“เสี่ยวเป่า ลูกไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม?” เจียงสื้อสื้อมองสำรวจเสี่ยวเป่าทั้งตัวด้วยความกังวล
“หม่ามี๊ ผมไม่เป็นอะไรแล้ว” เสี่ยวเป่าเห็นแม่เป็นกังวลขนาดนี้ ในใจก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
ช่วงนี้เข้าทำให้หม่ามี๊เป็นห่วงมาโดยตลอด
“ไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่ไหม?” เจียงสื้อสื้อมองไปยังจิ้นเฟิงเฉิน อย่างไม่ค่อยเชื่อ
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า “ไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ ก็แค่ท้องเสียกับอาเจียน”
“ที่แท้ก็ท้องเสียนี่เอง” เจียงสื้อสื้อถอนหายใจมองไปที่เสี่ยวเป่าอย่างจริงจัง “หลังจากนี้ไม่อนุญาตให้กินของนอกบ้านแล้วเข้าใจมั้ย”
เสี่ยวเป่าพยักหน้า “เข้าใจครับ”
สีหน้าของเจียงสื้อสื้อก็ผ่อนคลายลง ถามออกมาอย่างรู้สึกปวดใจว่า “หิวหรือเปล่า?”
“หิวแล้ว”
เสี่ยวเป่าไม่เพียงแต่อาเจียนแม้กระทั่งข้าวเที่ยงก็ยังไม่ทันได้กินเลย
“ไปกันเถอะ กลับบ้านกัน เดี๋ยวหม่ามี๊จะทำโจ๊กให้ลูกกินสักหน่อย”
พวกเขากลับมาถึงบ้านได้ไม่นาน กู้เนี่ยนก็เข้ามา
“กู้เนี่ยน ทำไมมาเอาป่านนี้?” เจียงสื้อสื้อมองมาที่เขาอย่างสงสัย
“มีเรื่องงานที่ต้องมารายงานกับคุณชายนิดหน่อยครับ” กู้เนี่ยนยิ้มออกมาพลางตอบกลับไป
“พวกเราไปคุยกันที่ห้องหนังสือเถอะ”
จิ้นเฟิงเฉินหมุนตัวเดินนำหน้า ขึ้นไปชั้นบนก่อน เขาไม่อยากให้สื้อสื้อ รู้เรื่องมากขนาดนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กังวลจนเกินไป กู้เนี่ยนหันไปทางเจียงสื้อสื้อแล้วก้มหัวลงเล็กน้อย แล้วรีบก้าวตามขึ้นไปข้างบน
ในห้องหนังสือ กู้เนี่ยนก็รีบรายงานผลการตรวจสอบทันที
“คุณชาย เรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณชายน้อยในช่วงนี้นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันมีคนทำให้เกิดขึ้น”
“เหมือนกับที่คิดเอาไว้” จิ้นเฟิงเฉินแสดงสีหน้าเย็นยะเยือก “แล้วเจอมั้ยว่าเป็นใคร?”
“ผมตรวจสอบไปยังกองละครที่ทางที่ไปถ่ายทำที่โรงเรียนของคุณชายน้อย หนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัท โทรทัศน์แห่งนั้น ก็คือคริสมิน”
“คริสมิน?” จิ้นเฟิงเฉินแปลกใจนิดหน่อย
กู้เนี่ยนพยักหน้า “อือ คริสมิน”
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาลง “ถ้าอย่างนั้นเรื่องวันนี้ล่ะ?”
“เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ยังตรวจสอบอะไรไม่ได้” กู้เนี่ยนก้มหน้า “แต่คุณชายวางใจได้เลยผมจะมารายงานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“ถ้าหากว่าเรื่องที่โรงเรียน กับคริสมิน มีความเกี่ยวข้องกันแบบนั้นเรื่องในวันนี้ก็เป็นไปได้มากกว่าเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องเหมือนกัน” จิ้นเฟิงเฉินพูดเสียงเข้ม
“กองถ่ายนั้นเปลี่ยนไปถ่ายทำที่โรงเรียนของคุณชายน้อยชั่วคราว ในตอนแรกพวกเขาเลือกโรงเรียนอื่นไว้ ดังนั้น……”
จริงๆ แล้วกู้เนี่ยนมั่นใจมากเลยว่าเรื่องวันนี้ก็เป็นฝีมือของคริสมิน
ช่วงนี้คริสมินกับซ่างกวนกรุ๊ป ก็ร่วมมือกันพุ่งเป้ามาที่ตระกูลจิ้นไม่หยุดหย่อน ต่อให้เป็นแบบนี้การพุ่งเป้าไปที่เด็กคนหนึ่ง นั้นก็เป็นการกระทำที่ชั่วร้ายจริงๆ !
“คุณชายพวกเราไม่สามารถที่จะทำเป็น ปิดตาข้างหนึ่งไว้เหมือนเมื่อก่อนได้อีกแล้ว!” กู้เนี่ยนโมโหมากๆ
จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะเยาะเย้ยออกมา เสียงเย็นเยียบราวกับน้ำค้างแข็งในช่วงฤดูหนาว “พวกมันพุ่งเป้ามาที่ตระกูลจิ้น ฉันยังพอทำเป็นลืมได้ แต่คาดไม่ถึงว่าจะกล้าลงมือกับเสี่ยวเป่า ฉันไม่มีทางจะปล่อยพวกมันไว้อย่างแน่นอน”
สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันดุดันที่แผ่ขยายอยู่รอบตัวของเขา กู้เนี่ยนได้แต่กลืนน้ำลาย เวลานี้ในที่สุดคริสมินก็จะได้เห็นความร้ายกาจของคุณชายแล้ว
ดูซิว่าพวกมันยังจะกล้าที่จะกำเริบเสิบสานแบบนั้นอีกไหม!
ทันใดนั้นกู้เนี่ยนก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “คุณชายผมได้ยินมาว่าคริสมิน ช่วงนี้พวกมันวางแผนที่จะชนะการประมูลที่ดินผืนหนึ่งในตงเฉิง” จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาลง ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ขัดขวางพวกมัน เพียงแค่มีความเกี่ยวข้องกับพวกมันก็ขัดขวางให้หมดทุกโครงการ”
“ได้ครับ” กู้เนี่ยนคิดแล้วคิดอีกก็ถามไปว่า “อย่างนั้นถ้าหากว่า มีบริษัทที่อยากจะร่วมมือกับซ่างกวนกรุ๊ป ในการขัดขวางพวกเรา พวกเราจะทำอย่างไรดี?”
“ทำยังไง?” จิ้นเฟิงเฉิน มุมปากยกยิ้มเย็น “แค่ช่วยเหลือพวกมันก็เท่ากับเป็นศัตรูกับตระกูลจิ้น อย่างนั้นก็อย่าตำหนิที่ฉันจะดึงพวกมันลงไปด้วย อย่าปล่อยไว้แม้แต่บริษัทเดียว”
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาตระกูลจิ้น ก็ไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว!
ก่อนหน้านี้เขาถูกขวางไว้ด้วยบุญคุณ ที่ซ่างกวนหยวน เคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เขาจึงไม่จัดการกับซ่างกวนกรุ๊ป แต่ว่าครั้งนี้ พวกมันล้ำเส้นเกินไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นซ่างกวนกรุ๊ป หรือว่าคริสมิน เขาจะไม่มีวันปล่อยพวกมันเอาไว้!
……
สำหรับที่ดินในตงเฉิงผืนนั้นซ่างกวนเซียนกับคริสมินมุ่งมั่นที่จะเอามาให้ได้
และแล้ววันที่ เปิดการประมูลก็มาถึง
เพียงแต่ว่าพวกเขาได้ติดสินบนเอาไว้หมดแล้ว ถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัยอะไรที่ผืนนี้ก็เป็นของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว
ในการประชุมซ่างกวนเซียน กับคริสมิน สบตาซึ่งกันและกัน ทั้งคู่แสดงท่าทีจองหองออกมาแบบปิดไม่มิด เพียงแต่ว่าพวกเขาจองหองได้ไม่นานเท่าไหร่ เจ้าภาพผู้จัดการประมูลก็ประกาศบริษัทที่ชนะการประมูล
เป็นบริษัทแห่งหนึ่งที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน!
“คุณพูดผิดรึเปล่า?” ซ่างกวนเซียนลุกขึ้นยืน ถามผู้จัดงานออกไปด้วยน้ำเสียงตำหนิติเตียน
ใบหน้าของผู้จัดงานนั้นสงบนิ่ง แล้วตอบกลับไปว่า “ไม่ผิดครับ บริษัทนี้คือผู้ชนะการประมูลอย่างแท้จริง”
“เป็นไปไม่ได้ ก็เห็นชัดๆ ว่า……” ซ่างกวนเซียนไม่อยากจะเชื่อ
ตอนนั้นเองเลขาก็เดินมา แล้วกระซิบข้างหูของคริสมิน แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที
เขายื่นมือไปดึงซ่างกวนเซียน “ไม่ต้องถามแล้ว ฉันรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น”
ซ่างกวนเซียนหันหน้ากลับมามองเขา ใบหน้าของคริสมิน นั้นอึมครึม “เป็นฝีมือของจิ้นเฟิงเฉิน”
ซ่างกวนเซียนตกตะลึง “จะเป็นเขาไปได้ยังไง? ฉันได้รับข่าวมาว่า ตระกูลจิ้นไม่ได้ชอบที่ดินผืนนี้สักหน่อย”
“ไม่ชอบเหรอ?”คริสมินหัวเราะเยาะออกมา “ฉันดูแล้วน่าจะเป็นการตั้งใจปล่อยข่าวปลอมออกมาหลอก เพื่อปั่นหัวพวกเรา”
“เชี่ย” ซ่างกวนเซียนทุบโต๊ะอย่าง เกรี้ยวกราด
“อย่าโมโหไป เดิมที่พวกเราคิดว่าเขาจะไม่เคลื่อนไหวอะไร แต่ในตอนนี้เขาเคลื่อนไหวแล้ว ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ดีหรอกเหรอ?”
ถ้าเปรียบเทียบกับความเดือดดาลของซ่างกวนเซียน แล้วคริสมิน ดูสงบกว่ามาก
“จิ้นเฟิงเฉิน!” ซ่างกวนเซียนกำหมัดแน่น ใบหน้าหล่อเหลาก็บูดเบี้ยวแววตาเต็มไปด้วยความโกรธ
คริสมินเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเบาๆ แสดงสีหน้า ราวกับกำลังครุ่นคิด
……
ซูชิงหยิงรู้มาว่าคริสมิน พวกเขาไม่ชนะการประมูล เธอโกรธจนต้องโยนมือถือทิ้ง
“ไม่ใช่ว่าในตอนแรกนายพูดอย่างมั่นอกมั่นใจเอาไว้ว่า ที่ดินผืนนี้นะอยู่ในกระเป๋าของพวกนายมาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ”
ซูชิงหยิงจ้องมองไปที่คริสมิน ใบหน้าที่ถูกแต่งหน้าอย่างประณีตงดงามกลับปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกหนา
“นี่ก็เป็นแค่เหตุสุดวิสัย” ตอนนี้คริสมินก็กลับกลายเป็นคนพูดน้อย นั่นยิ่งทำให้ซูชิงหยิงโกรธมากขึ้นไปอีก
“เหตุสุดวิสัย? ทำไมนายถึงไม่หาข้อแก้ตัวที่มันดีกว่านี้สักหน่อยล่ะ?”
“พอแล้วน่า อย่าโมโหไปเลย”คริสมินเข้ามากอดเธอ “คุณวางใจเถอะ ไม่ได้ที่ดินผืนนี้ก็ยังมีที่ดินผืนอื่นอีก”
“แต่ไม่มีที่ดินแปลงนี้ในทางตะวันออกของเมือง แล้วนายจะเอาอะไรไปจัดการกับตระกูลจิ้นได้?”
ในตอนแรกพวกเขาคิดจะใช้ประโยชน์จากที่ดินผืนนี้ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหม่ โดยนำมาใช้รับมือกับอสังหาริมทรัพย์ที่ตระกูลจิ้นเพิ่งไปลงทุนมาในระยะนี้
“จะต้องมีวิธีอื่นอีก”คริสมินว่าพลาง หอมไปที่แก้มของเธอ แล้วยิ้มออกมาในทันที “ตอนนี้ จิ้นเฟิงเฉินเริ่มตอบโต้กลับแล้ว อย่างที่ฉันได้บอกไว้ น่าสนใจจริงๆ ”
“นายมีความสุขมากขนาดนั้นเลย?” ซูชิงหยิงมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ใช้แล้ว”คริสมินยักคิ้ว “ผมชอบที่จะมองมันกับตระกูลจิ้นค่อยๆ สูญสิ้นไปจากการตอบโต้”
“แต่ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเขามองข้ามการมีอยู่ของพวกนายมาโดยตลอดเหรอ?” ซูชิงหยิงไม่เข้าใจว่าทำไมในครั้งนี้ ตระกูลจิ้นถึงได้ตอบโต้กลับมา
คริสมินเงียบไปสองสามวินาที แล้วพูดเดาออกมาว่า “อาจจะเป็นเพราะรู้แล้วว่าฉันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกชายของมัน”
“ถ้าแบบนั้นก็ซวยแล้วล่ะ” ซูชิงหยิงหน้าซีดลง “สิ่งที่จิ้นเฟิงเฉินแคร์มากที่สุดก็คือคนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจียงสื้อสื้อ แล้วยังมีเด็กสองคนนั้นอีกด้วย เขาไม่ปล่อยพวกนายเอาไว้แน่ นายประมาทเขาไม่ได้นะ ความสามารถของเขาเหนือกว่ามาก เขาไม่ใช่คนที่พวกนายจะเอาชนะได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน”