64 – ความแค้น
หลังจากตะโกนเป็นเสียงสุดท้ายแล้วร่างกายของชายชราก็เริ่มเบลอและแห้งเหี่ยวลงเล็กน้อย
แต่เขาก็ยังหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและตะโกนพูดกับโจวเจ๋อ
“ตอนนี้คุณยังสบายดีหรือเปล่า”
“อึดอัดนิดหน่อย”
เสียงของโจวเจ๋อดังมาจากตัวอาคาร
“แน่นอนว่าคุณต้องไม่สบายอยู่แล้วเพราะว่าครั้งนี้ฉันทุ่มสุดตัวเพื่อให้ปราชญ์พวกนั้นฆ่าคุณให้ได้ ฉันยินดีแม้กระทั่งเสียสละตัวเองเพื่อให้คุณได้รับการสั่งสอน!”
“ผมกับคุณมีความแค้นกันเหรอ?”
เสียงของโจวเจ๋อที่อีกด้านหนึ่งของกำแพงเต็มไปด้วยความงุนงงและสงสัย
“ความแค้นเหรอ มีแน่นอน!” ชายชราตกอยู่ในภวังค์ครู่หนึ่งหลังจากนั้นเขาก็ตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
“ฉันจะไม่มีทางไปเกิดใหม่จนกว่าคุณจะตาย!”!
ฉันทำงานอยู่ที่นี่มานานแสนนาน ทุกสิ่งทุกอย่างก็เพื่อให้ลูกหลานของฉันอยู่ดีมีสุข! แต่เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ทายาทรุ่นสุดท้ายของฉัน ทายาทคนเดียวของฉันถูกฆ่าตาย!”
“การที่หลานคุณจะเป็นจะตายมันเกี่ยวอะไรกับผม “
“ไม่เกี่ยวอย่างนั้นเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า โอ้สวรรค์ข้าขอแลกเปลี่ยนความดีที่ข้าประกอบมาถึง 60 ปีเพื่อให้ท่านลงโทษชายผู้ชั่วร้ายคนนี้!” ชายชรากรีดร้องด้วยความคุ้มคลั่ง
“ลูกหลานของคุณคนนั้นเสียชีวิตที่เตียงผ่าตัดเหรอ?” โจวเจ๋อยังคงไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรผิด
“ไม่ เขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์”
ชายชราเช็ดน้ำตา แม้ว่าร่างของเขาจะเบลอมากแต่น้ำตาของเขาถึงกับมีเลือดไหลซึมออกมาด้วย
“ชีวิตที่แล้วผมขับรถไม่เป็น”
โจวเจ๋อยังอยากจะพูดอย่างนั้นแต่เขาถูกรถชนตายในชาติที่แล้ว
“ไอ้ขี้เมานั่น เขาควรจะตายไปแล้วแต่คุณกลับช่วยชีวิตเขาขึ้นมาอีกครั้ง! นั่นเป็นเหตุผลที่เขาได้กลับมาขับรถและชนหลานชายของฉันตาย นี่หรือคือบาปของคุณ!นี่คือหนี้ของคุณ!”
“ดูเหมือนสมองของคุณจะผิดปกติแล้ว” โจวเจ๋ออุทาน
จากความตื่นเต้นของการแก้แค้น ตอนนี้ชายชราเริ่มฟื้นความสงบขึ้นมาแล้ว
ทันใดนั้นเขาก็พบสิ่งแปลกๆ นักบุญในวัดขงจื้อควรจะลืมตาขึ้น
ตามประสบการณ์ของเขาหากมีผีปรากฏตัวขึ้นมานักบุญพวกนี้จะลงมือจัดการทันที?
ในปัจจุบันโจวเจ๋อไม่ได้รับความทุกข์ทรมานอะไร เหตุไฉนนักบุญพวกนั้นถึงไม่ลงมือ?
นี่มันไม่ถูกต้อง มันไม่ถูกต้อง!
“คุณไม่เป็นอะไรได้ยังไง!”
จู่ๆชายชราก็ตะโกนขึ้น!
เขาได้ใช้บุญกุศลของตัวเองตลอด 60 ปีเพื่อทำลายโจวเจ๋อแต่ท้ายที่สุดฝ่ายตรงข้ามกลับไม่เป็นอะไร เรื่องนี้ทำให้เขาโกรธแค้นอย่างแท้จริง
โจวเจ๋อเดินออกมาจากวิหารขงจื้อ สายตาของเขามองชายชราด้วยความสมเพชเวทนา
วัดของวัดขงจื้อล้อมรอบด้วยกำแพงสี่เหลี่ยม โจวเจ๋อยืนอยู่นอกกำแพงในขณะชายชราตะโกน
โจวเจ๋อมองชายชราแล้วพูดว่า
“คุณทำงานที่นี่มานานไม่รู้เลยว่าที่นี่มีประตูหลัง ด้วยท่าทางแปลกๆเหมือนที่คุณทำคุณคิดจริงๆเหรอว่าผมจะเชื่อคำพูดของคุณ”
วิธีการที่ชายชราบอกโจวเจ๋อน่าเหลือเชื่อมากเกินไป มันดูไม่สมเหตุผลเลย อีกทั้งชายชราก็กระตือรือร้นจนเกินพอดียิ่งทำให้โจวเจ๋อเชื่อไม่ลงเข้าไปอีก
ในความเป็นจริงเขารู้อยู่แล้วว่าคนที่กลายเป็นผีย่อมเชื่อถือไม่ได้ แม้แต่ตัวเขายังไม่เชื่อตัวเองนับประสาอะไรกับคนอื่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ชายชราปฏิเสธที่จะเข้าไปในวิหารขงจื้อกับเขา
โจวเจ๋อเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งเมื่อเขามีชีวิตอยู่ ดังนั้นหลังจากที่เข้าประตูไปเขาก็รีบออกมาจากประตูหลังทันที
ปรากฎว่าทางเลือกของโจวเจ๋อนั้นถูกต้อง
นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้โจวเจ๋อรู้สึกไร้สาระก็คือเหตุผลที่ชายชราต้องการแก้แค้นเขา
เขาช่วยชีวิตคนไข้ซึ่งมันเป็นไปตามจรรยาบรรณของหมอ และครึ่งเดือนต่อมาคนไข้คนนั้นประสบอุบัติเหตุเมาแล้วขับ ทำให้หลานชายของชายชราเตี้ยแคระเสียชีวิต
ชายชราจึงโกรธโจวเจ๋อ เขาคิดว่าถ้าโจวเจ๋อไม่พยายามช่วยชีวิตผู้ป่วยให้ดีที่สุด หลานชายของเขาคงไม่ตาย
ช่างเป็นวงจรสมองที่แปลกประหลาดอะไรเช่นนี้
“ชีวิตที่แล้วผมเป็นหมอ เป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องรักษาและช่วยชีวิตผู้คน” โจวเจ๋อยิ้มและพูดว่า
“ต่อให้คุณพูดอะไรก็ตามแต่ผมไม่คิดว่าผมทำอะไรผิดอย่างแน่นอน บางทีการที่ลูกหลานของคุณตายไปคุณไม่มีที่ระบายจึงมองหาผมมาเป็นเหยื่อในครั้งนี้ก็เท่านั้นเอง”
ชายชราเตี้ยแคระจ้องที่โจวเจ๋ออย่างดุเดือด เขาเลียริมฝีปากและกรีดร้องออกมา
“นั่นคือบาปของแกไอ้เวร บาปที่แกช่วยชีวิตของไอ้ฆาตกรนั่น!”
“ในสายตาของแพทย์ เฉพาะผู้ที่เสียชีวิตหลังการรักษาอย่างดีที่สุดแล้วเท่านั้นถึงสมควรเสียชีวิต ผมไม่มีทางยอมรับคำพูดของคุณอย่างแน่นอน
ไม่ต้องกล่าวถึงว่าตอนนั้นเขายังไม่ได้ขับรถชนหลานของคุณเลย ต่อให้คนๆนั้นเป็นฆาตกรที่จะต้องถูกประหารในวันพรุ่งนี้ แต่เมื่ออยู่ในมือผมวันนี้เขาจะต้องรอดนี่คือจริยธรรมประจำวิชาชีพของผม”
โจวเจ๋อจำได้ว่ามีบันทึกความทรงจำของทหารผ่านศึกชาวอังกฤษที่กล่าวว่าในครั้งหนึ่งเขาจับตัว อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ไว้ได้
ในตอนนั้นเขามีโอกาสที่จะจบชีวิตของหนึ่งในฆาตกรที่โหดเหี้ยมที่สุดในโลก แต่เขาก็ไม่ได้ทำเพราะฝ่ายตรงข้ามเป็นเชลยเขาไม่สามารถทำตัวไร้มนุษยธรรมได้
แต่ผู้คนในโลกนี้กลับไม่มีใครพูดว่าความชั่วร้ายของอาณาจักรไรซ์ที่ 3 ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความผิดของนายทหารอังกฤษคนนี้ ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว?
โจวเจ๋อส่ายหัวเหตุผลของชายชรานั้นตื้นเขินไร้สาระมากเกินไป โจวเจ๋อไม่คิดจะสนทนากับเขาอีก ในตอนนี้มือทั้งสองข้างของเขาปลดปล่อยกรงเล็บสีดำออกมาแล้ว
“แกฆ่าลูกหลานของฉันไปแล้ว ตอนนี้แกจะฆ่าฉันด้วยอย่างนั้นเหรอ?” ชายชราตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น
“นี่คือวัดขงจื๊อ เป็นที่ที่นักบุญได้พักผ่อน แม้แต่ผีที่แข็งแกร่งกว่าแกก็ไม่กล้ามาอาละวาดที่นี่!”
“อยากพูดอะไรก็พูดไปเถอะ” โจวเจ๋อเดินเข้าหาชายชราอย่างช้าๆพร้อมกับพูดว่า
“หลังจากที่ผมตายแล้วเกิดใหม่ผมมีหลักการเดียวเท่านั้น ในเมื่อคุณต้องการจะฆ่าผม ผมก็ต้องฆ่าคุณก่อน!”
คนแคระเฒ่าพยายามจะหนี แต่มือของโจวเจ๋อจับตัวเขาไว้ได้ทันที
“โว้ว!”
“ฉันไม่อยากไปนรก ฉันไม่อยากไปนรก ท่านนักบุญ ช่วยด้วย!”
น่าเสียดายที่ร่างเหล่านั้นในวัดขงจื้อยังคงนิ่งราวกับภูเขา ถ้าพวกเขามีวิญญาณจริงๆ พวกเขาจะปล่อยให้ชายชราแย่งชิงเครื่องเซ่นไหว้ของเขาอย่างนั้นหรือ?
“ใครบอกว่าผมจะส่งคุณไปนรก” โจวเจ๋อยิ้ม “คุณยังคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสเกิดใหม่อีกหรือ”
หลังจากนั้นกรงเล็บทั้งสิบของโจวเจ๋อก็ฉีกกระชากร่างกายของชายชราออกเป็นชิ้นๆจนกระทั่งทุกสิ่งทุกอย่างสูญสลายกลายเป็นแสงสีทอง!
เรียบง่ายและตรงไปตรงมา
ก่อนที่เขาจะสามารถควบคุมไป๋อิ่ง โจวเจ๋อไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองมีความสามารถเช่นนี้
ตอนนี้เขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยมในความแข็งแกร่งของตัวเอง
โดยเฉพาะเมื่อใช้ความสามารถนี้กับผี แม้ว่าผีเฒ่าตนนี้จะมีความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา แต่ในเมื่อเขาเสียสละความแข็งแกร่งของตัวเองออกไปแล้วเขาจึงหลีกเลี่ยงความอ่อนแอไม่ได้
โจวเจ๋อไม่สนใจว่าการที่เขาจัดการผีเฒ่าไปแบบนี้เด็กหญิงตัวน้อยจะพอใจหรือเปล่า ตราบใดที่ฝ่ายตรงข้ามตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาเขาก็จะลงมือสังหารทันทีโดยไม่ละเว้น
หลังจากที่ทุกอย่างจบลงโจวเจ๋อก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเรียกแท็กซี่
คนขับก็เป็นมิตรมากเขายื่นบุหรี่ให้โจวเจ๋อ ซึ่งทำให้โจวเจ๋อรู้สึก “ปลื้มใจ” อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นในขณะที่สูบบุหรี่และพูดคุยกับคนขับโจวเจ๋อแอบเอาบุหรี่จี้ขอบประตู
นี่เป็นรถจริงๆไม่ใช่รถกระดาษ
โจวเจ๋อรู้ว่าวันนี้ตัวเองปลอดภัยแล้วเขาไม่อยากจะขึ้นรถกระดาษอีกคัน โชคดีที่ครั้งนี้เป็นแท็กซี่จริงๆ