ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1363 ไม่เจอเธออีกตลอดไป

บทที่ 1363 ไม่เจอเธออีกตลอดไป

เจียงสื้อสื้อมองเขา แล้วขมวดคิ้วแน่น “แต่เรื่องนี้มันอันตรายมากนะ ฉันไม่ยอมให้คุณไปหรอก”

เรื่องมันเกิดจากเธอและเฟิงเฉิน ให้เฟิงเฉินไปเจออันตราย เธอยอมไม่ได้

จิ้นเฟิงเหราหัวเราะเบาๆ “พี่สะใภ้ วางใจเถอะ ผมกับพี่ฝึกกันมาตั้งแต่เด็ก ฝีมือไม่แย่เลย”

“พี่ไปกับนาย” จิ้นเฟิงเฉินพูดด้วยเสียงที่ถูกต่ำ

เจียงสื้อสื้อรู้สึกแน่นหน้าอก แล้วก็ห้ามเขา “คุณไปไม่ได้”

“สื้อสื้อ”จิ้นเฟิงเฉินจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ ก้มหน้าลง มองเข้าไปที่ดวงตาของเธอที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แล้วก็ปลอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “มีเฟิงเหรากับอิ้งเทียนอยู่ด้วย ผมไม่มีทางเป็นอะไรหรอก”

“แต่ว่า……” เจียงสื้อสื้อยังคงรู้สึกไม่สบายใจ

ตอนนี้เอง จิ้นเฟิงเหรากเอยปากพูดขึ้นมา “พี่สะใภ้ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ผมจะดูแลพี่ชายผมให้ดี”

เมื่อทำอะไรไม่ได้ เจียงสื้อสื้อก็จำใจต้องยอมประนีประนอม

เธอจับมือของจิ้นเฟิงเฉินเอาไว้แน่น “คุณต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ”

จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า “อืม”

เจียงสื้อสื้อส่งพวกเขาออกไปข้างนอก เธอยืนอยู่ตรงประตู สายตามองดูรถของพวกเขาห่างออกไปเรื่อยๆ จนมองไม่เห็นแล้ว

“พี่สะใภ้ ก็เขาจะกลับมาอย่างปลอดภัย” ส้งหวั่นชีงเดินออกมา โอบไหล่ของเธอแล้วก็ปลอบใจ

เจียงสื้อสื้อหันหน้าไปมองเธอ แล้วก็เม้มปาก “หวั่นหวั่น ขอโทษด้วยนะ ที่ต้องดึงเฟิงเหราเข้ามายุ่งด้วย”

“พี่สะใภ้ พี่พูดอะไรกัน” ส้งหวั่นชีงแสร้งทำเป็นโกรธ แล้วก็พูดอย่างจริงจัง “พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน อย่าพูดเหมือนคนนอกสิ”

ในใจของเจียงสื้อสื้อเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง เธอพยักหน้าและพูดว่า “หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น”

“มันต้องราบรื่นอย่างแน่นอน” ส้งหวั่นชีงโอบเธอแน่น

……

จากการสืบของอิ้งเทียน ก็สามารถหาตำแหน่งของแม่จิ้นกับฟางเสว่มั่น

เขารีบส่งที่อยู่ให้กับจิ้นเฟิงเฉินในทันที

หลังจากที่จิ้นเฟิงเฉินได้รับแล้ว ก็ให้จิ้นเฟิงเหราเลี้ยวซ้ายที่ถนนสี่แยกด้านหน้า

มันคือทิศทางไปเขตชานเมือง

จิ้นเฟิงเหราหันกลับมามองจิ้นเฟิงเฉิน แล้วถามว่า “เจอแล้วเหรอ?”

“อืม อยู่ในโรงงานร้างเขตชานเมือง พวกอิ้งเทียนก็กำลังตามไปที่นั่น”

จิ้นเฟิงเหรารีบเหยียบคันเร่งทันที แล้วรถก็พุ่งไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว

“พี่ เดี๋ยวถ้าถึงแล้ว พี่รออยู่บนรถนะ เดี๋ยวผมกลับพวกอิ้งเทียนจะเข้าไปเอง” จิ้นเฟิงเหราพูด

“ไม่เป็นไร” จิ้นเฟิงเฉินมองออกไปนอกหน้าต่าง แสงแดดส่องมาที่ใบหน้าของเขา เดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมืด มองไม่เห็นสีหน้าของเขาในตอนนี้

จิ้นเฟิงเหราขยับริมฝีปาก อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่าสุดท้ายก็กลืนคำพูดพวกนั้นลงไป

พี่ชายของเขารู้จักลิมิตของตัวเอง เขาไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงให้มากมาย

รถจะลงที่ด้านนอกโรงงานร้าง คนที่เฝ้าอยู่ด้านนอกมีแค่ไม่กี่คนและกำลังนั่งคุยกันอยู่ เพราะเห็นว่ามีรถเข้ามา ก็รีบลุกขึ้น ทุกคนยกไม้เบสบอลขึ้น มองดูรถที่กำลังจะลงด้วยสีหน้าที่ตื่นตัว

จิ้นเฟิงเหรานั่งอยู่บนรถ มองดูคนพวกนั้น มือที่จับพวงมาลัยอยู่นั้นก็บีบแน่น

“พี่ ไหวใช่ไหม?” เขาเอ่ยปากถาม

จิ้นเฟิงเฉินกระตุกมุมปาก น้ำเสียงของเขาปะปนไปด้วยความเยือกเย็น “นายว่าไงล่ะ?”

ทั้งสองคนปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วก็เปิดประตูพร้อมกับลงรถมาพร้อมกัน

มีแสงไฟส่องสว่างอยู่ด้านนอกของโรงงาน อีกฝ่ายนั้นจำจิ้นเฟิงเฉินได้ รีบตะโกนออกมาทันที “จิ้นเฟิงเฉิน!”

แล้วคนพวกนั้นก็ถอยหลังไปโดยอัตโนมัติ

พวกเขาได้รับคำสั่งมา ว่าถ้าเกิดจิ้นเฟิงเฉินมาด้วยตัวเอง ห้ามแตะต้องเขาเด็ดขาด

เพราะเห็นว่าพวกเขาถอยหลังไป จิ้นเฟิงเฉินก็สบตากับจิ้นเฟิงเหรา แล้วก็ก้าวยาวไปด้านหน้า

คนพวกนั้นเอาแต่เดินถอยหลัง ถอยจนเข้าไปในโรงงาน

ทันทีที่ประตูเหล็กของโรงงานเปิดออก จิ้นเฟิงเฉินกับจิ้นเฟิงเหราก็เห็นแม่จิ้นที่ถูกมัดอยู่บนเก้าอี้ในทันที

“แม่!”เฟิงเหรา จิ้นเฟิงเหราตะโกน

แม่จิ้นได้ยินเสียงเลยเงยหน้าขึ้นมา พอเห็นว่าลูกทั้งสองคนมาที่นี่ เธอก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาในทันที เธอเปิดปากแล้วอยากตะโกนดังๆ ให้พวกเขากลับไป

แต่อย่างไรก็ตามปากของเธอถูกปิดผนึกด้วยสกอตช์เทปสีดำ เธอทำได้แค่เสียงดัง” อื้อๆ ” เพียงเท่านั้น

มีคนวิ่งเข้ามากดไหล่เธอไว้อย่างแรง แล้วก็ตะคอกว่า “เงียบๆ หน่อย ไม่อย่างนั้นหมัดของฉันจะไม่เลือกที่นะ!”

“กล้าเหรอ!”จิ้นเฟิงเหราพูดด้วยความโมโห

“งั้นแกก็ลองดูว่าฉันกล้าหรือไม่กล้า!อีกฝ่ายยกไม้เบสบอลขึ้น กำลังจะตีไปที่แม่จิ้น

“หยุดเดี๋ยวนี้!”มีคนออกเสียงห้าม

จิ้นเฟิงเหรากับจิ้นเฟิงเฉินหันหน้าไปมอง ก็เห็นว่ามีคนหนึ่งเดินออกมาจากความมืด เดินไปหยุดอยู่ด้านข้างแม่จิ้น

“จิ้นเฟิงเฉินคือคนไหน?”คนคนนั้นเอ่ยปากถาม

“ฉันเอง” จิ้นเฟิงเฉินก้าวขึ้นไปด้านหน้าหนึ่งก้าว

คนคนนั้นมองเค้าหัวจรดเท้า แล้วก็ถามเขาว่า “อยากช่วยเธอเหรอ?”

จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ตอบ แต่ว่าความหนาวเย็นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขามันเยือกเย็นจนแทบจะกัดกระจก

คนคนนั้นถอยไปด้านหลังครึ่งก้าวโดยอัตโนมัติ แล้วก็รักษาทางของตัวเองพร้อมกับพูดว่า “อยากจะช่วยเธอก็ได้ แต่พอไปกับพวกเรา”

จิ้นเฟิงเหราพอได้ยินดังนั้นก็เครียดขึ้นมาทันที แล้วก็ขวางหน้าของพี่ชายตัวเองเอาไว้ พร้อมกับพูดด้วยความโมโห “แกอย่ามาคิดอุบายกับพี่ชายของฉัน”

“อ้อ งั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นพวกนายจะไม่ใช่เธอใช่ไหม?”คนคนนั้นหยิบมีดออกมาแล้วก็จ่อไปที่หน้าของแม่จิ้น

“แกจะทำอะไร?”จิ้นเฟิงเหราสีหน้าเปลี่ยนทันที ในใจเขาก็เริ่มตื่นตอนออก

จิ้นเฟิงเฉินจับไหล่ของเขาไว้ แสดงให้เห็นว่าอย่าตื่นตระหนก แล้วก็เอ่ยปากถามอย่างเย็นชา “แล้วอีกคนนึงล่ะ ?”

พอเขาถามแบบนี้ จิ้นเฟิงเหราถึงได้ตั้งสติได้ วันในโรงงานร้างแห่งนี้มีแค่แม่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ว่าไม่มีแม่ของพี่สะใภ้อยู่ด้วย

“ถ้าเกิดว่าไปกับพวกเรา พวกเธอก็จะไม่เป็นอะไร”

คนคนนั้นพูดจบ แล้วก็มีลูกน้องคนหนึ่งถือโทรศัพท์วิ่งเข้ามาหาเขา แล้วก็ปกติอะไรบางอย่างของเขา แล้วเขาก็หันมามองจิ้นเฟิงเฉิน

เขาส่งสายตาให้กับลูกน้อง

แล้วลูกน้องของเขาก็ส่งโทรศัพท์ให้จิ้นเฟิงเฉิน

จิ้นเฟิงเหรายกมือขึ้นมาเตรียมตัวกลับไป

“คุณหนูซ่างกวนอยากคุยกับแก” พอเดินเข้าไปใกล้แล้ว ลูกน้องก็ส่งโทรศัพท์ให้กับจิ้นเฟิงเฉิน

จิ้นเฟิงเฉินรับมา น้ำเสียงของเขาเย็นโดยที่ไม่มีอุณหภูมิอะไรเลย “ว่า”

ซ่างกวนหยวนที่อยู่ปลายสายได้ยินเสียงสั้นๆ นี้ ก็รู้สึกตื่นเต้นจะลุกขึ้นมาจากเตียง เธอบีบโทรศัพท์แน่น แล้วก็พูดอย่างเร่งรีบ “เฟิงเฉิน ฉันเอง ฉัน……”

ยังไม่ทันจะพูดจบ เธอก็ถูกตัดบทอย่างเย็นชา “แม่ผมล่ะ?”

ประโยคนี้มันเหมือนโดนน้ำเย็นไหลลงมาจากศีรษะ ฉันให้ความตื่นเต้นของซ่างกวนหยวนหายวับไปทันที “นี่คุณไม่เป็นห่วงฉันเลยเหรอ?”

ถึงแล้วจะทายได้ว่าเขาจะตอบยังไง แต่ว่าในใจของเธอก็อดไม่ได้ที่จะคาดหวัง

“แม่ผมล่ะ?”จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ตอบคำถาม แล้วก็ย้ำคำถามเมื่อกี้อีกครั้ง

น้ำเสียงเย็นชากว่าเดิม และความอดทนของเขากำลังจะหมดลง

ซ่างกวนหยวนสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามกดความผิดหวังในหัวใจเอาไว้ แล้วก็พูดอย่างเย็นชา “ถ้าเกิดว่าคุณอยากจะช่วยแม่ของเจียงสื้อสื้อ ก็อยากกลับเจียงสื้อสื้อซะ แล้วก็กลับมาอยู่กับฉัน ไม่ไปเจอเธออีกตลอดชีวิต”

พอได้ยินดังนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็หรี่ตาลง มุมปากยิ้มเยาะเย้ยเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าคุณยังไม่รู้จักความเป็นจริงเลยเนอะ”

“ความเป็นจริงอย่างนั้นเหรอ?”ซ่างกวนหยวนหัวเราะ “ความเป็นจริงของฉันก็คือ ฉันเป็นคนช่วยคนเอาไว้ คุณก็เคยรับปากว่าจะดูแลฉันให้ดีตลอดชีวิต ตอนนี้คุณจำเป็นต้องทำตามสิ่งที่คุณพูด”

“ไม่มีทาง”

คำศัพท์คำที่ไร้อารมณ์นั้นเผยให้เห็นความรู้สึกของจิ้นเฟิงเฉิน

“ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็อย่าคิดจะเจอแม่ของเจียงสื้อสื้อไปอีกเลยตลอดชีวิต” ถ้าเกิดว่าเขาไม่ยอมทำตามที่เธอบอก ก็อย่ามาโทษว่าเธอใจร้ายแล้วกัน

“ซ่างกวนหยวน ทางที่ดีคุณปล่อยคนไปซะ อย่าทำให้ผมโมโห มันไม่มีอะไรดีสำหรับคุณเลย”

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท