อวี๋หมิงหลางมองเสี่ยวเชี่ยนด้วยสีหน้าตกใจ นี่เมียเขารู้ได้ยังไง
“ลูกเชี่ยน เรื่องครั้งนี้เกี่ยวพันถึงความมั่นคงของประเทศ คุณแน่ใจนะว่ารู้”
“ฉันแน่ใจ มั่นใจ ชัวร์ ฮ่าๆ ถึงว่าคนไม่ได้เรื่องอย่างอาเหม็ดเป็นได้ไงที่จะ…”
ที่จะมีอิทธิพลระดับโลกได้ขนาดนั้นในอนาคต
ที่แท้ก็มีคนอย่างซ่งชิงอู๋อยู่เบื้องหลัง ปริศนาทุกอย่างกระจ่างแล้ว
เมื่อรู้สึกได้ว่าอวี๋หมิงหลางกำลังจ้องมา เสี่ยวเชี่ยนจึงเก็บอาการดีใจ แล้วพูดกับเขาด้วยสีหน้าจริงจัง
“เสี่ยวเฉียง ฉันไม่อยากปิดบังนายไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม แต่เรื่องบางอย่างที่ฉันไม่บอกนายก็เพื่อตัวนายเอง และก็เพื่อครอบครัวของพวกเรา ฉันไม่มีทางปล่อยให้นายเผชิญกับความลำบากเพียงคนเดียว เรื่องนี้ฉันจำเป็นต้องออกหน้า”
“บอกผมมาว่าคุณรู้อะไร”
เสี่ยวเชี่ยนกระซิบบอกเขา อวี๋หมิงหลางถึงกับเบรกรถกะทันหันจนเกือบชนเข้าด้านข้างถนน มุมปากกระตุก
“คุณล้อผมเล่นเหรอ”
เสี่ยวเชี่ยนไม่เข้าใจอยู่เรื่องหนึ่งมาตลอด
สมองอย่างอาเหม็ด นิสัยแบบนั้น เขาล้มพี่ชายของเขาได้ยังไง จนสุดท้ายได้อำนาจทั้งหมดไปครอง
ตอนแรกเสี่ยวเชี่ยนคิดว่าตอนนี้อาเหม็ดก็แค่อายุยังน้อยเลยสนุกไปตามประสาวัยรุ่น ต่อไปถึงจะจริงจังขึ้นมา แต่พอเห็นอวี๋หมิงหลางแล้วคงไม่น่าใช่
ตอนนี้อวี๋หมิงหลางอายุยังน้อย เมื่อเทียบกับอวี๋หมิงหลางในอีกสิบกว่าปีให้หลัง สมองและความคิดของเขา รวมถึงความสามารถในการทำงานคงไม่ต่างจากเมื่อชาติที่แล้ว ตอนนี้นิสัยอาจมีทะเล้นไปบ้าง แต่เรื่องความสามารถนั้นไร้ที่ติ
แต่พอมองอาเหม็ด คนที่เสี่ยวเชี่ยนสามารถปั่นหัวจนตามไม่ทัน บวกกับอวี๋หมิงหลางที่แทบจะข่มได้ในทุกด้าน
คนแบบนี้กลายเป็นคนที่เ**้ยมโหดมีอิทธิพลในภายหลังได้อย่างไร
นี่คือปริศนา
ความทรงจำของเสี่ยวเชี่ยนที่มีต่ออาเหม็ดมีอยู่แค่ไม่กี่อย่าง เขาแต่งงานสองครั้งและแต่งกับผู้หญิงที่รวยระดับเศรษฐี จากนั้นพอหลอกเอาเงินได้แล้วก็ถีบหัวส่ง สุดท้ายล้มพี่ชายตัวเอง เขาจึงได้กลายเป็นลูกพี่ใหญ่แห่งตระกูลคาร์เตอร์ อาวุธสงครามต่างๆล้วนผ่านมือเขา ยังมีอีกเรื่องที่เสี่ยวเชี่ยนมองข้ามไป พออวี๋หมิงหลางพูดขึ้นมาเธอถึงได้นึกออก
ข้างกายอาเหม็ดมีที่ปรึกษาลึกลับสายเลือดเอเชียอยู่คนหนึ่ง ซึ่งเธอก็เคยได้ยินเจิ้งซวี่พูดขึ้นมาลอยๆ บอกว่าที่ปรึกษาคนนี้เคยอยู่กับรัชทายาทมาก่อน ต่อมาอยู่ๆรัชทายาทคนนี้ก็ถูกอาเหม็ดกำจัด เขาก็เลยมาอยู่กับอาเหม็ด ได้ยินว่าอาเหม็ดไม่ค่อยชอบ เจิ้งซวี่ยังเคยคิดจะชวนที่ปรึกษาคนนั้นมาอยู่ด้วย แต่ก็ล้มเหลว ได้ยินว่าจงรักภักดีกับอาเหม็ดมาก
นี่เป็นเรื่องเล็กๆ เสี่ยวเชี่ยนได้ฟังตอนนั่งกินเหล้ากับเจิ้งซวี่เมื่อชาติก่อน เขาบอกว่าไม่เข้าใจทำไมถึงเป็นแบบนั้น อาเหม็ดไม่ชอบ ไม่ไว้หน้าที่ปรึกษาคนนั้นเลยสักนิด แต่คนๆนั้นกลับจงรักภักดีกับอาเหม็ดมาก
ตอนนี้พออวี๋หมิงหลางพูดขึ้นมาว่าผู้ชายใส่แว่นกรอบทองคนนั้นที่ส่งลูกน้องมาข่มขู่เธอก็คือที่ปรึกษาลึกลับ ซ่งชิงอู๋
และเสี่ยวเชี่ยนนึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่ซ่งชิงอู๋ส่งข้อความมาหาเธอได้บอกว่าอยากให้เธอช่วยรักษาอาการเบี่ยงเบนทางเพศ นั่นก็หมายความว่าซ่งชิงอู๋เป็นรักร่วมเพศ
ถ้าอย่างนั้นปริศนาทุกอย่างก็คลี่คลายแล้ว
ดังนั้นตอนที่เสี่ยวเชี่ยนกระซิบบอกอวี๋หมิงหลางว่า ‘ซ่งชิงอู๋ชอบอาเหม็ด’ อวี๋หมิงหลางถึงได้ตกใจเบรกรถกะทันหัน มองเสี่ยวเชี่ยนด้วยสีหน้าเหมือนเห็นผี
“ละ ลูกเชี่ยน คุณล้อผมเล่นหรือเปล่า”
เป็นใครได้ยินเรื่องแบบนี้ก็ต้องคิดว่าเป็นไปไม่ได้
“ฉันเป็นจิตแพทย์ที่มีจรรยาบรรณ ฉันไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่แบบนี้มาล้อเล่น ซ่งชิงอู๋ชอบอาเหม็ด แถมยังเป็นรักข้างเดียวด้วย นี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเรื่องแรกที่เขาทำหลังเข้ามาในประเทศเราก็คือการมาหาเรื่องฉัน”
“…” อวี๋หมิงหลางนิ่งเงียบไปหลายวินาที เหมือนถูกเธอทำฟ้าผ่าใส่
“เมียจ๋า คุณล้อผมเล่นใช่ไหม”
“ฉันพูดเรื่องจริง”
“คุณได้ยินข่าวมาจากไหนว่าซ่งชิงอู๋ชอบอาเหม็ด เชื่อถือได้เหรอ” นี่เมียเขาจะมีข้อมูลมากกว่าทางฝ่ายทหารอีกเหรอ
อยู่ๆพูดเรื่องผู้ชายคนหนึ่งชอบผู้ชายอีกคนหนึ่งให้ผู้ชายแมนๆทั้งแท่งได้ยิน นับเป็นเรื่องที่ช็อคมาก
“ฉันไม่กล้าบอกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกนะ แต่แปดสิบเปอร์เซ็นต์น่ะได้อยู่ ฉันกล้าทำนายด้วยว่า ถ้าในอนาคตอาเหม็ดล้มพี่ชายตัวเองและได้ครอบครองตระกูลคาร์เตอร์ จะต้องเป็นฝีมือของซ่งชิงอู๋อยู่เบื้องหลังแน่นอน”
“หลักฐานล่ะ” อวี๋หมิงหลางยังไม่ปักใจเชื่อ
“ในวงการอาชีพของฉันมีกฎ เรื่องบางอย่างบอกคนนอกไม่ได้ แต่ข่าวที่ได้เชื่อถือได้แน่นอน” เสี่ยวเชี่ยนบอกไม่ได้ว่าตัวเองมีความทรงจำในชาติก่อน เธอจึงทำได้แค่เอาเรื่องกฎอาชีพมาอ้าง
อวี๋หมิงหลางไม่อาจทำใจเชื่อในสิ่งที่เสี่ยวเชี่ยนคาดเดาออกมาได้
ซ่งชิงอู๋ร่วมกับรัชทายาทตระกูลคาร์เตอร์ก่อคดีใหญ่ๆไว้ไม่น้อย ฝีมือร้ายกาจ ถึงตอนนี้ตระกูลคาร์เตอร์จะยังไม่ได้เล็งเป้าหมายมาที่ประเทศนี้ แต่ถ้าเกิดคิดจะก่อความวุ่นวายขึ้นมาก็รับมือได้ยากแน่นอน ดังนั้นเรื่องแรกที่ควรทำหลังจากได้รู้ว่าซ่งชิงอู๋เข้ามาในประเทศก็คือรายงานให้เบื้องบนได้ทราบ
“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ในข้อมูลของทางฝ่ายทหารมีบันทึกไว้ชัดเจน ไอคิวของเขาสูงถึง151 คนแบบนี้จะไปชอบผู้ชายได้ยังไง”
“ไอคิวของนาย152ยังชอบอ่านดราก้อนบอลอยู่เลยไม่ใช่หรือไง เรื่องความชอบมันเกี่ยวกับไอคิวด้วยเหรอ”
“เมีย รู้ได้ยังไงว่าผมเคยทดสอบไอคิว”
“หึ แม่นายบอกฉัน ก่อนหน้านี้ฉันรวบรวมข้อมูลแบบทดสอบวัดเชาวน์ปัญญาของสแตนฟอร์ด แม่นายเอาของมาให้พอดีก็เลยพูดขึ้นมา บอกว่าพ่อนายพานายไปทดสอบของแบบนี้ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว ตอนนั้นถูกจับยัดเข้าไปในแบบทดสอบทหาร ฉันถึงได้รู้ว่าสามีฉันเป็นอัจฉริยะ”
“แฮ่มๆ ไม่ขนาดนั้น”
ระดับไอคิวสากลอยู่ที่ 40-160 ไอคิวของคนส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ100 ซึ่งเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของประชากรโลก มีคนจำนวน25%ที่ไอคิวต่ำว่า100 หากเด็กที่ได้รับการทดสอบมีไอคิวถึง130ก็จะถูกจัดอยู่ในประเภทเด็กที่ฉลาดเกินปกติ และจะมีคนแค่หนึ่งในแสนเท่านั้นที่ไอคิวจะแตะถึงหรือเข้าใกล้160 แบบนี้เรียกว่าอัจฉริยะ
ถึงเสี่ยวเชี่ยนจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าสมองอวี๋หมิงหลางไม่เหมือนคนอื่น แต่นึกไม่ถึงว่าจะฉลาดขนาดนี้
“ตอนนั้นผมก็แค่ทดสอบเล่นๆ ใครจะไปคิดว่าของแบบนี้จะมีความแม่นยำสูง ถึงผมจะไอคิวสูงกว่าซ่งชิงอู๋มานิดนึง แต่เรื่องที่ว่าเขาเป็นคนฉลาดอันนี้เป็นเรื่องแน่นอน แต่คนฉลาดจะชอบผู้ชายหรือชอบคนโง่อย่างอาเหม็ดมันเป็นไปได้เหรอ” อวี๋หมิงหลางรู้สึกว่าเสี่ยวเชี่ยนพูดจาไร้เหตุผลไปหน่อย
“งั้นก็ต้องใช้สมองไอคิว152ที่ชอบอ่านดราก้อนบอลของนายคิดแล้วล่ะนะ ตอนนี้ประเทศเราไม่ยุ่งเกี่ยวกับตระกูลคาร์เตอร์ แล้วตระกูลนั้นจะโง่ถึงขนาดเข้ามาในอาณาเขตเรา มาหาเรื่องผู้หญิงที่เป็นเมียพันโทหัวหน้าหน่วยรบพิเศษเพื่ออะไร”
“เขาไม่รู้ประวัติครอบครัวเราสักหน่อย”
“งั้นก็ยิ่งไม่สมเหตุสมผลแล้วล่ะ เขาไม่รู้ว่าฉันเป็นเมียทหาร งั้นทำไมคนที่ข้องเกี่ยวกับอาวุธสงครามต้องมาหาเรื่องจิตแพทย์อย่างฉันด้วย เหตุผลมีอยู่อย่างเดียว เขาหึงไงล่ะ”
อวี๋หมิงหลางมุมปากกระตุก เขาจินตนาการไม่ออกเลยจริงๆเวลาที่ผู้ชายสองคนกอดกันทำเรื่องอย่างว่า