The king of War – บทที่ 1204 หิมะเดือนหกโปรยปราย

บทที่ 1204 หิมะเดือนหกโปรยปราย

หวางจ้านรู้สึกว่ากำลังทั้งหมดในร่างกายหายไปราวกับกระแสน้ำ

เขานอนบนพื้นและมองขึ้นไปบนฟ้า เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากปากของเขา

ในเวลานี้ภาพที่คุ้นเคยได้ปรากฏขึ้นในความคิดของเขาอย่างกะทันหัน

เมื่อเขาอายุ 4-5 ขวบ หรือไม่ก็ 6-7 ขวบ พ่อแม่เป็นเพียงคนรับใช้ของราชวงศ์หลง มารดาต้องซักผ้าและทำอาหารทุกวัน ส่วนบิดาก็ทำงานหนักทุกวัน

เขามีความเข้าใจตั้งแต่เด็กว่า หากต้องการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมในราชวงศ์หลง ก็ต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น

ในระหว่างวัน เขาจะแอบดูทายาทสายตรงของราชวงศ์หลงฝึกวรยุทธโดยมียอดฝีมือคอยชี้แนะ

ตกกลางคืน เขาจะหาที่ที่ไม่มีคนแอบฝึกฝนสิ่งที่ได้เรียนรู้ในตอนกลางวัน

วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า เขาที่มีฐานะเพียงคนรับใช้ ได้มีความก้าวหน้าอย่างมากในวิถีบู๊ ในเวลานั้นมีราชวงศ์หลงรุ่นที่สามที่โดดเด่นถูกชะตาเขา ซึ่งก็คือหลงหวงในปัจจุบัน

นับตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็ได้รับคำชี้แนะจากยอดฝีมือในวิถีบู๊ ความสามารถทางวรยุทธก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด และคุณภาพชีวิตของพวกเขาก็ดีขึ้นมากเช่นกัน

เขาตัดสินใจตั้งแต่ยังเล็กที่จะทุ่มเททุกอย่างเพื่อราชวงศ์หลง

แต่ไม่คิดว่าวันหนึ่ง ราชวงศ์หลงที่เขามองว่าเป็นครอบครัว หลงหวงที่เขาเห็นเป็นพี่ชายจะฆ่าเขาได้

มันเป็นเพียงเพราะวรยุทธของเขาถูกทำลาย

ด้วยความผิดหวัง เขาหอบความหวังอันริบหรี่มาขอความช่วยเหลือจากหยางเฉิน คิดไม่ถึงว่าอดีตศัตรูผู้นี้จะช่วยเขาไว้จริงๆ

ในช่วงเวลานี้ที่อยู่ในคลินิกอ้ายหมิน เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเขา ไม่มีการต่อสู้ชิงไหวชิงพริบ มีแต่มิตรภาพที่ทำให้เขาชื่นชม มิตรภาพที่เหนือกว่าครอบครัว

ยิ่งไปกว่านั้น เฝิงเสียวหว่านที่ให้การรักษาฟื้นฟูพื้นฐานวรยุทธให้เขา ก็เหมือนหลานสาวของเขาเอง

แต่จากนี้ไปเขาจะไม่มีวันได้เจอเธออีก

“เสียวหว่าน ปู่จ้านจะไปแล้วนะ ถ้าชาติหน้ามีจริง ปู่จ้านจะเป็นปู่ของเธอแน่นอน!”

หวางจ้านนอนอยู่บนพื้น กระอักเลือดออกมาเต็มปาก แต่รอยยิ้มที่มีความสุขได้วาดขึ้นที่มุมปากของเขา

“หม่าชาว ลาก่อน!”

“ลาก่อน โลกที่ฉันรัก!”

“คุณหยาง ได้โปรดเถอะ มีสติกลับมาได้แล้ว…”

เสียงของหวางจ้านเบาลงเรื่อยๆ

ในเวลานี้หยางเฉินที่ยังคงคลุ้มคลั่งอยู่ รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจ ดูเหมือนเขาจะได้ยินเสียงร้องเรียกของหวางจ้าน

“อา…”

เขาเอามือกุมศีรษะ ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ลมปราณแห่งวิถีบู๊ที่อยู่เหนือระดับสุดยอดแดนเทพแผ่ซ่านไปทั่วทุกทิศทาง

“ปังๆๆ!”

ผืนดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ซากปรักหักพังของโรงเรียนศิลปะการต่อสู้เยี่ยนตูที่ยังตั้งตระหง่านอยู่เมื่อครู่พังทลายลงทั้งหมดภายใต้เสียงคำรามนี้

หยางเฉินเริ่มมีสติมากขึ้นเรื่อยๆ ภายในดวงตาสีแดงเลือด ในที่สุดเขาก็มองเห็นหวางจ้านนอนจมอยู่ในกองเลือด เขารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า

“ปู่จ้าน!”

เขาเรียกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนจะก้าวเท้าเข้ามาที่ข้างกายของหวางจ้านทันที

ในเวลานี้หวางจ้านหายใจรวยริน มีแต่หายใจออก ไม่มีสูดหายใจเข้า

ขณะที่เขาใกล้หมดลมหายใจ ดูเหมือนเขาจะได้ยินเสียงเรียกของหยางเฉิน เขาลืมตาขึ้นอย่างไม่คาดคิด เมื่อเขาเห็นสีหน้ารู้สึกผิดและเจ็บปวดของหยางเฉิน ก็รู้ว่าหยางเฉินได้ฟื้นคืนสติแล้ว

รอยยิ้มที่อ่อนโยนวาดขึ้นบนมุมปากของเขา ราวกับว่ากำลังมองดูลูกหลานของตัวเอง

เขาค่อยๆ ยื่นแขนออกไป ต้องการสัมผัสใบหน้าของหยางเฉิน แต่ทันทีที่เขายกขึ้นได้เล็กน้อย มันก็ตกลงมาในทันใด เขาไม่มีแม้แต่แรงที่จะยกแขนขึ้น

“ปู่จ้าน! ปู่จ้าน!”

หยางเฉินคุกเข่าลงข้างกายหวางจ้าน จับมือหวางจ้านอย่างสั่นเทาเอามาวางบนใบหน้าของตัวเอง น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างควบคุมไม่อยู่

“ปู่จ้าน ผมได้สติแล้ว! ผมได้สติแล้ว! คุณอย่าไปนะ! ผมขอร้อง คุณอย่าไปนะ!”

หยางเฉินร้องไห้ออกมาจริงๆ ความรู้สึกผิดและความเจ็บปวดทำให้เขาอยากฆ่าตัวตายเหลือเกิน

แม้ว่าเขาจะเสียสติไปก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังจำสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นได้

เพราะหวางจ้านที่ไม่รู้ว่าฝืนเพิ่มศักยภาพของตัวเองอย่างไร ถึงทำให้ต่อสู้กับเขาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้พลังอันคลุ้มคลั่งภายในร่างกายของเขาปลดปล่อยออกมา

ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีทางฟื้นคืนสติได้เลย และคนที่ต้องตายในวันนี้ก็คือเขา

หวางจ้านใช้ชีวิตของตัวเองให้โอกาสเขาตื่นขึ้นมา

มันเป็นเพียงโอกาสครั้งเดียว หวางจ้านเต็มใจที่จะเสียสละชีวิตของตัวเอง

“อ้อ ที่ผมมียาช่วยชีวิตที่เสียวหว่านทิ้งไว้ให้ผม คุณรีบกินมันเดี๋ยวนี้ เสียวหว่านบอกว่า ขอเพียงยังมีลมหายใจอยู่ เธอจะสามารถรักษาให้หายได้”

หยางเฉินพูดพลางกรอกยาเม็ดสีดำเม็ดหนึ่งเข้าไปในปากของหวางจ้าน

แต่แม้ว่าหวางจ้านจะกินยาช่วยชีวิตเม็ดนี้เข้าไปแล้ว บาดแผลภายในร่างกายของเขาก็ยังคงไม่ดีขึ้นแม้แต่นิดเดียว โอกาสรอดชีวิตของเขาค่อยๆ จางหายไป

ยังมีเลือดไหลออกมาจากปากของเขาเป็นจำนวนมาก

“อา…”

หยางเฉินตะโกนเสียงลั่นราวกับกำลังระบายความโกรธ เขาต้องการช่วยชีวิตหวางจ้าน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย

เสียวหว่านให้ยาเม็ดช่วยชีวิตแก่เขา แต่ไม่มีประโยชน์สำหรับหวางจ้านสักนิด

“ปู่จ้าน!”

หม่าชาวก็ปรี่เข้ามาเช่นกัน เมื่อเห็นใบหน้าที่น่าเวทนาของหวางจ้าน เขาก็อดหลั่งน้ำตาออกมาไม่ได้

“ปู่จ้าน เกิดอะไรขึ้นกับท่าน? ไหนท่านบอกว่าต่อไปจะช่วยผมเลี้ยงลูกไง?”

“ปู่จ้าน ได้โปรดดีขึ้นด้วยเถอะ! ผมขอร้อง!”

“ลูกของผมอีกสองเดือนก็จะคลอดออกมาแล้ว อีกสองเดือนคุณก็ช่วยผมเลี้ยงลูกได้แล้ว คุณจะผิดสัญญาไม่ได้ รีบลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!”

หม่าชาวเจ็บปวดอย่างที่สุดเช่นกัน

เขาอยู่กับหวางจ้านมาไม่นาน แต่เขากลับมีความรู้สึกว่าเหมือนอยู่กับหวางจ้านมานานกว่า 20 ปีแล้ว และหวางจ้านคือปู่ของเขา

ทุกครั้งที่หวางจ้านมองมาที่เขา สายตาของเขาจะอ่อนโยน ราวกับว่ากำลังมองดูลูกหลานของตัวเอง

“อย่า…อย่าโทษ…ตัวเอง…”

หลังจากพูดประโยคสุดท้าย หวางจ้านก็ค่อยๆ หลับตาลง

“ปู่จ้าน…”

หยางเฉินถึงกับตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง เรียกเสียงเบา ราวกับกลัวจะทำให้หวางจ้านตกใจ แต่หวางจ้านไม่มีการตอบสนองเลย ดวงตาของเขาปิดสนิทและมีรอยยิ้มอ่อนโยนที่มุมปาก

“ปู่จ้าน!”

หยางเฉินแผดเสียงลั่นด้วยหัวใจแตกสลาย

ในเวลานี้ ลมหายใจอันโศกเศร้าอย่างหาที่เปรียบมิได้ค่อยๆ แผ่ซ่านออกจากร่างกายของเขา

ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง เส้นผมสีดำของหวางจ้านก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีขาว

เพียงชั่วพริบตา ผมก็หงอกขาว!

“พี่…พี่เฉิน!”

หม่าชาวยังตกตะลึงเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายของหยางเฉิน

ในขณะนี้เขารู้สึกถึงภยันตรายอย่างยิ่งจากตัวหยางเฉิน และหยางเฉินเองก็เย็นชาจนน่ากลัวราวกับน้ำแข็งพันปี

“คุณ…คุณหยาง คุณ…คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ซ่างกวนโหรวที่ตามหวางจ้านมา มองหยางเฉินด้วยสีหน้าหวาดกลัว

ยอดฝีมือของกองกำลังระดับสูงอื่นๆ อดตัวสั่นไม่ได้

อุณหภูมิรอบๆ โรงเรียนศิลปะการต่อสู้เยี่ยนตูลดลงหลายองศา

ทันใดนั้น เกล็ดหิมะก็โปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า

“นี่คือ…หิมะเดือนหกโปรยปราย!”

มีคนร้องอุทานขึ้นมา

ในวันที่อากาศร้อนอย่างสุดขีดนี้ ได้มีหิมะตกโดยไม่คาดคิด ไม่กี่วินาทีต่อมา ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน

เห็นเพียงหยางเฉินลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ

พอเขาลุกขึ้นยืน ทุกคนรู้สึกใจสั่น

แม้แต่หวาอิงเจี๋ยระดับแดนเทพชั้นยอด สายตาก็ยังเต็มไปด้วยความกลัว

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท