ตอนที่ 2011 : การตอบโต้
ในตอนที่เขตต้นกำเนิดผุพังลงไป ทีมคังเฉียงก็ได้ลูกปัดมากว่า 163 และ 182 ลูกรวมทั้งหมด 345 ลูก
ในอดีตนั้นลูกปัดจิต 345 ลูกนี้ถือว่าเป็นจำนวนที่มากอย่างน่าเหลือเชื่อ
แต่การผุพังในครั้งนี้หนักหนาอย่างมาก จำนวนลูกปัดจิตเพิ่มขึ้นมาหลายเท่า บอกได้ว่าลูกปัดจิตเกิดขึ้นจากความเข้มข้นของการผุพัง ยิ่งมีลูกปัดจิตมากเท่าไหร่ มันก็หมายความว่าอายุขัยของเขตต้นกำเนิดนั้นสั้นลงเท่านั้น ยิ่งเขตต้นกำเนิดอยู่ได้น้อยเท่าไหร่ มันก็แทนถึงอายุขัยของทะเลโกลาหลไปด้วย
เมื่อจางหยูได้ลูกปัดจิตมา 345 ลูก ซื่อเซียวและคนอื่นๆต่างก็รู้สึกซับซ้อนในใจ
แน่นอนว่าพวกเขายินดีกับการได้ลูกปัดจิตมามากเช่นนี้ แต่มันก็ยากที่พวกเขาจะหัวเราะได้เมื่อคิดถึงอายุขัยที่สั้นลงไปของทะเลโกลาหล
มันราวกับว่าลูกปัดจิตทุกลูกนั้นเท่ากับอายุขัยของทะเลโกลาหลที่พวกเขาแย่งมา
โชคดีที่พวกเขาอยู่ในทะเลบรรพกาล แม้ว่าทะเลโกลาหลจะโดนทำลายไปจริงๆแต่พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องชีวิตของตัวเองสักเท่าไหร่
ตามที่เราตกลงกันไว้ ลูกปัดจิตนี้ข้าจะเอาไปครึ่งหนึ่ง ไม่มีปัญหาอะไรใช่รึไม่ ? จางหยูมองไปที่ซื่อเซียว
ซื่อเซียวและคนอื่นๆไม่พอใจในใจ แต่พวกเขาเป็นฝ่ายตกลงเอง แม้ว่าจะไม่พอใจแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้
ยิ่งไปกว่านั้นการได้ลูกปัดจิตมามากเช่นนี้ก็เพราะผลงานของทีมคังเฉียง ไม่งั้นแล้วนี่ไม่ต้องพูดถึงลูกปัดจิต 345 ลูกเลย แค่ไม่กี่สิบลูกก็ถือว่าดีแล้ว ยังไงซะเรนไนก็ขึ้นเป็นจักรพรรดิแล้ว แค่เหล่าแม่ทัพที่เหลือคงไม่อาจจะสู้กับแม่ทัพของสวรรค์ได้ 345 ลูก ครึ่งหนึ่งก็เท่ากับ 172 งั้นข้าจะเอาเต็มๆก็แล้วกัน ข้าจะเอาไป 172 ลูก จางหยูแบ่งลูกปัดจิตทันที เขาเอามันไป 172 ลูก ส่วนที่เหลือก็ได้ส่งให้กับซื่อเซียว ส่วนที่เหลือพวกเจ้าแบ่งกันเอง ส่วนจะแบ่งกันยังไงนั้นข้าจะไม่ยุ่งด้วย พวกเจ้าตัดสินใจกันเอาเองก็แล้วกัน
ซื่อเซียวรับแหวนมิติมา เขาแผ่การรับรู้เข้าไปในแหวนมิติก่อนที่มือจะเริ่มสั่น
ลูกปัดจิต 173 ลูก !
จำนวนที่มากแบบนี้เท่ากับจำนวนลูกปัดจิตที่พวกเขาได้มาในกว่าสิบรึยี่สิบครั้งรวมกัน
นี่เพราะความจริงที่ว่าการผุพังครั้งนี้เข้มข้นกว่าเก่า ไม่งั้นแล้วตามระดับการผุพังที่คาดเอาไว้ มันคงดีหากได้ลูกปัดจิตมาแค่ 1-2 ลูก
จะแบ่งกันยังไง ? ซื่อเซียวมองไปที่เย่าหยางและคนอื่นๆ
ตามกฎเก่า เราจะแบ่งกันอย่างเท่าเทียม หว่านเก่อพูดขึ้นมา เย่าหยางคิ้วขมวด มันไม่เหมาะที่จะแบ่งกันอย่างเท่าเทียม ? ยังไงซะครั้งนี้เขตหว่านเก่อก็ไม่ได้ทำอะไรเลย…
ซิงฮัวคือคนของเขตเย่าหยาง แรนดอฟเป็นคนจากเขตอู่หมิงแม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ได้แกร่งมากนัก แต่ก็พอสร้างความเชื่อใจให้กับคนอื่นๆได้อยู่ ส่วนคนของเขตหว่านเก่อและซื่อเซียวนั้นแทบไม่นับว่ามีตัวตนเลย
แล้วยังไง ? หว่านเก่อพูดขึ้นมา ตอนที่เรนไนนำทัพในการผุพัง ข้าก็ไม่ได้ขอลูกปัดจิตมากกว่าใคร ตอนนี้ไม่ใช่ว่าควรจะเหมือนเดิมรึ ? ตามที่เจ้าบอกมา ข้าควรจะคิดถึงเรื่องในอดีตแล้วทวงคืนสิ่งที่พวกเจ้าติดค้างข้าสินะ ?
มันทำให้เย่าหยางพูดอะไรไม่ออก
ก็ได้ แบ่งกันอย่างเท่าเทียม เย่าหยางรู้ว่าเขาเสียเปรียบ เขาไม่พูดไร้สาระอะไรต่อและได้ทำการแบ่งลูกปัดจิต 173 ลูกกันอย่างเท่าเทียม คละ 43 ลูก เหลืออีก 1 ลูก….
หว่านเก่อพูดขึ้นมา งั้นก็ยกให้เรนไนไป
เรนไนตกใจเขาไม่คิดว่าเขาจะได้ลูกปัดจิตด้วย
อู่หมิงมองไปที่เรนไนก่อนจะพยักหน้า ได้ ยกมันให้กับเรนไน
ซื่อเซียวไม่ได้พูดอะไร ยังไงซะเรนไนก็สร้างผลงานมากมายให้กับมนุษย์ พวกเขาไม่อาจจะปฏิเสธได้
ไม่นานซื่อเซียวและคนอื่นๆก็พากันแบ่งลูกปัดจิต 173 ลูก จักรพรรดิทะเลโกลาหลทั้งสี่ได้ไปคนละ 43 ลูก ส่วนที่เหลืออีก 1 ลูก เป็นของเรนไน
โดยทั่วไปแล้วจำนวนลูกปัดจิตที่แต่ละคนได้ไปนั้นมากกว่าที่พวกเขาคาดเอาไว้ด้วยซ้ำ
แม้ว่าจางหยูคนเดียวจะเอาไปถึง 172 ลูกแต่ส่วนที่เหลือก็ถือว่าเป็นกำไรก้อนโต
ด้วยลูกปัดจิตเหล่านี้ ความแข็งแกร่งของเราก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก ! ซื่อเซียวตื่นเต้นขึ้นมาทันที
เย่าหยางและอู่หมิงเองก็ตื่นเต้นเช่นกัน ลูกปัดจิต 43 ลูกนั้นเพียงพอที่จะยกระดับความแข็งแกร่งของพวกเขาขึ้นมาอย่างมาก
หว่านเก่อและเรนไนยังดูเยือกเย็น พวกเขากังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงในทะเลโกลาหลมากกว่า ในอีกความหมายคือการเปลี่ยนแปลงในเขตต้นกำเนิด พวกเขาสนใจมันมากกว่าเรื่องลูกปัดจิต โดยเฉพาะหว่านเก่อ นางคิดว่าจะส่งคนของเขตหว่านเก่อมายังทะเลบรรพกาลแต่แม้ว่านางอยากจะทำเช่นนั้นแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าจางหยูจะตกลงรึไม่ มันคืองานใหญ่ที่จะส่งคนมาที่นี่ มันอาจจะไม่เสร็จในเวลาอันสั้น
หลังจากนั้นสักพัก หว่านเก่อก็มองไปที่จางหยูแล้วพูดขึ้นมา สหายคังเฉียง หากข้าจะส่งคนของเขตหว่านเก่อมาที่นี่ เจ้าคิดว่ายังไง ?
ซื่อเซียวและคนอื่นๆพากันมองไปที่จางหยู พวกเขาเองก็มีความคิดแบบนี้ในใจเช่นกัน ค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลัง จางหยูไม่ได้ตกลงรึปฏิเสธอะไร
แม้ว่าเขาอยากจะทำอย่างนั้น แต่ทะเลบรรพกาลไม่อาจจะจุคนได้มากเช่นนั้นได้ ยังไงซะหลังจากที่ขยายตัวอีกหลายปี แม้ว่าขนาดของมันจะใหญ่โตอย่างมากแต่มันก็มีคนท้องถิ่นอยู่มากมายเช่นกัน ทะเลโกลาหลนั้นใหญ่กว่าทะเลบรรพกาล มันมีคนมากกว่า จึงเป็นธรรมดาที่เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ทุกคนย้ายมายังทะเลบรรพกาล ไม่งั้นแล้วทะเลบรรพกาลคงไม่อาจจะมีที่เพียงพอคนเหล่านั้นได้
เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยู หว่านเก่อก็คิดว่าจางหยูปฏิเสธ นางจึงอดไม่ได้ที่จะผิดหวัง
แต่จางหยูได้ช่วยพวกเขามามากพอแล้ว แม้ว่าจางหยูจะปฏิเสธในเรื่องนี้ แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะว่าอะไรจางหยูได้
ข้าจะคุยเรื่องการขนคนของทะเลโกลาหลในภายหลัง แต่เรื่องทะเลโกลาหล พวกเจ้ามีความคิดเห็นกันยังไง ? จางหยูถามขึ้นมา
หว่านเก่อลังเลและถามขึ้น คิดเห็นอะไรกัน ?
ซื่อเซียวและคนอื่นๆพากันสับสนขึ้นมาทันที
แม้ว่าข้าจะยกศิษย์และอาจารย์ของสำนักคังเฉียงให้พวกเจ้าไม่ได้ แต่พวกเจ้าคิดยังไงกับอาณาเขตของเผ่าสวรรค์ ข้าจะให้คนของข้าร่วมมือกับพวกเจ้า จางหยูยิ้มออกมา ก็เหมือนกับตอนผุพังของเขตต้นกำเนิด คนของเจ้ากับทีมคังเฉียงจะร่วมมือกันในการทวงคืนเขตแดนในทะเลโกลาหลและทำให้ทะเลโกลาหลกลับมาเป็นของมนุษย์อีกครั้ง
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นทุกคนก็พากันเบิกตากว้าง
พวกเขาโดนเผ่าสวรรค์กดดันมาโดยมานาน นานซะจนพวกเขาไม่คิดว่าจะเปิดสงครามกับเผ่าสวรรค์แต่ตอนนี้พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าด้วยความช่วยเหลือจากทีมคังเฉียง เผ่ามนุษย์ก็สามารถยึดคืนทะเลโกลาหลกลับมาได้ พวกเขาจะไล่เผ่าสวรรค์ออกจากทะเลโกลาหลได้ พวกเขาจะทวงคืนดินแดนของพวกเขากลับคืนมา
นี่…มันจะทำได้จริงๆรึ ? ซื่อเซียวไม่มั่นใจ
มันมีสงครามหลายครั้งระหว่างเผ่าสวรรค์และมนุษย์แต่มนุษย์ไม่เคยได้เปรียบเลย ดินแดนของพวกเขามีแต่เสียไปอย่างต่อเนื่อง
เย่าหยางถามขึ้นมา เดาว่าการที่ทีมคังเฉียงช่วยนี้คงมีเงื่อนไขอะไรสินะ ? สหายคังเฉียงลองบอกเงื่อนไขกับเรามาก่อน หากพอฟังขึ้น แน่นอนว่าเราก็ไม่รังเกียจที่จะร่วมมือกับทีมคังเฉียงในการทวงคืนดินแดนกลับมาจากเผ่าสวรรค์
ลูกปัดดั้งเดิม จางหยูยิ้มออกมา ลูกปัดดั้งเดิมทั้งหมดที่ได้มาจากสวรรค์นั้นครึ่งหนึ่งจะเป็นของทีมคังเฉียง เงื่อนไขนี้คงไม่เกินไปใช่รึไม่ ?
แค่ลูกปัดดั้งเดิมรึ ? แล้วสมบัติโกลาหลล่ะ ? อู่หมิงถามขึ้นมา
นั่นก็รวมด้วย จางหยูพูดขึ้น
ข้าคิดว่าคงไม่เป็นปัญหาอะไรสินะ ซื่อเซียวพูดขึ้น ยังไงซะมันก็มีแต่ส่งผลดีกับเรา มันไม่ได้เสียหายอะไรเลย ข้าแค่สงสัยว่าสหายคังเฉียงต้องการลูกปัดดั้งเดิมจำนวนมากไปทำไมกัน ?
อันที่จริงแล้วซื่อเซียวและคนอื่นๆก็สงสัยเรื่องนี้มานานแล้ว ลูกปัดดั้งเดิมเหมือนทำอะไรไม่ได้นอกจากการที่จักรพรรรดิใช้เพื่อรักษาการทำงานของเขตตน
หากเป็นแต่ก่อน จางหยูคงบอกว่าจะใช้เพื่อบ่มเพาะคนในทีมคังเฉียง แต่ตอนนี้สมาชิกในทีมคังเฉียงนั้นได้ขึ้นเป็นแม่ทัพสูงสุดกันแล้ว ลูกปัดดั้งเดิมนั้นไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรกับพวกเขามากนัก สิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆคือเกราะขั้นสมบูรณ์รึอาวุธขั้นสมบูรณ์
รึว่านี่จะเป็นเหตุผลที่สหายคังเฉียงแกร่งได้ถึงระดับนี้ นั้นเกี่ยวข้องกับลูกปัดดั้งเดิมงั้นรึ ? ซื่อเซียวแอบคาดเดาในใจ
แต่แค่ว่าพวกเขาหาคำตอบไม่พบว่าลูกปัดดั้งเดิมกับความแข็งแกร่งของจักรพรรดิเกี่ยวข้องกันยังไง ยังไงซะพวกเขาก็สามารถสร้างลูกปัดดั้งเดิมขึ้นมาได้ง่ายๆ บอกได้ว่ามันไม่ได้ช่วยเพิ่มระดับของจิตเลยแม้แต่น้อย
จางหยูยิ้มออกมา ข้ามีวิธีของตัวเอง แต่มันก็ไม่ได้ผลกับพวกเจ้า