“ตามที่คนรู้เรื่องเล่ามา แฟนเก่าของกู้เส้าถิงได้ฆ่าตัวตายในต่างประเทศเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนที่เธอตายเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ สงสัยว่าเป็นเพราะกู้เส้าถิง…”
ข่าวทางโทรทัศน์กำลังรายงานเกี่ยวกับเรื่องกู้เส้าถิงลูกชายของตระกูลกู้ เดิมทีเจียงสื้อสื้อไม่ได้ดู แต่พอเธอได้ยินคำพูดของผู้รายงานข่าว เธอก็วางหนังสือในมือลง แล้วเงยหน้ามองข่าวในโทรทัศน์
เนื้อหาส่วนใหญ่ของข่าวคือกู้เส้าถิงเล่นกับความรู้สึกของหญิงสาว แต่ไม่คิดจะรับผิดชอบ หญิงสาวหมดหนทางจึงเลือกที่จะฆ่าตัวตาย
“เลวจริงๆ !” เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว “ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้เขาควรจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต!”
“ทำไมถึงดูโกรธแบบนี้ล่ะจ๊ะ” แม่จิ้นเดินเข้ามาพร้อมกับจานผลไม้ แล้วเหลือบมองดูโทรทัศน์ ก่อนจะขมวดคิ้ว “นี่มันเด็กไม่เอาถ่านตระกูลกู้ไม่ใช่เหรอ?”
“คุณแม่คะ คุณแม่รู้จักเขาด้วยเหรอคะ” เจียงสื้อสื้อเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“แม่รู้จักพ่อแม่ของเขา” แม่จิ้นวางจานผลไม้ แล้วพูดต่อ “กู้เส้าถิงคนนี้เอาแต่เที่ยวเล่น ข่าวฉาวมีมาไม่ขาด คงเป็นเพราะมีลูกตอนอายุมากแล้ว พ่อแม่ของเขาจึงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ต่อสิ่งที่เขาทำ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ก็ใช้เงินปิดข่าว”
เจียงสื้อสื้อแทบไม่อยากเชื่อ “นี่มันเกินไปแล้วนะคะ! พวกเขาคิดว่าเงินมีอำนาจทำได้ทุกอย่าง จนสามารถจัดการทุกอย่างจริงๆ เหรอคะ?”
“แน่นอนว่าทำไม่ได้ทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นจะมีข่าวออกมาในวันนี้เหรอจ๊ะ” แม่จิ้นชี้ไปที่ข่าวในโทรทัศน์
“แบบนี้เขาเรียกว่าสวรรค์มีความยุติธรรม ใครทำผิดไว้ก็ต้องถูกลงโทษ!” เจียงสื้อสื้อส่งเสียงหึอย่างเย็นชา
“อันที่จริง แม่รู้ตั้งนานแล้วว่าเด็กคนนั้นสักวันจะต้องเกิดเรื่อง อีกทั้งยังจะส่งผลกระทบต่อตระกูลกู้ทั้งตระกูลด้วย”
แม่จิ้นใช้ส้อมจิ้มแอปเปิลแล้วยื่นให้กับเธอ “ดูแล้วโกรธก็อย่าดูเลยจ๊ะ กินผลไม้เถอะ”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่” เจียงสื้อสื้อรับมันขึ้นมาแล้วกัดกิน ก่อนจะพูดในขณะที่เคี้ยวอยู่ “ยังไงก็ตาม ตระกูลกู้กับกู้เส้าถิงก็กำลังรับผลกรรมที่ตัวเองก่อขึ้นเองค่ะ”
……
ตระกูลกู้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” พ่อกู้ถามเลขาที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาอย่างโกรธจัด
เลขาก้มหน้าลง “เจ้านายครับ ผมจัดการเรื่องนี้ไปแล้วนะครับ แต่ไม่รู้ว่าเป็นข่าวออกมาได้ยังไง”
“ไม่รู้แล้วทำไมไม่ไปตรวจสอบ” พ่อกู้โกรธจนหายใจอย่างแรง มือที่ชี้หน้าเลขาก็สั่นเทา “ฉันบอกไว้เลยนะ ถ้าไม่ตรวจให้ชัดเจน นายก็ไสหัวไปซะ ได้ยินไหม”
เลขาก้มหน้าด้วยความกลัว แล้วตอบว่า “ได้ยินแล้วครับ”
ก่อนจะหันหลังรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
“จะบ้าตาย!”
ความโกรธพุ่งขึ้นหน้า พ่อกู้รู้สึกหน้ามืด จนทรุดตัวลงบนโซฟา
“เหล่ากู้!”
แม่กู้เดินเข้ามา แล้วได้เห็นเหตุการณ์นี้พอดี จึงวิ่งเข้าไปหาด้วยความตกใจ
พ่อกู้เอนตัวพิงโซฟา ดวงตาทั้งสองคู่หลับตานิ่ง ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าดูซีดเซียวมาก
พอเห็นแบบนี้ แม่กู้จึงรีบตะโกนสั่ง “พ่อบ้าน พ่อบ้าน รีบโทรเรียกรถพยาบาลเร็วเข้า!”
“ผมไม่เป็นไร” พ่อกู้ยกมือขึ้นเพื่อห้ามเธอไว้
“แต่หน้าคุณซีดมากเลย จะไม่เป็นไรได้ยังไงคะ” แม่กู้ ไม่เชื่อคำพูดเขา
พ่อกู้นั่งตรง นวดขมับที่ปวด แล้วพูด “ผมแค่เวียนหัวนิดหน่อย ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว”
แม่กู้ลูบหลังให้เบาๆ แล้วพูดอย่างอ่อนใจ “เรื่องถูกเปิดเผยแล้ว ทุกคนต่างก็ใจร้อน แต่เรื่องนี้จะใจร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์ พวกเราต้องสงบสติอารมณ์และคิดหาวิธีแก้ไขถึงจะถูกนะคะ”
“จะแก้ไขยังไง?” พ่อกู้โกรธขึ้นมาอีกครั้ง “ผมไม่ควรช่วยเจ้าลูกบ้านั่นปิดข่าวตั้งแต่แรก ตอนนี้ไม่ยังไงล่ะ ตระกูลกู้จบกันพอดี มันจบลงแล้ว!”
“แต่เขาเป็นลูกของพวกเรานะคะ พวกเราช่วยเขาก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?” พอพูดถึงตรงนี้ แม่กู้ก็ขมวดคิ้วมาทันที “เรื่องนี้ขุดคุ้ยออกมาได้ยังไงคะ เราเอาเงินปิดข่าวไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ผมก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน” พ่อกู้นิ่งคิดสักพัก ก่อนจะตบที่ต้นขาของเขา แล้วพูดว่า “มันต้องเป็นฝีมือของคนในครอบครัวผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ ”
“อย่างนั้นเหรอคะ?” แม่กู้รู้สึกว่าเรื่องราวมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น “เราให้เงินพวกเขาเยอะขนาดนั้น พวกเขาคงไม่ทำแบบนั้นมั้งคะ”
“ถ้าไม่ใช่พวกเขา แล้วเป็นฝีมือใครกัน?” พ่อกู้มั่นใจว่าเป็นฝีมือของคนในครอบครัวผู้หญิงคนนั้น
“หรือว่า พวกเราจะเรียกพวกเขามาคุยดูคะ?”
พ่อกู้พยักหน้า “เรื่องนี้คุณไปจัดการ ไม่ว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ ก็จะต้องลดผลกระทบให้น้อยที่สุด”
“ได้ค่ะ”
ก่อนที่แม่กู้ออกไป เลขาก็เดินเข้ามา แล้วเดินไปหยุดตรงหน้าพ่อกู้ “เจ้านายครับ ผมตรวจสอบดูแล้ว เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลจิ้นครับ”
ทันทีที่ได้ยินคำว่า “ตระกูลจิ้น” สีหน้าของพ่อกู้กับแม่กู้ก็เปลี่ยนไปทันที ทั้งสองมองหน้ากัน จนเห็นแววตาหวาดกลัวจากแววตาของกันและกัน
“แย่แล้ว!” พ่อกู้ทรุดตัวลงบนโซฟา
“นายแน่ใจใช่ไหมว่าตรวจสอบมาชัดเจนแล้ว?” หัวใจของแม่กู้ยังคงคาดหวังอยู่ลึกๆ
“แน่ใจครับ”
แม่กู้หลับตาลง ยกมือขึ้นนวดขมับของเธอ “นี่คือการแก้แค้น เป็นการแก้แค้น!”
หลังจากนั้น เธอก็หันไปต่อว่าพ่อกู้ “เพราะคุณคนเดียวเลย ถ้าไม่ใช่เพราะคุณไปร่วมมือกับซ่างกวนเชียนและคนอื่นๆ ตระกูลจิ้นจะเป้าหมายมาที่ตระกูลกู้ได้ยังไง”
“จะมาพูดให้ได้อะไรในตอนนี้” พ่อกู้ตะโกนลั่น
“แล้วตอนนี้จะทำยังไงดี จิ้นกรุ๊ปลงมือ ตระกูลกู้คงจบแล้วจริงๆ !”
ไม่ใช่ว่าแม่กู้พูดหมดอาลัย แต่เป็นความจริง
จิ้นกรุ๊ปคิดจะจัดการกับพวกเขา ง่ายดายเหมือนกับการขยี้มดตาย
“ผมจะไปหาซ่างกวนเชียน!”
พ่อกู้รีบเดินออกไป คิดในใจไม่ว่ายังไงซ่างกวนเชียนจะช่วยต้องตัวเองแน่นอน เพราะตอนนี้พวกเขาอยู่บนเรือลำเดียวกันแล้ว
……
“ความร่วมมือของเราสิ้นสุดลงแล้ว”
หลังจากฟังคำขอของพ่อกู้ ซ่างกวนเชียนก็ปล่อยคำพูดเหล่านี้ออกมาอย่างเรียบเฉย
พ่อกู้ชะงักงัน “อะไรนะ สิ้นสุดลงแล้วอะไรกัน”
“ผมบอกว่า ความร่วมมือของเราสิ้นสุดลงแล้ว เรื่องของครอบครัวคุณ ผมก็จะไม่ช่วยด้วย”
ในครั้งนี้ ซ่างกวนเชียนได้พูดอย่างชัดเจน
สีหน้าของพ่อกู้บึ้งตึงขึ้นมาทันที เขาคำรามออกมาอย่างโมโห “ซ่างกวนเชียน ทำไมคุณทำอย่างนี้ ถ้าไม่ได้เพื่อช่วยคุณ ผมจะมีปัญหากับจิ้นกรุ๊ปได้ยังไง”
ซ่างกวนเชียนยกยิ้มเล็กน้อย “ผมต้องขอบคุณที่คุณช่วยเหลือ แต่ว่า…ตอนนี้พวกเราจำเป็นต้องตัดความสัมพันธ์ ไม่อย่างนั้นซ่างกวนกรุ๊ปจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย”
“คุณจะข้ามแม่น้ำแล้วรื้อสะพานทิ้งอย่างนั้นเหรอ?” พ่อกู้มองมาที่เขาอย่างไม่อยากเชื่อ
“คุณลุงกู้ ยกโทษให้ผมด้วย ผมเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นเหมือนกัน”
สีหน้าของเขาไม่เหมือนคนไม่มีทางเลือกอื่นเลยสักนิด
ในเวลานี้ พ่อกู้ถึงได้ตระหนักว่าเขาเป็นเพียงตัวหมากที่เขาใช้จัดการกับจิ้นกรุ๊ปเท่านั้น บอกว่าจะทิ้งก็ทิ้งเลย
“ซ่างกวนเชียน นายคิดว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับตระกูลกู้ นายจะรอดไปได้โดยปลอดภัยหรือไง ฝันไปเถอะ!” พ่อกู้คำรามอย่างโมโห “ฉันจะบอกไว้เลย ถึงจะต้องตายฉันก็จะลากนายไปด้วย!”
หลังจากพูดจบ พ่อกู้ก็มองเขาอย่างเคียดแค้น แล้วเดินจากไปอย่างโกรธเคือง
“ท่านประธานครับ ถ้าเขาแว้งกัดเรากลับจริงๆ คงจะยุ่งยากเหมือนกันนะครับ” เลขาพูดอย่างเป็นห่วง
ซ่างกวนเชียนเหลือบมองคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก่อนจะยิ้มเยาะเย้ยขึ้นมาตรงมุมปาก “ตอนนี้ก็ยุ่งยากมากอยู่แล้ว จะขาดความลำบากจากเขาอีกเหรอ?”
เลขาปิดปากปิดปากแน่น ไม่พูดอะไรอีก
ซ่างกวนเชียนใช้ปลายนิ้วเคาะบนโต๊ะเบาๆ พลางนิ่งคิดอยู่สักพัก ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วหยิบชุดสูทที่พาดพนักเก้าอี้มาสวม
“ไปเถอะ พวกเราไปหาคริสมินกัน”
ครั้งนี้เกิดเรื่องขึ้นกับตระกูลกู้ ถึงแม้เขาจะตัดสัมพันธ์กับตระกูลกู้ทันเวลา แต่ก็ยังได้รับผลกระทบบ้างเล็กน้อย
เพื่อให้แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่น เขาต้องลดผลกระทบในครั้งนี้ให้ต่ำที่สุด!