“ช่วยเหรอ เอาเรื่องคู่หมั้นเป็นรักร่วมเพศไปเปิดเผยกับฝ่ายหญิง แบบนี้เรียกช่วยเหรอ จิตแพทย์ให้ความสำคัญกับการเก็บความลับคนไข้ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงเอาข้อมูลไปเปิดเผยล่ะ ฉันว่าเขานั่นแหละที่ทำตัวได้ใจ ต่อไปอย่าทำงานในวงการจิตแพทย์อีกเลยดีกว่า”
“เมียผมไม่ได้ทำอะไรผิด เขาให้ความสำคัญกับข้อมูลของคนไข้ แต่นั่นก็เพราะฝ่ายนั้นเปิดดูเองนะ คนไปส่งจดหมายเป็นคนของผม ห้ามแล้วว่าอย่าเปิดอ่าน ผู้หญิงคนนั้นจะเปิดแล้วพี่จะให้ทำไง”
พี่ใหญ่รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า
นี่เขาถูกน้องชายแท้ๆหลอกเหรอ
“ผมไม่กังวลหรอกนะว่าเมียผมจะสูญเสียหม้อข้าวหม้อใหญ่ ผู้ชายเป็นรักร่วมเพศคิดจะหลอกผู้หญิงแต่งงาน พวกเขาไม่มีหน้าป่าวประกาศออกไปหรอก ลูกเชี่ยนรู้ความลับของพวกเขา พวกเขาไม่มีทางกล้าพูดจาใส่ร้ายลูกเชี่ยนแน่ ใครใช้ให้พวกเขาคิดไม่ดีใช้ให้เมียผมทำเรื่องชั่วๆแบบนี้ล่ะ”
ทำไมตอนทำกิจกรรมบนเตียงอวี๋หมิงหลางถึงได้รับสิทธิพิเศษมากมาย ก็เพราะว่าเขาเดาใจเธอถูก เสนอคนไปส่งจดหมายให้แถมยังเร่งให้เกิดผลเร็วขึ้น ลูกเชี่ยนพอดีใจก็ปล่อยให้เขาทำตามใจต้องการ
“…” พี่ใหญ่อึ้งจนไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
“พี่ใหญ่ พี่แน่ใจว่ามันเป็นเรื่องไม่ดีเหรอ”
“แล้วมันเป็นเรื่องดีหรือไง ตอนนี้ครอบครัวผู้ชายโมโหมากจะมาเอาเรื่องฉัน ฉันล่ะไม่เข้าใจว่าเสี่ยวเชี่ยนคิดอะไรอยู่ คนที่ถูกไหว้วานค่อนข้างสนิทกับบ้านเรา แล้วทำไมเสี่ยวเชี่ยนถึงไปช่วยครอบครัวผู้หญิง ไม่รู้เลยหรือไงว่าปู่ของผู้หญิงคนนั้นตอนอยู่ในวงการทะเลาะกับพ่อเราทุกวัน พี่ชายเขาวันๆก็จ้องแต่จะหาเรื่องฉัน”
ไปช่วยศัตรูแบบนี้ได้ยังไง
นี่เป็นเพราะไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่เสี่ยวเชี่ยนทำหรือพี่ใหญ่ยังใช้สมองคิดไม่มากพอ
เสี่ยวเฉียงมีพรสวรรค์เรื่องวาทะเด็ด ทีเดียวกระจ่าง
“ในด้านการเมืองไม่มีศัตรูที่ถาวร เรื่องธุรกิจก็เหมือนกัน เคยเป็นศัตรูกันไม่ได้หมายถึงว่าตอนนี้ก็ยังเป็นศัตรู เมื่อก่อนดีต่อกันก็ไม่ได้การันตีว่าต่อไปจะดี ก็เพราะว่าตอนปู่ของผู้หญิงยังทำงานชอบทะเลาะกับพ่อของเราไงเราถึงต้องช่วยฝ่ายหญิง พี่ใหญ่พี่เลอะเลือนแล้วเหรอ”
คำพูดของอวี๋หมิงหลางปลุกคนให้ตื่นจากความฝัน
ทันใดนั้นพี่ใหญ่ก็เข้าใจขึ้นมาทันที จริงด้วย
“พี่เอาแต่คิดว่าลูกเชี่ยนของผมทำพี่ล่วงเกินครอบครัวฝ่ายชาย กลับไม่คิดบ้างว่าเธอได้ช่วยผู้หญิงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไม่ให้ตกนรกแต่งงานกับรักร่วมเพศ สำหรับครอบครัวฝ่ายหญิงแล้วมันหมายถึงอะไร”
พี่ใหญ่เอามือตีหัวตัวเอง เขาได้สติขึ้นมาแล้ว ใช่
“ครอบครัวฝ่ายชายเสียเปรียบเห็นๆ พวกเขากล้าพูดเหรอว่าหมอที่พี่หาให้แพร่งพรายความลับ พวกเขากล้าพูดไหมล่ะว่าเมียผมไม่ดี ไม่แน่นอน ในด้านธุรกิจพวกเขาอาจสร้างความยุ่งยากใจให้พี่ได้ แต่พี่คิดว่าครอบครัวฝ่ายหญิงจะไม่ทำอะไรเลยเหรอ พี่ใหญ่ไปอ่านสามก๊กให้บ่อยๆนะ ทหารพันธมิตรกับทหารฝ่ายศัตรูมันต่างกันตรงไหน เปลี่ยนใจได้ตลอดเวลาทั้งนั้น โลกนี้เดี๋ยวแยกเดี๋ยวคบเป็นเรื่องปกติ”
ผู้ใหญ่ของครอบครัวฝ่ายหญิงเคยไม่ลงรอยกับพ่อของพวกเขา ถึงจะวางมือจากวงการแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นเสาหลัก
ดังนั้นพี่ชายของฝ่ายหญิงถึงได้คอยหาเรื่องพี่ใหญ่อยู่ตลอด พี่ใหญ่คิดแต่จะร่วมมือกับครอบครัวฝ่ายชาย แค่กลับลืมว่าประธานเชี่ยนทำแบบนี้ก็เพื่อต้องการให้ครอบครัวฝ่ายหญิงเป็นหนี้บุญคุณ
ร่วมมือกับครอบครัวฝ่ายหญิงโจมตีครอบครัวฝ่ายชาย แบบนี้ก็ได้เหมือนกันนี่หว่า
พี่ใหญ่อารมณ์ดีขึ้นมาทันที เหมือนเขาจะเห็นผลกำไรอยู่รำไร ร่วมมือ เงิน
“เป็นคนน่ะอย่ามองแต่ข้างหน้า พี่ใหญ่ ครั้งนี้พี่ใจร้อนเรื่องผลประโยชน์เกินไป ถ้าไม่ใช่เพราะเสียวเหม่ยของผมสติดีล่ะก็ ถ้าเขาช่วยให้ฝ่ายชายหลอกแต่งงานสำเร็จ ถึงตอนนั้นพอครอบครัวผู้หญิงรู้เข้า เขาจะไม่ยิ่งเกลียดพ่อพวกเราเหรอ”
พ่อของพวกเขากับปู่ของฝ่ายหญิงไม่ลงรอยเรื่องการเมืองกัน แต่อย่างไรเสียยุคสมัยนั้นก็ผ่านมานานแล้ว ตอนนี้ปู่ของฝ่ายหญิงก็วางมือไปแล้ว ส่วนพ่อของพวกเขาถ้ารู้ว่าลูกชายกับลูกสะใภ้รวมหัวกันทำเรื่องแบบนี้ไม่เท่ากับขายหน้ากลายเป็นจุดอ่อนให้คนอื่นเล่นงานเหรอ คนนอกจะพูดได้ว่าตระกูลอวี๋ไร้ศีลธรรม ผู้นำที่ครอบครัวเป็นแบบนี้ใครจะอยากนับถือ เรื่องผ่านมานานขนาดนี้ยังคิดจะใช้วิธีสกปรกล้างแค้นอยู่อีก
“ไอ้เล็กแกพูดถูก ครั้งนี้พี่ใจร้อนเกินไป เกือบทำครอบครัวเราเดือดร้อนแล้ว”
อันที่จริงเรื่องนี้จะโทษว่าพี่ใหญ่ไม่รอบคอบอย่างเดียวก็ไม่ถูก ตอนที่พี่ใหญ่คุยกับครอบครัวฝ่ายชาย ทางนั้นบอกแค่ว่าให้พี่ใหญ่ช่วยคุยกับเสี่ยวเชี่ยนให้รักษาลูกชายของพวกเขา พี่ใหญ่เองก็ไม่ได้ถามให้ดีว่าเป็นโรคอะไร คิดแต่ว่าเสี่ยวเชี่ยนรักษาคนมาตั้งเยอะ ก็เลยรับปากทันที
พี่ใหญ่ไม่ใช่จิตแพทย์ย่อมไม่รู้ว่าจิตแพทย์ไม่มีทางรักษารักร่วมเพศได้ ต่อให้บางประเทศที่รักร่วมเพศขัดแย้งกับคำสอนของศาสนามีจิตแพทย์บอกว่ารักษาได้ แต่ผลที่ได้แทบจะเป็นศูนย์ ของแบบนี้ถูกถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม รักษาไม่ได้อยู่แล้ว
พี่ใหญ่ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ แต่เสี่ยวเชี่ยนเข้าใจ เสี่ยวเชี่ยนดูก็รู้ว่าฝ่ายนั้นต้องการให้ปลอมใบรับรองแพทย์เพื่อหลอกแต่งงาน เมื่อชั่งน้ำหนักของสองครอบครัวและส่วนได้ส่วนเสียแล้ว เธอจึงได้เลือกวิธีที่ดูจะบ้าๆหน่อยแต่ปลอดภัยที่สุด
“หึ ยังดีนะที่เมียผมฉลาดเป็นกรด ไม่อย่างนั้นครั้งนี้พี่ทำชื่อเสียงพ่อเสื่อมเสียแน่ ยังจะกล้าว่าเมียผมอีก” อวี๋หมิงหลางเป็นคนที่รู้จักเสี่ยวเชี่ยนดีที่สุด พอเสี่ยวเชี่ยนให้เขาดูข้อมูล เขาวิเคราะห์นิดหน่อยก็เข้าใจความสัมพันธ์ทั้งหมดแล้ว
“พี่ผิดไปแล้ว พี่ใหญ่สำนึกผิดแล้ว ฝากขอโทษเสี่ยวเชี่ยนด้วยนะ” พี่ใหญ่รีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่”ถ้าคำขอโทษใช้ได้ผล แล้วจะมีกระเป๋ากับน้ำหอมรุ่นใหม่ๆออกมาทำไม ไหนจะนาฬิกา รองเท้าอีก”
“ได้ๆๆ ซื้อๆๆ เดี๋ยวพี่ใหญ่จะสั่งคนจองให้น้องสะใภ้เลยนะ ให้รีบส่งมาทางเครื่องบินเลย ไอ้เล็ก แกได้เวลาเปลี่ยนรถแล้วหรือเปล่า รถแกพี่เห็นขับมาตั้งหลายปีแล้ว พี่ซื้อรถคันใหม่ให้เอาไหม”
พี่สะใภ้ใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างๆเห็นสามีตัวเองทำตัวหงอรีบเอาใจน้องชายแล้วก็เบ้ปาก นักธุรกิจกลับกลอกแค่ไหนดูสามีเธอก็รู้ จึ๊ๆ ท่าทีต่างจากเมื่อกี้ราวฟ้ากับเหว
“อวี๋หมิงลี่อย่ามาดูถูกกัน ผมเหมือนผู้ชายที่อาศัยเงินพี่ชายถึงซื้อรถได้เหรอ เมียผมหาเงินเลี้ยงผม แล้วทำไมผมต้องขอบริจาคทานจากพี่ด้วย ครั้งนี้พี่ต้องขอโทษเมียผม ซื้อของให้เขาก็พอแล้ว ถ้าเมียผมไม่หายโกรธล่ะก็ กระจกบ้านพี่ได้เปลี่ยนใหม่หมดแน่”
พี่ใหญ่อยากขำทั้งน้ำตา ไม่ให้พี่ชายซื้อรถให้ แต่อาศัยเงินเมีย นี่น้องเขามันยังจะภูมิใจ
ก็ได้ เอาแค่เรื่องความฉลาดและความเข้าขากันของน้องชายกับน้องสะใภ้เขา ก็ไม่แปลกหรอกที่น้องเขาจะภูมิใจ
อวี๋หมิงหลางด่าพี่ชายจนพอใจแถมยังตอดกระเป๋าให้เมียได้ เสร็จแล้วเขาก็วางสาย
พี่ใหญ่ถูกด่าจนได้สติ เดินไปมาเอามือไขว้หลังใบหน้ายิ้มอย่างสบายใจ
เดินไปมาอยู่ในห้องเหมือนกัน แต่เมื่อครู่เขาเดินอย่างร้อนใจ ตอนนี้เดินด้วยความดีใจ
“ที่รักจ๋า คุณรู้เบอร์รองเท้าเสี่ยวเชี่ยน ครั้งหน้าถ้าคุณจองซื้อก็เลือกให้เสี่ยวเชี่ยนด้วยนะ” พี่ใหญ่ยิ้มอย่างอ่อนโยน คิดจะเข้าไปโอบเมียแต่กลับถูกผลักออกอย่างไม่ใยดี
“ไปให้พ้นๆเลย เห็นหน้าแล้วหงุดหงิด เมื่อกี้ไม่เห็นพูดแบบนี้ แถมยังว่าเสี่ยวเชี่ยนได้ใจอีก”
“ฮ่าๆ ผมผิดไปแล้ว ผมผิดเอง” พี่ใหญ่เวลาดีใจขึ้นมาก็ไม่แคร์อะไรทั้งนั้น เสี่ยวเชี่ยนกับน้องชายเขาช่วยอุดช่องโหว่ให้ ไม่อย่างนั้นเหตุการณ์คงแย่กว่านี้