99 – แล้วทำไมผมถึงต้องสนใจเด็กกะโปโลอย่างคุณ
ตอนนี้ร้านของซูชิงหลางปิดไม่สนิท ประตูม้วนถูกดึงลงครึ่งหนึ่งและไป๋อิ่งกำลังนั่งเล่นเกมอยู่
โจวเจ๋อดูเหมือนจะได้ยินคำว่า “กินไก่” มาเป็นระยะระยะจึงพอจะทราบว่าเธอเล่นเกมอะไรอยู่
ซูชิงหลางกำลังหาที่ตั้งร้านใหม่ โจวเจ๋อก็ตัดสินใจหาเช่นกัน ถ้าเงินไม่พอเขาก็จะยืมจากซูชิงหลางไปก่อน นอกจากนี้เด็กผู้หญิงที่ให้นามบัตรครั้งสุดท้ายยังบอกด้วยว่าต้องการซื้อหุ้นร้านเขาด้วย
สถานที่แห่งนี้ไม่สามารถอยู่ได้อีกต่อไป เพราะตอนนี้ชื่อเสียงของร้านหนังสือได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้มีรถบัสที่นำนักท่องเที่ยวมาจอดที่หน้าร้านของเขา มัคคุเทศก์ก็โบกธงเล็กๆ อธิบายว่า
“เพื่อนของนักท่องเที่ยว เพื่อนของนักท่องเที่ยว เรามาถึงจุดชมวิวถัดไปแล้ว ตงเฉิงมีภูเขาหลางซานซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในสิบภูเขาพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
แต่พวกคุณไม่รู้ว่าตงเฉิงยังมี “ร้านหนังสือยามดึก” ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในสิบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของการท่องเที่ยวทางจิตวิญญาณในประเทศจีน
ที่นี่อันตรายมาก มักมีคนตายแบบที่อธิบายไม่ได้ เมื่อมาที่นี่ผู้คนมักจะพบเห็นคนตาย อย่าเข้าใกล้จนเกินไป แค่ถ่ายรูปข้างนอก
อย่าถ่ายรูปตัวเองสิ่งนี้เป็นสิ่งต้องห้าม ถ่ายแค่หน้าร้านก็พอ! “
โจวเจ๋อคิดว่าวันที่เขาจะย้ายร้านคงอยู่ไม่ห่างไกลแล้ว ลูกค้ากลุ่มสุดท้ายของเขาคือสมาคมคนรักเรื่องสยองขวัญ
มิหนำซ้ำสมาชิกพวกเขาสองคนยังกระโดดตึกตายที่หน้าร้านของเขาซึ่งสร้างบรรยากาศสยดสยองมากขึ้นไปอีก
หลังจากสูบบุหรี่เสร็จโจวเจ๋อก็เปิดประตูร้านหนังสือกลับเข้าไปและเห็นนักพรตชรานั่งงีบหลับอยู่หน้าเคาน์เตอร์ที่เขานั่งอยู่ประจำ
“น้องชายคุณกลับมาแล้ว”
เสียงฝีเท้าของโจวเจ๋อปลุกนักพรตชราขึ้น จากนั้นเขาก็รีบเช็ดน้ำลายอยู่ที่ปากของตัวเอง
โจวเจ๋อพยักหน้าและเดินตรงไปที่ชั้นสอง
ถังซือมีลักษณะเหมือนกับมัมมี่ แต่การฟื้นตัวนั้นดีมาก เมื่อโจวเจ๋อขึ้นมา เธอก็มองไปที่เพดานด้านข้างของเธอมีขนม น้ำและกล่องนมวางอยู่
ด้วยความสามารถของเธอ เธอไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นป้อนอาหารป้อนน้ำ เธอสามารถ “ควบคุมสิ่งต่างๆ” ได้ด้วยตัวเอง
เมื่อโจวเจ๋อมาที่นี่ ลูกอมที่อยู่ด้านข้างของหญิงสาวก็พุ่งเข้าปากของเขาอย่างรวดเร็ว
จากนั้นโจวเจ๋อก็นั่งลงข้างถังซือ
ทั้งคู่ไม่ได้พูดและไม่มีอะไรจะพูด ดังนั้นหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงอย่างเงียบๆโจวเจ๋อก็ลุกขึ้นและเตรียมที่จะลงไป
ถังซือกล่าวว่า “คุณได้ไปพบจิตแพทย์หรือปล่าว”
โจวเจ๋อพยักหน้า
“ไม่มีประโยชน์?”
“มีประโยชน์อยู่บ้างเล็กน้อย” โจวเจ๋อตอบกลับ
อย่างไรก็ตามน้ำซุปของหวังเค่อเขากินมันไม่ลงจริงๆ
“ดี.”
ถังซือหลับตาลงราวกับว่าเธอเหนื่อยแล้ว แต่เธอก็ยังยืนกรานคำพูดเดิมของเธอ
“ช่วยฉันเรียกซอมบี้ตัวนั้นขึ้นมาด้วย”
โจวเจ๋อพยักหน้าพร้อมที่จะลงไป
“คุณโกหกอีกแล้ว” ถังซือตะโกนตามหลัง
“แน่นอน” โจวเจ๋อไม่รู้สึกอาย “เธอเป็นหมอนของผม ผมไม่เต็มใจที่จะให้คนอื่นยืม”
“แต่การไม่สามารถพักผ่อนได้มีผลกระทบอย่างมากต่อการฟื้นตัวของฉัน”
“เกี่ยวอะไรกับผม ผมทำทุกอย่างแล้ว ถ้าอยากได้อะไรจากผมมากกว่านี้ก็ต้องหาอะไรมาแลก”
“ฉันสามารถบอกตำแหน่งของผีตัวอื่นในเมืองได้” เมื่อมองไปที่โจวเจ๋อถังซือก็รีบกล่าวอย่างรวดเร็ว “เมื่อนักพรตชราพาฉันหนีมา ที่จริงแล้วฉันอยากจะไปหาเขาเพื่อซ่อนตัว แต่น่าเสียดายดูเหมือนว่าเขาจะมีปัญหาบางอย่าง และในที่สุดฉันก็เลือกจะมาอยู่ข้างๆคุณ”
“มันดูไม่มีค่าสำหรับผมเลย” โจวเจ๋อยักไหล่
“ตามสถานการณ์ทั่วไป ตงเฉิงเป็นเพียงเมืองเล็กๆมันสามารถรองรับปีศาจที่ทรงพลังได้เพียงตัวเดียว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสองคน ดังนั้นไม่ช้าก็เร็วพวกคุณจะต้องฆ่ากันดังนั้นคุณควรจะจัดการเขาก่อน”
โจวเจ๋อยังคงไม่ขยับเขยื้อน “ผมไม่สนใจ”
นั่นไม่ใช่หน้าที่ของเขา นั่นเป็นหน้าที่ของยัยเปี๊ยกต่างหาก?
“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่มีอะไรมาแลกเปลี่ยนแล้วนะ”
“อืม ไม่มี”
โจวเจ๋อลงไปชั้นล่างและไม่เรียกไป๋อิ่ง อย่างที่เขาพูดเขาจะรู้สึกอึดอัดถ้ามีใครยืมหมอนของเขาไปหนุน
“น้องชายคุณมีอะไรให้ผมกินบ้าง” นักพรตชราชี้ไปที่ประตูถัดไป “เถ้าแก่ที่อยู่ข้างบ้านยังไม่กลับมาเลย”
“คุณรู้วิธีทำอาหารมั้ย?” โจวเจ๋อถาม
“แน่นอน.”
“งั้นก็ไปที่ครัวของเขาแล้วทำเอาเอง”
ด้วยเหตุนี้โจวเจ๋อจึงนั่งลงหลังเคาน์เตอร์
นักพรตชราวิ่งไปที่ห้องถัดไปเพื่อทำอาหารและร้านหนังสือก็เงียบลง
อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่ประตูร้านหนังสือ คือเด็กผู้หญิง ม.ปลายคนนั้น เธอสวมเสื้อคลุมสีดำและผ้าพันคอหนาห่อร่างกายของตัวเองแน่น
แม้ว่าวันนี้เมืองจะเย็นลงเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะแต่งตัวแบบนี้ หญิงสาวมองโจวเจ๋อผ่านประตูกระจกและโจวเจ๋อเมินเธอโดยสมบูรณ์
ในที่สุดเด็กสาวก็เปิดประตูและเดินเข้ามา เธอมาหาโจวเจ๋อ ก่อนจะปลดผ้าพันคอออกแล้วอ้อนวอน
“ช่วยฉันด้วย”
โจวเจ๋อหยิบถ้วยชาของเขาขึ้นมาและจิบน้ำ แต่สายตาของเขาไม่ได้สนใจเธอ
“ได้โปรดช่วยฉันด้วย” เด็กหญิงนั่งยองๆต่อหน้าโจวเจ๋อ แล้ววางมือบนต้นขาของเขา “ถ้าคุณสามารถช่วยฉันได้ฉันจะทำทุกอย่างที่คุณต้องการ”
โจวเจ๋อเอื้อมมือไปที่ข้อมือของหญิงสาวแล้วดันกลับเล็กน้อย หญิงสาวนั่งลงบนพื้นด้วยความสับสน
โจวเจ๋อวางหนังสือลงแล้วพูดว่า
“นึกว่าคุณจะไปอยู่สถานพินิจแล้ว”
ใช่โจวเจ๋อคิดว่าเด็กหญิงคนนั้นจะได้รับผลกระทบจากการใส่ร้ายครูของเธอจนเขาฆ่าตัวตาย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย
แต่หลังจากคิดดูแล้วโจวเจ๋อก็เข้าใจ เด็กหญิงคนนี้ยังเด็ก และครูก็ฆ่าตัวตายไปแล้ว แม้ว่าเธอจะถูกกล่าวหาว่าใส่ร้ายป้ายสี แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากเนื่องจากเธอเป็นผู้เยาว์
“ช่วงนี้คุณได้ดูข่าวหรือเปล่า พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของฉันพบฉันแล้วพวกเขาพยายามจะเอาตัวฉันไปช่วยน้องชายที่ไม่รู้จัก”
เมื่อหญิงสาวพูดเช่นนี้ ดวงตาของเธอมีประกายวิบวับ
เธอไม่ใช่คนดีจริงๆ แม้ว่าครูมัธยมต้นของเธอจะฆ่าตัวตายเพราะถูกกล่าวหาแต่ดูลักษณะแล้วเธอก็ยังมีความสุขดีอยู่
เธอใช้ของหรูหราทำตัวเหมือนกับเป็นลูกคนรวยอยู่เสมอ นั่นเป็นผลให้พวกเขาเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงของเธอเกิดความสับสนคิดว่าเธอมีชีวิตที่ดี ดังนั้นพวกเขาจึงเกาะติดเธอไม่ปล่อย!
“คุณกับหลินยี่คุ้นเคยกันดี เห็นได้ชัดว่าผมเป็นแค่คนอื่น คุณก็ควรไปขอร้องเธอให้ช่วยคุณสิ พ่อแม่ของเธอค่อนข้างมีอิทธิพลบางทีพวกเขาอาจจะเห็นใจคุณก็ได้”
“ฉันอยากชวนคุณไปบ้านพ่อแม่ของฉันเหมือนครั้งที่แล้ว”
เมื่อหญิงสาวกัดริมฝีปากและพูดคำเหล่านี้ ดูเหมือนว่าภาพในคืนนั้นจะปรากฏขึ้นในใจเธออีกครั้ง เธอตกใจมากจนไม่สามารถฟื้นตัวได้เป็นเวลาหลายวัน
“โอ้ แค่นี้เองเหรอ” โจวเจ๋อถาม
“ฉันแค่ไม่ต้องการให้พวกเขามากวนฉันอีก” หญิงสาวยืนยัน
“พูดตามตรง ตอนที่ผมอ่านข่าวครั้งแรกผมคิดว่าลูกสาวคนที่สองของพวกเขาน่าสงสารมาก พวกเขาทิ้งเธอไปไม่เคยเหลียวแลแต่เมื่ออยากได้ความช่วยเหลือจากเธอพวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะทำตัวแบบนั้น”
“ใช่ พวกเขาคือสุนัขจิ้งจอกพวกเขาเป็นสัตว์ร้าย!” หญิงสาวกัดฟันของตัวเอง
โจวเจ๋อมองลงไปที่หญิงสาวซึ่งยังคงนั่งอยู่บนพื้น “
“…………” หญิงสาว
อันที่จริง เธอเป็นเหมือนดอกไม้ที่เบ่งบานในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ที่เผชิญหน้ากับลมฝนตลอดเวลาตั้งแต่มีชีวิตขึ้นมา ดังนั้นเธอจึงนับได้ว่าเป็นดอกไม้ที่แข็งแกร่งซึ่งแตกต่างจากน้องภรรยาของเขา
“ฉันสามารถทำให้คุณรู้สึกดี”
หญิงสาวมองไปที่โจวเจ๋อ
“ตราบเท่าที่คุณสามารถช่วยฉันได้ เหมือนครั้งสุดท้ายที่คุณอยู่ที่บ้านของฉัน”
“คุณคิดว่าหลินยี่เป็นคนสวยหรือเปล่า” โจวเจ๋อถามขึ้นทันที
“เธอสวยมาก”
“แล้วถ้าเทียบกับคุณล่ะ”
“เธอสวยกว่าฉันอย่างเทียบไม่ติด” หญิงสาวตอบกลับ
“แล้วถ้าผมบอกว่าพี่สาวของเธอสวยกว่าเธอมาก อีกทั้งยังไม่เจ้าอารมณ์เหมือนกับเธออีกด้วย ภรรยาของผมเป็นหมอในโรงพยาบาลประชาชนและเธอยังเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน คุณบอกผมหน่อยว่าทำไมผมถึงต้องสนใจเด็กกะโปโลอย่างคุณ “
โจวเจ๋ออยากจะบอกว่าหมอหลินยังเป็นสาวพรหมจารีอยู่ แต่จู่ๆ เขาก็รู้สึกได้ว่าถ้าเขาพูดออกไปแบบนั้นมันจะเหมือนมีความผิดปกติบางอย่างกับเขา
“ช่วยฉันด้วย ไม่งั้นฉันจะตายในร้านหนังสือของคุณ!”
ทันใดนั้น มีดก็ปรากฎขึ้นในมือของหญิงสาวเธอจี้มีดไปที่คอของตัวเองแล้วหัวเราะออกมาว่า
“ฮ่าๆๆถ้าคุณไม่ช่วยฉัน ฉันจะทำลายชีวิตของคุณ…”
“อึ!”
ทันใดนั้นโดยไม่คาดคิดมีดก็แทงเข้าไปในคอของหญิงสาวโดยตรง
มันกระทันหันเกินไปไม่มีใครหยุดยั้งเรื่องนี้ได้!
เลือดกระเซ็นไปโดนใบหน้าของโจวเจ๋อทำให้เขาตกใจอยู่ครู่หนึ่ง
ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้าง ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือดเต็มไปด้วยความตกตะลึง เธอไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้