ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1906 : จิตที่ซ่อนอยู่

ตอนที่ 1906 : จิตที่ซ่อนอยู่

  ทุกคนต่างก็มีสิ่งที่แตะต้องไม่ได้ของตัวเอง

  ซึ่งสิ่งที่แตะต้องไม่ได้ของกวนก็คือคนของหมู่บ้านเสี่ยวอันและกองทัพเทียนลั่ว

  หนึ่งคือบ้านเกิด สองคือเพื่อนร่วมรบ สองอย่างนี้คือสิ่งที่แตะต้องไม่ได้สำหรับเขา

    ไม่ต้องกังวล แม้ว่าสักวันสำนักคังเฉียงจะเป็นศัตรูกับเขตซื่อเซียว แต่ข้าจะไม่ให้เจ้าจัดการกับหมู่บ้านเสี่ยวอันและเพื่อนร่วมรบของเจ้า  จางลู่มองไปที่กวนแล้วพูดขึ้น   ศัตรูของเจ้าอาจจะเป็นกองทัพสังเกตการณ์ , กองทัพซื่อเซียวรึแม้แต่ จักรพรรดิซื่อเซียว แบบนี้เจ้าจะยังกล้าเข้าร่วมสำนักคังเฉียงอีกรึไม่ ? 

  เมื่อได้ยินแบบนั้นสือฉีก็ใจสั่นและเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว

  กวนได้ยินตอนแรกก็อึ้ง จากนั้นเขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดขึ้น   ทำไมจะไม่ตกลง ? 

  แม้ว่าเขาจะลังเล แต่เมื่อจางลู่กล้าพูดแบบนี้ออกมา เขาก็กล้าตกลง

  ในเมื่อมีหวังที่จะเดินตามเส้นทางที่ตัวเองคาดหวังได้ แล้วทำไมต้องสนใจจักรพรรดิซื่อเซียวกัน ?

  แม้แต่ความตายเขาก็ไม่กลัว แล้วยังจะกลัวอะไรอีก?

    ดีมาก  จางลู่พยักหน้าด้วยความพอใจ   เมื่อเจ้ารับปากแล้ว ข้าก็จะทำตามที่พูด  

  เขาได้บอกกับจางหยู หลังจากที่จางหยูอนุญาตแล้ว เขาก็หันไปบอกกับสือฉี   รบกวนหัวหน้าสือฉีออกจากที่นี่ก่อน  

  สือฉีไม่อาจจะอยู่ต่อได้ เขากลัวว่าสิ่งที่ได้ยินจากจางลู่จะน่าตกใจกว่านี้ เมื่อได้ยินที่จางลู่บอกมา เขาก็รีบออกจากที่นั่นทันที เขารีบออกจากบ้านมาราวกับกำลังหนีจากปีศาจ เมื่อเขาออกมานอกบ้านแล้ว เขากลับเหงื่อชุ่มไปทั้งตัวราวกับเพิ่งผ่านความตายมา

  หลังจากที่สือฉีออกไปแล้ว จางลู่ก็ได้สร้างรูหนอนขึ้นมา ก่อนจะบอกกับกวนว่า   นี่คือรูหนอน อีกฝั่งของมันคือที่ที่เจ้าจะได้คำตอบที่เจ้าต้องการ 

  กวนอึ้ง เขตซื่อเซียวเป็นมิติปิด มีแค่จักรพรรรดิซื่อเซียวเท่านั้นที่เปิดช่องทางขึ้นได้ ในทางทฤษฎีแล้วหากไม่ได้รับอนุญาตจากจักรพรรรดิซื่อเซียว ก็ไม่มีใครสร้างรูหนอนแบบนี้ขึ้นมาได้ นอกซะจากว่าความแข็งแกร่งจะเหนือว่าจักรพรรรดิซื่อเซียว ถึงจะทำได้

  แต่มันเป็นไปได้ด้วยรึ ?

  ตัดความเป็นไปได้ที่สองทิ้ง งั้นก็เหลือแค่อันแรกเพียงอย่างเดียว

    จักรพรรดิซื่อเซียวให้ความสำคัญกับเจ้าสำนักถึงเพียงนี้เลยรึ ?   กวนยากจะเชื่อได้   เขาให้เจ้าสำนักสร้างรูหนอนขึ้นมาในเขตซื่อเซียวทันที… 

  ต้องรู้ก่อนว่าในประวัติศาสตร์นั้นเขตซื่อเซียวแล้วไม่มีใครได้สิทธิ์นั้นมาก่อน

  นี่คือสิทธิ์สูงสุด

  กวนส่ายหน้าไม่คิดต่อ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเดินเข้าไปในรูหนอนทันที ก่อนจะหายตัวไป

  หลังจากที่กวนจากไปแล้ว เจ้าสำนักก็ได้พูดขึ้น   จักรพรรรดิซื่อเซียวไม่น่าจะรับรู้สินะ ? 

    รู้แล้วยังไง ?  จางลู่ไม่ได้ใส่ใจ  หรือเขาจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับพวกเราเพื่อหัวหน้าหน่วยที่ไร้ประโยชน์ไปแล้วนะหรือ ? 

  ความว่างเปล่าพยักหน้า   ข้าก็คิดเช่นนั้น 

  พวกเขาไม่อยากเผยความสามารถในการสร้างรูหนอนในเขตซื่อเซียวง่ายๆ แต่มันไม่จำเป็นต้องที่จะต้องระวังตัวตลอดเวลา ยังไงซะตราบใดที่ไม่ได้สร้างรูหนอนไปหาจักรพรรรดิซื่อเซียว งั้นเดาว่าแม้ว่าจักรพรรรดิซื่อเซียวจะสงสัย แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมาหาเรื่องพวกเขาได้ในตอนนี้

    เราจะไปไหนกันต่อ ?  เจ้าสำนักถามขึ้นมาทันที

    ทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายก่อน  ความว่างเปล่าพึมพำออกมา   เรารับค่าจ้างจากจักรพรรรดิซื่อเซียวมาแล้ว เราต้องทำภารกิจเพื่อไว้หน้าเขา… 

  ….

  ที่ทะเลบรรพกาล

  กวนได้ปรากฏตัวขึ้นในทะเลบรรพกาลทันทีเมื่อออกมาจากรูหนอน

    นี่คือทะเลโกลาหลงั้นรึ ?  กวนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก เขาแผ่การรับรู้ออกไปแต่ก็พบว่ารอบตัวของเขานั้นแปลกประหลาดอย่างมาก มันไม่มีเขตซื่อเซียวเหมือนที่เขาจำได้ มันราวกับเป็นทะเลโกลาหลที่เขาไม่รู้จัก   แปลก นี่มันที่ไหนกัน ? 

  เขาสงสัยว่ารูหนอนนั้นเชื่อมต่อกับสักที่ในทะเลโกลาหลอย่างแน่นอน แต่ไม่ได้อยู่ในเขตซื่อเซียว

  ตอนที่กวนสับสนอยู่นั้น จางหยูก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า มันทำให้กวนถึงกับสะดุ้ง

    เจ้าสำนัก   กวนรีบทำความเคารพทันที

  ยิ่งเขาได้พบกับจางหยูเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าจางหยูไร้เทียมทานมากเท่านั้น

  จางหยูมองไปที่กวนและแสดงสายตาประหลาดใจออกมา แต่มันอยู่แค่เพียงชั่วครู่ โดยที่กวนไม่ทันได้สังเกต

  เขายิ้มให้กับกวนและพูดขึ้น   ยินดีต้อนรับเข้าสู่ทะเลบรรพกาล 

    ทะเลบรรพกาลงั้นรึ ?  กวนแปลกใจ   ท่านหมายถึงอะไร ? นี่ไม่ใช่ทะเลโกลาหลใช่หรือไม่ ? 

    มันคือทะเลโกลาหล แต่มีความแตกต่างระหว่างทะเลโกลาหลที่เจ้ารู้จักกับที่นี่  จางหยูไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก   เจ้าเข้าใจว่านี่คือทะเลโกลาหลอีกที่ก็ได้ มันไม่เหมือนทะเลโกลาหลที่อยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิทั้งเก้า และมันไม่ได้อยู่ในมิติเดียวกัน  

  กวนสับสนขึ้นมา เขาไม่เข้าใจว่าจางหยูพูดถึงอะไร

    มันยากที่จะอธิบาย เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ เจ้าแค่ต้องรู้ว่าเมื่อเจ้ามาที่นี่ ปัญหาของเจ้าจะแก้ไขได้  จางหยูพูดขึ้น

  กวนตื่นเต้นขึ้นมาทันที   มันเป็นไปได้จริงๆงั้นรึ ? 

  แม้จะได้ยินจางหยูพูดด้วยตัวเอง แต่กวนก็ยังไม่อาจจะเชื่อได้ แก่นของเขาที่พังไปแล้วจะฟื้นฟูกลับมาได้จริงๆรึ ?

  จางหยูหัวเราะออกมา   เรื่องแก่นนั้นสามารถจัดการได้ง่าย แต่จิตน่ะค่อนข้างจัดการได้ยาก จิตของเผ่าสวรรค์ได้เปรียบกว่าเผ่าชีวิตตรงที่ มันมีความสามารถในการซ่อน จิตเผ่าสวรรค์นั้นมีข้อได้เปรียบที่ดีมาก หากไม่ได้อยู่ในทะเลบรรพกาล ข้าคงไม่ทันสังเกตเห็น    สีหน้าของกวนเปลี่ยนไปทันที   เจ้าสำนักหมายถึงอะไร?  

  เขารู้สึกแย่ขึ้นมา

  ตอนที่กวนพูดจบ จิตเส้นหนึ่งก็แยกออกมาจากตัวเขา

  เมื่อไม่มีจิตนี้คอยยับยั้ง กวนก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาอย่างมาก อารมณ์หดหู่และอารมณ์ด้านลบได้ถูกปลดปล่อยออกมา

    เจ้า…เจ้าคือคนที่โจมตีข้า เจ้าคือคนทรยศ !  กวนมองไปที่จิตนั้นด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

  เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจิตนี่จะมาซ่อนอยู่ในตัวเขา แม้ว่าจะผ่านมานานแต่เขากลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย

  จิตนี้ไม่ได้สนใจกวน และรีบสร้างร่างขึ้นมาก่อนจะกลายเป็นมนุษย์นก

  มันมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าหม่นหมอง   ไม่คิดเลยว่าหัวหน้าทีมคังเฉียงจะมีความสามารถเช่นนี้ เพียงแค่มองก็สามารถรับรู้ถึงการซ่อนตัวของข้าได้ในพริบตา 

    เรื่องนี้เจ้าก็เห็นด้วยตาตัวเองไปแล้วนี่?   จางหยูไม่ได้ใส่ใจ   บอกเป้าหมายของการซ่อนตัวในจิตของกวนมา 

  มนุษย์นกฮึดฮัดออกมา   ข้าอยากยึดร่างของชายคนนี้ ไม่คิดเลยว่าถึงจะบาดเจ็บหนัก แต่จิตของเขาก็ยังแข็งแกร่งจนยากจะควบคุมได้ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นข้าก็มีโอกาสยึดร่างเขาได้ เด็กนี่ไม่รู้เลยว่าโชคดีแค่ไหนที่ได้ยาที่ล้ำค่าแบบนั้นมา ดังนั้นจิตของเขาจึงฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว สุดท้ายข้าก็หมดหนทางและต้องซ่อนตัวอยู่ในจิตของเขาเพื่อไม่ให้ถูกพบตัว… 

  กวนมองไปที่มนุษย์นกด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ ในใจเขาเกิดความกลัวขึ้นมา

  เขาไม่รู้เลยว่าในจิตของเขาจะมีจิตของคนทรยศซ่อนอยู่

  แค่คิดก็ทำให้เขาตัวสั่นได้แล้ว

    เอาล่ะ เจ้าลงมือได้แล้ว  มนุษย์นกพูดขึ้น   แต่เมื่อเจ้าพบตัวข้า ข้าก็ไม่คิดจะอยู่ต่อหรอก 

  เขาพึ่งจิตที่แข็งแกร่งสร้างร่างขึ้นมา ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้มีไม่ถึงครึ่งเมื่อเทียบกับตอนที่สมบูรณ์ นี่ไม่ต้องพูดถึงจางหยูที่อาจจะเป็นถึงแม่ทัพเลย แม้แต่ผู้บัญชาการใหญ่ทั่วไปก็จัดการเขาได้ง่ายๆ

  แต่จางหยูไม่ได้รีบกำจัดอีกฝ่าย เขาได้ถามขึ้นมาแทน   เจ้าคิดจะยึดร่างกวน เจ้ามีจุดประสงค์อะไรกัน ? 

    แน่นอนว่าลอบเข้าไปในกองทัพเทียนลั่วเพื่อหาข้อมูล ข้าจะสร้างปัญหาให้กับกองทัพเทียนลั่ว   มนุษย์นกไม่ลังเลและตอบกลับ   คำถามง่ายๆแบบนี้จำเป็นต้องถามอยู่อีกรึ ?  

    การโกหกเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลยนะ  จางหยูพูดขึ้น

  แค่ระดับผู้บัญชาการใหญ่ของเผ่าสวรรค์ คิดจะมาตบตาเขาได้ยังไง ?     ดูเหมือนว่าใช้วิธีธรรมดาคงไม่ได้ผล  จางหยูยิ้มออกมา

  มนุษย์นกยังแสดงสีหน้าเฉยเมยและพูดขึ้น   วิธีอะไรก็ใช้มาเถอะ 

  ตอนที่เข้ามาในเขตซื่อเซียว เขาก็เตรียมใจที่จะตายแล้ว แม้ว่าจะโดนทรมานแต่ก็ไม่มีทางบอกเนื้อหาของภารกิจ

  จางหยูยิ้มออกมาก่อนที่เสียงของเขาจะทุ้มขึ้น พลังผันผวนแผ่ออกมาปกคลุมมนุษย์นก   บอกข้ามา ว่าเป้าหมายในการเข้ามาในเขตซื่อเซียวของเจ้าคืออะไร ! 

  นี่คือทักษะหลอกลวงในตำนาน มันได้ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง !

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท