นอกโรงพยาบาล ไม่รู้ว่ามีนักข่าวมารวมตัวกันมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วยังมีครอบครัวของผู้เสียหายอีกไม่น้อยอยู่ด้วยกัน ทุกคนต่างพากันชูป้ายและถือโคระโค่งตะโกนเสียงดัง
“ลงโทษอานหว่านชิงอย่างเข้มงวด ฉันต้องการคำอธิบาย!”
เสียงดังอึกทึกครึกโครมทำให้เกิดความโกลาหล
ทุกคนต่างพากันพันผ้าสีแดงไว้บนหัว ท่าทางที่โกรธเคืองมันชัดเจนเป็นพิเศษ
และนักข่าวพวกนั้นก็ยืนอยู่ข้างๆ ถือไมล์ถือกล้องต่างๆนานาเพื่อสัมภาษณ์ ทุกคนอยากให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ พวกเขาจะได้เงินค่าชดเชยจากเรื่องนี้เยอะๆ
ซูย้าวหยุดรถอยู่ห่างจากโรงพยาบาล หาที่จอดรถ หลังจากลงมาจากรถเธอก็ยืนอยู่ข้างถนนและมองไปที่ที่เกิดเหตุ ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นก็ซับซ้อนขึ้นมา
ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ มันถึงจุดที่ไม่สามารถจัดการได้แล้ว
เธอขมวดคิ้ว และเมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ตัวเองแต่งตัวธรรมดา โรงพยาบาลก็มีผู้คนพลุกพล่าน หากเข้าไปข้างในก็คงไม่โดดเด่นเกินไป
พอคิดแบบนี้เธอก็เดินตามผู้คนเข้าไปในโรงพยาบาล
เป็นเหมือนกับที่เธอเดาไว้จริงๆ ไม่มีใครจับได้ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าฝั่งนักข่าวไม่ค่อยมีข้อมูลของอานหว่านชิง พวกเขามองเธอแค่ครั้งเดียวไม่มีทางมองออก
เธอถามพยาบาลและถามห้องของคนที่ได้รับบาดเจ็บ ยืนมองอยู่นอกห้องผู้ป่วย เห็นคนที่ได้รับบาดเจ็บที่มีผ้าก๊อซพันรอบอยู่รอบหัวและใส่เฝือกที่แขนขา
ในห้องเงียบมาก มีแค่คนที่ได้รับบาดเจ็บสองสามคน นอนพักผ่อนให้น้ำเกลืออยู่บนเตียง แม้แต่คนในครอบครัวหรือพยาบาลดูแลก็ไม่มี
ซูย้าวหลับตาลง เธอคิดว่าจะไปถามอาการบาดเจ็บของพวกเขากับหมอที่ดูแลี่เฉินซี เธอกำลังจะก้าวขาออกไป แต่กลับเหลือบไปเห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังจะลุกจากเตียง แต่ที่ขาใส่เฝือกอยู่ ลุกเดินลำบาก เขาโซซัดโซเซเหมือนกำลังจะล้ม
เธอตกใจ ผลักประตูเข้าไปทันที รีบวิ่งเข้าไปพยุงชายคนนั้นเอาไว้ “ระวังค่ะ!”
ซูย้าวพูดพร้อมกับช่วยพยุงชายคนนั้นไปนั่งลง จากนั้นก็ถามอีกว่า “คุณต้องการอะไรรึเปล่า?”
ชายคนนั้นตกใจ พูดจาติดๆขัดๆ “ผมอยากเทน้ำ……”
ซูย้าวลุกขึ้นไปเทน้ำให้เขา ตอนที่ยื่นให้เขาเขายังขอบคุณเธอ ท่าทางที่เกรงใจของเขามันกลับทำให้เธอรู้สึกอึดอัด
เธอมองดูคนที่ได้รับบาดเจ็บสองสามคนบนเตียงที่อยู่ตรงหน้า เธอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ลังเลไปพักหนึ่ง ซูย้าวยังไม่ทันได้พูดอะไร ชายวัยกลางคนคนนั้นก็ถามขึ้นมาว่า “คุณผู้หญิง คุณคือ?”
“เอ่อ……” ซูย้าวลังเล ดวงตาที่สวยงามสั่นคลอนเบาๆ หากตอนนี้บอกตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง กลัวว่าไม่เพียงแต่ถามหาความจริงไม่ได้ แล้วยังอาจจะทำให้พวกเขาโกรธเคือง ทำให้เรื่องแย่ลงไปอีก!
เธอลังเลไปพักหนึ่ง สุดท้ายเธอก็โกหกว่า “ฉันมาเยี่ยมคนป่วยที่นี่”
“แบบนี้นี่เอง! แต่เมื่อกี้ขอบคุณคุณมากนะ!” ชายวัยกลางคนมองดูเป็นคนเรียบง่าย ขอบคุณเธอต่างๆนานา
ซูย้าวโน้มตัวลงขอบคุณกลับแล้วถามว่า “พวกคุณได้รับบาดเจ็บจากอะไรกันคะ?”
“อันนี้!” ชายวัยกลางคนนอนอยู่บนเตียง เขาเหลือบไปมองคนที่อยู่เตียงข้างๆ เพราะพวกเขาเป็นเพื่อนบ้านกันก็ถือว่าเป็นเพื่อนกัน เมื่อทุกคนได้ยินแบบนี้ ทันใดนั้นก็เริ่มพูดคุยกันขึ้นมาทันที
ชายคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เขาลุกขึ้นมานั่ง “ก็เพราะว่าการเคลื่อนย้ายนะสิ”
สายตาของซูย้าวมืดมน “การเคลื่อนย้าย?รูปธรรมคืออะไรเหรอคะ?””
“จะพูดยังไงดี?ตอนแรกการเคลื่อนย้ายที่กู่อาน ข้อเสนอเงินค่าชดเชยสมเหตุสมผลมาก พวกเราก็ตกลงแล้ว แม้แต่สัญญาก็เซ็นแล้ว แต่อยู่ๆ ก็มีึคนแทรกกลาง Double Aceกรุ๊ปอะไรนั่นออกมาจากไหน บีบบริษัทLGออกไป ตอนเริ่มจัดการพื้นที่การเคลื่อนย้าย เงินค่าชดเชยที่เสนอมาก็ไม่สมเหตุสมผล พวกเราต่างก็โมโหมาก”
ยังพูดไม่จบ ชายวัยกลางคนก็รีบพูดขึ้นมา “พูดแบบนี้ก็ไม่ได้ ต่อมาก็เปลี่ยนเงินค่าชดเชยแล้วไม่ใช่เหรอ?เปลี่ยนไปเป็นเหมือนเดิม แล้วยังให้เราย้ายกลับไปให้ค่าชดเชยเรา สมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก พวกเราก็เต็มใจ”
ซูย้าวมองดูสองสามคนที่อยู่ข้างๆ มองดูพวกเขาด้วยสายตาจับผิดแล้วถามซ้ำๆว่า “เป็นแบบนี้เหรอคะ?”
ทุกคนพากันพยักหน้า แต่กลับมีผู้ชายที่ค่อนข้างมีอายุคนหนึ่ง ท่าทางของเขาค่อนข้างซับซ้อน เขาก้มหน้าไม่พูดไม่จาตลอด
ชายวัยกลางคนก็สังเกตเห็นเขา เขาจึงพูดว่า “พี่เถิง มาถึงขนาดนี่แล้ว ความคิดของพี่พวกเราก็เข้าใจ!”
ซูย้าวตกใจกับคำพูดนี้ เธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
ชายวัยกลางคนก็พูดอีกว่า “พวกเราสองสามคนตกลงที่จะย้าย แม้แต่บริษัทย้ายบ้านเราก็ติดต่อไว้แล้ว แต่ว่าคนในครอบครัวไม่เห็นด้วย!”
“ภรรยาของผมบอกว่าแค่ยืนหยัดต่อไป เงินค่าชดเชยก็จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า! เธอจึงยืนกรานไม่ยอมย้าย คิดไม่ถึงจริงๆ หายนะมาอย่างไม่คาดคิด ตึกที่เราอาศัยอยู่จู่ๆก็พังทลายลงมา!”
เมื่อชายวัยกลางคนพูดแบบนี้ คนอื่นๆก็ต่างพากันถอนหายใจ “พอมันพังลงมา พวกเราก็รีบไปดูแลคนใจครอบครัววิ่งออกมา แล้วตอนที่กลับไปเก็บข้าวของ พวกเราก็โดนปูนตกลงมาใส่!”
ที่แท้ก็ได้รับบาดเจ็บแบบนี้นี่เอง
ชายวัยกลางคนอธิบายคร่าวๆจบแล้ว ชายที่ชื่อพี่เถิงคนนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตาใส่เขา ความหมายก็คือบอกว่าเขาพูดมากเกินไปแล้ว
แล้วยังมีคนข้างๆอีกสองสามคนพูดกับซูย้าวว่า “คุณผู้หญิง คำพูดพวกนี้คุณอย่าไปพูดที่อื่นนะ! คนในครอบครัวของเรายังอยากจะให้ประธานของDouble Aceกรุ๊ปจ่ายเงินค่าชดเชยเยอะๆ!”
“ถึงแม้ว่ามันจะผิดศีลธรรมไปหน่อย แต่ก็ช่วยไม่ได้ พวกเราต่างก็ไม่มีความสามารถ รอจนกว่าจะได้ย้ายบ้าน คิดว่าจะทำให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น เห้อ……”
พวกเขาสองสามคนต่างพากันถอนหายใจ ที่จริงแล้ว ทุกคนล้วนแต่มีจิตใจที่ดีและมีศีลธรรม แต่ความโหดร้ายของชีวิต มันมักจะทำลายทุกสิ่งที่สวยงามที่สุดในหัวใจของผู้คน
ซูย้าวจะไม่รู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง และเธอก็ไม่ได้โทษพวกเขา
เธอพูดคุยกับพวกเขาอยู่พักหนึ่ง บอกให้พวกเขาพักผ่อนจากนั้นก็ออกมาจากห้องผู้ป่วย เดินไปชั้นบน ไปถามอาการบาดเจ็บของพวกเขากับหมอที่ดูแล และเธอก็ได้ข่าวร้อนมาจากหมอ
ข่าวที่บอกว่า’มีคนเสียชีวิตหนึ่งคน’ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เรื่องจริง เขาแค่บาดเจ็บสาหัส ตอนนี้นอนอยู่ในห้องไอซียู
เรื่องนี้ ซูย้าวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อเธอลงมาชั้นล่าง เธอก็ติดต่ออาตง เตรียมที่จะจัดงานแถลงข่าว
เธอคุยโทรศัพท์พร้อมกับเดินออกไปข้างนอก เธอที่สนใจอยู่แต่กับโทรศัพท์ มองข้ามทุกอย่างที่อยู่รอบตัว มันทำให้มีนักข่าวจำนวนมากเห็นเธอ พวกเขาเดินเข้ามาล้อมตัวเธอ ซูย้าวถูกล้อมรอบอยู่ตรงกลางอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ประธานอาน คุณคืออานหว่านชิงใช่ไหม!” นักข่าวสองสามคนถามอยู่ซ้ำๆ แล้วยังมีคนพูดว่า “Double Aceกรุ๊ปมีชื่อเสียงที่เสียงๆในต่างประเทศมาโดยตลอด การกลับมาเข้าสู่ตลาดภายในประเทศครั้งนี้ยังทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่แบบนี้ ประธานอานมีอะไรอยากจะพูดไหมครับ?”
“เกิดอุบัติเหตุขึ้นกว่ายี่สิบชั่วโมงแล้ว ในฐานะผู้ดูแลDouble Aceกรุ๊ป คุณไม่ยอมออกมาแถลงข่าวสักที คุณจงใจปัดความรับผิดชอบเหรอคะ?”
นักข่าวสองสามคนพูดจาอย่างเฉียบขาด ใช้คำพูดที่ตรงไปตรงมาและยื่นไมโครโฟนมาไม่หยุด มันยิ่งทำให้ซูย้าวไม่รู้จะรับมือยังไง
และในขณะที่เธอถูกรายล้อมไปด้วยผู้คน และยังมีคนในครอบครัวของผู้เสียหายเบียดเข้ามา เตรียมที่จะโจมตีเธอ ท่ามกลางฝูงชน มีคนจ้องมองไปที่ใบหน้าของซูย้าวด้วยสายตาที่เฉียบแหลม และจู่ๆก็ตะโกนออกมา “คุณคือคุณอานหว่านชิงจริงๆเหรอ? แน่ใจเหรอว่าไม่ใช่คุณซูย้าว?”
ทันทีที่พูดแบบนี้ มันยิ่งทำให้เกิดความโกลาหล
นักข่าวพวกนี้ มีบางคนที่เป็นคนเก่าเมื่อสองปีก่อน มีบางคนที่คอยติดตามร่องรอยของซูย้าว คนที่พยายามจะถ่ายรูปเธอก็มี พวกเขามั่นใจในหน้าตาของเธอเป็นอย่างมาก
“คุณไม่ใช่อานหว่านชิงคุณคือซูย้าว อดีตภรรยาของคุณลี่เฉินซี ประธานบริษัทลี่ซื่อ!” มีคนตะโกนออกมา
ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างพากันตกใจ ผ่านไปไม่นาน ก็มีคนจงใจเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกันและพูดว่า “ดังนั้นคุณจงใจปลอมตัวมาหลอกลวงผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ ร่วมมือกับประธานของบริษัทลี่ซื่อ จัดฉากเรื่องราวปลอมๆนี้เหรอ?”
เมื่อได้ยินคำว่าเรื่องราวปลอมๆ คนในครอบครัวของผู้เสียหายก็ยิ่งโมโหขึ้นกว่าเดิม ผู้หญิงสองสามคนแทรกตัวเข้ามาในฝูงชนอย่างไม่ลังเล เข้ามากระชากซูย้าว