บทที่ 105 ลู่เฉินลงมือ
“ช่วยคุณก็ได้ แต่ฉันมีประโยชน์อะไรล่ะ?”ลู่เฉินยิ้มและถาม
เฉินจือหรานตะลึง และถามว่า”คุณอยากได้ประโยชน์อะไร แม้ว่าฉันเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเฉิน.แต่ฉันไม่มีเงินเลยนะ ถ้าไม่เชื่อคุณสามารถไปถามพ่อฉันได้”
เงินสำหรับลู่เฉิน มันไม่มีแรงดึงดูดอะไรหรอก สามารถกล่าวได้ว่า เงินในสายตาของเขาเป็นเพียงแค่ตัวเลขแค่นั้นเอง
เหตุที่เขาจะพูดแบบนี้ที่จริงก็แค่อยากจะแกล้งเฉินจือหรานเฉยๆ เขาจะไม่ให้เฉินจือหรานทำอะไรหรอก เพราะเขาเป็นคนมีเมียมีครอบครัวแล้ว แถมก็ไม่มีความสนใจต่อเฉินจือหรานแม้แต่นิดด้วย
เหตุที่เขาจะช่วยตระกูลเฉิน แค่เป็นเพราะว่าคำพูดของจางเซิงเฉียวก่อนหน้าที่ทำให้เขารู้สึกโมโห
ไอ้แก่คนนั้น ได้รวมตัวกันกับตระกูลจั่วและตระกูลหลิว เพื่อเตรียมมาคุกคามเขา บังคับให้เขาต้องสละผลประโยชน์ส่วนหนึ่งออกมา ไม่นั้นก็จะสร้างความวุ่นวายให้กับเทคโนโลยีอี้ฉี เขาเลยคิดจะถือโอกาสมามายับยั้งไอ้ชราจางคนนี้หน่อย
ในขณะเดียวกัน เขาก็อยากจะดูว่า ตระกูลใหญ่อีกสามตระกูลจะมาคุกคามเขายังไง
“น้องลู่ คุณมั่นใจว่าจะสามารถชนะฮันเทียนได้หรือ?”เฉินกวงซิงเปล่งประกายไฟในดวงตาออกมา และจ้องไปที่ลู่เฉิน
พอดีในเวลานี้เฉินหยางก็เดินมา แม้ว่าเขาไม่เชื่อว่าลู่เฉินก็เป็นผู้มีวิชาอาวุธอยู่ในตัว แต่ตอนนี้ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ศิษย์สามคนที่เก่งที่สุดของเขาล้วนถูกฮันเทียนต่อยจนบินออกไปด้วยหมัดเดียว ถ้าให้ศิษย์คนอื่นไป ก็แค่เป็นการเพิ่มความตลกแค่นั้นเอง
ดังนั้นถ้าลู่เฉินยอมลองดูจริงๆ นั้นเขาก็ต้องลองดูเพราะเป็นหนทางสุดท้ายแล้ว
“เขาใช้เพียงหมัดเดียวก็สามารถเอาชนะศิษย์ของท่านปู่ได้ใช่ไหม ฉันก็เหมือนกันเพียงต้องใช้แค่หมัดเดียวก็จะสามารถชนะเขาได้”ลูเฉินยิ้มและพูดอย่างราบเรียบ ในสายตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
เดิมทีเฉินกวงซิงยังมีความหวังอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินคำพูดที่จองหองแบบนี้ของลู่เฉิน ทันใดนั้นเขาก็หมดความมั่นใจใดๆแล้ว
ความสามารถของฮันเทียน ทุกคนล้วนเห็นด้วยกับตา เพียงหมัดเดียวก็สามารถต่อยศิษย์ที่คุณพ่อสอนมาเป็นสิบกว่าปีออกไปตั้งสองเมตรกว่า ทุกคนล้วนสามารถมองออกว่าฮันเทียนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการต่อสู้ คนธรรมดาจะเอาชนะเขาได้ยังไงล่ะ?
อย่าไปพูดว่าแค่หมัดเดียวเลย เฉินกวงซิงรู้สึกว่า ถ้าลู่เฉินสามารถต่อสู้กับเขานานกว่านี้ ก็ถือได้ว่าลู่เฉินชนะ
เมื่อเฉินหยางได้ยินคำพูดที่จองหองของลู่เฉิน ก็ส่ายหน้าเช่นกัน เขาไม่เชื่อว่าคนที่เก่งอย่างฮันเทียน จะสามารถเอาชนะได้ด้วยหมัดเดียวหรือ?
“ลู่…….น้อง เมื่อกี้คุณก็เห็นความเก่งของฮันเทียนแล้ว ศิษย์สามคนของฉันนั้นก็ถือได้ว่าเป็นตัวยงแล้ว แต่เมื่อเผชิญกับเขา แม้กระทั่งหมัดเดียวยังรับไม่ได้เลย คุณมาพูดโม้ต่อหน้าฉันแบบนี้ มันก็ไม่มีความหมายใดเลย”เฉินหยางพูด เขารู้ว่าพวกจางเซิงเฉียวยังไม่รู้ฐานะของลู่เฉิน และเขาก็ไม่อยากเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของลู่เฉินด้วย
“ล้วนเป็นตัวยงหรือ?”ลู่เฉินหัวเราะออกมาพร้อมพูดว่า”ท่านปู่เฉิน ไม่ใช่ว่าฉันไม่ไว้หน้าคุณ ถ้าพูดตามตรง ลูกศิษย์สามคนนั้นของคุณเป็นแค่ขยะในสายตาของฉัน”
“คุณ……”เฉินหยางรู้สึกจนคำพูด และไม่พอใจอย่างยิ่ง
พวกหวู่ฉางชิงเป็นลูกศิษย์ที่เขาสั่งสอนมาสิบกว่าปี แต่ในสายตาของลู่เฉินกลับกลายเป็นขยะ แม้ว่าเขามีบุคลิกที่ดี แต่ก็ทนไม่ค่อยได้แล้วเช่นกัน
“ท่านปู่เฉินครับ คุณอย่าเพิ่งใจร้อน เดี๋ยวฉันลงมือแล้ว คุณก็จะรู้ว่าตกลงฉันโม้หรือเปล่า”ลู่เฉินหัวเราะออกมา
“โอเค เมื่อกี้คุณบอกว่าอยากได้สิ่งตอบแทน ถ้าหากว่าคุณชนะ คุณอยากได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทน?”เฉินหยางคิดดูแล้วก็ใช่นะ ตอนนี้ใจร้อนก็เปล่าประโยชน์ ไม่แน่ลู่เฉินอาจเป็นตัวยงจริงๆก็ได้นะ
“จางเซิงเฉียวได้รับปากกับคุณว่าจะมอบที่ดินตอนเขตลู่เต่าให้คุณไม่ใช่หรือ?ฉันเอาที่ดินตอนนั้นของเขา”ลู่เฉินพูด
“โอเค ถ้าคุณชนะจริง นั้นที่ดินตอนเขตลู่เต่าก็เป็นของคุณแล้ว”เฉินหยางพยักหน้าโดยไม่มีการลังเลสักนิด
“เหล่าเฉิน แกมัวแต่ทำอะไรอยู่ มีแค่ลูกศิษย์สามคนนี้หรือ?รีบไปเรียกตัวยอเท่าที่คุณสามารถเรียกได้ออกมาหมดเลย ไม่นั้นแกก็จะแพ้แล้วนะ”
พอดีเวลานี้ จางเซิงเฉียวกำลังตะโกนอย่างใจร้อนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
“แกรีบอะไรกันนักกันหนา เดี๋ยวฉันจะให้คุณดูตัวยงที่แท้จริง”เฉินหยางพูดอย่างโกรธ
“ดูเหมือนว่าจางเซิงเฉียวรอไม่ไหวแล้ว นั้นฉันก็ขึ้นไปละกัน”ลู่เฉินบิดคอเล็กน้อย จากนั้นเดินไปทางฮันเทียนที่หยิ่งยโสกำลังยืนอยู่พื้นที่ตรงกลาง
“น้องลู่ คุณอย่าประมาทนะ คนนั้นเก่งสุดยอดจริงๆ”เฉินหยางพูดเตือนเขา
“ฉันบอกแล้วว่าหมัดเดียวก็คือหมัดเดียว ท่านปู่เฉินไม่ต้องห่วง”ลู่เฉิยยิ้มออกใาอย่างราบเรียบ จากนั้นก็สะบัดหน้าเดินไปทางนู้น
“คุณปู่ ดูจากความหยิ่งขอวเขาแล้ว ทำไมผมถึงรู้สึกว่าหมดความมั่นใจต่อเขาแล้ว?”เฉินจือหรานพูดด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนมาก
ในแง่หนึ่งเธอหวังว่าลู่เฉินจะสามารถต่อยฮันเทียนออกไปด้วยหมัดเดียวได้
แต่ในอีกแง่หนึ่ง เธอก็อยากให้ลู่เฉินแพ้ฮันเทียน เพราะลู่เฉินหยิ่งจนเกินไป
ผู้หญิงก็ซับซ้อนแบบนี้แหละ
เฉินหยางถอนหายใจออกมา เขาไม่ทราบว่าความมั่นใจของลู่เฉินมาจากที่ไหน
แต่ยังไงเขาก็ไม่เชื่อว่าลู่เฉินจะสามารถเอาชนะฮันเทียนได้
อย่าไปพูดถึงเลยว่าแค่หมัดเดียว ถ้าลู่เฉินสามารถต่อบกับเขาอีกหลายท่า เขาก็รู้สึกว่าลู่เฉินเก่งมากแล้ว
“จือหราน ไม่ว่าเขาจะชนะหรือแพ้ แม้คุณปู่ต้องเสียชื่อเสียเสียง ก็จะไม่ให้คุณไปแต่งงานกับคนในตระกูลจางแน่นอน”เฉินหยางพูดอย่างหนักแน่น
แม้ว่าชื่อเสียงของตนเองจะสำคัญ แต่เมื่อเทียบกับความสุขในชีวิตของหลานสาว มันก็ไม่สำคัญหรอก
สีหน้าของเฉินจือหรานเริ่มเปลี่ยนเล็กน้อย ถ้าวันนี้คุณปู่ไม่รักษาคำพูด นั้นก็ต้องถูกจางเซิงเฉียวเหยาะเย้ยแน่นอน แถมยังต่อหน้าแขกหลายๆท่านอีก มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก
บัดนี้ เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลู่เฉินจะสามารถเอาชนะฮันเทียนให้ได้
“พี่หราน เขาจะชนะฮันเทียนได้หรือ ทำไมฉันรู้สึกว่าเขาเหมือนพูดโม้อยู่ล่ะ?”เฉินเสี่ยวปิงมองไปดูเงาหลังของลู่เฉินแล้วพูด
แม้ว่าก่อนหน้านี้ถูกลู่เฉินเอาชนะเพียงท่าเดียว แต่เธอก็ยังไม่เชื่อว่าลู่เฉินจะสามารถชนะฮันเทียนได้
เพราะความสามารถที่ฮันเทียนปรากฏออกมานั้นทำให้คนน่าหวาดกลัวหรือเกิน
“ไอ้นี่เป็นซามูไรด้วยหรือ?”จั่วชิงเฉิง ขมวดคิ้ว เขาไม่รู้มาก่อนว่าลู่เฉินเป็นคนมีกังฟูในตัวด้วย แม้ว่าโลกปัจจุบันกังฟูนอกจากเป็นการป้องกันและบำรุงตัวแล้ว ไม่มีประโยชน์อื่นอีก แต่ถ้าเป็นตัวยงจริงๆ ก็จะได้รับความเคารพจากคนส่วนใหญ่ด้วย
จนถึงเวลานี้เขาถึงจะเข้าใจว่าทำไมตระกูลเฉินถึงเคารพลู่เฉินขนาดนี้
เพราะท่านปู่เฉินชอบฝึกวิชากังฟู แถมยังได้เปิดสมาคมสอนวิชากังฟูด้วย พอดีว่าลู่เฉินมีอุดมการณ์เดียวกันกับเขา
พอคิดแบบนี้ ความหวาดกลัวเล็กนิดที่จั่วชิงเฉิงมีแต่ลู่เฉินก็หายไปหมดอย่างสิ้นเชิง
“คุณชายจั่วครับ แม้ว่าไอ้นี่ก็เก่งอยู่ แต่ไม่สามารถชนะฮันเทียนได้แน่นอน ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองดูเถอะ ฉันสามารถเดิมพันได้ว่า เขาจะเหมือนลูกศิษย์สามคนของท่านปู่เฉิน ถูกฮันเทียนต่อยกระเด็นไปด้วยหมัดเดียวแน่นอน”วังซิงพูดอย่างมั่นใจสุดๆ
บอดี้การ์ดหลายคนนั้นของเขาล้วนไม่ใช่คู่แข่งของหวู่ฉางชิง ส่วนหวู่ฉางชิงก็ได้ถูกฮันเทียนต่อยจนบินกระเด็นด้วยหมัดเดียว
แม้ว่าก่อนหน้านี้ลู่เฉินได้ชนะบอดี้การ์ดหลายคนนั้นของเขา แต่เขาก็ไม่เชื่อว่าลู่เฉินจะสามารถชนะฮันเทียนได้
เพราะเขาได้เห็นความสามารถของฮันเทียนกับหน้ากับตาแล้ว มันไม่ใช่พลังกำลังที่คนปกติควรมี
“นี่ก็คือเหตุที่คุณปู่และคุณพ่อเคารพคุณใช่ไหม”เฉินจื่อหลงที่อยู่ข้างๆเหล่ตาลง เขารู้แล้วว่าที่จริงลู่เฉินไม่ใช่คนมีอำนาจใหญ่โตใดๆ เป็นแค่มีมีวิชากังฟูในตัว พอดีว่าลู่เฉินมีอุดมการณ์เดียวกันกับคุณปู่ จึงทำให้คุณปู่เคารพเขา
“ในเมื่อคุณเป็นซามูไร นั้นหวังว่าคุณอย่าทำให้ฉันต้องผิดหวัง”เฉินจื่อหลงพึมพำในใจ หากลู่เฉินพ่ายแพ้ให้กับฮันเทียนเขาจะต้องผิดหวังมากๆ และจะต้องเสียใจภายหลังในเรื่องที่เขาขอโทษให้กับลู่เฉินด้วย
“ได้ข่าวว่าคุณจะมาต่อยชนะฉันด้วยหมัดเดียว?”
ลู่เฉินเพิ่งเดินมาถึงข้างฮันเทียน ฮันเทียนก็มองมาที่ลู่เฉินอย่างเย็นชา นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาเขาได้เจอคนที่จองหองอย่างลู่เฉิน
ลู่เฉินหงายคิ้วขึ้นมา ยังไม่ได้พูดอะไร ฮันเทียนก็พูดต่อว่า”ตั้งแต่ที่ฉันได้สำเร็จวิชากังฟู คนที่ดูถูกฉันนั้นบ้างก็พิการ บ้างก็กลายเป็นสภาพผัก นั้นวันนี้คุณก็กลายเป็นสภาพผักไปละกัน”
เขาไม่ให้โอกาสลู่เฉินแม้แต่นิด ยกหมัดขึ้นมา เท้าหลังเตะที่พื้น และชูหมัดไปทางลู่เฉินอย่างรวดเร็ว