56 – คุณต้องนอกใจต่อไป
รถแล่นไปที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลประชาชน และทั้งสามก็ลงจากรถ
หมอหลินไม่ได้ถามว่าโจวเจ๋อจะไปไหน เธอนึกไม่ออกว่าที่ที่ โจวเจ๋ออยากไปคือห้องฉุกเฉินจริงๆ เธอก็แค่เดินต่อไปอย่างเงียบๆ
ไป๋อิ่งเดินมากระซิบที่หูของโจวเจ๋อและพูดว่า
“เจ้านายจะสารภาพในคืนนี้เหรอ”
เธอฉลาดมากเธอคาดเดาการกระทำของเขาออกแล้ว
“ฉันทนต่อไปไม่ไหวฉันต้องบอกเธอ?” โจวเจ๋อยักไหล่
แม้ว่าจะมีเหตุการณ์เล็กๆเกิดขึ้นบนถนนทำให้สารภาพของเขาต้องสะดุดไปบ้าง แต่สุดท้ายโจวเจ๋อก็ไม่คิดจะเลิกล้มความตั้งใจ
ผู้หญิงประเภทนี้เป็นภรรยาที่โจวเจ๋อปรารถนาเป็นที่สุด ไม่ว่าจะอย่างไรเขาจะไม่ยอมเสียเธอไปอย่างนั้น
หมอหลินนั่งลงบนม้านั่งตรงทางออกที่จอดรถและโจวเจ๋อก็นั่งลงข้างเธอ
ไป๋อิ่งไม่ได้ลงจากรถ
คนสองคนนั่งติดกัน
หมอหลินสูดหายใจเข้าลึกๆใบหน้าของเธองดงามอ่อนช้อยยิ่งกว่าดวงจันทร์
โจวเจ๋อรู้สึกมีความสุขที่ได้นั่งมองเธออย่างนี้ แม้ว่าเขาจะตายไปกว่าครึ่งปีแล้วแต่ความรักของเธอยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
โจวเจ๋อรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองจริงๆนี่อาจเป็นความสำเร็จเดียวในชีวิตที่แล้วที่เขาพอจะปลอบประโลมใจตัวเองได้บ้าง
“เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น?” เห็นได้ชัดว่าหมอหลินยังคงงงๆกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่
“เราไม่ได้ทำอะไรผิดใช่ไหม” โจวเจ๋อปลอบโยนเธอ
หมอหลินพยักหน้า
“แล้วคุณกลัวการแก้แค้นไหม”
“นิดหน่อย” หมอหลินพยักหน้า
โจวเจ๋อยืนขึ้นแล้วพูดว่า
“ผมจะปกป้องคุณเอง.”
หมอหลินพยักหน้าแล้วถามออกไป
“ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเธอคืออะไร ซูเล่อฉันอยากให้คุณตอบมาตรงๆ ไม่ว่าคุณจะพูดแบบไหนฉันก็จะเชื่อ” หมอหลินมองโจวเจ๋อและย้ำอีกครั้ง “ฉันจะยกโทษให้คุณด้วย”
“ไม่มีอะไรจริงๆ” โจวเจ๋อพูดด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว
หมอหลินเงียบอีกครั้ง เมื่อโจวเจ๋อกำลังจะพูดเธอก็จับมือของเขาไว้
“ซูเล่อฉันขอโทษคุณ ฉันรักผู้ชายคนอื่นมาโดยตลอด คุณควรจะรู้ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่ปรากฏในห้องนั้น แม้ว่าฉันกับผู้ชายคนนั้นจะไม่ได้มีอะไรกัน แต่ฉันยอมรับว่าฉันมีใจให้คนอื่นทั้งที่คุณเป็นสามีของฉันเรื่องนี้ฉันทำผิดต่อคุณ”
“มันไม่เป็นไร…”
เมื่อโจวเจ๋อกังกำลังจะพูดหมอหลินก็รีบพูดสวนขึ้นมา
“ฉันคิดเรื่องของเราแล้วมีสองทางเลือกสำหรับคุณ หนึ่งคือการหย่า ฉันจะชดเชยให้คุณด้วยเงินหนึ่งล้านหยวนและร้านหนังสือก็ยังเป็นของคุณเช่นเดิม “
“คุณกำลังพูดอะไร?” โจวเจ๋องุนงง
“สองฉันจะพยายามลืมผู้ชายคนนั้น และฉันจะเลือกอยู่กับคุณและเป็นภรรยาที่แท้จริงของคุณ ซูเล่อฉันยินดีที่จะพยายามเป็นภรรยาที่ดีที่สุด”
เมื่อเธอพูดคำเหล่านี้ดวงตาของหมอหลินก็เป็นสีแดงก่ำ
“เดี๋ยวก่อน”
สมองของโจวเจ๋อไม่สามารถคิดตามคำพูดของเธอได้ครู่หนึ่ง ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างยุ่งเหยิงเขาต้องจัดการกับมันก่อน
จากนั้นโจวเจ๋อก็พบรายละเอียดในที่สุด เขาลุกขึ้นทันทีและชี้ไปที่หมอหลินก่อนจะตะโกนออกมาอย่างไร้ยางอาย
“ไม่มีทาง คุณต้องนอกใจต่อไป!”
“…………” หมอหลิน
“อึก…” ไม่ไกลจากตรงนั้นไป๋อิ่งที่นั่งอยู่ในรถพยายามอย่างเต็มที่ที่จะกลั้นหัวเราะ
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
ริมฝีปากสีแดงของหมอหลินเปิดขึ้นเล็กน้อย เธอกำลังตกตะลึง
“สามี” ของเธอไม่ให้อภัยเรื่องนี้หรือ?
หมอหลินเลือกที่จะประนีประนอมภายใต้ความรู้สึกผิดและความกดดัน อันที่จริงตราบใดที่โจวเจ๋อไม่ใช่คนโง่เขาต้องยอมรับข้อเสนอที่สองอย่างแน่นอน
อย่างแรกคือการเอาเงินล้านบวกกับร้านหนังสือที่ขาดทุน
อย่างที่สองคือการได้ทั้งเงินได้ทั้งร้านหนังสือ และที่สำคัญที่สุดก็คือได้เจ้าของเงินอีกด้วย?
อย่างไรก็ตาม สำหรับโจวเจ๋อสถานการณ์ที่เขาเผชิญนั้นยากกว่า
‘คุณบอกว่าคุณอยากลืมผม แล้วคุณก็พร้อมที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับไอ้สารเลวซูเล่ออย่างนั้นหรือ?’
โจวเจ๋อไม่สามารถปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้
เขามีความสุขจริงๆที่ได้สวมหมวกเขียวให้กับคนอื่น มันเป็นความรู้สึกเหมือนกับประสบผลสำเร็จอะไรสักอย่าง แต่ตอนนี้เขากำลังถูกคนอื่นสวมหมวกเขียวให้เขาจึงยอมรับไม่ได้อย่างแน่นอน
โจวเจ๋อชี้ไปที่ใบหน้าของเขาและพูดอย่างจริงจังว่า
“ผมไม่ใช่ซูเล่อ ผมคือโจวเจ๋อ”
หมอหลินตะลึงงัน
แต่พวกเขาก็เงียบไป
ในที่สุดหมอหลินก็ถอนหายใจและพูดว่า
“ไม่ว่าคุณจะเลือกอันไหนฉันก็จะยอมรับทางเลือกของคุณ แต่คุณไม่ควรแกล้งฉันแบบนี้ หรือว่าคุณยังโกรธฉันไม่หาย”
โจวเจ๋อยักไหล่
“ฉันชื่อโจวเจ๋อจริงๆผมเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ผมตื่นขึ้นมาอย่างลึกลับในร่างของชายคนนี้ มันค่อนข้างพูดยากนี่อาจจะฟังดูเหมือนละครแต่มันคือเรื่องจริง “
“ว่าไงนะ” หมอหลินอุทานออกมา
แต่โจวเจ๋อรู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขากำลังจะติดต่อจิตแพทย์ เขาเชื่อว่าเธอจะบังคับเขาไปโรงพยาบาลจิตเวชในวันพรุ่งนี้แน่ๆ
ในขณะนั้นมีเสียงรถฉุกเฉินวิ่งเข้ามาขัดจังหวะพวกเขาพอดี
“ขอตัวแป๊บนึง.” หมอหลินยืนขึ้นและตัดสินใจเลิกคุยกับสามีชั่วคราว ในความเห็นของเธอสามีของเธอคงได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจอย่างหนัก
ด้วยเหตุนี้เธอจึงรู้สึกผิดต่อซูเล่อมากขึ้น
หลังจากที่หมอหลินเดินจากไปไป๋อิ่งก็ลงจากรถและพูดว่า
“เจ้านาย ทำไมคุณไม่ให้เธอดูเล็บของคุณล่ะ”
“บางทีเธออาจจะต้องการเวลาทำใจเล็กน้อย” โจวเจ๋อบอก
“ความรักมันบังตาคุณแล้ว เห็นได้ชัดว่าเธอคิดว่าคุณกำลังเป็นบ้า” ไป๋อิ่งเสียดสีเจ้านายของเธอ
“ใช่ มันเป็นความรัก ตอนที่เธอหนีไปกับเจ้าบัณฑิตยากไร้นั่นมันไม่ใช่ความรักหรือไง” โจวเจ๋อตอกกลับอย่างเจ็บแสบ “มากับผมเราจะเข้าไปข้างใน”
“เข้าไปทำไม?”
“ไร้สาระ เกิดอุบัติเหตุใหญ่ต้องมีงานให้ทำมากมาย คนบาดเจ็บก็ไม่ใช่น้อยๆ หมอฉุกเฉินต้องไม่พออยู่แล้ว เด็กฝึกงานพวกนั้นไม่มีประสบการณ์หรือกล้าพอที่จะรับมือกับสถานการณ์นี้”
โจวเจ๋อพูดขณะเดินเข้าไปในโรงพยาบาลพร้อมกับไป๋อิ่งแล้วตรงไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของหมอ
“แต่มันเกี่ยวอะไรกับเจ้านาย”
“ชีวิตที่แล้วผมเป็นหมอ และหมอหลินเป็นเด็กฝึกงานของผมเอง”