50 – พี่ใหญ่ของคุณบอกหรือเปล่า
โจวเจ๋อจ้องมองที่ไป๋อิ่งและเธอไม่กล้าพูดอะไรอีก เธอทำได้เพียงกลืนน้ำลายโดยไม่เต็มใจ
“ฉันกินอาหารของคนที่มีชีวิตอยู่ไม่ได้ แล้วทุกคืนคุณต้องนอนกอดฉันเหมือนหมอนข้างถึงจะนอนหลับ ดังนั้นคุณไม่คิดจะชดเชยให้ฉันบ้างเหรอ”
โจวเจ๋อตกตะลึงครู่หนึ่ง เขาไปนอนกอดเธอตั้งแต่เมื่อไหร่?
“เฮอะ!” ไป๋อิ่งมีท่าทางโกรธเกรี้ยว
“เถ้าแก่คุณมีเหล้าหรือเปล่า” ซุนเถาร้องถาม
“ไปนั่งก่อนสิ” โจวเจ๋อรินน้ำอุ่นให้เขาหนึ่งแก้ว
ท้ายที่สุดเขาถูกเลี้ยงดูมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพียงลำพัง ในขณะที่ซุนเถาเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่มีแม่เลี้ยงเดี่ยว
ในตอนนั้นที่เขาเมินหมอหลินที่เป็นเด็กฝึกงานก็เพราะเขามัวแต่เอาใจใส่ซุนเถาอยู่
เพราะพวกเขามีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ประสบการณ์ในวัยเด็กทำให้พวกเขาเข้าใจความหมายของการต่อสู้และการทำงานหนัก
และพวกเขาทั้งหมดต้องการพิสูจน์ตัวเองด้วยการใช้ชีวิตแบบเดียวกัน
“อึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า…” ซุนเถาหยิบน้ำขึ้นมาดื่มแล้วหัวเราะ “เถ้าแก่ทำไมคุณมองผมแบบนี้ ผมไม่สนใจผู้ชายหรอก”
“โอ้… ” โจวเจ๋ออุทานออกมา
ข้างบ้านมีผู้ชายที่สวยกว่าผู้หญิงฉันยังไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย
ซุนเถานั่งลงบนม้านั่งพลาสติกก่อนจะเริ่มส่ายหัวไปมาเหมือนกับคิดอะไรอยู่
“เถ้าแก่คุณมีลูกไหม”
“เรายังไม่พร้อม เขาคิดว่าฉันยังเด็กเกินไป” ไป๋อิ่งรีบเสนอหน้าเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ซุนเถามองขึ้นไปที่หญิงสาวแม้ว่าเธอจะตัวสูงมากแต่เธอก็ดูเหมือนนักเรียนมัธยมปลายเท่านั้น เขาจึงพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มว่า
“คุณยังเด็กจริงๆ”
ไป๋อิ่งหันหลังกลับอย่างโกรธจัด จากนั้นก็กลืนน้ำลายเข้าไป
“ผมมีลูก” ซุนเถาพูดด้วยอารมณ์บางอย่าง
โจวเจ๋ออยากจะบอกว่าคุณมีลูกแล้วและลูกของคุณแขวนอยู่บนหลังคุณ
ด้วยการพัฒนายาแผนปัจจุบันและ “ความทันสมัย” ของความคิดของผู้คน การทำแท้งจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่น้อยคนนักที่จะรู้ถึงความคับข้องใจของเด็กที่ยังไม่ทันได้เกิด
ทารกประเภทนี้ยังกลายร่างเป็นผีได้ง่ายที่สุดอีกด้วย แน่นอนว่าความสามารถในการตอบโต้ของพวกเขานั้นอ่อนแอมาก
อย่างมากที่สุดก็เพราะความขุ่นเคืองซึ่งผูกติดอยู่กับสิ่งที่เรียกว่าพ่อแม่เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วพวกเขาจะแยกย้ายไป
ไป๋อิ่งบอกว่าอยากกินเขา เพราะเด็กแบบนี้เปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่ยังไม่ได้งอกขึ้นมา สำหรับการดำรงอยู่ของเธอ “คุณค่าทางโภชนาการ” นั้นสูงมาก
“เกิดอะไรขึ้น?” โจวเจ๋อถาม “
โจวเจ๋อจำได้ว่าพยาบาลเฉินคนนั้นอารมณ์เสียและประหลาดใจในตอนที่เธอได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรก แต่เขาได้ยินมาว่าเธอจะทำทุกอย่างเพื่อเก็บเด็กไว้
“เธอไม่ต้องการจะทำแต่ผมบังคับให้เธอฆ่าเด็ก”
ไม่รู้ว่าทำไมแต่ซุนเถาต้องการคุยกับเจ้าของร้านหนังสือเป็นอย่างมาก เจ้าของร้านคนนี้มีบางอย่างที่คุ้นเคยเหมือนกับพี่ใหญ่ของเขาและพี่ใหญ่คนนั้นก็ตายไปมากกว่าครึ่งปีแล้ว
“เพราะพ่อแม่ของฝ่ายหญิงเหรอ?” โจวเจ๋อถาม
“พ่อแม่เธอเป็นครอบครัวที่ดีมาก พวกเขาไม่ได้บังคับอะไรผมเลย” ซุนเถาเงยหน้าขึ้นราวกับจะกลั้นน้ำตา
“แต่เรื่องของพวกคุณก็เกิดขึ้นแล้ว” โจวเจ๋อกล่าว
“เพราะว่าพวกเขาดีเกินไปผมจึงไม่ต้องการเอาเรื่องนี้มาบีบบังคับพวกเขา ผมไม่ต้องการให้เพื่อนร่วมงาน เพื่อน คิดว่าผมกำลังใช้วิธีสกปรกเพื่อแต่งงานกับเธอ
ผมไม่ได้โลภเงินของพวกเขา ผมทนไม่ได้ที่จะให้ทุกคนดูถูกผม ผมโตมาในครอบครัวที่มีแม่เลี้ยงเดี่ยวผมจึงต้องการยืนหยัดด้วยศักดิ์ศรี
“แม้ว่าเธอจะไม่ยอมก็ตาม”
“เธออยากเก็บลูกไว้แต่ผมไม่ยอม ผมอยากอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ฮ่า ฮ่า เมื่อผมเริ่มทำงานครั้งแรก พี่ใหญ่ของผมบอกว่าคนเราต้องมีศักดิ์ศรีแล้วความสำเร็จจะตามมาเอง ตอนนี้ความสำเร็จของผมยังไม่ได้เริ่มขึ้นผมจึง … “
โจวสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วถามว่า “พี่ใหญ่ของคุณบอกอะไรคุณอีกคำหนึ่งหรือปล่าว?”
“อะไร” ซุนเถารู้สึกประหลาดใจ
” เมื่อทำผิดแล้วก็รู้จักยอมรับซะ”
พูดจบโจวเจ๋อก็เหวี่ยงหมัดไปที่ใบหน้าของซุนเถาโดยตรง
“ปัง!”
ซันเถาถูกต่อยอย่างมึนงง ร่างของเขาล้มลงกับพื้นไม่สามารถลุกขึ้นได้ชั่วคราว
“อย่าแก้ตัว อย่าพูดถึงศักดิ์ศรี อย่าพูดถึงเรื่องอื่น”
หลังจากนั้นโจวเจ๋อก็เตะซุนเถาซ้ำอีกครั้ง
“ปัง!”
ซุนเถาขดตัวด้วยความเจ็บปวดในตอนนี้เขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธ:
“คุณเป็นบ้าอะไรถึงมาตีผม!”
“ใช่ฉันเป็นบ้า ฉันไม่คิดว่านายจะเลวระยำถึงขนาดนี้!”
ในเวลานี้เจ้าตัวเล็กที่เดิมห้อยอยู่บนไหล่ของซุนเถาก็ขดตัวลงพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะคิกคัก
ไป๋อิ่งได้ยิน โจวเจ๋อก็ได้ยินเช่นกัน แต่ซุนเต๋าไม่ได้ยิน
ลูกที่ยังไม่เกิดซึ่งไม่เคยเห็นโลกกำลังหัวเราะอย่างมีความสุขในขณะที่มีคนกำลังทุบตีพ่อของเขา
หลังจากเตะต่อยไปสักพักโจวเจ๋อก็นั่งลง อันที่จริงเขาไม่มีเหตุผลที่จะตีผู้คน ไม่ว่าซุนเถาจะต้องการลูกหรือไม่ก็เป็นเสรีภาพตามกฎหมายของเขา
ยิ่งกว่านั้นต่อให้เป็นอาจารย์ในโรงเรียนทุกวันนี้ก็ยังมีกฎหมายห้ามตีเด็ก
“อา…”
โจวเจ๋อจุดบุหรี่ขึ้นสูบในร้าน
ซุนเถาลุกขึ้นจากพื้นและชี้ไปที่โจวเจ๋อพร้อมกับตะโกนว่า
“คุณเจอดีแน่ผมจะไปแจ้งตำรวจ แล้วเราจะได้เห็นกัน”
“ตามสบาย” โจวเจ๋อไม่ได้เงยหน้าขึ้นและพ่นบุหรี่ออกมา
“คุณ…” ซุนเถาชี้ไปที่โจวเจ๋อจากนั้นก็ผลักประตูร้านหนังสือแล้วเดินออกไป เขารู้สึกว่าวันนี้โชคร้ายจริงๆ
ทารกคนนั้นต้องการตามเขาออกไปด้วยแต่ถูกโจวเจ๋อจับไว้
ทารกกำลังดิ้นรนด้วยความไม่พอใจ แต่โจวเจ๋อเมินปฏิกิริยาของเขาและพูดว่า
“ตามไปแล้วจะได้อะไร ถ้าเธอยังตามไปอย่างนี้เธอจะไม่มีโอกาสได้ไปเกิดใหม่” โจวเจ๋อกล่าวให้เขา “รับสารภาพ” ของตัวเอง
ทารกยังคงดิ้นรนและไม่ได้ยินคำพูดของโจวเจ๋อ ไป๋อิ่งรีบวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางประจบสอพลอ เห็นได้ชัดว่าเธอคิดว่าโจวเจ๋อจะมอบทารกนี้ให้เธอ
“ผู้คนจะเติบโตต่อไปตราบเท่าที่สารอาหารของพวกเขาเพียงพอ” ไป๋อิ่งกล่าวด้วยสีหน้าเปล่งประกาย
“ไปให้พ้น.”
“…………” ไป๋อิ่ง
“ดูเขาไว้อย่าปล่อยให้เพ่นพ่าน ถ้าเธอแอบขโมยกินเธอจะตายไปกับเขาด้วย” โจวเจ๋อยืนขึ้นอย่างไร้ความรู้สึก
“ค่ะนายท่าน.”
หญิงสาวหมอบลงและคว้าทารกด้วยมือทั้งสอง