กษัตริย์ซ่านกวนระมัดระวังในการทำงานอย่างมาก ตอนนี้ราชวงศ์ถูกโจมตีอย่างหนักและได้รับความสูญเสียอย่างร้ายแรง แม้แต่ฝ่าบาทองค์ก่อนก็สิ้นพระชนม์ไปแล้ว เขาจะไม่ยอมให้สิ่งใดที่อาจคุกคามราชวงศ์เกิดขึ้น
ดังนั้นการค้นหาหยางเฉินให้เจอ และควบคุมเขาให้ได้ จึงกลายเป็นความหมกมุ่นในหัวใจของเขาไปแล้ว
แต่ว่า ในเวลานี้ สภาพแวดล้อมของหยางเฉินถูกปกคลุมไปด้วยพืชพันธุ์เขียวชอุ่ม และหยางเฉินก็เหมือนคนตายที่สามารถหายใจได้ ไม่มีออร่าศิลปะการต่อสู้เล็ดลอดออกมาจากเขา แม้ว่ากษัตริย์ซ่านกวนจะเดินผ่านข้างๆหยางเฉินไป เขาก็ไม่สามารถพบเห็นหยางเฉินได้ เว้นแต่จะเหยียบโดนร่างของหยางเฉินโดยไม่ได้ตั้งใจ
กษัตริย์ซ่านกวนได้นำพาผู้แข็งแกร่งราชวงศ์เป็นเวลาติดต่อกันสามวันเพื่อค้นหาหยางเฉินในสวนราชวงศ์ แต่ก็ไม่พบอะไรเลย
อีกฝั่งหนึ่ง ซ่านกวนจื่อจื้อนำพาผู้แข็งแกร่งอื่น ๆค้นหาผู้แข็งแกร่งแดนเทพของตระกูลหลี่ในสวนราชวงศ์ แต่ก็ไม่พบอะไรเช่นกัน
สิ่งนี้ทำให้ กษัตริย์ซ่านกวนโกรธมาก
“ฝ่าบาทครับ พวกผมยอมแพ้เถอะครับ! เราได้ค้นหาสวนราชวงศ์มาเป็นเวลาสามวันแล้ว และเราได้เดินทางไปเกือบทุกที่ในสวนแห่งนี้ แต่ไม่มีร่องรอยของหยางเฉินแม้แต่น้อยเลยครับ เขาน่าจะออกจากสวนราชวงศ์ไปแล้วครับ ”
ในเวลานี้ ผู้แข็งแกร่งราชวงศ์พูดขึ้นมา ใบหน้าของเขาอ่อนล้าเล็กน้อย หลังจากค้นหาสามวันติดต่อกัน พวกเขาไม่มีแม้แต่โอกาสกะพริบตาก็ว่าได้ และตอนนี้พวกเขาเหนื่อยมากจริงๆ
กษัตริย์ซ่านกวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดอย่างไม่เต็มใจ “ล่าถอย!”
ในที่สุด ผู้แข็งแกร่งราชวงศ์ก็ถอนตัวจากสวน
หลังจากกลับมาที่วัง กษัตริย์ซ่านกวนก็เริ่มฝึกบำเพ็ญไม่ออกไปไหน คราวนี้ราชวงศ์ประสบความสูญเสียอย่างหนัก แม้แต่ซ่านกวนฟู่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ของราชวงศ์ก็เสียชีวิตไป กษัตริย์ซ่านกวนต้องการเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ มีวิธีนี้เท่านั้นที่ราชวงศ์ซ่านกวนถึงจะสามารถลดการสูญเสียให้น้อยลงสุด
ในชั่วพริบตา วันเวลาที่ห่างจากวันที่หยางเฉินฆ่าอวี๋เหวินปิงก้ผ่านเจ็ดวัน
ในวันนี้ ฝนตกหนักก้ตกที่เมืองราชวงศ์ซ่านกวน
นี่เป็นฝนที่ตกหนักที่สุดที่เมืองราชวงศ์ซ่านกวนในรอบห้าสิบปีที่ผ่านมา และกินเวลานานถึงห้าชั่วโมง
หลังฝนตกหนัก ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไม่มีเมฆ และทุกอย่างดูเหมือนเกิดขึ้นใหม่หมด
ขณะนี้ ในพื้นที่ห่างไกลขอสวนราชวงศ์ สถานที่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้และต้นไม้ อยู่ๆก็ขยับขึ้น และนกสองสามตัวที่จอดพักอยู่ที่นั่นก็ตกใจและบินหนีไปทันที
“โว้ว!”
ทันใดนั้น ร่างเล็กลุกขึ้นจากกองดอกไม้และต้นไม้ทันที
“ฮู!”
ทันใดนั้น หยางเฉินก็ลืมตาขึ้นและถอนหายใจยาว ๆ ด้วยอากาศขุ่นมัว เขานั่งบนจุดนั้นเป็นเวลานาน จากนั้นเขาก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งและพูดด้วยความประหลาดใจ: “ฉันยังมีชีวิตอยู่เหรอ?”
เมื่อเขายืนขึ้น เขาประหลาดใจที่พบว่าอาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาหายแล้ว ทั้งคนรู้สึกสดชื่นมากๆ
เขาก้าวไปข้างหน้าเพียงไม่กี่ก้าว เมื่อย่างก้าวของเขาหยุดนิ่งอยู่กับที่ เขาส่ายหมัดของตัวเอง และมีกลิ่นอายศิลปะการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวก็ปะทุออกมาจากหมัดของเขา
“ฉัน ฉันฟื้นแล้ว ศิลปะการต่อสู้ของฉัน ฟื้นแล้วเหรอ?”
หยางเฉินเองตกตะลึงในทันที เขารู้สึกได้ชัดเจนว่าการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ของเขาฟื้นขึ้นมาแล้ว เดิมแรกศิลปะการต่อสู้ของเขาที่ไม่ถูกล้มล้าง เขาอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นสามของแดนเท่านั้น แต่ตอนนี้ ศิลปะการต่อสู้ของเขาได้ทะยานสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า
ข้ามแดนของศิลปะการต่อสู้สองแห่งติดต่อกัน เขาจะไม่รู้สึกตื่นเต้นได้อย่างไร?
หยางเฉินเงยหน้าขึ้นทันทีและหัวเราะเสียงดัง: “ฮ่าฮ่า ศิลปะการต่อสู้ของฉันฟื้นฟูแล้ว!”
ไม่มีใครรู้ว่าเขารอดชีวิตมาได้อย่างไรในวันที่ศิลปะการต่อสู้ของเขาถูกล้มล้าง ไม่เพียงแต่ต้องทนต่อความเจ็บปวดจากการล้มล้างศิลปะการต่อสู้ของเขาเท่านั้น แต่ยังต้องจัดการกับตระกูลหลี่และราชวงศ์ซ่านกวนที่กำลังจับตาดูเขาอยู่
เขาต้องระวังทุกที่ และหากเขาประมาทเล็กน้อย อาจจะเปิดเผยความจริงว่าศิลปะการต่อสู้ของเขาถูกล้มล้าง และอาจถูกฆ่าโดยตระกูลหลี่หรือราชวงศ์ซ่านกวน
ในที่สุด ตอนนี้เขาได้ฟื้นแดนแห่งศิลปะการต่อสู้แล้ว และถึงกับพุ่งทะยานสองแดน ซึ่งเป็นความสุขที่คาดไม่ถึงสำหรับเขา
หลังจากตื่นเต้น อารมณ์ของเขาค่อยๆ สงบลง เห็นเพียงประกายวาบในดวงตาของเขา เหล่ตาและพูดว่า “เรื่องบางเรื่อง ถึงเวลาที่จะต้องจัดการแล้ว!”
ก่อนหน้านี้เขาเป็นเพียงผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม เขาก็สามารถระเบิดความแข็งแกร่งที่เทียบเท่ากับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกได้แล้ว ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาพุ่งสูงขึ้นถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า บวกกับสายเลือดที่คลั่งไคล้ ถ้าได้สู้กับผู้รักษาแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดของราชวงศ์เย่พวกนั้นอีกครั้ง ถึงเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งกว่าก็เถอะ แต่ก็คงจัดการไม่ยากเหมือนครั้งก่อนหรือเปล่า?
แต่ว่า สิ่งที่ทำให้หยางเฉินงงงวยคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ในวันนั้นเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างมาก เขารู้ดีว่าตนเองนั้นต้องตาย และเขาเองก็พร้อมที่จะตาย
แต่คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่สลบไปช่วงหนึ่ง ไม่เพียงแต่อาการบาดเจ็บของเขาหาย แม้กระทั่งขอบเขตศิลปะการต่อสู้ยังพุ่งเป็นสองแดนติดต่อกัน
เขาแอบสัมผัสลมปราณในร่างกายของเขา และทันใดนั้นก็รู้สึกถึงความคุ้นเคยที่แข็งแกร่งของตนเอง หยางเฉินก็ประหลาดใจขึ้นมาทันที: “มันคือยาชี้ชะตาที่หลี่จ้งมอบให้ฉัน!”
เขารู้สึกได้ว่า ร่างกายของเขานั้นยังมีผลยาของยาชี้ชะตาหลงเหลืออยู่
ตอนนั้นเขาหมดหวังกับชีวิต และได้กินยาชี้ชะตาเข้าไป แต่ตอนนั้นไม่มีผลอะไรเกิดขึ้น เขาคิดว่ายานี้คือหลี่จ้งนำมาหลอกเขา
แต่ตอนนี้ เขาเข้าใจแล้วว่า ทำไมยานี้จึงถูกเรียกว่ายาชี้ชะตาแล้ว
“ถ้าฉันเดาไม่ผิด ผลยาของยาชี้ชะตาสามารถฟื้นคืนชีพได้ก็ต่อเมื่อผู้ที่ใช้ยานั้นประสบความตายเท่านั้น”
“นั้นก็แปลว่า ถ้าตอนนั้นฉันไม่กินยาชี้ชะตา นั้งครั้งนี้ฉันคงตายไปแล้วจริงๆ”
หยางเฉินพึมพำกับตัวเอง นอกเหนือจากคำอธิบายนี้แล้ว เขายังนึกไม่ออกจริงๆ ว่าอาการบาดเจ็บของเขาจะรุนแรงขนาดนั้น เขากำลังจะตาย จู่ๆ เขาจะกลับมามีชีวิตขึ้นมาได้อย่างไร?แม้แต่แดนของศิลปะการต่อสู้ก็พุ่งสูงขึ้น
ในเวลาเดียวกัน เมืองราชวงศ์ซ่านกวน สุสานราชวงศ์ใต้ดิน และกษัตริย์ซ่านกวนที่อยู่ในการฝึกบำเพ็ญ จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้น และความตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“เป็นไปได้ยังไง”
เขาเพียงขยับน้อยเดียว ก็ปรากฏตัวข้างนอก
“ฝ่าบาท!”
เมื่อเห็นกษัตริย์ซ่านกวนออกมา ผู้คนผู้แข็งแกร่งราชวงศ์ก็รีบมาถึงที ทุกคนดูตกใจ จากร่างกายของกษัตริย์ซ่านกวน พวกเขารู้สึกถึงกลิ่นของศิลปะการต่อสู้ที่ผันผวนอย่างมาก
“ฝ่าบาท เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมจู่ๆ ท่านถึงออกมาครับ?” มีผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งถามขึ้น
ใบหน้าของกษัตริย์ซ่านกวนดูไม่ดีนัก มองไปในทิศทางขอสวนราชวงศ์ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม และพูดอย่างเย็นชาว่า “เขามาแล้ว!”
“เขา?”
ผู้แข็งแกร่งราชวงศ์ต่างงงงวย พวกเขาไม่รู้ว่ากษัตริย์ซ่านกวนกำลังพูดถึงใคร แต่พวกเขาสามารถสัมผัสได้ว่าเพราะเขาคนนั้นเอง อารมณ์แปรปรวนของกษัตริย์ซ่านกวนจึงเกิดขึ้น
เมื่อคิดถึงเช่นนี้ ทุกคนก็ตกใจมาก ใครกันที่ทำให้กษัตริย์ซ่านกวน ซึ่งอยู่ในการฝึกบำเพ็ญ จู่ๆ ก็ออกมาเผชิญหน้า?
จู่ๆกษัตริย์ซ่านกวนก็พูดขึ้น: “ผู้แข็งแกร่งแดนเทพทั้งหมดในราชวงศ์เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ทุกเวลา!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา สมาชิกของราชวงศ์ก็ตกตะลึงกันหมด
มีคนถาม “ฝ่าบาทครับ ใครครับที่จะมา?พวกเราจะสู้ด้วยการประโคมใหญ่โตเช่นนี้เลยเหรอครับ?”
กษัตริย์ซ่านกวนกัดฟันและพูดว่า “หยางเฉิน!”
“อะไรนะครับ หยางเฉิน! เขาออกจากเมืองราชวงศ์ซ่านกวนไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ทุกคนตกใจ
ในขณะนั้น จู่ๆ ร่างเล็กก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าผู้แข็งแกร่งราชวงศ์ของราชวงศ์ เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของเขา ทุกคนก็เหมือนเจอศัตรูตัวฉกาจ และใบหน้าของทุกคนก็ตกตะลึง
กษัตริย์ซ่านกวนกัดฟันและพูด “หยางเฉิน!”