ในช่วงเช้าตรู่ของวันนั้น ทั้งสองตรงไปที่โรงพยาบาลด้วยระยะเวลาอันสั้นที่สุดเท่าที่จะสั้นได้
หลังจากมาถึง ลี่เฉินซีได้พาซูย้าวไปที่ห้องฉุกเฉิน เมื่อเห็นพยาบาลเขาก็เข้าไปรั้งเอาไว้พูดว่า “ภรรยาของผมตั้งครรภ์และมีเลือดออก ช่วยดูอาการและรักษาเธอด้วยเดี๋ยวนี้เลย!”
พยาบาลหวาดกลัวกับดวงตาที่วิตกกังวลและมืดมิดของเขา ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าละเลย เข้าไปพยุงซูย้าวและให้เธอนอนลงบนเตียง ก่อนที่จะส่งเข้าไปในห้องรักษา
แพทย์สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาก็รีบเดินทางมาเช่นกัน หลังจากการตรวจอัลตราซาวนด์และอื่นๆ เรียบร้อยก็ได้ชี้แจงอยู่สองสามประโยค ให้ทั้งสองคนรอผลตรวจ
ท่ามกลางเวลาที่แสนยาวนานนี้ ลี่เฉินซีอยู่เคียงข้างเธอ เขาดูแลเธอทุกวิถีทาง ปลอบโยนเธอตลอดเวลา “ไม่เป็นไรนะครับที่รัก ถ้าไม่สามารถเก็บไว้ได้ เราไม่มีลูกเพิ่มอีกก็ได้ ถึงอย่างไรตอนนี้เราก็มีเจิ้งเอ๋อ หลินเอ๋อและซีซีอยู่ คุณเสียสละเพื่อผมมากพอแล้ว มันเป็นความผิดของผมเอง ผมไม่ควรปล่อยให้คุณท้องอีก”
การคลอดบุตรเป็นเรื่องที่เจ็บปวดเกินสำหรับผู้หญิง การตั้งครรภ์ถึงสิบเดือน อีกทั้งการตรวจร่างกายและการทดสอบต่างๆ เมื่ออายุครรภ์เพิ่มขึ้น กลางคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ ความยากลำบากเหล่านี้ คุณผู้ชายไม่อาจจะจินตนาการได้
นอกจากนี้ต้องผ่านสถานการณ์เผชิญหน้ากับความตาย เพื่อแลกกับการที่จะให้ลูกคลอดออกมา ลี่เฉินซีแค่คิดก็รู้สึกกลัว และรู้สึกเสียใจกับความคิดก่อนหน้านี้ของเขามากยิ่งขึ้น
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ผมขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของผม เราไม่เอาเด็กไว้แล้ว เดี๋ยวผมจะจัดการติดต่อทำการผ่าตัดเลย!”
พูดจบเขาก็เอนตัวมาหอมแก้มเธออีกครั้ง “ผมทำให้คุณลำบากใจอีกแล้ว หลังจากนี้ผมจะทำหมันเอง เรามีลูกแค่นี้พอ!”
เขาปวดใจจริงๆ ที่จะปล่อยให้เธอต้องทนทุกข์กับความลำบากแบบนี้อีกต่อไป เมื่อเห็นเธอเป็นเช่นนั้น เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกทำลายล้างด้วยบางสิ่ง แม้แต่หายใจก็ยังเจ็บปวด
ซูย้าวเอนกายลงบนเตียงและถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “แต่ตอนนี้ฉันตั้งครรภ์แล้วนะคะ ทำไมจะคลอดไม่ได้ล่ะ”
ตราบใดที่เธอสามารถเอาเด็กไว้ได้ เธอก็จะพยายามอย่างเต็มที่
“ฉันรู้ว่าคุณดีกับฉันแค่ไหน เฉินซี ขอฉันลองอีกสักครั้งนะคะ! การที่จะมีลูกกับคุณอีกสักคนก็ไม่เลวนี่”
ถ้าเธอยังไม่ได้ตั้งครรภ์ ซูย้าวคงไม่รู้สึกแบบนี้ อาจเป็นเพราะความรู้สึกของคนเป็นแม่ ความรู้สึกที่ให้กำเนิดบุตรและการเฝ้าดูลูกเติบโตในแต่ละวันมันช่างวิเศษจริงๆ
แม้ว่าจะขมขื่น เหน็ดเหนื่อยและลำบาก แต่หากว่าชายคนนี้เป็นคนที่ใช่และคุ้มค่า การเสียสละเหล่านี้ก็ไม่นับว่าเสียเปล่าไม่ใช่เหรอ?
ลี่เฉินซีจับมือเธอเอาไว้ ให้เธอนอนพิงมาบนตักเขา “แต่ผมรู้สึกปวดใจ ผมไม่สามารถทนได้ ไม่สำคัญว่าจะเก็บลูกไว้ได้ไหม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต่างหาก!”
เธออดยิ้มไม่ได้ “การที่คุณพูดออกมาได้แบบนี้ฉันก็ดีใจมากแล้วค่ะ เอาล่ะ เรารอผลก่อนดีกว่า ถ้าเป็นไปได้ ฉันจะขอเก็บลูกเอาไว้”
แต่ทันทีที่สิ้นเสียงลง เธอเองก็ต้องการทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงบ้าง อยากให้เขารู้สึกตำหนิตัวเองน้อยลง จึงพูดว่า “ว่าแต่ คุณสามารถจัดการผ่าตัดได้เลยนะ คุณจะทำหมันไม่ใช่เหรอ? รีบทำเถอะค่ะ!”
ลี่เฉินซี “……”
“หลังจากคลอดลูกคนนี้แล้ว ฉันเองก็ไม่อยากตั้งครรภ์อีก ฉันอายุปาเข้าไปขนาดนี้แล้ว ส่วนคุณก็อายุไม่น้อยเช่นกัน ไปทำเสียเถอะค่ะ! หรือจะให้ฉันติดต่อโม่ป่ายเพื่อจัดการให้ดี?” เธอพูด
ใบหน้าอันหล่อเหลาที่พูดไม่ออกของลี่เฉินซีเปลี่ยนเป็นมืดครึ้มทันที “ไม่ต้องเลย เดี๋ยวผมจัดการเอง!”
จะขอให้หลินโม่ป่ายช่วยจัดการผ่าตัดเรื่องแบบนี้ ไม่แน่ว่าหลินโม่ป่ายอาจจะทำการผ่าตัดด้วยตัวเอง เขาไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการถึงฉากนั้นเลย
ซูย้าวพิงไปที่ขาของเขาและดื่มนมเปรี้ยวที่เขายื่นมาให้ “เมื่อวานหว่านหว่านบอกว่าประธานเจียงก็จะทำการผ่าตัดนี้ด้วย คุณไปกับเขาก็ได้นะคะ พวกคุณเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ใช่เหรอ?”
ลี่เฉินซี “……”
เพื่อนสนิทจะต้องไปขึ้นเตียงผ่าตัดด้วยกัน จำเป็นต้องทำหมันด้วยกันไหม?!
“จี้เซิงยังไม่แน่ใจเลย เขาเคยพูดก่อนหน้านี้ว่าอยากจะมีลูกเพิ่มอีกสักสองสามคน” เขาหลับตาและลูบไปที่ผมของเธอ “แต่ดูเหมือนว่าผมจะมีลูกมากที่สุด ดังนั้น……”
ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องคิดถึงการทำหมัน มิฉะนั้น ถ้ายังคงเป็นแบบนี้ต่อไป แม้ว่าเขาจะไหวแต่ร่างกายของซูย้าวเกรงว่าจะไม่สามารถรับไหว!
ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่ ก็มีเสียงของแพทย์ดังขึ้นมาจากข้างนอก ลี่เฉินซีลุกจากเตียง หลินโม่ป่ายเดินเข้ามาพร้อมกับผู้อำนวยการฝ่ายสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
“ซูย้าว” หลินโม่ป่ายก้าวไปข้างหน้าทันที เขามองไปทางลี่เฉินซีด้วยดวงตาที่อ่อนโยนและยิ้มขึ้น “ฉันควรแสดงความยินดีกับคุณด้วย”
ยินดีด้วย?!
ซูย้าวตกใจ “ไม่ใช่ว่ามีสัญญาณของการแท้งเหรอคะ? ทำไมต้องแสดงความยินดีด้วย?”
ผู้อำนวยการแผนกสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาก็ตกตะลึงเช่นกัน แต่ก็ยิ้มและโบกมือให้หลินโม่ป่าย ก่อนจะอธิบายว่า
“ถ้าตั้งครรภ์แฝดหลายคนส่วนมากก็จะเกิดภาวะเช่นนี้ มันไม่ใช่การแท้งคุกคาม แต่คุณต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะผลการตรวจร่างกายของคุณไม่ค่อยดีนัก อีกอย่างอายุของคุณถือว่าไม่น้อยแล้ว ดังนั้นควรระวังเป็นพิเศษ ทางที่ดีควรนอนพักสักสองสามเดือน แล้วก็คุมอาหารด้วย……”
หลินโม่ป่ายอธิบายอย่างละเอียด และกำชับถึงคำเตือนอื่นๆ กับลี่เฉินซี
ท่าทางของซูย้าวรู้สึกประหลาดใจ แฝดเหรอ?
ไม่ใช่แฝดธรรมดา แล้ว……
หลังจากหลินโม่ป่ายบอกถึงคำแนะนำของเขาเสร็จแล้ว ก็นำผลอัลตราซาวด์ออกยื่นให้ทั้งสองคนตรวจดู พบถุงตั้งครรภ์สามใบ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ซึ่งทุกคนมีพัฒนาการที่ดีมาก ในนั้นมีทารกน้อยอยู่สามคน
เมื่อได้ยินข่าวนี้ หัวใจของลี่เฉินซีก็ลอยไปในอากาศ ไม่เพียงแต่โล่งใจ แต่ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขายังเต็มไปด้วยความสุข เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยมีมาก่อน มันสบายผ่อนคลาย เขาหันกลับมาจูบแก้มของซูย้าว “ที่รัก คุณเก่งจริงๆ!”
ซูย้าว “……”
หลินโม่ป่ายยิ้มเบาๆ และพูดว่า “เดี๋ยวก่อน พยาบาลจะไปรับยาให้ คุณต้องกินให้ตรงเวลาหลังจากกลับไป และต้องนอนพักผ่อนให้มากๆ นัดตรวจครรภ์ครั้งหน้าผมจะส่งข้อความให้คุณ”
หลังจากที่เขาและผู้อำนวยการจากไป ลี่เฉินซีก็ยังคงจมอยู่กับความสุขเรื่องลูกแฝดสาม ขณะที่ใบหน้าของซูย้าวสับสนและมืดมน เธอพยายามลุกขึ้นนั่งจับมือของชายหนุ่มไว้ “เฉินซี อย่าเพิ่งดีใจไป ดูเหมือนเราจะไม่ต้องมาโรงพยาบาลอีกแล้ว”
“ทำไม?” เขาถาม
“คุณพาฉันไปหาสัตวแพทย์เถอะ! ดูเหมือนว่าฉันต้องออกลูกเป็นครอก!”
ลี่เฉินซี “……”
เขายิ้มแล้วกอดเธอ “นี่เป็นเรื่องดีมากๆ มีคนมากมายฝันอยากจะมี แต่ไม่รู้ว่าเด็กสามคนนี้เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ล้วนเป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานมาให้ ซูย้าว คุณเก่งมากจริงๆ!”
“คุณต่างหากที่แข็งแกร่ง เฮ้อ……” ซูย้าวเต็มไปด้วยอารมณ์ซับซ้อน เธอไม่รู้จะใช้คำไหนมาแสดงอารมณ์ของเธอในตอนนี้ได้
เธอมีลูกอยู่แล้วสามคน และเธอกำลังจะมีลูกอีกสามคน ชีวิตของเธอ……คงจะวิเศษมากจริงๆ !
ข่าวแฝดสามได้กระจายไปในไม่ช้า
ลู่ส้าวหลิงและเจียงจี้เซิงเป็นคนแรกๆ ที่รู้เรื่องนี้ นอกจากนี้หวางอี้และผู้ใต้บังคับบัญชาคนอื่นก็มาร่วมแสดงความยินดีกับลี่เฉินซีด้วย ส่วนเจี่ยงเวินอี๋นั้นมีความสุขมากหลังจากได้รับสาย
“เจิ้งเอ๋อ วันหยุดฤดูหนาวนี้ หลานกับหลินเอ๋อและซีซีคงต้องมาอยู่ที่บ้านคุณย่าแล้วละ! มาอยู่ระยะยาว เพราะแม่ของเรากำลังตั้งท้องแฝดสาม เธอกำลังจะมีน้องให้พวกเราอีกสามคน!” เจี่ยงเวินอี๋กล่าวอย่างมีความสุข บรรดาคนใช้และแม่บ้านก็ก้าวเข้ามาแสดงความยินดีด้วย
ลี่เจิ้ง ลี่หมิงและซีซีมองหน้ากันอย่างทำตัวไม่ถูก
มันไม่ใช่การมีน้องเพิ่มอีกหนึ่งคนเท่านั้น แต่เพิ่มขึ้นอีกถึงสามคน!
เดิมทีคิดว่าถ้ามีน้องอีกสักคน ก็คงแบ่งความรักของพ่อและแม่ไปจากพวกเขามากแล้ว แต่นี่มีมากถึงสามคน……
หลังจากได้รับรู้ข่าวดีจากลี่เฉินซีแล้ว ลู่ส้าวหลิงก็จัดการเลื่อนงานทั้งหมดที่อยู่ในมือและขับรถกลับบ้านทันที
โม่หว่านหว่านได้รับข้อความจากซูย้าวตั้งแต่เช้า เธอกำลังปรุงซุปอยู่ในครัว เมื่อเห็นเขากลับมาก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลย “อ้าว กลับมาแล้วเหรอคะ พอดีเลย ฉันกำลังทำซุปให้ย้าวย้าว เดี๋ยวเราเอาไปให้ด้วยกันนะคะ”
ลู่ส้าวหลิงขมวดคิ้วแล้วก้าวไปข้างหน้า แขนยาวของเขาโอบรอบเอวของโม่หว่านหว่านจากด้านหลัง จามด้วยเสียงอุทานของเธอ จากนั้นอุ้มเธอขึ้นมาจากพื้น
“พวกเขามีลูกแฝดสามเชียวนะ ที่รัก คุณว่าเราควรพยายามให้มากขึ้น และมีลูกอีกสักคนดีไหม?” เขาอุ้มเธอขึ้นไปชั้นบนด้วยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์
พี่เลี้ยงสองสามคนที่อยู่ด้านข้างเห็นฉากนี้เข้าก็พากันหน้าแดงและใจสั่น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ
โม่หว่านหว่านผลักเขาเพื่อปฏิเสธ “พอได้แล้ว นี่ พอเลยนะคุณ จะมีอีกคนทำไม เราก็มีบูรินแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“มีลูกสาวอีกสักคนดีไหม หืม?” ลู่ส้าวหลิงโยนเธอลงบนเตียงแล้วโน้มลงไปทับร่างเธอ
โม่หว่านหว่านสะดุ้ง ลูกสาวเหรอ? เธอชอบและอยากได้ลูกสาวมาตลอด ถ้ามีลูกสาวอีกสักคนละก็……