The king of War – บทที่ 113 ช่างกล้านัก

บทที่ 113 ช่างกล้านัก

หยางเสี่ยงหมิงโอหัง ต่อให้กิจการของตระกูลทั้งหมดกำลังเผชิญกับวิกฤต แต่ก็ยังคงหยิ่งผยองได้เหมือนเดิม

เฉียนเปียวมองหยางเซี่ยงหมิงอย่างไร้ความรู้สึก เพียงแต่รู้สึกเศร้าแทนกบในกะลาอย่างตระกูลหยาง พวกเขาไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าคนที่ตัวเองทำผิดด้วยนั้น เป็นใคร

"ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ขอให้ตระกูลหยางอยู่รอดฝั่ง ข้าน้อยลาก่อน!"

เฉียนเปียวยกมือกล่าว สำหรับบุญคุณที่ช่วยชีวิตของตระกูลหยาง ได้ทดแทนหลายเท่าแล้ว จากนี้ไปความเป็นความตายของคนตระกูลหยาง จะไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองอีกต่อไป

หยางเซี่ยงหมิงหลับตาลง ด้วยสายตาอาฆาต

เห็นเพียงเขาโบกมือ ยอดฝีมือกว่าสิบคนของตระกูลหยาง ขวางหน้าประตูทันใด

เฉียนเปียวขมวดคิ้ว หัวไปมองหยางเซี่ยงหมิง "ผู้นำตระกูลหยาง หมายความว่าไง?"

"ตระกูลหยางของฉันเป็นที่ๆแกจะมาก็มา จะไปก็ไปงั้นหรือ? "

หยางเซี่ยงหมิงหน้าตาดุดัน กล่าวอย่างไม่ไยดี "ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน แปดปีก่อน แกได้ตายไปแล้ว ในเมื่อฉันช่วยชีวิตแก ไม่ว่าแกจะจัดการเรื่องของตระกูลหยางมากมายเท่าไหร่ แต่ชีวิตแกก็ยังเป็นของฉัน"

เฉียนเปียวคิดพิจารณา "ผู้นำตระกูลหยาง ไม่คิดจะจากกันดีๆแล้วใช่มั้ย?"

สำหรับตระกูลหยาง นอกจากเฉียนเปียวจะทดแทนบุญคุณแล้ว ก็ไม่มีความรู้สึกอื่นใดอีก

หยางเซี่ยงหมิงกล่าวอย่างเลือดเย็น "ตอนนี้ฉันมีสองทางให้แกเลือก ทางแรก แกอยู่ที่ตระกูลหยางต่อไป ฉันไม่มีทางทำไม่ดีกับแก ทางที่สอง ทิ้งชีวิตของแกไวที่ตระกูลหยาง"

"ผู้นำตระกูลหยาง คุณน่าจะเข้าใจ แค่ตระกูลหยาง กักผมไว้ไม่ได้หรอกนะ"

เฉียนเปียวกล่าวอย่างสงบ ด้วยสีหน้าไม่หวาดกลัวใดๆ

หยางเซี่ยงหมิงเยาะเย้ย “บนโลกนี้ ไม่ว่าใครจะฝีมือดีขนาดไหน ก็ต้านทานกระสุนปืนไม่ได้!”

เมื่อเขาพูดจบ ยอดฝีมือตระกูลหยางสิบคนที่ล้อมเฉียนเปียวไว้ หยิบปืนที่ซ่อนอยู่ในชุดสูทออกมา

ราวกับรอคำสั่งของหยางเซี่ยงหมิง ก็จะปลิดชีพเฉียนเปียวในทันใด

เมื่อเฉียนเปียวเห็นดังนี้ หน้าตาเคร่งเครีดขึ้นไปอีก แม้เขาจะรู้ถึงความร้ายกาจของหยางเซี่ยงหมิง แต่ยังไงก็ไม่คาดคิด ว่าตนทำเพื่อตระกูลหยางมากมายขนาดนี้ วันนี้อยากจากกันด้วยดี ตระกูลหยางกลับทำกับเขาแบบนี้

เป็นครั้งแรก ที่เขารู้สึกอาฆาตอย่างแรงกล้าต่อตระกูลหยาง

"ไอ้เนรคุณ ผู้นำฆ่ามันไปเลยก็จบ จะให้มันเลือกอีกทำไม?"

"คิดว่าตัวเองมีฝีมือนิดหน่อย แล้วจะมองข้ามตระกูลหยางของเราได้?รนหาที่ตายจริงๆ!"

"ก็แค่สุนัขรับใช้ของตระกูลหยางของฉัน ยังคิดจะกัดเจ้าของอีก ไอ้แกว่งเท้าหาเสี้ยน!"

คนของตระกูลหยาง ด่าเฉียนเปียวไม่หยุด หนึ่งในนี้ ถึงขั้นหลายคน ล้วนเคยได้รับการช่วยชีวิตจากเฉียนเปียวมาแล้วทั้งนั้น แต่ในตอนนี้ กลับไม่มีแม้แต่คนเดียวออกหน้าแทนเขา แต่กลับดูถูกเหยียดหยามเขาอีก

เฉียนเปียวหน้าตาเฉยชา กล่าวอย่างสงบ "หลายปีมานี้ ผมเฉียนเปียวทำเรื่องร้ายๆมามากมายตลอดเวลาที่อยู่กับคุณ แปดปีก่อน ผมต้องตายแล้ว นี่มีชีวิตเพิ่มมาอีกแปดปี ผมได้กำไรแล้ว สำหรับผม ความตายน่ากลัวที่ไหนกัน?"

เมื่อพูดจบ เขาอ้าแขนออก "ในเมื่อให้ผมเลือก งั้นผมเลือกข้อสอง ตาย!"

ขณะนี้ เขาไม่มีความกลัวแต่อย่างใด และไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย หลายปีมานี้เขาผ่านอะไรมามาก แต่ความจริงมีเขาเองเท่านั้นที่รู้ ความเจ็บปวดในใจ มันทุกข์ทรมานเหลือเกิน สำหรับเขา มีแค่ความตายเท่านั้นที่จะปลดพันธะได้จริงๆ

เดิมทีหยางเซี่ยงหมิงแค่อยากบีบให้เฉียนเปียวทำเพื่อตระกูลหยางต่อไป แต่ไม่คิดว่าเขาไม่อยากอยู่แล้วเสียด้วยซ้ำ เลือกที่จะตายสถานเดียว

“เฉียนเปียว แก่ยังวัยรุ่น ยังมีเวลาอีกมาก เพียงแค่อยู่กับตระกูลหยาง ไม่มีอะไรที่แกไม่ได้ แล้วทำไมต้องเลือกที่จะตายเล่า?”

หยางเซี่ยงหมิงไม่เต็มใจ อยากจะพูดโน้มน้าวเฉียนเปียว

ถ้าก่อนหน้าที่ยังไม่เจอหม่าชาว บางทีเขาอาจเลือกที่จะอยู่ที่ตระกูลหยาง ตอนนี้รู้แล้วว่าเขายังมีชีวิตอยู่ แล้วเขายังมีหน้ามีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร?

“ผู้นำตระกูลหยาง ผมตัดสินใจแล้ว ไม่ปล่อยผมไป ก็ฆ่าผมเสีย” เฉียนเปียวกล่าวอย่างสงบ

เฉียนเปียวในตอนนี้ ยโสโอหัง ไม่มีอะไรต้องคิด เพียงแค่ร้องขอความตายสถานเดียว

แม้แต่หยางเซี่ยงหมิง ยังตกใจ ไม่เข้าใจจริงๆ เฉียนเปียวที่ฟังคำสั่งเขามาโดยตลอด ทำไมจู่ๆถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้?

เขารับรู้ได้ ว่าเฉียนเปียวอยากตายจริงๆๆ

"ในเมื่อแกเลือกที่จะตาย งั้นฉันจะสนองให้!"

จู่ๆหยางเซี่ยงหมิงถอนหายใจๆยาวๆ ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดไว้เลย

ยังไงความรุ่งเรืองของตระกูลหยาง ครึ่งหนึ่งเป็นความสามารถที่มาจากเฉียนเปียว

แต่ก็เพราะความยิ่งใหญ่ของเฉียนเปียว จึงทำให้เขาพัฒนาตระกูลได้อย่างกำเริบเสิบสาน และทำผิดต่อคนหมู่มาก

ถ้าเรื่องที่เฉียนเปียวจากไปแพร่สะพัดออกไป ผู้มีอำนาจมากมายจะต้องมาล้างแค้นตระกูลหยาง

ดังนั้น ไม่ว่าจะยังไง เขาปล่อยเฉียนเปียวไปไม่ได้ ถ้าเฉียนเปียวตาย เพียงแค่ขาวไม่ถูกเผยแพร่ออกไป คู่แค้นเหล่านั้นก็ไม่มีทางบู่มบ่ามแน่นอน

ในขณะเดียวกันนี้ รถเปิดประตูสีดำคันหนึ่งค่อยๆจอดที่หน้าประตูตระกูลหยาง

วัยรุ่นสองคนลงมาจากรถ หนึ่งในนั้นเป็นชายร่างกายกำยำ ถือร่มคันหนึ่ง กันฝนให้กับวัยรุ่นคนนั้น

"ตระกูลหยาง ครึกครื้นจริงๆ!"

หยางเซี่ยงหมิงกำลังจะสั่งการ เสียงสัพยอกดังขึ้นทันใด จากนั้นเห็นวัยรุ่นสองคน คนหนึ่งนำหน้าคนหนึ่งตามหลังปรากฏกายขึ้น

ทุกคนของตระกูลหยางต่างมองไปที่สองคนนั้น

ตอนที่เฉียนเปียวเห็นสองคนนั้น ได้หน้าถอดสี เพราะรู้จักชายที่กำลังกางร่มคนนั้น เขาเพิ่งเจอเมื่อไม่นานมานี้ นั่นคือหม่าชาว

แม้แต่ผู้แข็งแกร่งที่เคยมีฉายาว่าคิงค่ำมืด ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของวัยรุ่นคนนี้ ที่กำลังกางร่มให้ชายวัยรุ่นอีกคนอยู่

ทันใดนั้น ในหัวของเฉียนเปียวนึกถึงคนนั้นที่หม่าชาวได้พูดถึงก่อนหน้านี้

หยางเฉินเข้าร่วมแดนเหนือเมื่อห้าปีที่แล้ว แต่เฉียนเปียวเมื่อแปดปีที่แล้วก็ได้ออกจากแดนเหนือแล้ว ดังนั้นจึงเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองเจอกัน

หยางเฉินดูๆแล้ววัยรุ่นมาก รูปร่างได้สัดส่วนมาก เมื่อเทียบกับหม่าชาว ไม่เหมือนยอดฝีมือเลยแม้แต่น้อย

เหมือนกับนักปราชญ์ ที่ขณะนี้ได้ยิ้มมุมปาก เดินมาอย่างสบาย บนร่างกายไม่มีกลิ่นอายของพลัง แต่กลับทำให้เฉียนเปียวรู้สึกเหมือนมีกดวิญญาณเอาไว้

เฉียนเปียวหายใจไม่ค่อยออก รู้สึกเหมือนอยากสลบ เขารู้ วัยรุ่นที่อยู่ข้างหน้าเขาคนนี้ จะต้องเป็นรักษาดินแดนเหนือที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันแน่นอน

ไม่ว่าเขาจะมีพลังหรือไม่มี ก็ยังคงเผชิญหน้ากับปืนสิบกว่ากระบอกได้อย่างสงบ อีกทั้งผู้แข็งแกร่งที่อยู่ด้านหลังเขา ได้ยืนยันการคาดเดาทั้งหมดแล้ว

"แกเป็นใคร?"

หยางเซี่ยงหมิงขมวดคิ้ว เขาไม่รู้รับถึงความผิดปกติที่อยู่บนตัวของวัยรุ่นทั้งสองคนนี้แต่อย่างใด

เดิมทีที่ติดต่อกับหยางเฉิน มีเพียงหยางเวย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอหยางเฉิน

"คุณปู่ มันคือลูกเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ขึ้นชื่อของเจียงโจว ห้าปีก่อน เขามีอะไรกับหญิงสาวคนนั้นที่เป็นประธานสาวสวยขึ้นชื่ออันดับหนึ่งเจียงโจว ดังนั้นจึงได้มีชื่อเสียงที่เจียงโจว"

สาววัยรุ่นคนหนึ่งข้างๆหยางเซี่ยงหมิง กล่าวอย่างประชดประชันขึ้นมา ขณะเดียวกันสายตาก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างมาก

หญิงคนนี้คือหยางหลิ่วน้องสาวแท้ๆของหยางเวย สามีของเธอหวังเย่นจูน เมื่อก่อนเคยไประรานฉินยีที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป หลังจากที่ฉินหยางแจ้งให้ตระกูลหยางทราบแล้ว เพื่อศักดิ์ศรี ตระกูลหยางจึงบีบให้เธอหย่ากับหวังเย่นจูน

เธอมองว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องโทษหยางเฉิน เพียงแต่เธอไม่รู้ตัวตนของหยางเฉิน แต่หยางเซี่ยงหมิงกลับรู้ดีอย่างมาก

หลังจากที่รู้ว่าวัยรุ่นที่อยู่ตรงหน้าคือหยางเฉินแล้วนั้น หยางเซี่ยงหมิงก็สายตาอาฆาต "ที่แท้ก็แกกล้านักนะ!แกทำร้ายหลานฉัน แล้วยังกล้ามาที่ตระกูลหยางของฉันอีก!"

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท