อวี๋หมิงหลางกับเหยียนอวี้เพิ่งเดินเข้าบ้านปิดประตู ก็ได้ยินเสียงมีคนมาเคาะประตูทันที เขาจึงพาเหยียนอวี้หลบเข้าห้องเสี่ยวเชี่ยนแล้วส่งสัญญาณให้เสี่ยวเชี่ยนไปเปิดประตู
“มีธุระอะไรคะ” เสี่ยวเชี่ยนถามอาข่าที่ยืนอยู่หน้าประตู
“เมื่อกี้ตอนฉันนอนอยู่เหมือนจะได้ยินเสียงดังมากจากบ้านคุณเลยมาดูหน่อย พวกคุณยังโอเคอยู่ใช่ไหมคะ” อาข่าดูท่าทางไม่มีอะไรผิดปกติ เธอถามพร้อมยิ้มกว้าง
“ใช่ค่ะ น้องสาวฉันเพิ่งซื้อเครื่องสร้างเสียงรบกวนมา เขาเพิ่งเลิกกับแฟน อยากแก้แค้นเลยไปซื้อของแบบนี้มากะว่าจะเอาไปติดกำแพงบ้านแฟนเก่า เมื่อกี้ก็เลยลองทดสอบดู ขอโทษด้วยนะคะที่รบกวนเวลานอน”
อาข่ามุมปากกระตุก “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไรกันก็ดีแล้วค่ะ งั้นก็พรุ่งนี้เจอกันที่มหาลัยนะคะ รีบพักผ่อนเถอะค่ะ”
“ฝันดีค่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนกลับไปที่ห้องนอน แล้วเขียนข้อความลงบนกระดาษส่งให้อวี๋หมิงหลาง เธอเขียนว่า ‘เขาได้ยินฉันพูด ไม่เหมือนคนหูมีปัญหาเลย’
อวี๋หมิงหลางยิ้มมุมปาก เขาเข้าใจภาษาปาก คนข้างบ้านที่มีความสามารถขั้นสูงคนนั้นก็คงจะเข้าใจด้วย ผู้หญิงคนนี้ฉลาดไม่เบา จงใจเคาะประตูให้เสี่ยวเชี่ยนเห็นว่าหูตัวเองไม่ได้รับผลกระทบอะไร
อาข่ากลับเข้าห้องตัวเอง เรื่องแรกที่ทำก็คือกวาดสายตามองห้องรกๆไปทั่วห้อง ถึงห้องของเธอจะรก แต่แม้แต่ตำแหน่งก้อนกระดาษที่อยู่บนพื้นเธอก็ยังจำได้อย่างชัดเจน ถ้ามีคนเข้ามาในห้องเธอก็ต้องรู้ได้ ข้าวของไม่มีการแตะต้อง อาข่ามองไปที่ประตูห้องนอนตัวเองอย่างระแวง เส้นผมยังอยู่
ฮู่ว ตกใจหมดเลย
อาข่าเอามือตบหน้าอก ส่งข้อความหาบอสตัวเองเพื่อรายงานความเป็นไปของเสี่ยวเชี่ยนในวันนี้ และยังเน้นด้วยว่าตอนนี้เสี่ยวเชี่ยนปลอดภัยดี อ้อจริงสิ
อาข่ามองอัลบั้มรูปประมูลที่อยู่บนโต๊ะแล้วพิมพ์เพิ่มไปว่า ฉันได้ยินว่าดูเหมือนเธอจะชอบผลงานของเจิ้งป่านเฉียว บอสจะไปร่วมงานประมูลไม่ใช่เหรอคะ ซื้อให้เธอสักรูปเธอจะต้องดีใจแน่นอน
พอทำทุกอย่างเสร็จอาข่าถึงเอนตัวลงบนเตียงแล้วนวดหู
แสบแก้วหูเป็นบ้า ตอนนี้ยังก้องอยู่ในหัวอยู่เลย โชคดีที่เธอเป็นภาษาปาก ไม่อย่างนั้นคงถูกจับได้แล้วว่าใช้เครื่องดักฟัง
อวี๋หมิงหลางให้เหยียนอวี้กลับไป ส่วนตัวเองนั่งส่งข้อความอยู่บนเตียง ภายในช่วงเวลาไม่กี่วินาทีเมื่อครู่นอกจากเขาจะแน่ใจแล้วว่าอาข่าดักฟังเสี่ยวเชี่ยน เขายังเห็นอัลบั้มภาพเล่มนั้น เซ้นส์ของเขาบอกว่ามันมีประโยชน์ เขาจะหาคนไปสืบเรื่องเกี่ยวกับงานประมูลนั่น ที่นั่นอาจมีข้อมูลที่เขาต้องการ
ถึงแม้อวี๋หมิงหลางจะสงสัยว่าสาวผมทองคนนั้นอาจเป็นคนที่อาเหม็ดส่งมา แต่เซ้นส์เรื่องการระวังตัวของเขาได้ทำให้เขาพิมพ์ข้อความเพิ่มลงไปอีก
เอารายชื่อคนที่เข้าร่วมงานประมูลปลายเดือนที่จัดที่ประเทศMส่งให้ผมด้วย
เสี่ยวเชี่ยนแปะแผ่นประคบร้อนที่ท้อง นอนบนเตียงเอามือค่อยๆยื่นไปที่น้ำเย็นที่อยู่หัวเตียง อวี๋หมิงหลางจ้องโทรศัพท์เพื่อรอข้อความตอบกลับ เขารู้สึกได้ว่ามนุษย์รอบเดือนบางคนแถวนี้กำลังทำตัวเจ้าเล่ห์ เขาจึงลุกเอาน้ำไปเก็บในตู้เย็น เสี่ยวเชี่ยนได้ยินเสียงเขาทำอะไรกุกกักด้านนอก คล้ายกับกำลังต้มน้ำ
ทุเรศที่สุดผู้ชายที่ให้กินแต่น้ำอุ่น…
เขาต้มน้ำอยู่ด้านนอก โทรศัพท์มือถือดังเสี่ยวเชี่ยนจึงกดดู รายชื่อยาวเป็นหางว่าวก็ปรากฏ
เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกคุ้นๆชื่อคนส่ง เหมือนจะเป็นเพื่อนนักเรียนสักคนของอวี๋หมิงหลาง ตอนนี้ทำงานอยู่ในประเทศมหาอำนาจ เป๊ะมากเรื่องข้อมูลแบบนี้ ถึงเสี่ยวเฉียงจะอยู่ในค่ายทหารแต่เขาก็มีเครือข่ายเยอะ จุดนี้เสี่ยวเชี่ยนนับถือเขามาก
อวี๋หมิงหลางยกน้ำตาลทรายแดงที่ชงมาอย่างดีกลับเข้ามา “มีเขาไหม”
“ไม่มี…ดูเหมือนส่วนใหญ่จะเป็นคนจีน” เสี่ยวเชี่ยนไม่เห็นชื่อคนที่เหมือนมาจากบ้านเดียวกับอาเหม็ด คนทางนั้นชื่อยาวมาก สังเกตเห็นง่าย
“เป็นไปได้ว่าเขาไม่ไปให้คนอื่นไปแทน เดี๋ยวผมกลับไปจะไปสืบดูเบื้องหลังของคนพวกนี้ มา ดื่มต้มน้ำตาลทรายแดงหน่อย”
“ฉันไม่อยากกิน…รสชาติมันแย่มาก จริงสิ ฉันเจอชื่อคนที่รู้จักด้วย”
“ใคร”
“อาจารย์ที่ปรึกษาปริญญาเอกคนที่อาจารย์ฉันแนะนำมา นายดูพินอินชื่อนี้สิ ฉันจำได้เลยล่ะ”
“เรื่องบังเอิญมั้ง อย่าคิดว่าเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วจะไม่กินได้นะ รีบๆกินเข้าไป”
“…ผู้ชายอย่างนายนี่น่ากลัวจริง ทำไมต้องกินของพวกนี้ด้วย พวกฝรั่งมีประจำเดือนก็เห็นออกไปวิ่งได้ ยัดผ้าอนามัยแบบสอดก็ว่ายน้ำได้”
“อยากเหมือนพวกฝรั่งเหรอ งั้นตอนนี้เรามาล้างปืนกันไหม”
เสี่ยวเชี่ยนสำลัก นี่เขาดูหนังฝรั่งมากไปหรือเปล่า
เวลาที่ประจำเดือนมาจะไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น อยากนอนแข็งทื่อเป็นท่อนไม้อยู่ในบ้าน น่าเสียดายที่ตอนเช้าเสี่ยวเชี่ยนมีประชุมกลุ่ม หลังจากที่อวี๋หมิงหลางไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัยแล้วเขาก็ไปนั่งดูรายชื่อคนร่วมงานประมูลต่อ
ตามปกติเสี่ยวเชี่ยนจะนั่งข้างเถ้าแก่ใหญ่ หลุ่ยเสี่ยวฉาที่คิดว่าตัวเองสนิทกับเสี่ยวเชี่ยนจึงนั่งข้างเสี่ยวเชี่ยน เถ้าแก่ใหญ่ยังไม่มา เสี่ยวเชี่ยนหันไปก็เห็นอาข่าผมทองที่นั่งชิดริมประตู
“กลุ่มเรามีคนเพิ่มมาตั้งแต่เมื่อไร” เสี่ยวเชี่ยนถามหลุ่ยเสี่ยวฉา ช่วงหลายวันมานี้เธอวุ่นอยู่กับการจัดการเรื่องที่บ้านจึงโดดประชุมกลุ่มไปหนึ่งครั้ง เธอรู้แค่ว่าอาข่าเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนชาวต่างชาติของที่นี่ แต่ไม่รู้ว่ามาอยู่กลุ่มเดียวกับเธอด้วย
“เมื่อครั้งก่อนได้มั้ง ประธานเชี่ยนไม่รู้อะไร ฝรั่งที่ชื่ออาข่านั่นไม่รู้มาอยู่กลุ่มพวกเราได้ไง คราวก่อนถูกเถ้าแก่ใหญ่วิจารณ์หนักมาก เถ้าแก่ใหญ่พูดว่าเขาน่ะสู้เด็กปีหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ มหาลัยเราหละหลวมกับเด็กต่างชาติขนาดนี้แล้วเหรอ”
หลุ่ยเสี่ยวฉาแอบอิจฉาเล็กๆ ทำไมคนในประเทศต่อสู้ฝ่าฟันกันแทบตายกว่าจะสอบเข้าที่นี่ได้ แต่เด็กต่างชาติกลับเข้ามาอย่างง่ายดาย
เสี่ยวเชี่ยนหมุนปากกาในมือ สายตามองไปทางสาวผมทอง ผู้หญิงคนนี้พยายามเข้าใกล้เธอเพียงเพราะเรื่องอาเหม็ดตามจีบเธองั้นเหรอ ถ้าเป็นเพราะเรื่องแค่นี้ถึงกับต้องมาทำตัวใกล้ชิดดูจะเกินไปหน่อยหรือเปล่า
เรื่องอาเหม็ดเธอมีแผนอยู่ในใจแล้ว อวี๋หมิงหลางเองก็พบความผิดปกติของอาข่าแล้ว งั้นปัญหาในตอนนี้ก็คืออาข่าเป็นพวกเดียวกับอาเหม็ดหรือเปล่า
หลังจากที่อวี๋หมิงหลางค้นบ้านอาข่าแล้ว ตอนนี้เวลาเสี่ยวเชี่ยนมองอาข่าก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีเจตนาไม่ดี
อาข่ารู้สึกได้ว่าเสี่ยวเชี่ยนมองมาจึงยิ้มหวานให้ เสี่ยวเชี่ยนทำหน้าเย็นชาใส่แล้วเบือนหน้าหนี
ด้านข้างอาข่าเป็นรุ่นพี่แม่สาวก้นร้อนที่เคยมีเรื่องกับเสี่ยวเชี่ยน พออาข่าหันมาเธอก็เข้าใกล้อาข่าหวังจะฝึกภาษาอังกฤษด้วย ปรากฏว่าชะตาได้กำหนดมาให้เธอต้องผิดหวัง อาข่าพูดจีนคล่องขนาดที่ว่าพูดภาษาถิ่นยังได้ ไม่มีใครเคยได้ยินเธอพูดภาษาอังกฤษ
“นั่นคือประธานเชี่ยนจอมเย็นชาที่แสนโด่งดัง รู้สึกว่าเขาหยิ่งใช่ไหมล่ะ” สาวก้นร้อนพูดกับอาข่า
อาข่าหันไปยิ้มกว้างให้ รุ่นพี่คนนั้นคิดจะเม้าท์ประธานเชี่ยนต่อแต่เถ้าแก่ใหญ่มาเสียก่อน ทุกคนจึงเบนความสนใจไปที่เถ้าแก่ใหญ่
อาข่าฉวยโอกาสตอนที่รุ่นพี่คนนั้นมองเถ้าแก่ใหญ่รีบเอากระบอกน้ำของเธอมาเปิดออกแล้วใส่ยาถ่ายลงไป พอทำเสร็จก็หันไปมองเสี่ยวเชี่ยน นางฟ้ารักฉันขึ้นมาหรือยัง
ไม่เลย เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้มองมาเลยสักนิด ขนาดแค่ชายตามองเธอยังไม่ทำ
ทำให้อาข่าเริ่มโมโหนิดๆ
มิตรภาพระหว่างผู้หญิงด้วยกันมันไม่ได้พัฒนาจากแบบนี้เหรอ