เมื่อซูย้าวกลับมา ลี่เฉินซีและเจียงจี้เซิงยังคงดื่มกันอยู่ เธอถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ และนั่งลงต่อไป
ในเวลานี้ ดูเหมือนลี่เฉินซีจะดื่มมากเกินไปแล้ว เขาแสดงรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ให้กับเธอ และแขนยาวของเขา ก็ดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนของตัวเอง แล้วปล่อยให้เธอพิงไหล่ของเขาไว้ “คุณอยากดื่มเป็นเพื่อนผมไหม?”
ซูย้าวยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ และผลักมือออก “ไม่ค่ะ ฉันไม่ดื่มกับคนขี้เมา”
เขาเลิกคิ้ว “คุณว่าผมเป็นคนขี้เมาเหรอ?”
เธอยิ้ม แล้วไม่ใช่คนขี้เมาเหรอ? เห็นได้ชัดว่าเขาเมาแลว และตัวเขาก็เต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ ในประเดี๋ยวเดียว ซูย้าวมองไปที่เจียงจี้เซิงและกล่าวขอโทษว่า “อายประธานเจียงแล้วค่ะ คุณลี่ดื่มมากเกินไป ฉันจะไปส่งเขากลับก่อน ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสจะมาดื่มกับประธานเจียงอีกนะคะ!”
เจียงจี้เซิงพยักหน้า “ครับ คุณอยากให้ผมช่วยเหลืออะไรไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคนเดียวได้” ซูย้าวพูด และช่วยพยุงลี่เฉินซีลุกขึ้น ให้น้ำหนักตัวทั้งหมดของเขาทิ้งมาที่เธอ จับแขนเขาแล้วพาเขาออกไป
เจียงจี้เซิงนั่งอยู่ที่นั่น มองดูด้านหลังของทั้งสองคนที่เดินออกไป และยิ้มอย่างมีความหมาย
ข้างนอกในเวลานี้ ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยความมืดไปหมดแล้ว ลมยามกลางคืนพัดมา ทำให้อาการเมาของลี่เฉินซีดีขึ้นเล็กน้อย แต่เขาก็ยังเวียนหัวอยู่ และยกมือขึ้นลูบขมับ มองดูผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างของเขา ยิ้มเบาๆ “ซูย้าว คุณดูแลผมเหรอ!”
เขาพูดอะไรกัน……
“ในเมื่อคุณลี่หายเมาแล้ว ก็เดินเองนะคะ!” ซูย้าวพูดแล้วปล่อยขาเขา
เมื่อรู้สึกถึงการออกห่างของเธอ ลี่เฉินซีก็รีบจับมือเธออีกครั้งโดยไม่รู้ตัว และใช้โอกาสนี้ดึงเธอ พารูปร่างที่เพรียวบางของเธอมาด้วยแรงพลังเข้าไปในอ้อมแขน “ในเมื่อมาขนาดนี้แล้ว คิดจะไป? มันไม่ง่ายหรอกนะ!”
“เลิกวุ่นวายได้แล้ว นี่มันบนถนน……” เธอปฏิเสธเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของเขาได้เลย
“มันเกี่ยวอะไร?”
ลี่เฉินซีมองดูเธอด้วยดวงตาใสๆ ท่าทางนั้นเหมือนเด็กๆ ที่ทำให้เธอหลงใหล
ใช้เวลานานในการเกลี้ยกล่อมเขาด้วยคำพูดต่าง ๆ ถึงจะเขาพยุงเขากลับไปที่โรงแรมได้
“คุณชอบผมมาตั้งนานแล้ว ทำไมไม่บอกผมล่ะ?” จู่ๆ เขาก็พูดขึ้น และเอียงศีรษะมองเธอ
ซูย้าวหยุดชะงัก มองดูว่าใกล้จะถึงโรงแรมแล้ว แต่เธอหยุด จ้องมาที่เขาด้วยความประหลาดใจ “คุณ……รู้ได้อย่างไร?”
ฟังจากน้ำเสียงของเธอ ก็รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง
ไม่ต้องรอสารภาพเลยจริงๆ
ลี่เฉินซีมองไปที่เธอและยิ้ม
ปรากฏรอยยิ้มชั่วร้ายและมีเสน่ห์เป็นพิเศษ
ซูย้าวยังคงต้องการถามคำถามอีก แต่ลี่เฉินซีจับเธอด้วยแขนยาว พาเธอก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว และตรงเข้าไปในโรงแรม
เมื่อลิฟต์ขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุด เขาก็เปิดประตูด้วยคีย์การ์ด ขณะที่ประตูเปิด เขาก็คว้าผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เขา ทั้งสองพากันเข้าไป และผลักประตูปิด พร้อมทั้งผลักอีกคนให้ติดกับผนัง
มือเรียวใหญ่ลูบที่แก้มของหญิงสาว เขาแนบไปกับหูของเธอ เอ่ยคำพูดที่แผ่วเบาและมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีกว่า “คุณชอบผมตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“คือ……”
ซูย้าวขมวดคิ้ว และถามกลับอย่างแดกดัน “ใครบอกคุณ?”
ดูเหมือนว่าคนที่รู้เรื่องนี้คือโม่หว่านหว่านและอานซินเออร์เท่านั้น
โม่หว่านหว่านเป็นเพื่อนที่ดี คงไม่พูดออกไปแน่นอน ส่วนอานซินเออร์ ในตอนที่เธอทั้งสองถูกมัดโดยลูกน้องของเจียงจี้เซิง ก็เลยคุยกันโดยไม่ตั้งใจ เป็นไปได้ไหมที่……
เธอเดาคำตอบอย่างรวดเร็ว “เจียงจี้เซิงบอกคุณเหรอ?”
กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือมีคนอยู่ในห้องที่เธอและอานซินเออร์กำลังคุยกันอยู่?!
เธอสามารถรู้จากสายตาที่ลึกล้ำของชายตรงหน้าได้
แต่ลี่เฉินซีกลับยิ้มอย่างเฉยเมย “ยัยทึ่ม คุณนี่ฉลาดจริงๆ !”
“นี่มันไม่เกี่ยวกับความฉลาด เมื่อก่อนฉันเคยชอบคุณก็จริง ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้……”
เธอลากเสียงยาว สวนทางกับคำพูดในหัวใจเธอ และทันทีที่เธอพูดออกไป เธอก็ตกใจมาก
ลี่เฉินซียิ้มและมองเธออย่างชั่วร้าย “เป็นอะไรไป? ตอนนี้คุณไม่ชอบแล้วเหรอ? หืม?”
เสียงอันมีเสน่ห์ และดวงตาคนนั้นและหรี่ลง ผู้ชายคนนี้กำลังยั่วยุเธอ
ซูย้าวที่ดื่มไวน์ไปสองสามแก้วก่อนหน้านี้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้เมาจนไร้สติ แต่เธอก็ยังมึนๆ อยู่บ้าง เธอกัดริมฝีปากอย่างประหม่า “โอเค คุณเมาแล้ว ฉันจะพาคุณไปนอน!”
ลี่เฉินซีมองมาที่เธอ ผิวขาวและอ่อนโยนของหญิงสาว ลำคอยาวระหง และด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อย ผิวสีขาวจึงกลายเป็นสีแดงระเรื่อ ในทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ค่อยๆ เปล่งแสงแปลกๆ ออกมา
ความรุ่มร้อนค่อยๆ แผ่ไปรอบๆ ที่ไหนสักแห่งในก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อมองดูหญิงสาวตรงหน้า มุมริมฝีปากของเขาก็ยกขึ้น ทันใดนั้น ด้วยแรงแขนของเขา ก็รวบเอวคนตรงหน้าเข้ามากอด
ซูย้าวอุทาน แต่ได้ยินชายคนนั้นพูดว่า “ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้วรึยังครับ?”
“เอ่อคือ……”
เมื่อก่อนทั้งสองก็ไม่ใช่ไม่เคยทำ ฉากนี้เหมือนจะเคยเกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง แต่ก็เมื่อ 5 ปีที่แล้ว และตอนนี้……
หลังจากเวลาผ่านไปนาน ความตึงเครียดบางอย่างทำให้จิตใจของเธอสับสนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เขามองดูริมฝีปากที่เปล่งประกายแวววาวของหญิงสาว แก้มที่แดงก่ำ และดวงตาที่น่าหลงใหล ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่มองไม่เห็น ซึ่งสามารถกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชายได้อย่างง่ายดาย
อาจเป็นเพราะลี่เฉินซีก็เมาอยู่ไม่น้อย และแรงจากมือของเขาก็ไม่คงที่ ห้องชุดของโรงแรมใหญ่มาก มีระยะทางยาวจากประตูไปยังเตียงใหญ่ในห้องนอน ด้วยแรงจากมือของเขาไม่มั่นคง ซึ่งทำให้ซูย้าวต้องย่อตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ด้วยการเคลื่อนไหวเล็กๆ เช่นนี้ เขามองลึกไปที่หญิงสาวที่ขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา
เธอวางเขาบนเตียงอย่างนุ่มนวล และลี่เฉินซีใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ตอนนี้ เมื่อเธอหันกลับมา เขาก็ประกบริมฝีปากของเธอทันที ขบเม้มริมฝีปากเธอ เปลวไฟในดวงตาของเขาเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และค่อยๆ เลื่อนลงมา จากริมฝีปากไปจนถึงลำคอ
ทักษะที่เชี่ยวชาญของเขาทำให้เธอตกเป็นรองอย่างรวดเร็ว เธอไม่สามารถควบคุมเสียง และดูเหมือนจะพ่ายแพ้ในทันที เสียงกรีดร้องนี้กลายเป็นสิ่งเยียวยาที่ดีที่สุดในหูของเขา บ้าคลั่งราวกับหมาป่าโดยสิ้นเชิง ความอดอยากที่ถูกระงับในร่างกายมานานหลายปีโพล่งออกมา
ภายใต้ความบ้าคลั่งของเขา ซูย้าวค่อยๆ หลับตาลงอย่างช้า ๆ ในใจก็คิดว่า ถือเป็นการทำตามสัญญาให้เขาล่ะกัน แต่ตัวเธอก็รู้อยู่แก่ใจ ว่ามันเป็นเพียงคำโกหกและหลอกลวงตนเอง มือที่ไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหนก็โอบไหล่ไปโดยธรรมชาติ รองรับทุกการเคลื่อนไหวของเขา ดวงตาของลี่เฉินซีหรี่ลงโดยไม่รู้ตัว มองเธอด้วยความประหลาดใจ นัยน์ตาลึกของเขามองออกถึงอะไรบางอย่าง
“นี่แค่ทำตามสัญญาเหรอ?” เขาถามเสียงต่ำ
ซูย้าวรู้สึกถึงลมหายใจหนักของชายคนนั้น เขากอดเธอแน่น ริมฝีปากบางของเขาคลอเคลียไปที่หูของเธอ และไม่ได้ทำอะไรต่อไป เพียงแค่ทำแบบนั้น ราวกับว่าเขากำลังรออะไรบางอย่าง
หลังจากนั้นไม่นาน เธอค่อยๆ โอบแขนรอบเอวของเขา และกอดเขาไว้แน่น
ในขณะนั้นลมหายใจของเขาร้อนขึ้นอีกครั้ง
“ตอนนี้คุณยังรักผมอยู่ใช่ไหม!” เขาถามข้างหูเธอด้วยเสียงที่ต่ำและเข้ม
ผ่านไปไม่นาน เขาถึงได้ยินเสียงกระซิบของเธอว่า “แล้วคุณล่ะ? คุณรักฉันไหม?”
ใบหน้าสวยทำอะไรไม่ถูกสุดๆ ไม่เหลือความน่าเกรงขามเหมือนเคย หลงเหลือแค่ผู้หญิงตัวเล็กธรรมดาๆ คนหนึ่ง ตอนนี้ เธอไม่ต้องการเป็นผู้หญิงที่แข็งแรง และเธอไม่ต้องการเป็นผู้หญิงที่เป็นเจ้านายตัวเอง เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้ภาษาที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมาที่สุด ถามผู้ชายที่โหยหามานาน
ลี่เฉินซีมองมาที่เธอ รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาเปล่งประกายราวกับแสงแดด และมือใหญ่ของเขาลูบแก้มเธอเบาๆ “ยัยทึ่ม คุณมองไม่ออกหรือไง?”
คำพูดง่ายๆ ไม่กี่คำ ทำเอาการควบคุมทั้งหมดของซูย้าวหายไปในทันที มีเพียงความคิดที่เหลืออยู่ในหัวใจ และริมฝีปากของเธอก็ถูกปิดลงอีกครั้ง
แก้มของซูย้าวแดงราวกับถูกไฟไหม้ ผลของแอลกอฮอล์ทำให้จิตใจของลี่เฉินซีว่างเปล่า ในอาการวิงเวียนศีรษะ ใบหน้าของเธอก็สะท้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
กระโปรงของหญิงสาวถูกฉีกออกอย่างช้าๆ รูปร่างผอมบางที่อยู่ข้างหน้าเขาทำให้สายตาของเขาลึกขึ้น ริมฝีปากและลิ้นของเขาล่องลอยไปบนผิวสีขาวของเธอ มือใหญ่ของเขาเคลื่อนผ่านไปช้าๆ บนผิวหนัง รู้สึกเหมือนกับว่าไฟฟ้าช็อตกระจายไปทั่วร่างกาย
ความปรารถนาที่บ้าคลั่งและความต้องการพุ่งทะยาน เธอขยับไปทุกท่วงท่าและรับทุกสิ่งที่เขามอบให้ เขาฉุดดึงเธอให้ไปช้าๆ รู้สึกลุ่มหลงจนไม่อาจจะแยกออกจากกันได้……