แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย – ตอนที่ 607

ตอนที่ 607

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย – ตอนที่ 607 ล็อคเป้ากับขายหน้า
“ขอโทษด้วยค่ะที่ฉันพูดจาไม่น่าฟัง พี่คนสวยทั้งสองอย่าโกรธเลยน้า~” อวี๋หลิวเหมยขอโทษพนักงาน เธอมัวแต่วิพากษ์วิจารณ์จนลืมไปว่าตัวเองยืนอยู่ในร้าน

“หลิวเหมย เอาโทรศัพท์ให้พนักงานซิ!” อวี๋หมิงหลางสั่ง

“ได้ๆ รอเดี๋ยวนะ” อวี๋หลิวเหม่ยแอบบ่นในใจ นี่เธอลากพี่มาซวยไปด้วยเหรอเนี่ย?

“หลิวซาซาเป็นพนักงานร้านของพวกคุณหรือเปล่าครับ?” อวี๋หมิงหลางถาม

“ไม่ใช่พนักงานร้านเราค่ะ เขาขายตุ๊กตาอยู่ข้างๆ ไม่เห็นมาทำงานสิบกว่าวันแล้ว ติดต่อก็ไม่ได้ เจ้าของร้านโมโหมาก คุณเป็นอะไรกับเขาคะ?” พนักงานถาม

“ช่วงนี้ร้านพวกคุณมีผ้าขนหนูหายบ้างไหมครับ?” อวี๋หมิงหลางถามต่อ

“อย่าให้พูดเลยค่ะ! หายไปสิบกว่าผืนแล้ว ตอนเช็คสต็อคหัวหน้าแทบอยากจะบ้า นี่ถ้าตามจับมือใครดมไม่ได้พวกเราก็ต้องชดใช้—ว่าแต่คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไงคะ?”

“ผมช่วยหาวิธีให้พวกคุณไม่ต้องชดใช้เงินได้ แต่พวกคุณต้องตอบคำถามผมนะครับ”

“ว่ามาเลยค่ะ!” ช่วงหลายวันมานี้พนักงานกำลังกลุ้มเรื่องสต็อคสินค้าไม่ตรงกับยอด พอได้ยินว่ามีทางให้ไม่ต้องชดใช้เงินก็ตื่นเต้นทันที

“ผมอยากถามหน่อยว่า ยี่ห้อที่พวกคุณขายมีแค่ร้านคุณเท่านั้นเหรอครับ?”

“ในมณฑลนี้มีแค่ร้านเดียว ถ้าในประเทศก็มีหลายร้านอยู่ ตามเมืองใหญ่ๆขายดีกว่าร้านพวกเราค่ะ”

“หลิวซาซามีเพื่อนหรือคนในครอบครัวทำงานเป็นยามของห้างนั้นหรือเปล่าครับ โดยเฉพาะยามที่อยู่เวรกลางคืน?”

“ดูเหมือนพ่อของเขาจะเป็นคนตรวจตราตอนกลางคืน ห้างของเราพอตกดึกก็จะมีพวกลุงๆเข้าเวรคอยผลัดกันตรวจตรายามค่ำคืนค่ะ”

“ผ้าขนหนูของพวกคุณหายไปตั้งแต่เมื่อไรครับ?”

“ก็สิบกว่าวันก่อนค่ะ ก่อนหน้านั้นพวกเราเช็คสต็อคก็ตรงกันดี แล้วอยู่ๆก็หายไปจำนวนมาก อยากจะบ้าตาย”

ช่วงเวลาที่พนักงานบอกกับช่วงเวลาที่หลิวซาซาถูกทำร้ายตรงกันพอดี อวี๋หมิงหลางเข้าใจแล้ว

พนักงานพบว่าอวี๋หมิงหลางวางสายไปแล้วจึงถามอวี๋หลิวเหมยด้วยความสงสัย

“ใครกัน? เขารู้เรื่องผ้าขนหนูร้านเราหายได้ยังไง?”

อวี๋หลิวเหมยกระพริบตาปริบๆ ถึงเธอจะไม่รู้ว่าทำไมอวี๋หมิงหลางถึงได้ถามแบบนั้น แต่ก็รู้ว่าสถานะของพี่ชายค่อนข้างพิเศษ เรื่องบางอย่างเอาไปพูดส่งๆไม่ได้ ไม่งั้นอาจซวยคนในครอบครัวได้

“โอ๊ยโหย~ พี่สาวผิวดีจังเลย ชอบกินหมูน้ำแดงไหมคะ?” เปลี่ยนเรื่องคุยได้ไร้ศิลปะมาก ครั้นแล้วสาวน้อยอวี๋หลิวเหมยจึงถูกอัญเชิญออกจากร้าน

เธอลูบจมูก ถูกไล่ออกจากร้านยังไม่เท่าไร อย่าเปิดเผยความลับของพี่ชายเป็นพอ

อวี๋หมิงหลางวางสาย หลินเจ๋อกว่างจ้องเขาด้วยดวงตาดำคล้ำ คดีนี้พวกเขาสืบกันหามรุ่งหามค่ำ

“เพื่อน เรื่องที่นายให้พวกเราสืบได้เรื่องมาแล้วนะ วันนั้นเหยื่อที่ชื่อหลิวซาซาไปส่งข้าวให้พ่อที่ทำงานที่ห้าง พ่อเธอมีหน้าที่ตรวจดูความเรียบร้อยที่นั่น ซึ่งก็คือเป็นยามนั่นแหละ เบาะแสนี้ตกไปได้แล้วนะ”

“ไม่ เบาะแสนี้ไม่ตก พวกเราเจอเบาะแสใหญ่แล้ว รีบส่งคนไปที่รีสอร์ทจือหมิงที่อยู่ในเขตท่องเที่ยวเขาเสี่ยวเจียวแล้วพาลูกชายเจ้าของที่ชื่อหวางจือหมิงมาสอบสวน”

ปากของหลินเจ๋อกว่างเป็นรูปตัวO “ทำไมล่ะ!”

แค่ฟังคำให้การที่ดูเหมือนไม่ได้อะไรแบบนั้นก็ล็อคเป้าหมายได้เลยเหรอ? เทพไปป้ะ?

“เพราจุดประสงค์ของเหยื่อที่ชื่อหลิวซาซาไม่ได้ไปที่ห้างแค่เพื่อเอาข้าวไปให้พ่อ เขายังได้เอาสินค้าที่พ่อขโมยจากในห้างออกมาด้วย และสินค้านั้นก็คือผ้าขนหนูไป๋หยุนที่มีขายแค่ที่เมืองนี้! ตอนที่ฉันกับคู่หมั้นไปพักผ่อนได้ซื้อผ้าขนหนูแบบนี้ในราคาที่ถูกมากจากรีสอร์ท ไปพาหวางจือหมิงมา ถึงเขาจะไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย แต่อย่างน้อยก็มีส่วนเกี่ยวข้อง!”

ผ้าขนหนูหายไปในวันที่เหยื่อถูกทำร้าย อีกทั้งในช่วงเวลาที่เหยื่อถูกพบ ผ้าขนหนูก็ไม่อยู่แล้ว หวางจือหมิงมีผ้าขนหนูอยู่หลายผืนมันน่าสงสัยมาก!”

อวี๋หมิงหลางพาคนบุกไปที่ภูเขาเตรียมพาหวางจือหมิงกลับมาสอบสวน

ในความคิดของอวี๋หมิงหลาง คนอ่อนแอที่ชอบดูถูกตัวเองอย่างหวางจือหมิงไม่น่าใช่ผู้ต้องสงสัยที่กล้ากรีดหน้าคนอื่น แต่ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ไม่มากก็น้อย เขาจึงจะลองไปคุมตัวมาสอบถามดูเผื่อได้เบาะแสอะไร

ส่วนทางด้านเสี่ยวเชี่ยน เมื่อไปถึงจุดนัดพบก็เจอลูกค้าที่สุ่ยเซียนแนะนำมาให้ เธอรู้สึกตกใจมาก

ก่อนหน้านี้สุ่ยเซียนแนะนำคนไข้ที่เป็นโรคภาวะบุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่งให้เธอ แต่เพราะอวี๋หมิงหลางอยู่ด้วยเสี่ยวเชี่ยนจึงลังเลว่าจะรับหรือไม่รับดี

ตอนนี้อวี๋หมิงหลางไม่อยู่แล้วเธอจึงมีเวลา สุ่ยเซียนโทรมาถามอีกรอบในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะพอดี เสี่ยวเชี่ยนจึงตัดสินใจขอเจอคนไข้ก่อน หลังจากที่ได้รู้ข้อมูลของคนไข้แล้วค่อยตกลงเรื่องราคาและแผนการรักษา

สถานที่นัดคือร้านกาแฟที่อยู่ชั้นล่างของห้าง สุ่ยเซียนบอกว่าอีกฝ่ายใส่สูทดำ บนโต๊ะจะมีนิตยสารรู้ใจวางอยู่

เสี่ยวเชี่ยนใส่เสื้อเชิ้ตสีแดงกางเกงผ้าเนื้อบางขาบานสีดำ ทั้งสองฝ่ายใช้วิธีสังเกตจากเสื้อผ้า

ภายในร้านกาแฟมีผู้ชายใส่สูทอยู่คนเดียว ดูยังหนุ่ม บุคลิกเหมือนลูกคนรวย แต่เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกตกใจที่ข้างตัวผู้ชายคนนี้มีผู้หญิงสวมกระโปรงขาวนั่งอยู่ บนโต๊ะของทั้งสองคนมีหนังสือวางอยู่หนึ่งเล่ม

“ที่รัก ครั้งนี้ผมต้องหายแน่ คุณวางใจได้ ต่อไปไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีก” ผู้ชายที่ใส่สูทปลอบผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ

“คุณจะหายได้จริงๆเหรอ?”

“ใช่ ที่บ้านบอกว่าถึงหมอคนนี้จะดูเด็กแต่รักษาหายมาหลายคนแล้ว อาการของผมไม่หนัก ไม่ใช่โรคประสาท ก็แค่เป็นโรคจิตเวชเล็กๆ ที่รักอย่าทิ้งผมไปเลยนะ!”

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่นั้นอยู่ๆก็รู้สึกว่ามีคนหยิบนิตยสารที่เป็นเหมือนโค้ดลับนั้นไป พอเงยหน้าทั้งสองคนก็อึ้ง

“เหม่ยเหวย?”

“เย่เสียวอวี่?”

เย่เสียวอวี่ก็คือเพื่อนสมัยมัธยมที่แอบชอบอวี๋หมิงหลาง เล่นเทนนิสกับอวี๋หมิงหลาง เป็นนักจัดรายการวิทยุที่พยายามเข้าหาอวี๋หมิงหลางแต่ถูกเสี่ยวเชี่ยนรู้ทัน

เสี่ยวเชี่ยนกับเย่เสียวอวี่ต่างไม่ชอบหน้ากัน ด้านหนึ่งก็เรื่องงานที่ต้องแข่งขัน อีกด้านหนึ่งก็เพราะทั้งสองคนต่างชอบอวี๋เสี่ยวเฉียง

แต่ในเวลานี้สิ่งที่ทำให้เสี่ยวเชี่ยนนึกไม่ถึงก็คือ เย่เสียวอวี่เป็นแฟนของคนไข้ที่สุ่ยเซียนแนะนำให้เธอ และผู้หญิงคนนี้คบกันผู้ชายที่มีภาวะบุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่งไปพร้อมๆกับอ่อยผู้ชายของเธอ

พฤติกรรมแบบนี้เสี่ยวเชี่ยนมองว่าเป็นการเล่นกับไฟ ช้าเร็วต้องถูกไฟคลอกตาย

“คุณคือหลี่เจีย?” เสี่ยวเชี่ยนถามผู้ชายคนนั้น

สายตาของเสี่ยวเชี่ยนมองไปมาระหว่างผู้ชายคนนี้กับเย่เสียวอวี่ ผู้หญิงที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำเสพติดการแต่งหน้าคบกับคนที่มีภาวะบุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่ง นี่มันเป็นเรื่องที่สุดๆไปเลย

ภาวะบุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่งรักษาไม่ง่าย ถูกยกให้เป็นมือฆ่าจิตแพทย์ จิตแพทย์ทั่วไปไม่อยากรับเคสแบบนี้เพราะมันยากมาก

“ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดเรื่องอะไร เพื่อนฉันไม่ได้ป่วย พวกเรามีธุระ ขอตัว!” เย่เสียวอวี่ทำหน้าบึ้งใส่เสี่ยวเชี่ยน

เธอเองก็ไม่คิดว่าจิตแพทย์ของหลี่เจียคือเหม่ยเหวยที่เธอแสนเกลียด!

มันน่าขายหน้าชะมัด!

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

Status: Ongoing

หลังจากตรอมใจตายจากการเสียลูกสาวสุดที่รักไป เสี่ยวเชี่ยน จิตแพทย์สาวชื่อดังก็ได้ย้อนเวลากลับมาเป็นตัวเองเมื่อตอนอายุสิบแปดปีอีกครั้ง คราวนี้เธอจะแก้ไขเรื่องในอดีตทุกอย่างที่เธอเคยผิดพลาดไป เธอจะคิดบัญชีทุกคนที่เคยทำร้ายเธอและคนที่เธอรัก ทั้งพ่อที่เอาใบเรียนต่อมหาวิทยาลัยของเธอไปซ่อนเพื่อบังคับให้เธอต้องแต่งงานกับผู้ชายที่จะเอาเธอมาแต่งงานบังหน้าทั้งที่ตัวเองเป็นเกย์ ทั้งอาจารย์ที่รับเงินพ่อเพื่อปิดบังเรื่องผลสอบของเธอ ยังมี หนีเจี้ยนเหริน คนสารเลวที่ทุบตีเธอไม่เว้นวันในชาติที่แล้ว เธอจะเอาคืนทุกคนให้หมด ชาตินี้เธอตั้งใจไว้แล้วว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่อการแก้แค้นเท่านั้น! แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกทำให้เธอต้องมาพบกับเขา อวี๋หมิงหลาง ทหารที่รักเธออย่างสุดใจเมื่อชาติก่อน ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผนการของเธอแล้วแท้ๆ แต่พอตานี่โผล่มาทุกอย่างก็ยุ่งเหยิงผิดพลาดไปหมด นี่เธอต้องทำยังไงถึงจะสลัดอีตากอเอี๊ยะนี่ทิ้งไปได้กันเนี่ย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท