บทที่ 180 เกลี้ยกล่อมให้ลู่เฉินกลับไป
“ลู่เฉินก็เป็นแค่นักธุรกิจ ฉันได้ยินมาว่าเขาเปิดซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่โหดเหี้ยมจริงๆ” ชายร่างใหญ่คนนั้นชื่อ เซี่ย กล่าว
“อะไรนะลู่เฉินเป็นแค่เจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ต?” กั๋วเหว่ยมองชายร่างใหญ่ ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยไม่น่าเชื่อและรู้สึกว่าการเดินทางในวันนี้อาจไร้ผล
บ้านจางประกาศการต่อสู้ที่เด็ดขาดนี้เหมือนเป็นการต่อสู้ที่จริงจังมาก พวกเขายังคิดว่าลู่เฉินก็เป็นคนที่มีพลังเช่นเดียวกับปรมาจารย์ตงฟาง พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเป็นเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ต ดังนั้นการต่อสู้ที่เด็ดขาดนี้จึงยังคงเลวร้ายอยู่ดี
ถ้าลู่เฉินขึ้นเวที อาจะโดนหนักแน่ๆ
“ใช่ แบบนี้แหละที่ปรมาจารย์ผมไม่อยากมาดู” ชายร่างใหญ่พูด
กั๋วเหว่ยและคนอื่น ๆ สายตารู้สึกผิดหวัง
ที่สำคัญคือในการชมการต่อสู้ครั้งนี้พวกเขาใช้เงิน 500 หยวนในการซื้อตั๋ว ในตอนนี้พวกเขารู้สึกเหมือนถูกบ้านจางโกง
“ ขอโทษนะคุณเพิ่งบอกว่าลู่เฉินทำให้ตระกูลจางขุ่นเคืองถึงตายคุณหมายความว่าอย่างไร?” หลินอี้จุนมองไปที่ชายคนนั้นนามสกุลเซ่ และถาม
ชายร่างใหญ่มองไปที่หลินอี้จุนและหัวเราะเยาะ: “น่าจะเป็นลู่เฉินที่ทำให้จางดาวเเหรนโกรธ จากนั้นเช้าวันนี้ จางดาวเหรนก็พาคนไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตของลู่เฉินเพื่อทำร้ายข้าวของ แต่ลู่เฉินมันก็แน่นะ แปบเดียวก็สามารถเรียกคนจากใตเดินมาเยอะมาก เพื่อไฟจุดไฟดผ่าบ้านจาง ฉันได้ยินมาว่าอาคารที่กำลังสร้างของบ้านจางก็โดนด้วย และบ้านจางก็ปล่อยพวกเขา ต่อจากนี้ไปยวี่โจวจะมีลู่เฉิน แต่จะไม่มีบ้านจาง เป็นสถานการณ์ที่ไม่สิ้นสุด
ดังนั้นไม่ว่าคืนนี้ลู่เฉินจะเอาชนะปรมาจารย์ตงฟางได้ เขามาแล้ว ยังไงก็ออกไม่ได้อยู่ดี ”
“ฉันเดาว่าเขาอยู่กับกองกำลังใต้ดินมานาน แล้วคิดว่าเขาสามารถต่อสู้ได้ดีมาก แต่ต่อหน้าปรมาจารย์ตงฟาง เขาอะไรก็ไม่ใช่ คาดว่าปรมาจารย์สามารถเอาชนะเขาให้ตายได้ด้วยหมัดเดียว” ชายร่างใหญ่หัวเราะเยาะ
“เขา ทำไมเขาถึงรีบร้อนขนาดนั้น …… ” หลินอี้จุนหน้าซีด เริ่มจะยืนไม่ไหว
“ พี่ เป็นอะไรป่าว หรือว่าลู่เฉินจะเป็นพี่เขยจริงๆ?” หลินอี้เจียรีบพยุงหลินอี้จุนและถามด้วยความประหลาดใจ
“อืม ในงานเลี้ยงขอบคุณการกุศลเมื่อวานนี้ ฉันเองได้ยินจากบ้านจางพูดว่าลู่เฉินจะมาในวันนี้”หลินอี้จุนพูดอย่างอ่อนแรง
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าลู่เฉินเป็นเจ้าของเทคโนโลยีอี้ฉี บ้านจางเป็นถึงตระกูลที่เก่าแก่ในยวี่โจว ลู่เฉินจะเอาชนะตระกูลจาง ได้อย่างไง?
บางทีเทคโนโลยีอี้ฉี ของเขาต้องเข้ามาช่วย
การเผาคฤหาสน์ตบ้านจางและทำลายอสังหาริมทรัพย์กว่าหนึ่งพันล้านของบ้านจาง บ้านจางจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน
ทำไมเขาถึงกล้าทำแบบนี้?
จู่ๆหลินอี้จุนก็รู้สึกเสียใจที่เธอไปบ้านปู่และย่าของฉีฉีในเช้าวันนี้ เธอรู้สึกว่าเป็นเพราะการตัดสินใจที่เร็วเกินไป ทำให้อารมณ์ของลู่เฉินเปลี่ยนไป และเธอก็ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ
“ พี่เขยเขาเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตตั้งแต่เมื่อไหร่?” หลินอี้เจียกังวลเกี่ยวกับการเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตของลู่เฉินสำหรับความไม่พอใจระหว่างเขากับบ้านจากเธอไม่สนใจเรื่องนี้และเธอก็ไม่สนใจ
“ฉันก็ไม่รู้ ฉันได้ยินเขาพูดเมื่อสองสามวันก่อน ไม่ได้ล่ะ ฉันจะโทรหาเขา ให้เขามาไม่ได้” หลินอี้จุนหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาลู่เฉิน
โทรศัพท์ถูกรับในไม่ช้า หลินอี้จุนก็ถามว่า “ลู่เฉิน ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”
“ฉันมีอะไรต้องทำในทะเลสาบปี้หยาง กลับดึกหน่อยนะ” ลู่เฉินคิดว่าหลินอี้จุนกลับมาแล้ว
“คุณรีบกลับไป ไม่ต้องมาแล้ว ที่นี้มีคนจากบ้านจางต้องการเอาคืนคุณ!” หลินอี้จุนพูดอย่างกระตือรือร้น
“ … คุณอยู่ทะเลสาบปี้หยาง ?” ลู่เฉินถาม
“อืม คุณรีบไป พวกเราก็กำลังจะกลับล่ะ” หลินอี้จุนพูด
“ งั้นคุณกลับไปก่อนนะ คืนนี้ฉันมีเรื่องที่ต้องจัดการ” ลู่เฉินพูด
“ เรื่องระหว่างคุณกับบ้านจางเอาไว้ก่อนไม่ได้หรอ?” หลินอี้จุนพูดอย่างโกรธ ๆ
“ ฉันจะบอกคุณบางอย่าง เมื่อฉันกลับไปคืนนี้ ครั้งนี้ฉันจะบอกคุณทุกอย่าง” ลู่เฉินพูด วันนี้หลินอี้จุนหนีออกจากบ้านพูดตามตรงเขาก็เสียใจมากเช่นกัน เขาคิดว่าเขายังมีทุกอย่างต้องบอกหลินอี้จุน เกรงว่าเขาจะจากครอบครัวไปก่อน
“ คุณไม่ฟังฉันเหรอ?” หลินอี้จุนพูดอย่างเคร่งขรึม
“อย่ากังวล ฉันไม่เอาบ้านจางอยู่ในสายตาของฉันหรอก และพวกเขาก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของฉันได้” ลุ่เฉินรู้สึกถึงความโกรธของหลินอี้จุน อีกอย่างก็เป็นสามีภรรยากัน ถึงจะสัมผัสได้ถึงความโกรธ แต่ก็ยังมีความห่วงใยอยู่.
“ดี ถ้าคุณต้องการตาย ฉันจะไม่สนใจคุณ!” หลินอี้จุนพูดและวางสายโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว
หลินอี้เจียและเล่ยลี่ลี่มองมาที่ฉัน และฉันมองไปที่เขา ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ
“คนสวย ลู่เฉินเป็นสามีคนหรอ?” ชายคนนั้นถาม
“ใช่.” หลินอี้จุนพยักหน้า
“ ฉันแนะนำให้เธอ อย่าให้เขามา มิฉะนั้นจะเกิดคำถามว่าคืนนี้เขาจะกลับไปได้หรือไม่ถึงแม้ว่าบ้านจางจะไม่ฆ่าเขา ชีวิตเขาที่เหลือคงต้องนอนโรงพยาบาลแล้วแหละ” ชายร่างใหญ่เอ่ยอย่างใจดี
บ้านจางเป็นตระกูลทหารผ่านศึกที่แท้จริง แม้ว่าพวกเขาจะมีโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้มากมาย พวกเขาไม่จำเป็นต้องลงมือเอง ก็สามารถเรียกคนมาลงมือทำแทนได้
แม้ว่าจะเป็นสังคมแห่งกฎหมาย แต่ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย แต่สำหรับคนธรรมดาเท่านั้น หากบ้านจางกำหนด ถึงแม้ว่าลู่เฉินจะถูกฆ่าก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
การฆ่าใครสักคนสำหรับบ้านจาง ยังคงสามารถปราบปรามได้
ยิ่งไปกว่านั้นลู่เฉินเผาคฤหาสน์ของจางและอสังหาริมทรัพย์ของจาง
เมื่อชายร่างใหญ่พูดหลินอี้จุนก็ยิ่งไม่พอใจและลู่เฉินก็ไม่ฟังคำแนะนำของเธอ เธอไม่รู้จะทำอย่างไรนอกจากกังวล
“พี่ โทรหาตำรวจเถอะ ถ้าคฤหาสน์ของบ้านจางถูกพี่เขยเผาจริงๆ บ้านจางจะไม่ปล่อยเขาไปในคืนนี้อย่างแน่นอน” หลินอี้เจียยังตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้.
“ฉันขอแนะนำให้คุณไม่ต้องเสียแรงเปล่า ไม่ว่าจะเป็นจางดาวเหรนที่จะทำลายซุปเปอร์มาร์เก็ตของลู่เฉิน หรือลู่เฉินเผาคฤหาสน์บ้านจาง ตำรวจก็ไม่สนใจ พวกเขาต้องยอมรับความคับข้องใจระหว่างลู่เฉินกับบ้านจาง และปล่อยพวกเขาไปแก้ด้วยตัวเอง” ชายร่างใหญ่พูด
หลินอี้จุนพยักหน้า โดยคิดว่าถ้าวันนี้เกิดเหตุการณ์ใหญ่ขึ้น และตำรวจไม่ทำอะไร ก็ต้องยอมรับความคับข้องใจระหว่างลู่เฉินและบ้านจาง และการแก้แค้นของพวกเขาจะไร้ประโยชน์
ตำรวจจะไม่มาแน่นอน
“ช่างเถอะ อย่าลืมขอพรเยอะๆนะ” ชายร่างใหญ่ก็ไม่อยากพูดอะไรเยอะ พวกเขาก็แค่ดูสนุก ๆ ไม่ว่าครอบครัวของลู่เฉินและจางจะเป็นอย่างไรมันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขามาก
“ ปรมาจารย์กั๋ว พวกเราเข้าไปก่อนเถอะ” ชายร่างใหญ่ทักทายกั๋วเหว่ยและคนอื่น ๆ แล้วเดินเข้าไปในวิลล่าก่อน
“ พยายามเกลี้ยกล่อมให้เขากลับไป” เมื่อเห็นท่าทางสิ้นหวังของหลินอี้จุน กั๋วเหว่ยก็พูดอะไรบางอย่างแล้วเดินเข้าไปในวิลล่าพร้อมกับเด็ก