แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย – ตอนที่ 651 รอบตัวมีแต่คนประหลาด
ฉิวฉิวพอได้ยินคำถามของหลิวเหมยก็ถอนหายใจแล้วตอบอย่างเซ็งๆ
“เดิมทีก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่ตอนยื่นเอกสารเข้าทำงานมันต้องให้บัตรประชาชนใช่ไหมล่ะ ทางโรงเรียนพอเห็นตรงช่องระบุเพศก็โกรธมาก ผู้อำนวยการบอกว่าที่เขารับฉันไม่ใช่เธอก็เพราะพวกเขาอยากได้อาจารย์ผู้ชาย ปรากฏว่าพอเห็นฉันเป็นของปลอมก็เลยไล่ออกเลย เหตุผลก็เพราะกลัวสภาพกึ่งหญิงกึ่งชายของฉันจะทำนักเรียนเสียคน”
เรื่องแบบนี้ฉิวฉิวเจอมาหลายครั้งแล้ว ด้วยสภาพของเขาที่เป็นแบบนี้จึงค่อนข้างเหนื่อยในการหางาน ก่อนหน้านี้ทำงานพิเศษยังไม่เท่าไร แต่พอเรียนจบแล้วหางานประจำทำ หน่วยงานต่างๆก็ต้องให้ยื่นบัตรประชาชนเพื่อทำประกันสังคม พอเห็นในบัตรประชาชนระบุเพศหญิง แต่ตัวเขาเป็นชาย หลายหน่วยงานที่ค่อนข้างมีหน้ามีตาก็ไม่อยากรับเขา
หน่วยงานที่ดีหน่อยก็จะบอกเขาว่าไม่ต้องมาแล้ว ส่วนหน่วยงานที่ค่อนข้างไร้มารยาทก็จะมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ บางครั้งฉิวฉิวยังไม่ทันเดินไปไกลพวกเขาก็นินทา หาว่าสมองไม่ดีบ้างล่ะ วิปริตบ้างล่ะ คำพูดพวกนี้ฉิวฉิวได้ยินบ่อย
ถึงจะชินแล้ว แต่พอได้เจองานที่เหมาะกับตัวเองทุกด้านกลับถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลนี้ ฉิวฉิวก็อดโกรธไม่ได้ จึงอยากหาเพื่อนดื่มเหล้าแก้กลุ้ม
“กึ่งชายกึ่งหญิงงั้นเหรอ”หลิวเหมยไม่เข้าใจ
แม้แต่เวยเวยที่นั่งเล่นเกมอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ก็หันมามองฉิวฉิวด้วยความสงสัย
“ถึงใจของฉันจะเป็นชาย แต่ร่างกายของฉันเป็นหญิง สวรรค์ให้ฉันมาเกิดผิดเพศ ประธานเชี่ยนบอกว่าฉันเป็นภาวะกระบวนการรับรู้เรื่องเพศผิดปกติ แต่ฉันว่าฉันก็โอเคดีนะ”
ช่วยหลายปีมานี้ฉิวฉิวมีความก้าวหน้าขึ้นมา ภายใต้การชี้แนะทางอ้อมของเสี่ยวเชี่ยน เขากล้าที่จะเผชิญกับความเสียใจที่ตัวเองเกิดมาผิดเพศ ถึงขนาดที่สามารถเอาเรื่องตัวเองมาพูดล้อเล่นได้
“ไม่ต้องเสียใจหรอก พลาดงานนี้ก็แสดงว่ามันไม่เหมาะกับนาย งานหน้าจะต้องดีกว่าแน่นอน—เรื่องความรักก็เหมือนกัน” เสี่ยวเชี่ยนตบบ่าฉิวฉิว ช่วงสองปีนี้ฉิวฉิวลำบากมาก หลังจากที่คลาดกับจิงจิงคนที่ตัวเองชอบเขาก็ได้ลองคบผู้หญิงคนอื่น แต่อีกฝ่ายก็เลิกกับฉิวฉิวด้วยเหตุผลสารพัด
“หา เอ่อ ขอโทษนะ ฉันไม่นึกว่า—” เป็นครั้งแรกที่หลิวเหมยได้ยินโรคนี้ อยู่ๆก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
“ไม่เป็นไรชินแล้ว นี่เป็นทางที่ฉันเลือกเอง ในเมื่อไม่เหมือนกับคนอื่น งั้นก็ต้องเตรียมใจที่จะรับมือ นึกถึงตอนที่ฉันเกือบฆ่าตัวตายแล้วได้เจอประธานเชี่ยนครั้งแรก ไม่คุ้มเลยจริงๆ”
พอได้ยินคำว่าฆ่าตัวตาย ในที่สุดเวยเวยก็ทนไม่ไหว
“แล้วพี่ไม่คิดว่าการมีชีวิตอยู่ต่อมันลำบากเหรอ?”
“เอ๊ะ มีน้องสาวคนสวยอยู่ด้วยเหรอ เป็นสาวหรือยังจ๊ะ? น้องเขาเป็นใครเหรอ?” พอฉิวฉิวเห็นเวยเวยก็ถามเสี่ยวเชี่ยน
“น้องสาวที่เพิ่งเจอกัน ยังไม่โตเป็นสาว ฉิวฉิว คุยกับน้องหน่อยได้ไหม? ใช้วิธีเดียวกับที่ฉันเคยใช้กับนายน่ะ” เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกว่าฉิวฉิวเหมือน ‘ตัวฟรี’ในไพ่นกกระจอก จะจับวางตรงไหนก็ได้
“ได้สิ ประธานเชี่ยนลงไปซื้อเนื้อย่างมาหน่อยสิ ทางนี้ฉันจัดการเอง” ฉิวฉิวเข้าใจความหมายที่เสี่ยวเชี่ยนต้องการสื่อ เด็กคนนี้น่าจะเป็นผู้ป่วยจิตเวช ประธานเชี่ยนต้องการให้เขาช่วย
ชีวิตของเขาประธานเชี่ยนเป็นคนช่วยเอาไว้ ประธานเชี่ยนให้เขาทำอะไรเขาก็จะทำ ไม่มีปัญหา
“พี่ไม่คิดว่าการมีชีวิตอยู่มันเป็นทุกข์เหรอคะ? ทั้งๆที่ตัวเองไม่เหมือนคนอื่น” ภายในบ้านเหลือแค่เวยเวยกับฉิวฉิว เวยเวยจึงถามขึ้น
“ตอนแรกก็ทุกข์นะ ตอนที่พี่จิตตกสุดๆเคยคิดอยากตายด้วย เพราะยังไงก็หาความสุขไม่เจออีกต่อไปแล้ว ไม่มีทางได้เจอคนที่พี่ต้องการ”
“แล้วทำไมยังมีชีวิตอยู่ต่อล่ะคะ…หนูไม่เหมือนกับคนอื่น หนูแค่อยากมีชีวิตอยู่เพื่อคนที่หนูแคร์ แต่ยิ่งอยู่ยิ่งเป็นทุกข์” เวยเวยพึมพำ
“ตอนแรกพี่ก็คิดแบบนั้นนะ แต่พี่แย่กว่าน้องอีก ข้างกายพี่ไม่มีใครแคร์พี่เลย ประธานเชี่ยนทำให้พี่รู้ว่าคนเราถ้าแม้แต่ความตายยังไม่กลัวก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว พี่น่ะเป็นคนที่อกหักบ่อย ทุกวันต้องเจอกับสายตาที่ไม่เข้าใจของคนที่รู้ความลับเรื่องเพศของพี่ แต่พี่สบายๆ พี่ไม่ได้ทำเรื่องที่ผิดต่อใคร ไม่เคยทำร้ายใคร แล้วทำไมพี่ต้องตายด้วย? พี่ต้องมีชีวิตอยู่ต่อ เกิดวันไหนพี่เจอคนที่ชอบขึ้นมาล่ะ ต่อให้ไม่เจอพี่ก็ยังได้ดื่มด่ำกับชีวิตระหว่างทางไปเรื่อยๆ…”
ฉิวฉิวกับเวยเวยเข้ากันได้อย่างรวดเร็ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาช่วยเสี่ยวเชี่ยน
ฉิวฉิวมีความสดใสร่าเริงแบบผู้ชาย ตัวเขามีจุดดีที่ผู้ชายควรมี เช่น อ่อนโยน เอาใจใส่ พึ่งพาได้ จิตใจดี แต่เขากลับต้องมาเจอกับสิ่งที่ทำร้ายจิตใจเพียงเพราะเขามีร่างกายเป็นหญิง
ดังนั้นเวลาที่เสี่ยวเชี่ยนเจอกับผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องการถูกคุกคามจากเพศตรงข้ามอย่างจิงจิงหรือเวยเวยที่มีความหวาดกลัวผู้ชาย เสี่ยวเชี่ยนก็จะให้ฉิวฉิวช่วย ความพิเศษในตัวฉิวฉิวเหมือนมีแม่เหล็กดึงดูด ช่วยเยียวยาเด็กผู้หญิงที่เคยถูกผู้ชายทำร้ายได้
หลิวเหมยกับเสี่ยวเชี่ยนไปซื้อเนื้อย่างเสียบไม้ หลิวเหมยเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่พูด
“อยากถามเรื่องฉิวฉิวเหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนมองออก
“ใช่ๆ…เขาเป็นคนดีออก ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย?”
“คำถามนี้ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน อาจเพราะสวรรค์แกล้งคนเก่งมั้ง พูดตามตรง พี่อยากให้ฉิวฉิวได้เจอคนที่เหมาะกับตัวเองเร็วๆมากกว่าใครเลยด้วยซ้ำ” ช่วงหลายปีมานี้เสี่ยวเชี่ยนคิดถึงเรื่องนี้ของฉิวฉิวมาตลอด
หลังจากเรื่องจิงจิงผ่านไป เธอรู้สึกคล้ายกับว่าฉิวฉิวไม่ได้รักใครอีก เขาช่วยเธอรักษาคนไข้ผู้หญิงมากมาย แต่ผู้หญิงทุกคนกลับให้เขาเป็นแค่เพื่อนแค่พี่ที่ดี ซึ่งก็ทำให้ประธานเชี่ยนจนปัญญา
“อ่อ น่าเสียดายที่ประเทศเราไม่ให้เพศเดียวกันแต่งงาน ไม่งั้นฉันจะแต่งกับเขาเลย”
“…อย่าล้อเล่นน่า”
“ไม่ได้ล้อเล่นนะ เมื่อวานแฟนฉันโทรมาขอเลิก ฉันไม่ได้แต่งงานแล้ว ฉันว่าฉิวฉิวก็ดูเป็นคนดี ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันน่าจะไม่เลว—เฮีย เอาเนื้อเอ็นโรยพริกเยอะๆนะคะ!”
เสี่ยวเชี่ยนกุมขมับ รอบตัวเธอไม่มีคนปกติเลยใช่ไหม?
ถ้าฉิวฉิวมีความบกพร่องกระบวนการรับรู้เรื่องเพศ งั้นหลิวเหมยก็คงบกพร่องกระบวนการรับรู้การแต่งงานสินะ ตอนที่หลิวเหมยพูดเรื่องสำคัญอย่างแฟนบอกเลิกกับไม่ได้แต่งงานแล้ว น้ำเสียงยังไม่ดูจริงจังเท่าสั่งเนื้อย่างด้วยซ้ำ
“แฟนคนที่โทรหาเธอสองปีสิบครั้งทำไมอยู่ๆมาบอกเลิกล่ะ?” เสี่ยวเชี่ยนถามหลิวเหมย
“อ๋อ เมื่อวานเขาโทรมาถามฉันว่าภูมิลำเนาฉันอยู่ที่ไหน พอฉันบอกไปเขาก็ขอเลิกเลย งั้นก็เลิกสิ—เฮีย เอาปีกไก่อีกสองไม้ พี่สะใภ้ ปีกไก่กับเบียร์นี่มันเข้ากันสุดๆเลยนะ!”
นี่ถ้าไม่ได้รู้จักอวี๋หลิวเหมยดี เสี่ยวเชี่ยนคงจะคิดว่าการที่หลิวเหมยสั่งอาหารจริงจังขนาดนี้ก็เพื่อกลบเกลื่อนความเศร้าที่ต้องเลิกกับแฟน แต่จริงๆแล้วไม่ใช่
ผู้หญิงคนนี้มองเรื่องกินสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด แฟนในตำนานของเธอยังไม่สำคัญเท่าปีกไก่สองไม้
“พี่สะใภ้ พี่ว่าทำไมเขาถึงเลิกกับฉันเหรอ?” หลิวเหมยถามเสี่ยวเชี่ยน เธอถูกทิ้งแล้ว แต่ในใจกลับไม่ได้รู้สึกเสียดาย แค่แปลกใจว่าทำไมอยู่ๆอีกฝ่ายมาบอกเลิก
แต่เสี่ยวเชี่ยนเข้าใจ! สองปีโทรมาสิบครั้งยังไม่บอกเลิก แต่กลับมาบอกเลิกตอนนี้ ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!