ตัดสินจากท่าทีของอู๋ห่าวในตอนนี้แล้ว เขาเหมือนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับกล่องกระบี่เลยแม้แต่น้อย
แน่นอนมันตัดความเป็นไปได้ที่อู๋ห่าวเสแสร้งไม่ได้แต่จากความทรงจำที่จางหยูส่งต่อมา มันก็ตัดสินได้ว่าอู๋ห่าวไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้น
อู๋ห่าวไม่ได้เจ้าเล่ห์แบบเก่อเย่
เจ้ารู้รึไม่ว่าเก่อเย่มีของมีค่ารึมีใครที่เขาให้ค่ารึไม่ ? จางลู่เปลี่ยนคำถาม
อู๋ห่าวไม่ได้ลนลานและพูดขึ้นมา ท่านถามเรื่องนี้ทำไมกัน ?
เขามองไปที่จางลู่และคนอื่นๆ เจ้าสำนัก ข้าเคารพท่านแต่มันไม่ได้หมายความว่าข้าจะบอกท่านเรื่องแม่ทัพได้ ท่านเก่อเย่เป็นแม่ทัพของกองทัพสังเกตการณ์ เรื่องของเขาถือว่าเป็นความลับของกองทัพสังเกตการณ์ เราไม่อาจจะเปิดเผยได้ตามต้องการ
เขากลัวทีมคังเฉียงก็จริงแต่ถึงจะกลัว แต่ก็ไม่มีทางเปิดเผยความลับของกองทัพสังเกตการณ์เป็นอันขาด
เก่อเย่นั้นเป็นหัวหน้าของเขา เขาไม่อาจจะขายเก่อเย่ ได้
ยิ่งไปกว่านั้นการหักหลังเก่อเย่ ก็เท่ากับการหักหลังกองทัพสังเกตการณ์เพราะเก่อเย่ คือแม่ทัพกองทัพสังเกตการณ์ !
อู๋ห่าวคาดหวังกับการรับตำแหน่งนี้เสร็จจะได้กลับไปที่กองทัพสังเกตการณ์ ด้วยการสนับสนุนจากเก่อเย่ เขาจะได้เลื่อนตำแหน่งต่อในกองทัพสังเกตการณ์อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจะหาเรื่องใส่ตัวทำไม ?
เจ้ายังไม่รู้ข่าวสินะ ?เก่อเย่ น่ะตายไปแล้ว เซียนกระบี่พเนจรพูดขึ้นมา ในเขตซื่อเซียวแห่งนี้ไม่มีเก่อเย่อยู่แล้ว
เมื่อได้ยินแบบนั้นอู๋ห่าวก็ตากระตุกสีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที เขาโกรธขึ้นมา ข้าเคารพพวกท่านแต่มันไม่ได้หมายความว่าพวกท่านจะสาปแช่งหัวหน้าของข้าได้ โปรดให้เกียรติกันด้วย ! อู๋ห่าวนั้นได้ปกป้องเกียรติของเก่อเย่และแสดงความภักดีที่มีต่อเก่อเย่ออกมา
สำหรับว่าทำไมเขาถึงได้ภักดีแบบนี้ก็คงมีแค่เขาคนเดียวที่รู้
เจ้าไม่เชื่อรึ ? เซียนกระบี่พเนจรมองไปที่อู๋ห่าวแล้วพูดขึ้น เจ้าลองส่งคนไปถามข่าวโถงกองทัพสังเกตการณ์ดูเก่อเย่ใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ตัวเองและโดนปลดจากตำแหน่งแม่ทัพของกองทัพสังเกตการณ์ และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตาย
อู๋ห่าวอึ้งไปแต่ท่าทีของจางลู่และคนอื่นๆยังเยือกเย็น เขาไม่อาจจะเห็นได้เลยว่าอีกฝ่ายโกหกแม่แต่น้อย
เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัย ก่อนจะดึงเอาหยกออกมาและติดต่อหาคนของโถงกองทัพสังเกตการณ์ ไม่นานก็มีคนรายงานเหมือนที่เซียนกระบี่พเนจรบอกมา เก่อเย่โดนปลดจากตำแหน่งและถูกโจมตีจนสุดท้ายก็ตายไป
มันแค่ว่าคนที่ฆ่าเก่อเย่นั้นคือคนของทีมคังเฉียง !
อู๋ห่าวเก็บหยกก่อนจะมองไปที่จางลู่และคนอื่นๆด้วยความสับสน
เกิดอะไรขึ้นกัน ?
เขาเพิ่งมาเป็นหัวหน้าที่นี่ได้ไม่นานแต่แม่ทัพกลับตายไปแล้วรึ ?
ทีมคังเฉียงนี้กลับฆ่าแม่ทัพของกองทัพสังเกตการณ์ ความแข็งแกร่ง…นี่น่ากลัวจริงๆ !
อู๋ห่าวได้สติกลับมาและมองไปรอบๆก่อนจะกลืนน้ำลาย ตัวของเขาสั่นเล็กน้อย สายตาลนลาน คนกลุ่มนี้บุกไปถึงที่อยู่ของเก่อเย่ และยังทำลายตึกทั้งหมดจนกลายเป็นซากไปด้วย
เมื่อเขาคิดถึงการที่เขามีเก่อเย่คอยหนุนหลัง เขาก็ไม่ได้กลัวทีมคังเฉียงมากนักแต่ตอนนี้คนที่คอยหนุนหลังของเขากลับตายไปเพราะฝีมือของทีมคังเฉียง !
เมื่อเห็นสีหน้าของอู๋ห่าว จางลู่ก็ยิ้มออกมาและพูดขึ้น เป็นยังไง ตอนนี้เจ้าเชื่อรึยัง ?
เซียนกระบี่พเนจรถามขึ้นมา ตอนนี้เจ้าจะร่วมมือกับเราได้รึยัง ?
อู๋ห่าวตัวสั่นสายตาของคนเหล่านี้ทำให้เขาหวาดกลัวอย่างมาก เขารีบพูดขึ้นมา แน่นอน ! ข้ารับรองว่าจะให้ความร่วมมือโดยไม่มีเงื่อนไข !
ขนาดหัวหน้าของเขายังตาย เขาจะกล้าปฏิเสธได้ยังไง ?
ความภักดีที่มีต่อเก่อเย่เมื่อสักครู่นี้หายไปในพริบตา
เขาเปลี่ยนท่าทีทันที เก่อเย่ทำเรื่องชั่วร้ายไป พวกท่านฆ่าเขาก็ดีแล้ว มันดีต่อทุกคน
เมื่อเห็นท่าทีของอู๋ห่าวที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จางลู่และคนอื่นๆต่างก็อึ้ง นี่คือคนที่เก่อเย่เชื่อใจมากที่สุดรึ?
ดูเหมือนว่าเก่อเย่ละเลยลูกน้องเกินไปแล้ว !
พวกเขาไม่เห็นว่าอู๋ห่าวจะมีความสามารถอื่นนอกจากการปรับตัวที่รวดเร็ว
ข้าแค่จะถาม เจ้าควรคิดดีๆแล้วค่อยตอบเรา จางลู่มองไปที่อู๋ห่าวเขาไม่ได้สนใจท่าทีของอู๋ห่าว แต่สนแค่คำตอบ เรื่องนี้สำหรับทีมคังเฉียงของเราแล้ว มันสำคัญอย่างมาก หากเจ้าไม่คิดจะเข้าข้างเก่อเย่ ก็ควรตอบดีๆ
อู๋ห่าวกลัวขึ้นมา เขากลัวว่าหากตอบคำถามได้ไม่ดีเขาอาจจะโดนฆ่า
ทีมคังเฉียงถึงกับฆ่าเก่อเย่มาแล้ว แล้วอย่างนี้พวกเขาจะกลัวใครอีก ?
อู๋ห่าวคิดเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเก่อเย่ สุดท้ายเขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆและพูดขึ้น ข้ามั่นใจว่าเก่อเย่เฉยเมยต่อทุกคนและทุกสิ่งหากบอกว่าเขาให้ความสำคัญกับใครนั้น งั้นก็ต้องเป็นจักรพรรดิ เขาให้ความสำคัญกับแค่จักรพรรดิเท่านั้น
เขามองไปที่จางลู่และคนอื่นๆ เขากลัวว่าพวกนี้จะไม่พอใจคำตอบจึงรีบอธิบายออกมา ข้าใช้เวลาหลายปีกับเขา แต่ข้าก็ไม่เคยเห็นเขาออกจากเมืองซื่อเซียวเลย เขาไม่คิดออกมาจากโถงกองทัพสังเกตการณ์ แม้ว่าจะออกมาแต่ก็ไปแค่ที่เดียวเท่านั้นซึ่งคือวังของจักรพรรดิ
วังของจักรพรรดิรู้จักกันในชื่อวังซื่อเซียว มันคือที่ที่ซื่อเซียวเคยพำนักอยู่
ตอนที่ซื่อเซียวเพิ่งสร้างโกลาหลขึ้นมาและยังไม่พบกับจักรพรรดิกุยหลิง ซื่อเซียวเคยพักอยู่ที่วังนั้น
หลังจากนั้นมาเพราะความกลัวที่มีต่อจักรพรรดิกุบหลิง เขาจึงไปพักในมิติของตัวเอง นานๆทีจะมายังวังสักครั้ง
วังซื่อเซียวรึ ? จางลู่แปลกใจ เขาไปที่นั่นบ่อยรึ ? อู๋ห่าวพูดขึ้น ไม่ได้บ่อยนักแต่ก็มีไปที่นั่นบ้าง เขาบอกว่าเพื่อเข้าไปพบจักรพรรดิและฟังคำสั่งจากจักรพรรดิ เก่อเย่ นั้นสนิทกับจักรพรรดิอย่างมาก ตราบใดที่จักรพรรดิคอยสั่งสอน เขาก็จะไปนั่งตรงหน้ารูปปั้นจักรพรรดิเพื่อฟังการสั่งสอนของจักรพรรดิ…
เขาไปเพื่อแสดงความเคารพต่อซื่อเซียวและฟังคำสอนจากจักรพรรดิรึ ? เซียนกระบี่พเนจรพูดขึ้น เก่อเย่ น่ะรึ?ไ
แม้ว่าจะรู้จักเก่อเย่ได้ไม่นานแต่พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงความเคารพที่เก่อเย่มีต่อซื่อเซียว
ชายคนนี้คือคนเจ้าเล่ห์ เขาสนใจแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง !
หากเขาเคารพซื่อเซียวจริงๆ งั้นเขาคงไม่ซ่อนกล่องกระบี่และปกปิดเรื่องนี้จากซื่อเซียว
เมื่อได้ยินที่เซียนกระบี่พเนจรพูดมา อู๋ห่าวก็เห็นด้วย ในมุมมองของเขาแล้วเก่อเย่ไม่ได้ภักดีต่อซื่อเซียวเลย เขาแค่เคารพต่อความแข็งแกร่งที่ซื่อเซียวมีก็เท่านั้น
จางลู่และคนอื่นๆพูดมาเช่นนั้นก็ทำให้อู๋ห่าวรู้สึกว่าเรื่องมันไม่ได้ธรรมดาแบบที่เขาคิด
กล่องกระบี่อาจจะซ่อนอยู่ในวังซื่อเซียว จางลู่หรี่ตาลงและบอกกับทุกคน
ต้องบอกว่าเก่อเย่นั้นฉลาดจริงๆ ถ้าอู๋ห่าวไม่พูดเรื่องนี้ พวกเขาจะคิดถึงวังซื่อเซียวได้ยังไง
วังซื่อเซียวนั้นคือที่ที่จักรพรรดิเคยอยู่ หากซื่อเซียวไปที่วังนั่นจริงงั้นซื่อเซียวก็ต้องพบกล่องกระบี่ บอกได้ว่าที่นั่นคือที่ที่อันตรายที่สุดแต่สำหรับเก่อเย่แล้ว ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด เขาได้เก็บกล่องกระบี่ไว้ในวังแห่งนั้น
ยิ่งไปกว่านั้นวังซื่อเซียวก็ยังอยู่ข้างๆโถงกองทัพสังเกตการณ์ มันสะดวกที่เก่อเย่จะดูแลที่นั่น
จางลู่ยอมรับว่าความกล้าของเก่อเย่มีไม่ใช่น้อยเลยและยังฉลาดอีกด้วย ! มันไม่แปลกเลยที่เผ่าสวรรค์จะหากล่องกระบี่ไม่พบ !
วังซื่อเซียว…ใครจะไปคิดว่าเก่อเย่จะซ่อนมันไว้ที่นั่น ?
แน่นอนว่านี่แค่การคาดเดาของจางลู่กับคนอื่นๆก็เท่านั้น ก่อนจะพบกล่องกระบี่ งั้นพวกเขาก็ไม่กล้าบอกว่าความคิดของพวกเขาถูกต้อง
ไปยังวังจักรพรรดิ ! จางลู่และคนอื่นๆมองหน้ากันก่อนจะให้อู๋ห่าวส่งพวกเขาไปยังเมืองซื่อเซียว
หลังจากที่เข้ามาในเมืองซื่อเซียวแล้ว พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังวังจักรพรรดิกันทันที
ระหว่างทางที่ซากโถงของกองทัพสังเกตการณ์นั้นมีผู้คนมากมายมารวมตัวกัน มันมีคนอย่างจินหยางรวมถึงคนจากตระกูลและสมาคมชั้นนำต่างๆ หลายคนได้รับข่าวก็มาที่นี่กันทันที
การปรากฏตัวของจางลู่และคนอื่นๆทำให้พวกนั้นต้องกลัว เมื่อเห็นว่าจางลู่และคนอื่นๆเข้าไปในวังจักรพรรดิ พวกเขาถึงได้โล่งอก