม่……”

ฟางเสว่มั่นถอนหายใจออกมา “แม่รู้ว่าลูกหวังดีกับแม่ แต่แม่ก็บอกว่าถ้าเกิดว่ามีเรื่องอะไรจะบอกแม่ แม่ไม่อยากให้ลูกแบกรับอะไรมากมายขนาดนั้นคนเดียว”

ไม่ว่าจะยังไง ฟางเสว่มั่นก็ยังคงรักลูกสาวของตัวเองสุดหัวใจ

พอนึกถึงช่วงเวลาที่เกิดเรื่องขึ้นกับจิ้นเฟิงเฉิน ลูกสาวของเธอต้องเหน็ดเหนื่อยมากอย่างแน่นอน

เธอปวดใจเป็นอย่างมาก

“แม่ ขอโทษนะคะ” เจียงสื้อสื้อตาแดง มีหมอกจางๆ ปกคลุมดวงตาของเธออยู่

“จะร้องไห้พี่ใหญ่แล้วเหรอ?”ฟางเสว่มั่นเคาะหน้าผากเธอหนึ่งทีอย่างอารมณ์ไม่ดี “โตขนาดนี้แล้ว ยังชอบร้องไห้อยู่อีก”

พอได้ยินดังนั้น เจียงสื้อสื้อก็รีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาทันที พร้อมกับคลี่ยิ้มออกมา “โอเค หนูไม่ร้องไห้แล้ว”

ฟางเสว่มั่นยิ้มพร้อมกับตบมือเธอเบาๆ ไม่ได้พูดอะไรอีก

……

ฟางเสว่มั่นอยู่ที่บ้านตระกูลจิ้น ทุกวันเธอกับแม่จิ้นก็จะเล่นเป็นเพื่อนเสี่ยวเป่าและเถียนเถียน จะมีเสียงหัวเราะของเด็กๆ ดังขึ้นในบ้านเป็นครั้งคราว

ทางด้านของซ่างกวนหยวนไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย จิ้นเฟิงเฉินก็ยังคงระวังตัว ยังจัดคนให้ไปแอบคอยเฝ้าและปกป้องเจียงสื้อสื้อกับเด็กน้อยทั้งสองคน

วันนี้ แม่จิ้นนึกขึ้นได้ว่าฤดูกาลกำลังจะเปลี่ยนผันแล้ว อยากจะซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เด็กน้อยทั้งสองคน

“เดี๋ยวฉันไปด้วย” ฟางเสว่มั่นพูด

“โอเค มีคนไปด้วยนั่นดีที่สุดแล้ว”

แม่จิ้นตกลงด้วยความยินดีอย่างยิ่ง แต่ก็ลังเลนิดหน่อย “แต่ว่า ร่างกายคุณโอเคเหรอ?”

ฟางเสว่มั่นหุบยิ้ม “คุณแม่ยาย สุขภาพของฉันดีขึ้นเยอะมากแล้ว ไปช้อปปิ้งได้แหละ”

“งั้นก็ดี งั้นพวกเราไปด้วยกัน”

และแล้ว ทั้งสองคนก็ออกจากบ้านไป

จิ้นเฟิงเฉินกลับเจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แค่กำชับคนขับรถว่าให้ขับรถอย่างระมัดระวัง

ใครจะไปคิดว่า จนฟ้ามืด แม่จิ้นกับฟางเสว่มั่นก็ยังไม่กลับมา

พ่อจิ้นเอาแต่โทรหาแม่จิ้น แต่ว่าก็ไม่มีใครรับสายเลย

ตอนนี้เอง พ่อจิ้นถึงได้ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ก็รีบเรียกให้จิ้นเฟิงเฉินลงมาชั้นล่าง

“พวกแม่ๆ ของลูกยังไม่กลับบ้านมาเลย”

“โทรไปหรือยังครับ?”จิ้นเฟิงเฉินถาม

“โทรไปแล้ว แต่ว่าไม่มีใครรับสาย” พ่อจิ้นรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง “คงไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกเธอหรอกใช่ไหม?”

จิ้นเฟิงเฉินครุ่นคิดอยู่คู่หนึ่ง แล้วก็เอ่ยปากถาม “แล้วคนขับรถล่ะ? กลับมาหรือยัง?”

“ยัง โทรไปก็ไม่มีใครรับสาย”

“พ่อ อย่าเพิ่งเป็นกังวลไปครับ เดี๋ยวผมให้อิ้งเทียนส่งคนไปตามหา” พอจิ้นเฟิงเฉินปลอบใจพ่อของตัวเองเสร็จ ก็เร่งรีบขึ้นไปชั้นบนทันที

พอกลับมาถึงห้อง เขาก็รีบเดินไปที่โต๊ะข้างหัวเตียง แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาอิ้งเทียน

เจียงสื้อสื้อเห็นว่าสีหน้าของเขาไม่ปกติ ก็เลยถามด้วยความเป็นห่วง “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

“พวกแม่ๆ ยังไม่กลับบ้านมาเลย”

จิ้นเฟิงเฉินเพิ่งจะตอบคำถามเสร็จ อิ้งเทียนก็รับสาย และเสียงของเขาก็ดังขึ้นมาจากปลายสาย

“คุณชาย”

“อิ้งเทียน รีบไปตรวจสอบการเดินทางของพวกแม่ฉันในวันนี้ให้หน่อย ตอนนี้พวกเธออยู่ที่ไหน ได้ผลมาแล้วรีบรายงานด้วย”

“ครับ”

จิ้นเฟิงเฉินวางสาย สีหน้าค่อนข้างจริงจัง

บอกว่าเรื่องราวมันจะไม่เป็นอย่างที่เขาคิด

“สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”เจียงสื้อสื้อถาม

จิ้นเฟิงเฉินหันหน้าไปมองเธอ ร่องรอยของความรู้สึกผิดปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา “สื้อสื้อ ขอโทษนะ ผมเอาแต่คิดเกี่ยวกับการปกป้องคุณกับลูก แต่กลับละเลยพวกแม่ๆ ”

พอเขาพูดแบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็เข้าใจในทันที คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันจนเป็นลม “คุณกำลังบอกว่าซ่างกวนหยวนอาจจะกำลังทำอะไรที่ไม่ดีกับพวกเธออยู่อย่างนั้นเหรอ? ”

จิ้นเฟิงเฉินเม้มปากแน่น ไม่ได้พูดอะไรต่อ

การเงียบเท่ากับยอมรับ

“ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้……”เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า เธอไม่เชื่อว่าซ่างกวนหยวนจะเป็นบ้าถึงขนาดที่กล้าลงไม้ลงมือกับคนแก่ทั้งสองคน

แต่ว่าในความเป็นจริง ในใจของเธอก็รู้ดีว่า เพื่อจิ้นเฟิงเฉินแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่บ้าคลั่งแค่ไหนซ่างกวนหยวนก็สามารถทำได้

“ฉันจะไปช่วยพวกเธอ” เจียงสื้อสื้อหันหลังเตรียมตัววิ่งออกไปด้านนอก

“สื้อสื้อ!”จิ้นเฟิงเฉินรีบตามไปในทันที แล้วห้ามเธอไว้ “สื้อสื้อ อย่าเพิ่งรีบร้อนไปเลย อิ้งเทียนกำลังตามหาอยู่ เดี๋ยวก็คงได้ข่าว”

“ฉันรอไม่ได้แล้ว พวกเธออายุมากแล้ว ไม่สามารถแบกรับเรื่องอะไรแบบนี้ได้หรอก!”เจียงสื้อสื้อร้อนรนจนร้องไห้ออกมา

พอคิดว่าผู้ใหญ่ทั้งสองคนถูกซ่างกวนหยวนจับตัวไป แล้วจะให้เธอไม่ร้อนใจได้อย่างไรกัน?

“สื้อสื้อ ฟังที่ผมพูดนะ พวกเธอจะไม่เป็นอะไร”จิ้นเฟิงเฉินปลอบเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ผมจะพาพวกเธอกลับบ้านมาอย่างปลอดภัย”

เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า “ไม่ ฉันจะไปช่วยพวกเธอ คุณอยู่ที่บ้านนะ”

ถ้าเกิดว่าซ่างกวนหยวนจับผู้ใหญ่ทั้งสองคนไปจริงๆ ไม่มีอะไรมากไปกว่าอยากจะบีบบังคับให้เฟิงเฉินต้องปรากฏตัว

จะให้เป็นไปตามแบบที่เธอต้องการไม่ได้

สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินดูไม่มีทางเลี่ยง “แล้วคุณจะไปช่วยพวกเธอได้ยังไง? ถ้าเกิดว่าคุณไปก็เท่ากับว่าแกะเข้าปากเสือ ไม่สามารถหวนคืนได้แล้ว”

“แล้วจะทำยังไง? หรือว่าพวกเราทำได้แค่นั่งร้อนรนอยู่ที่บ้านอย่างนั้นเหรอ?”

“พี่สะใภ้ เดี๋ยวผมไปเอง”

ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินหันหน้าไปมองต้นเสียง

ก็เห็นว่าจิ้นเฟิงเหราเดินเข้ามา “ให้ผมไปน่าจะดีที่สุด”

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท