บทที่ 176 รถชนเข้ากับรั่วและพุ่งลงทะเล
ทันทีที่คุณหมอพูดประโยคนั้นจบ
“พลั่ก!” หมอคนนั้นโดนคุณพศกระแทกหมัดเข้าเต็มๆ เขากระเด็นติดกำแพง เผลอโดนเข้ากับอุปกรณ์ผ่าตัดเข้า
“อ้าก!” เสียงหมอร้อง ตอนนี้ห้องผ่าตัดยุ่งเหยิงไปหมด เศษกระจกแตกกระจัดกระจายเต็มพื้น
ทุกคนมองหน้าคุณพศด้วยความตกใจกลัว แล้วก็มองดูคุณหมอที่นอนชักอยู่ที่พื้น
กษาปณ์รีบเข้ามาทันที แล้วก็มองคุณพศด้วยความโมโห “พศ นี่กำลังทำอะไรอยู่?”หลังจากนั้นบอดี้การ์ดสี่คนก็ดึงตัวเขาออกมา
เรื่องทั้งหมดนี้ หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงผ่าตัดไม่ได้รับรู้เลยแม้แต่น้อย เธอไม่ได้ยิน ไม่ได้เห็น แต่ได้หลับอยู่แบบนั้น เหมือนกับว่าเธอกำลังเดินจากไปที่ไกลๆ…..
นาราฝัน ในฝันนั้นมีเด็กผู้ชายตัวน้อยหัวเราะร่าเริง ยื่นมืออ้วนๆของเขาออกมาแล้วเรียกเธอว่าหม่ามี๊
ใจเธอละลายลงทันที เธอยื่นมือไปจะกอดเด็กผู้ชายที่ลอยอยู่ในอากาศ แต่ว่าเขาได้แต่เรียกหม่ามี๊ แล้วก็ลอยออกไปไกลเรื่อยๆ
นาราพยายามตะโกนสุดชีวิต แต่ว่าเธอก็จับมือน้อยๆนั้นไว้ไม่ได้ เขาค่อยๆห่างออกไปเรื่อยๆ…
ทันใดนั้นนาราก็ลืมตาขึ้นทันที เธอกลับมาสู่โลกของความเป็นจริง ลูก ลูกรักของเธอ!
เธอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าเธออยู่ที่โรงพยาบาล ด้านข้างเธอมีพยาบาลเฝ้าอยู่ พอพยาบาลเห็นเธอก็รีบลุกขึ้นทันที “คุณผู้หญิงฟื้นแล้วหรอคะ?”
ที่แท้เธอก็ยังไม่ตาย เธอยังมีชีวิตอยู่ เธอยื่นมือไปลูบท้อง ตอนนี้มันแบนแล้ว และเธอก็มีอาการปวดเล็กน้อยในช่องท้อง
“ลูกฉันล่ะคะ…..” เสียงของเธอแหบสั่น มันเบาจนแทบจะไม่มีเสียงออกมา
พยาบาลรีบปรับเตียงของเธอขึ้นทันที “ดื่มน้ำก่อนนะคะคุณผู้หญิง”
นาราดื่มลงไปอึกนึง “ลูกฉันล่ะคะ? ช่วยอุ้มเขามาให้หน่อยได้มั้ย”
“ลูก..ลูก คุณผู้หญิงคะ ฉันว่าคุณพักผ่อนก่อนดีกว่า เดี๋ยวพวกเรามา” เห็นได้ชัดว่าพยาบาลคนนี้กำลังหลีกเลี่ยงอยู่ ทำให้นาราขมวดคิ้วแน่น
เธอไม่สนใจว่าเธอจะไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว เธอยื่นมือไปจับแขนของนางพยาบาลคนนั้น “ลูกฉันอยู่ไหน?”
เธออยากเจอลูกของเธอ
“คุณผู้หญิง คือว่า..พอเด็กคลอดออกมาก็เสียชีวิตแล้วค่ะ เขาขาดอากาศหายใจนานเกินไปก็เลยช่วยชีวิตไว้ไม่ทัน” พอนางพยาบาลพูดจบก็ร้องไห้ออกมา
เหมือนมีระเบิดดังขึ้นในหัวของนารา เธอจ้องหน้าพยาบาลคนนั้น แล้วก็ถอดสายน้ำเกลือออก เธอลงจากเตียงแล้ววิ่งออกไปข้างนอกทันที
“คุณผู้หญิงออกไปไม่ได้นะคะ คุณไม่ได้ใส่รองเท้าด้วยซ้ำ เลือดออกด้วย!” นางพยาบาลคนนั้นรีบหยิบรองเท้าและวิ่งตามมา
นาราวิ่งไปข้างหน้าราวกับคนบ้าในชุดผู้ป่วย
ในที่สุดเธอก็เห็นป้าย “ห้องเด็กแรกเกิด”
เธอรีบเปิดประตูเข้าไปทันที แล้วก็พอดีกับมีคนเดินออกมาพอดี
เธอจับแขนคนๆนั้นไว้ “คุณหมอคะ ลูกฉันล่ะ? เขาอยู่ไหน? ขอร้องช่วยไปอุ้มเขาออกมาให้ฉันหน่อยเถอะค่ะ!”
คุณหมอคนนั้นถอนหายใจออกมา แล้วมองหน้านาราอย่างรู้สึกผิด “คุณผู้หญิง ขอโทษจริงๆนะครับ เราช่วยเด็กน้อยไว้ไม่ทัน ตอนที่คุณถูกส่งตัวมาเขาก็ขาดอากาศหายใจไปนานแล้ว อย่าเศร้าไปเลยนะครับ คุณกับท่านประธานก็ยังอายุน้อย ยังไงก็มีใหม่ได้อีก!”
พอคุณหมอพูดจบ นาราที่ยืนอยู่หน้าห้องเด็กแรกเกิด แรงกายทั้งหมดของเธอหายไปทันที
นางพยาบาลมาใส่รองเท้าให้เธอตอนไหนเธอยังไม่รู้ตัวซะด้วยซ้ำ
เธอยืนว่างเปล่าอยู่ตรงระเบียงแล้วมองไปที่ท้องฟ้า
ลูกน้อย แม่ขอโทษ!
“ตายแล้ว คุณผู้หญิง ทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะครับ? เมื่อกี้ผมกลับไปทำซุปมาก็เลยรู้ว่าคุณฟื้นแล้ว เดี๋ยวคุณผู้ชายก็มาแล้ว คุณผู้หญิงเชิญกลับห้องเถอะครับ”
เสียงของลุงบีมทำให้นารากลับมาได้สติอีกครั้ง เธอมองหน้าลุงบีม แล้วก็ค่อยๆเดินต่อไปข้างหน้า
ลุงบีมกำลังถือถ้วยร้อนๆอยู่ เขาก็เลยรีบวิ่งเอาซุปไปเก็บที่ห้อง ก่อนจะกลับมาพยุงนาราไป
แต่พอเขากลับมานาราก็ไม่อยู่ตรงทางเดินแล้ว เขาหาเธอทุกมุมก็หาไม่เจอ
เขารีบโทรหาคุณพศทันที ตอนนี้เขาอยู่ชั้นล่างแล้ว
เขาไม่ได้หลับมาหลายวันแล้ว เอาแต่เฝ้าอยู่ในห้องผู้ป่วย วันนี้เป็นวันที่สามแล้ว หมอบอกว่านาราน่าจะฟื้นวันนี้
เขากลัวว่าถ้านาราตื่นมาเจอเขาในสภาพสกปรกมอมแมมแล้วจะรู้สึกรังเกียจ ก็เลยกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
พอเขาใส่เสื้อผ้าเสร็จก็ได้ยินว่านาราฟื้นแล้ว
เขารีบขับรถพุ่งมาด้วยความเร็ว นารา ไม่ต้องปวดใจไป พวกเรายังมีลูกได้อีกแน่นอน
เขาจะไม่ขังเธอไว้ที่เกาะอีกแล้ว เธออยากไปไหนเขาก็จะให้เธอไป เธออยากไปหาแม่เขาก็จะพาเธอไป เขาผิดไปแล้วจริงๆ
เขาจอดรถไว้ด้านล่างของโรงพยาบาล ยังไม่ทันจะล็อครถด้วยซ้ำ เขาก็วิ่งขึ้นไปยังห้องพักของนาราทันที
ไม่มีคนอยู่!
เขาเจอลุงบีมที่หน้าประตูห้อง “นาราล่ะ?”
“ผมไม่ทราบครับ เมื่อกี้ผมเอาซุปมาวาง พอกลับมาอีกทีคุณนาราก็หายไปแล้ว” ลุงบีมตกใจมาก
คุณพศวิ่งไปหาทั่วทุกที่ แต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงาของนารา
ในตอนนั้นเองนาราเดินลงบันไดทีละขั้น ทีละขั้น เธอยืนอยู่ตรงหน้าประตูโรงพยาบาล เงยหน้ามองท้องฟ้า หรือว่าลูกน้อยก็ไม่ต้องการหม่ามี๊เหมือนกันงั้นหรอ?
พอเธอเห็นคุณพศออกมาจากรถและขึ้นตึกไป เธอจึงออกมาจากหลังเสา แล้วก็ตรงไปที่รถทันที
เธอก็เห็นว่าเขายังไม่ได้ดับเครื่องยนต์เลยด้วยซ้ำ
เธอขึ้นไปนั่งบนรถ แล้วเหยียบคันเร่งออกไปจากโรงพยาบาลทันที
คุณพศที่หานาราไม่เจอก็เดินไปที่หน้าต่างอย่างกระวนกระวายใจ ก็เห็นว่ารถของตัวเองค่อยๆขับออกไปแล้ว
ตอนนั้นสมองเขาหยุดทำงานลงชั่วขณะ หลังจากนั้นก็คิดขึ้นได้ว่า นารา!
เขาคว้ากุญแจของลุงบีมมาแล้วกระโดดออกมาจากหน้าต่าง ข้ามไปที่ระเบียงชั้นสอง แล้วก็โดดลงไปที่รถของลุงบีม
เขาสตาร์ทรถแล้วรีบขับออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ว่าตอนนั้นรถของนาราก็ได้ออกไปจากใจกลางเมืองแล้ว เธอพุ่งตรงไปด้วยความเร็วอย่างบ้าระห่ำ
ทักษะของนาราก็ได้คุณพศนี่แหละที่เป็นคนสอน แต่ว่าเธอไม่ได้ขับนานแล้ว บวกกับร่างกายที่อ่อนแอของเธอ รถของเธอก็เลยโอนไปเอียงมาเป็นรูปตัวS”
คุณพศตามเธอทัน หัวใจของเขาเต้นแรงจนจะทะลุออกมา “นารา ลงมาเดี๋ยวนี้!”
นาราไม่ได้ยินเสียงใดๆจากภายนอกทั้งนั้น เธอเหยียบคันเร่งด้วยความบ้าระห่ำ เธอเร่งความเร็วขั้นสุด และมุ่งตรงไปที่สะพาน!
ในขณะนั้น คุณพศรู้สึกว่าโลกกำลังสั่นคลอน เขามองรถที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เขารถกระจกแล้วพูดว่า “นารา ฟังฉันเถอะ จอดรถก่อน ข้างหน้าอันตรายมากนะ ฉันขอร้อง!”
แต่ว่าตอนนี้สายตาของนาราเห็นแค่ข้างหน้าเท่านั้น สมองเธอโล่งโพลนไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น
ลูกรัก แม่ขอโทษนะ ถ้าเกิดว่าลูกได้มาเกิดอีกครั้งนึง แม่จะไม่มีวันยอมให้ลูกจากแม่ไปอีก ลูกอยู่ใต้ดินคงจะหนาวสินะ หม่ามี๊กำลังจะไปหาแล้ว
หลังจากผ่านไปสิบนาทีรถก็ขึ้นไปบนสะพานสูง นาราหลับตาแล้วยิ้มอย่างอนาถ ให้ชีวิตเธอมันจบลงตรงนี้เถอะ ตอนนี้ลูกที่ชั่วร้ายและน่าสะอิดสะเอียนนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธออีกต่อไปแล้ว
พอคุณพศเห็นรถตรงหน้าเขาตรงไปที่สะพาน เขาก็ตะโกนออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “นารา…”
แต่เสียงของเขาก็ปลิวไปตามคลื่นลมของทะเลอย่างไร้ความปรานี รถคันข้างหน้าทะลุผ่านรั้วกั้น แล้วตกลงไปในทะเล….
คุณพศหลับตาลง รถของเขาชนเข้ากับรั้วป้องกัน แต่ว่ามันไม่ได้ตกลงไป ติดอยู่กลางเสาเหล็ก
ทุกสิ่งดูเงียบสงัด รถของนาราที่ตกลงไปในทะเลถูกคลื่นลูกใหญ่ซัดขึ้นมา ร่างของเธอลอยออกมานอกจากกระจกที่แตก แล้วก็ลอยไปแสนไกล…
หลังจากนั้นครึ่งเดือน ณ โรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูลปัญญาพนต์ คุณพศค่อยๆลืมตาขึ้นมา แสงพระอาทิตย์ยามบ่ายส่องประกายมาที่ห้องพักของเขา ในห้องมีเครื่องปรับอากาศเพียงพอ แต่ว่ายังมีเหงื่อออกเต็มใบหน้าของเขา
ที่นี่ที่ไหน? นาราล่ะ?