คำว่าจะ ‘เดิมพันสักครั้งไหม’ หลี่จ้งนั้นทำให้หลี่เจียงสงตกใจอย่างมาก
“ท่านพ่อครับ ถ้าเป็นหนึ่งชั่วโมงก่อน ผมอาจจะอยากลองเดิมพันดูอีกสักครั้งนะครับ แต่ตอนนี้ผมไม่เอาด้วยแล้วครับ เพราะมีหลายปัจจัยที่บ่งบอกว่าตอนนี้หยางเฉินยังไม่ได้สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปนะครับ”
“ต่อให้ตอนนี้เขาบาดเจ็บอยู่ ถ้าเราฆ่าเขาได้ มันก็แล้วไป แต่ถ้าเราฆ่าเขาไม่ได้ล่ะ? แล้วหากเราปล่อยให้เขารอดชีวิตไปได้ เมื่อเขาฟื้นคืนพลังจนถึงจุดสูงสุด วันนั้นก็จะเป็นวันพินาศของตระกูลหลี่ของเรานะครับ”
“อีกอย่าง ในเมื่อหยางเฉินกล้าใช้เพื่อนของเขาสองคนมาทดสอบพวกเรา แสดงว่าเขามีปัญญาจัดการกับตระกูลหลี่ได้อยู่แล้ว ฉะนั้นผมไม่เห็นด้วยกับการลงมือฆ่าเขาครับ”
หลี่เจียงสงพูดในสิ่งที่เขาได้วิเคราะห์ออกมาอย่างรวดเร็ว
หลี่จ้งไม่ได้พูดสักคำ ได้แต่เดินไปมาในห้อง และสีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความกังวล
ตามที่หลี่เจียงสงได้วิเคราะห์ ตระกูลหลี่ต้องฆ่าหยางเฉินได้สำเร็จเท่านั้น ไม่อย่างนั้นตระกูลหลี่จะถึงวันพินาศอย่างแน่นอน
ประเด็นสำคัญคือ ตอนนี้เขาไม่สามารถตัดสินได้ว่าหยางเฉินกำลังทดสอบตระกูลหลี่อยู่หรือไม่ ถ้าหากว่าไม่ แสดงว่าหยางเฉินถึงทางตันแล้ว เขากลัวจะลำบากเพื่อนไปด้วย ถึงให้อ้ายหลินกับเฝิงเสียวหว่านไปจากที่นี่
แต่ถ้าหากว่าหยางเฉินกำลังทดสอบตระกูลหลี่อยู่ ขอแค่ตระกูลหลี่กล้าลงมือทำร้ายเขา เขาก็จะทำลายตระกูลหลี่อย่างไม่เหลือสิ้นซากแน่นอน
ชายที่มีพลังแข็งแกร่งถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นหก การที่เขาจะพังพินาศตระกูลหลี่ก็เป็นเรื่องง่ายดายเท่านั้น
ระหว่างที่หลี่จ้งกำลังตัดสินใจอยู่ว่าเขาจะลงมือกับหยางเฉินหรือไม่ ทันใดนั้นก็มีคนใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามา “เหล่าจู่ครับ ท่านผู้นำครับ ซ่านกวนจื่อฉินจากราชวงศ์ซ่านกวนมาแล้วครับ”
“หือ? เขามาทำอะไร?” หลี่จ้งขมวดคิ้วแล้วมองหลี่เจียงสงพร้อมกับพูดว่า “นายออกไปไปต้อนรับเขาสิ ไปดูว่าเขามาทำอะไรที่นี่”
“ครับท่านพ่อ!” จากนั้นหลี่เจียงสงก็เดินตามคนใช้ไปที่ห้องรับแขก
ในไม่ช้า หลี่เจียงสงก็ได้พบกับซ่านกวนจื่อฉินที่ห้องรับแขก
หลี่เจียงสงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตระกูลหลี่เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่องค์ชายสามมาเยือนครับ ยินดีต้อนรับท่านครับ!”
ซ่านกวนจื่อฉินพยักหน้าเบาๆ และมองไปที่หลี่เจียงสงพร้อมกับพูดว่า “เจ้าบ้านหลี่ ที่ผมมาหาคุณก็เพราะมีเรื่องอยากจะปรึกษาหน่อย”
หลี่เจียงสงตอบพร้อมกับเสียงหัวเราะ “ฮ่า ฮ่า องค์ชายสามเกรงใจไปแล้ว ท่านมีอะไรก็สั่งมาได้เลยครับ”
ซ่านกวนจื่อฉินพูดว่า “เสด็จพ่อของผมให้มาหาคุณ เพราะอยากคุยเรื่องการแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี ไม่ทราบว่าเจ้าบ้านหลี่คิดยังไงกับเรื่องนี้”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่านกวนจื่อฉินพูด หลี่เจียงสงก็รู้สึกตกใจมาก แม้จะเป็นเรื่องการแต่งงานเพื่อสร้างความสัมพันธ์ไมตรีระหว่างครอบครัว แต่ตระกูลหลี่ต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายเข้าหาราชวงศ์ซ่านกวน แต่ในตอนนี้ เจ้าชายแห่งราชวงศ์ซ่านกวนกลับเป็นฝ่ายเข้ามาคุยเรื่องนี้กับเขาเอง
หลี่เจียงสงจึงถามว่า “ไม่ทราบว่าเจ้าหญิงคนใดในราชวงศ์ซ่านกวนยอมลดตัวลงมาแต่งงานกับคนตระกูลหลี่ของเราเหรอครับ?”
ซ่านกวนจื่อฉินตอบกลับว่า “ลูกสาวของผมเอง ซ่านกวนโหรว!”
เมื่อได้ยินชื่อของซ่านกวนโหรว หลี่เจียงสงถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ด้วยความตกใจเพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าซ่านกวนโหรวคือว่าที่เจ้าบ้านคนต่อไปของกษัตริย์ซ่านกวน
ก่อนที่กษัตริย์ซ่านกวนจะสละบัลลังก์ และนอกจากเจ้าชายทั้งสามองค์ ผู้ที่อยากครอบครองบัลลังก์ต่อนั้นต้องมีศิลปะการต่อสู้และความสามารถที่เหนือกว่าซ่านกวนโหรวเท่านั้นถึงจะเป็นได้
แต่ในวันนี้ ราชวงศ์ซ่านกวนกลับจะยกผู้สืบทอดคนต่อไปให้แต่งงานกับบ้านตระกูลหลี่ แล้วบ้านตระกูลหลี่จะไม่ชื่นชมยินดีได้อย่างไร
การที่ซ่านกวนโหรวแต่งงานกับคนของบ้านตระกูลหลี่ ต่อให้เธอไม่ใช่ผู้สืบทอดบัลลังก์คนต่อไป แต่อิทธิพลอำนาจจากราชวงศ์ซ่านกวนของเธอยังมีอยู่ และยังคงดำรงต่อไป
ดังนั้น หากตระกูลหลี่ได้ซ่านกวนโหรวผู้มีพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้และความสามารถที่โดดเด่นคนนี้เป็นลูกสะใภ้ มันจึงจะเป็นพรสำหรับตระกูลหลี่เป็นอย่างมาก
“เท่าที่ผมรู้ คุณหญิงซ่านกวนโหรวคือว่าที่ผู้สืบทอดบัลลังก์ของฝ่าบาทคนต่อไปนะครับ ในกรณีนี้ ถ้าจะให้คุณหญิงซ่านกวนโหรวแต่งงานกับครอบครัวตระกูลหลี่ของผม มันจะเหมาะสมเหรอครับ?”
แม้ว่าหลี่เจียงสงอยากให้ซ่านกวนโหรวแต่งงานกับตระกูลหลี่มากแค่ไหน แต่เขาก็รู้ดีว่าราชวงศ์ซ่านกวนคงไม่ยอมให้เธอแต่งกับตระกูลหลี่ง่ายๆ อย่างแน่นอน
ซ่านกวนจื่อฉินขมวดคิ้ว “ทำไม? หรือเจ้าบ้านหลี่คิดว่าลูกสาวของผมไม่คู่ควรกับทายาทของตระกูลหลี่เหรอ?”
หลี่เจียงสงรีบตอบกลับว่า “เป็นไปได้ยังไงครับ? ถ้าคุณหญิงซ่านกวนโหรวได้แต่งงานกับตระกูลหลี่ของผมจริงๆ ผมคงจะมีความสุขจนแทบเป็นบ้าไปแล้ว แล้วจะให้ผมดูถูกท่านได้อย่างไรครับ?”
“งั้นก็ดีแล้วล่ะ!” ซ่านกวนจื่อฉินพูดเบาๆ ว่า “ตอนนี้ตระกูลหลี่เหล่าจู่ได้ถือกำเนิดแล้ว และศิลปะการต่อสู้ของเขาก็น่าทึ่งมาก หากคนของราชวงศ์ซ่านกวนได้แต่งงานกับตระกูลหลี่เพื่อผลประโยชน์ มันคงจะเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับเมืองราชวงศ์ซ่านกวนของผม”
“ผมคิดว่า หลี่เป่าจุ้นของตระกูลหลี่ก็ไม่เลวนะ ในบรรดาหนุ่มๆ ของตระกูลหลี่ เขาโดดเด่นที่สุดแล้ว และเขาก็เก่งมากแม้ต้องเทียบกับราชวงศ์ซ่านกวนของเรา”
“ถ้าหากเจ้าบ้านหลี่เห็นด้วย งั้นก็รีบไปสู่ขอกับราชวงศ์ เพื่อให้พวกเขาได้แต่งงานกันโดยเร็วที่สุด”
หลังจากได้ฟังประโยคเหล่านี้ของซ่านกวนจื่อฉินแล้ว หลี่เจียงสงก็ไม่ได้สงสัยอะไรอีก เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะความแข็งแกร่งและพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่ของหลี่จ้ง ถึงทำให้ราชวงศ์ซ่านกวนรู้สึกถึงความกดดัน และต้องเข้ามาคุยเรื่องแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ก่อน
“ดี ๆ ๆ ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้นะครับ ผมจะไปคุยกับเหล่าจู่ก่อน และจะไปสู่ขอให้เร็วที่สุด จากนั้นค่อยกำหนดวันเวลาของพิธีมงคลสมรสกับฝ่าบาทอีกทีนะครับ”
สีหน้าของหลี่เจียงสงเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความภาคภูมิใจ
เรื่องแบบนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของตระกูลหลี่เลย นับเป็นครั้งแรกที่ราชวงศ์มาขออภิเษกสมรสด้วยตัวเอง นี่คือความรุ่งโรจน์ของตระกูลหลี่จริงๆ
“ครับ งั้นก็ตามนี้ เพราะผมยังต้องกลับไปรายงานให้กับเสด็จพ่อ” ซ่านกวนจื่อฉินยืนขึ้นพูด
หลี่เจียงสงก็รีบลุกตามไปด้วยแล้วพูดว่า “ให้ผมไปส่งองค์ชายสามนะครับ!”
ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินออกไป ซ่านกวนจื่อฉินที่กำลังจะกลับไปก็หยุดเดินอย่างกะทันหัน จากนั้นหันกลับมามองหลี่เจียงสงและพูดว่า “อ้อ ผมเกือบลืมเรื่องหนึ่ง”
หลี่เจียงสงตกตะลึงครู่หนึ่ง “เชิญองค์ชายสามพูดครับ!”
“หยางเฉิน คุณหยาง เขายังพักฟื้นอยู่ที่ตระกูลหลี่หรือ?” ซ่านกวนจื่อฉินถาม
หลี่เจียงสงรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย แต่เขาก็ยังพูดตามความจริง “คุณหยางได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ตอนนี้ยังพักฟื้นอยู่ที่บ้านตระกูลหลี่ครับ คาดว่าคงใช้เวลาไม่นานเขาจะฟื้นตัวได้ครับ”
ซ่านกวนจื่อฉินพยักหน้า “ดีแล้วล่ะ เสด็จพ่อชอบพูดถึงคุณหยางอยู่บ่อยๆ ท่านอยากเชิญคุณหยางไปราชวงศ์สักครั้ง”
“แต่ถ้าคุณหยางกำลังพักฟื้นอยู่ ผมก็คงไม่รบกวนเขาแล้วล่ะ ฝากตระกูลหลี่ทักทายคุณหยางแทนเสด็จพ่อของผมด้วยนะ แล้วอย่าลืมบอกเขาว่า ไม่ว่าจะวันไหนราชวงศ์ซ่านกวนยังคงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาเสมอ”ซ่านกวนจื่อฉินพูดด้วยรอยยิ้ม
หลี่เจียงสงยิ่งรู้สึกตกตะลึงเข้าไปใหญ่ เขารู้ว่าซ่านกวนจื่อฉินกำลังจะสื่อว่าหยางเฉินนั้นมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับกษัตริย์ซ่านกวน และยังเป็นเพื่อนสนิทของราชวงศ์ซ่านกวนอีกด้วย
ถ้าเป็นเช่นนั้น ดูเหมือนว่าหากตระกูลหลี่อยากลงมือทำร้ายหยางเฉิน มันคงจะมีอุปสรรคแล้ว
ซ่านกวนจื่อฉินเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “องค์ชายสามวางใจได้เลยครับ ผมจะบอกต่อให้กับคุณหยางทราบครับ”
“ครับ งั้นผมขอตัวนะครับ ตระกูลหลี่อย่าลืมไปขอพระราชทานอภิเษกสมรสให้เร็วที่สุดนะ เพราะเสด็จพ่อให้ความสำคัญกับงานแต่งครั้งนี้และตั้งหน้าตั้งตารอมาก”
หลังจากซ่านกวนจื่อฉินพูดจบ เขาก็หันหลังกลับไปที่รถโรลส์รอยซ์ และไม่นานหลังจากนั้นก็หายไปจากสายตาของหลี่เจียงสง