ตอนที่237ครอบครัวสามอย่างอบอุ่นและหวานชื่นใจ
นาราได้ใส่เนยแข็งลงไปในกระทะ และเบคอนสองแผ่น
รอจนมันสุก
เสียงทอดที่ดังมาจากกระทะ กลิ่นที่หอมได้ลอยไปทั่ว
ไม่นานคณพศที่ได้กลิ่น
คณพศที่ตามกลิ่นหอมนั้นมาถึงที่ห้องครัว เห็นนาราและลูกที่กำลังทำกับข้าวอยู่นั้น
เขาได้รู้สึกถึงกลิ่นอายของความสุข
นาราที่ไม่รู้ว่าคณพศได้มายืนอยู่ข้างหลังแล้วนั้น เธอได้กำลังจะเอาไข่ม้วนมาใส่จาน
และอธิบายให้มิราจฟังว่า“นี้เป็นอาหารที่เจอบ่อยที่สุดในประเทศจีน ลูกลองกินก่อนนะ ถ้าไม่อร่อย
เดียวแม่ทำอย่างอื่นให้กิน”
“อร่อยๆครับ” มิราได้ตอบอย่างไม่รอช้าโดยที่ยังไม่ทันที่จะกินเลย
“ถ้าเป็นอาหารที่แม่ทำก็อร่อยหมด เพราะนี้เป็นอาหารเช้าแห่งความรักที่แม่ทำ”
“เจ้าตัวเล็กคนนี้ ปากหวานจัง” นาราพูดไปลูบหัวของมิราไป
และเอาจานที่ใส่ไข่ม้วนไปวางบนโต๊ะให้มิรา” ยังร้อนอยู่นะ กินช้าๆ”
“ครับ คุณแม่ หนูรอไม่ไหวที่จะชิมอาหารที่แม่ทำแล้ว”
มิราเอาซ้อมไปจิ้มไข่ม้วนที่อยู่ในจาน
แต่มิราที่ว่องไวแล้ว ยังมีคนที่ไวกว่าเขา
คณพศได้เอามือไปหคีบไข่ม้วนนั้นใส่เข้าไปในปากโดยที่ไม่ใช้ซ่อมและไม่กลัวร้อน
คณพศได้เคี้ยวสองสามคำและกลืนลงไป เขาก็ได้ชมว่า
“พระเจ้า อร่อยมาก นารา มันอร่อยมากเลย”
“พ่อ พ่อทำแบบนี้ได้อย่างไง นั้นเป็นอาหารเช้าที่แม่ทำให้หนูนะ”
มิราได้โมโหและเอาไปมือเท้าที่เอวให้รู้ว่าตัวเองไม่พอใจ
นี้พ่อทำเกินไปแล้วนะ เป็นผู้ใหญ่มาแย่งของกินของเด็ดได้อย่างไร
แล้วเป็นอาหารที่แม่ทำให้หนูเป็นพิเศษด้วย
ใบหน้าเล็กของมิราที่โกรธ คณพษก็ได้อุ้มมิราขึ้นมา
แล้วพูดอย่างไม่จริงใจว่า“ นี้พ่ออยากชิมให้หนูไงว่ามันอร่อยมั้ย
แต่พอชิมแล้วมันอร่อยมาก พ่อเลยกินจนโดยไม่รู้ตัว”
“ฮึ่ม!”มิราได้กอดอกไว้ ไม่พอใจมากที่พ่อแอบกินของกินของเขา
นาราที่ยุ่งกับการทำกับข้าวอยู่นั้นไม่รู้ว่า คณพศได้เข้ามาที่ห้องครัว
และยังไปแย่งของกินของลูกอีกด้วย
นาราที่กำลังจะเอ่ยปากพูด แต่คนรับใช้ในบ้านได้เข้าแล้วก้มหลังและบอกว่า
“คุณชายสาม ข้างนอกมีแขกมาพบ”
คณพศที่กำลังกินอยู่อย่างอร่อยนั้น ได้ให้สัญญาณกับคนรับใช้
ให้เธอเข้ามา
นาราได้ตะลึงไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าเป็นใคร มาเช้าขนาดนี้
แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะที่นี่เป็นประเทศฝรั่งเศส
ไม่ใช่เมืองธิตกล ถึงจะมีคนมาหาเขา ฉันน่าจะไม่รู้จัก
คิดไป เธอก็ได้เอาไข่ม้วนใส่จานและเอาไปวางบนโต๊ะอาหาร
ทั้งพ่อทั้งลูกเพื่อจะแย่งของกินกันเพียงไม่กี่ชิ้นจนมั่วไปหมดแล้ว
“นี้มันเป็นของหนู พ่อ ทำแบบนี้ได้ไง ”
แขนของมิราที่สั้น เลยแย่งไม่ทัน
คณพศยึดไข่ม้วนทั้งหมดไว้ที่ตนเอง แต่คณพศก็ได้รู้สึกไม่ดี
เลยแบ่งไข่ม้วนบางส่วนอย่างไม่เต็มใจให้กับมิรา
“เด็ดเล็กกินเยอะไม่ดีต่อกระเพาะ”
นารา“:….”
“ใช่หรอๆ คุณพ่อไม่อยากที่จะแบ่งให้หนูมากกว่า ”
มิราก็ได้ค้อนตา“ การให้เป็นคุณธรรมอันดีงาม พ่อลืมมันไปแล้วอย่างสิ้นเชิง”
คณพศไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยเลย และหัวเราะแล้วพูดว่า” พ่อควรที่จะต้องเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ลูกฟังแล้วละ”
“แต่นี้เป็นอาหารเช้าแห่งความรักที่แม่ทำให้หนูนะ พ่อแอบกินไม่พ่อ ยังจะเอาไปกินคนเดียวอีก มันเกินไปแล้ว”
มิราไม่ยอมและพยายามที่จะปีนขึ้นไปบนโต๊ะเพื่อที่จะแย่ง ไข่ม้วนกลับมาจากจานอาหารของพ่อ
เห็นทั้งคู่ที่แย่งอาหารกันอยู่นั่น นาราได้รู้สึกถึงความอบอุ่นนิดหนึ่ง
แต่นาราก็ได้ส่ายหัว พยายามที่จะลืมความรู้สึกนี้ไป
เธอจะต้องไปจากที่นี่ในไม่ช้า เธอได้รับปากกับพี่ลั่วไว้ว่าจะกลับไปอยู่กับเขา
เธอจะมีความคิดอื่นไม่ได้
“นารา นั้นใช่เธอมั้ย? คณพศไม่ได้โกหกฉัน
เธอไม่เป็นอะไรจริงๆด้วย ดีมากเลย ฉันคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอเธอแล้วเสียอีก”
เสียงที่คุ้นเคยนั้นแฝงไปด้วยเสียงที่แหบลอยมาจากหน้าประตู
นาราได้เงยหน้าไปมอง คาดไม่ถึงว่าจะเป็นไลลากับผิงผิง
นาราได้ตกใจและยืนขึ้นมา เอามือปิดที่ปาก
ยังไม่ทันจะพูดอะไรเลย เธอก็ร้องไห้แล้ว “ไลลา ผิงผิง พวกเธอมาได้ไง?”
ถ้าเจอพวกเธอที่เมืองธิตกลมันไม่แปลก แต่ที่นี่คือประเทศฝรั่งเศส
อะไรจะบังเอิญขนาดนี้?
“ไม่ต้องมาพูดเลย นี้เธอแกล้งพวกเราใช่มั้ย เธอยังมีชีวิตอยู่นิ
ฉันกับไลลาเสียใจมาหลายปีเลย ที่สำคัญเรายังจัดงานเซ่นไหว้เธอทุกปีด้วย
เธอนี้ร้ายจริงๆ” อารมณ์ของผิงผิงฮึบเหิมมาก และพูดอย่างสะอึกสะอื้น
ตอนที่ไลลาได้ข่าวว่านาราตกลงไปในทะเล
เธอเสียใจมากและร้องไห้จนสลบไป
หลายปีมาแล้ว เมื่อครบรอบวันที่นาราตกทะเล
ทั้งคู่จะมาเซ่นไหว้นาราที่ริมทะเล
แต่ตอนนี้นารายังมีชีวิตอยู่ เป็นเรื่องที่เกิดความคาดหมาย
แต่เธอชอบเรื่องที่เกินความคาดหมายนี้!
สวรรค์มีตา เขาคงไม่อยากให้คนดีอย่างนาราต้องจบชีวิต
ถึงให้นารากลับคืนมา
“พวกเธอได้ข่าวเร็วจังนะ ฉันพึ่งไปรับนารากลับเมื่อวานนี้เอง
พวกเธอรู้ได้ไง?” เห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนนี้ คณพศรู้สึกไม่ค่อยอยากจะต้อนรับ
เพราะเข้ามารบกวนครอบครัวที่กำลังอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่น
นาราดีใจจนร้องไห้ ฉันลืมไปเลย “ไลลา ผิงผิง เชิญนั่งก่อน”
ไลลาและผิงผิงพยักหน้า ไม่ได้สนใจคณพศและได้นั่งลงทีละคน
ไลลาเป็นคนที่ตรงไปตรงมา เธอไม่สามารถเก็บคำพูดไว้ในใจได้
เลยถามนาราไปว่าหลายปีที่ผ่านมา เธอไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน
ที่สำคัญยังไม่ให้เรารู้ มันเกินไปแล้ว
“ใช่ ถึงเธอจะไม่อยากให้คนอื่นรู้ แต่เธอควรที่จะบอกพวกเรา”
ผิงผิงได้พยักหน้าตาม
นาราที่ไม่ได้เจอไลลาและผิงผิงเป็นเวลานานนั้น
ความรู้สึกนับร้อยเกิดขึ้นในใจ ได้ร้องไห้จนเสียงหลง
“พวกเธอ ฉัน… ฉัน….”
สองคนนี้ที่มาทำให้นาราร้องไห้ ไม่น่าให้ทั้งคู่เข้ามาตั้งแต่แรกเลย
คณพศอยากที่จะไปเช็ดน้ำตาให้นารา เห็นนาราร้องไห้ใจเขาก็รู้สึกเจ็บปวด!
เห็นนาราที่ร้องจนพูดอะไรไม่ออกนั้น ไลลาได้ไปเช็ดนำตาให้นารา
และบอกว่า “นาราไม่ร้องไห้นะ พวกเรายังไม่ร้องไห้เลย
พวกเราได้มาเจอกันอีกครั้งนะ ไม่ใช่การตายจากกัน อะไรกัน ไม่ร้องไห้นะ”
ผิงผิงก็ได้เช็ดน้ำตา ดวงตาที่แดงของผิงผิง เธอได้พูด ว่าพูดว่า “ใช่ นารา หลายปีที่ผ่านมาไม่ง่ายเลยที่เธอจะผ่านมันไป
ไม่งั้นเธอคงติดต่อมาหาพวกเรานานแล้วแหละ”