61 – ผมต้องการพิสูจน์ว่าร่างกายนี้ยังปกติไหม
โจวเจ๋อวางแผนจะไปวัดขงจื๊อ ต่อให้ตอนนี้ชีวิตจะต้องทนทุกข์สักแค่ไหน แต่เรื่องความเป็นความตายต้องมาก่อน
เรื่องลูกพี่ลูกน้องและคนขับรถบรรทุกนั้นเขาจะต้องจัดการอย่างแน่นอนแต่มันจะเกิดขึ้นในภายหลัง
อย่างน้อยโจวเจ๋อก็ไม่ใช่คนใจกว้าง เพียงแต่ว่าเขาไม่สามารถทำอะไรที่เย่อหยิ่งโอหังเหมือนกับสหายคนนั้นที่อยู่ในเฉิงตู มันจึงต้องค่อยเป็นค่อยไปเร่งรีบไม่ได้
ในตอนที่กำลังเรียกรถแท็กซี่เขาก็มองเห็นข้อความจากหมอหลิน
“คุณทำอะไรอยู่”
โจวเจ๋อลังเลเล็กน้อย พูดตามตรงตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์ที่ซับซ้อน ซูเล่อต้องการจะฆ่าเขาเพราะหมอหลินคนนี้แอบรักเขา
การที่หญิงสาวสวย อีกทั้งยังเป็นภรรยาคนอื่น ที่สำคัญที่สุดเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่มาแอบหลงรักเขานี่เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจจริงๆ
แต่นั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องตาย!
“ผมอยู่ที่ร้าน” โจวเจ๋อตอบกลับ
เขาไม่ใช่ซูเล่อเขาจะไม่ทำเรื่องอะไรที่ขาดความรับผิดชอบ หมอหลินไม่มีความเกี่ยวข้องกับความชั่วของซูเล่อ โจวเจ๋อไม่อาจครอบความผิดนี้ใส่ตัวเธอได้
และตามจริงแล้วเมื่อเขาพบว่าหมอหลินแอบหลงรักเขามันก็ทำให้หัวใจของเขาชุ่มชื่นขึ้นไม่น้อย
โดยเฉพาะการสารภาพในโรงพยาบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เธอกลัว แม้แต่ร่างกายของเธอยังสั่นสะท้านแต่เธอก็ยังเดินมากอดเขาอย่างไม่ลังเล
พระเจ้าตาบอดจริงๆหรือไม่โจวเจ๋อไม่สามารถบอกได้ แต่การปรากฏตัวของหมอหลินสำหรับโจวเจ๋อแล้ว มันเป็นเหมือนกับการเก็บไม้ขีดไฟได้ในขณะที่อยู่ท่ามกลางพายุหิมะ
“ฉันมาถึงร้านคุณแล้ว”
โจวเจ๋อเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆแน่นอนว่าเขาเห็นรถมาเซราติสีขาวอยู่ที่หัวมุมถนน
รถปอร์เช่คาเยนถูกโจวเจ๋อขับไปถากเสาไฟ ดูเหมือนว่าหมอหลินจะซื้อรถคันนี้มาใช้แทน
กระแสบูชาเงิน!
โจวเจ๋อเดินไปเปิดประตูและนั่งลงในที่นั่งด้านข้างของคนขับ หมอหลินรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่จะเห็นได้ว่าการที่เธอมาที่นี่มันก็แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญของเธอแล้ว เพราะไม่ว่าจะอย่างไรโจวเจ๋อก็เป็นผีจริงๆ
“ซูเล่อ …” หมอหลินเอ่ย
โจวเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่ต้องการได้ยินอะไรเกี่ยวกับซูเล่อในตอนนี้
“อย่าพูดถึงเขาต่อหน้าผม”โจวเจ๋อพูดอย่างแข็งกร้าว
แต่เมื่อมองเห็นใบหน้าตกใจของหมอหลิน โจวเจ๋อก็เสียงอ่อนลง
“อย่าคิดมาก”
โจวเจ๋อส่ายหัว
อันที่จริงมันน่าตกใจมากที่ซูเล่อกลายเป็นโจวเจ๋อ หมอหลินรู้สึกกลัวและประหม่าเล็กน้อยราวกับว่าได้ย้อนเวลากลับไปตอนที่เธอยังเป็นแค่เด็กฝึกงานและโจวเจ๋อเป็นหมอพี่เลี้ยงของเธอ
ในเวลานั้นโจวเจ๋อไม่สุภาพต่อเด็กฝึกงานอย่างพวกเธอแม้แต่น้อย ไม่ว่าชายหญิงต่างถูกเขาใช้งานราวกับทาส ไม่เว้นแม้แต่เดินออกไปซื้อกาแฟที่ร้านนอกโรงพยาบาลให้เขาหมอหลินก็เคยทำมาแล้ว
และหลังจากที่โจวเจ๋อสารภาพแล้ว เขาก็ค่อยๆแสดงให้เห็นทัศนคติที่ “เหนือกว่า” เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ
หมอหลินซึ่งเกิดในครอบครัวที่บูชาลัทธิผู้ชายเป็นใหญ่ เมื่ออยู่ต่อหน้าโจวเจ๋อเธอจึงโอนอ่อนผ่อนตามทุกอย่าง
โจวเจ๋อหันไปสำรวจภรรยาคนสวยและพบว่าเธอสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีชมพูและสวมกระโปรงยีนส์ แม้ว่าส่วนโค้งของร่างจะสมบูรณ์แบบ แต่โจวเจ๋อมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป
“คราวหน้าใส่ถุงน่องนะ ผมชอบมองผู้หญิงใส่ถุงน่อง” โจวเจ๋อกล่าว
หมอหลินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและใบหน้าของเธอก็แดงก่ำด้วยความอาย
ในฐานะภรรยาของซูเล่อ หมอหลินรู้สึกว่าเธอควรจะเศร้าหลังจากที่รู้ว่าเขาเสียชีวิตไปแล้ว เธอรู้ว่าเธอไม่ควรมานั่งในรถแล้วปล่อยให้โจวเจ๋อหยอกล้ออยู่แบบนี้
แต่ความสุขที่อยู่ในใจกลับทำให้เธอไม่สามารถก้าวขาลงรถได้ นี่คือความรู้สึกที่เธอเฝ้ารอมานานกว่า 6 ปี ในที่สุดวันนี้มันก็เกิดขึ้นแล้ว
หมอหลินหลับตาและสารภาพความผิดของตัวเองในใจ
“ผมคุยกับคุณอยู่นะ” โจวเจ๋อกล่าวเบาๆ
“อืม” หมอหลินตอบใบหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม
โจวเจ๋อยิ้มสดใส บางทีที่เขาพูดอย่างหยาบคายแบบนี้ออกมาก็อาจเป็นเพราะว่าเขาต้องการแก้แค้นซูเล่อจึงทำลงไปโดยไม่รู้ตัว
“คุณหิวไหม?” หมอหลินถาม
“ไม่หิว.” โจวเจ๋อตอบกลับ
แล้ว คือความเงียบ
ตอนนี้โจวเจ๋อรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงเป็นโสดในชาติที่แล้ว ไม่เพียงเพราะเขาหมกมุ่นอยู่กับงานและไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่นแต่ยังเพราะเขามี Eq ต่ำอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าเขามีปัญหาในการสนทนากับผู้หญิง ในขณะนี้แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาเขาก็ยังไม่รู้ว่าจะชวนเธอคุยเรื่องอะไร
“ใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไป อย่าบอกคนอื่นเกี่ยวกับผม เมื่อคนอื่นถามคุณก็แค่บอกว่าผมเป็นซูเล่อ” โจวเจ๋อกัดฟันพูด
“ตกลง” หมอหลินพยักหน้า
“แต่มีสิ่งหนึ่งต้องเตือนคุณก่อน”
“อะไรเหรอคะ”
“เมื่อคุณอยู่บนเตียง ต้องเรียกผมว่าโจวเจ๋อเท่านั้น” โจวเจ๋อเอามือลูบศีรษะของเธอเบาๆ “ผมไม่ต้องการให้คุณเรียกชื่อของเขา ผมต้องการให้คุณเรียกชื่อของผมคนเดียวเท่านั้น”
อยู่บนเตียง?
จู่ๆหัวใจของหมอหลินก็เต้นผิดจังหวะ
แม้ว่าเธอจะแต่งงานมาเป็นเวลานานแล้วแต่เธอก็ยังเป็นสาวพรหมจารี หัวข้อที่พวกเขาพูดคุยกันวันนี้มันเป็นเรื่องน่าละอายสำหรับเธอ!
อย่างไรก็ตาม เธอพยักหน้าและตอบเบาๆ
“ตกลง”
โจวเจ๋อคิดจริงๆว่าหมอหลินมีอาการสตอกโฮล์มนิดหน่อย
ถ้าซูเล่อไม่ได้ขี้ขลาดในตอนแรก แต่เรียบง่ายและหยาบคาย
บางทีเขาอาจจะได้สิ่งที่เขาต้องการ
แต่ลองคิดดูอีกทางหนึ่ง ถ้าซูเล่อเรียบง่ายและหยาบคาย ซูเล่อจะไม่มีทางแต่งเข้าบ้านของฝ่ายหญิงตั้งแต่แรกอย่างแน่นอน
โจวเจ๋อยื่นมือออกไปตบหน้าผากของตัวเอง
“อะไรเหรอ?” หมอหลินมองโจวเจ๋ออย่างกังวล
โจวเจ๋อมองไปที่เบาะรถ ด้านหน้าจะค่อนข้างแออัด
“ออกจากรถกันเถอะ” โจวเจ๋อกล่าว
“ตกลง”
แม้ว่าหมอหลินจะไม่รู้ว่าทำไมแต่เธอก็เดินลงรถไปพร้อมกับเขา
โจวเจ๋อเปิดประตูหลังและชี้เข้าไปข้างในพร้อมกับพูดว่า
“เข้าไปสิ”
หมอหลินเข้าไปนั่งที่เบาะหลังด้วยใบหน้างุนงง
“ผมต้องการพิสูจน์อะไรสักอย่าง” โจวเจ๋อพูดด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้เป็นเวลามืดแล้วและร้านหนังสือของโจวเจ๋อก็ไม่มีคนผ่านมาเลย มันเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้ทำอะไรหลายๆอย่าง
“ระบบย่อยอาหารของคุณไม่ดีเหรอ?” หมอหลินซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังถามด้วยสีหน้างุนงง
ร่างกายของโจวเจ๋อแข็งทื่ออยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะสูดลมหายใจหนักๆและปลอบใจตัวเองให้มีความมุ่งมั่นในสิ่งที่กำลังจะทำ!
โจวกล่าวว่า “ผมต้องการพิสูจน์ว่าร่างกายนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไร”
“มีปัญหาอะไร?” หมอหลินยังดูงงๆ
จากนั้นโจวเจ๋อก็พุ่งเข้าไปในรถแล้วปิดประตู
ภายในรถมืดและแคบมาก
พวกเขา * a *