140 – ถ้าเธอไม่ตายในเวลาที่กําหนด
ผู้หญิงคนนั้นต้องการกลับบ้านไปหาครอบครัว ไปร่วมงานวันเกิดของลูกชายเธอ
ก่อนที่เธอจะมาที่นี่สามีของเธอคุกเข่าอ้อนวอนขอให้เธอยอมมาที่นี่
เธอรู้ว่าที่นี่เขาทําอะไรกัน เธอรู้ว่ากล้องพวกนั้นมีไว้ทําไม แต่สุดท้ายเธอก็เห็นด้วยเธอยินยอมมาที่นี่ด้วยตัวเอง
นอนอยู่บ้านก็ตาย นอนที่นี่ตาย เธอรู้ว่าเธอจะกลายเป็นเบี้ยประกันให้กับคนอื่น แต่เบี้ยพนันนี้อย่างน้อยก็ยังทําเงินให้กับครอบครัวได้
ครอบครัวต้องการเงิน และลูกของเธอก็ต้องการเงินเช่นกัน
สามีคุกเข่าลงตรงหน้าเธอและสัญญาว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเองรวมทั้งเป็นพ่อที่ดี
เธอยอมรับปากแต่เธอขอให้สามีมารับเธอที่นี่เพื่อไปร่วมงานวันเกิดของลูกครั้งสุดท้าย
นี่คือเหตุผลที่เธอนอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล แม้ว่าจะไม่สามารถรักษาโรคนี้ได้ แม้ว่าเธอจะไม่สามารถกินได้แม้กระทั่งยาแก้ปวดแต่เธอก็ยังพยายามมีชีวิตอยู่
เธอผลักประตูแต่ประตูไม่ได้เปิดออกเพราะว่าเธอเหนื่อยเกินไป เธอหมดแรงแล้ว
ให้ตอนนี้สํานักงานมีเสียงทะเลาะกันไม่หยุด
เสียงทะเลาะกันทั้งสองฝ่ายดูคุ้นเคย คนหนึ่งเป็นหัวหน้าแพทย์ที่ทําหน้าที่ตรวจสอบร่างกายของเธอทุกวัน และอีกคนคือสามีของเธอ
เธอยิ้ม สามีของเธออยู่ที่นี่ อย่างน้อยเขาก็รักษาสัญญามารับเธอในวันนี้จริงๆ
เธอต้องการจะสั่งเสียให้สามีดูแลลูกเป็นครั้งสุดท้าย ดังนั้นเธอจึงพยายามกลั้นใจอยู่
“ทําไมเธอยังไม่ตาย ทําไมเธอไม่ตาย!” สามีของเธอบ่น
“มันไม่ใช่ความผิดของเรา เธอจะตายหรือไม่ก็อยู่ที่กําลังใจของเธอเอง” นี่คือเสียงของหมอ
“ผมเดิมพัน 200000 ในสัปดาห์ที่แล้วว่าเธอจะตายภายในสัปดาห์นี้ แต่ทําไมเธอถึงยังรอดมาจนถึงตอนนี้ได้”
“กําลังใจของภรรยาคุณน่าพึ่งมาก ตามปกติแล้วหลังจากหยุดยาเธอไม่ควรจะมีชีวิตมาจนถึงตอนนี้”
“มันเป็นเพราะคุณ คุณบอกผมว่าเธอจะตายไปสัปดาห์ที่แล้ว เงิน 200000 ของฉันเอาคืนมา!”
“ปล่อย ปล่อย! คุณเป็นบ้าหรือไง ผมไม่ใช่ยมทูตผมไม่สนใจหรอกว่าเธอจะเป็นหรือจะตาย”
“คุณทําได้ยังไง คุณรับเงินจากผมไปแล้วและบอกว่าเธอจะตายแต่เธอก็ยังรอดอยู่ คุณรู้ไหมว่าเงิน 200000 นี้เป็นเงินที่ภรรยาของผมขายตัวเองเพื่อมาที่นี่ เอาเงินของผมคืนมา! “
“ถ้าขืนคุณยังทําแบบนี้อีกผมจะเรียกรปฏแล้วนะ”
“ช่วยผมด้วยผมจะให้เงินคุณแสนนึง ทําให้เธอตายตอนนี้เลย!”
“อีกแสน? คุณจะเอาเงินแสนมาจากไหน? ”
“ผมขายลูกชายไปแล้วในราคาแสนหยวน!ผมจะไถ่เขาคืนมาหลังจากที่ผมได้เงิน หมอช่วยฆ่าเธอด้วยไม่งั้นลูกชายผมตายแน่นอน! “
“คุณนี่ชั่วจริงๆ ผมไม่เคยเห็นใครชั่วถึงขนาดนี้ แต่ผมช่วยคุณไม่ได้แม้กระทั่งการที่เราคุยกันอยู่ตอนนี้ก็ยังมีกล้องบันทึกไว้”
“แล้วผมจะทํายังไง? ถ้าอย่างนั้นขอให้ผมไปพบกับภรรยาได้ไหม ให้ผมคุยกับเธอบอกเธอว่า ถ้าเธอไม่ตายก่อน 16:13 นลูกชายของเราจะเป็นคนตายแทน!ผมขอร้องละหมอผมขอร้องช่วยผมที ”
“นี่มันผิดข้อกําหนดผมทําไม่ได้ พวกเรามีลูกค้าขาประจําจํานวนมากดังนั้นผมไม่อาจละเมิดข้อตกลงได้แน่นอน แต่ผมจะบอกเรื่องนี้กับเธอให้ถือว่าช่วยคุณก็แล้วกัน”
เสียงของชายทั้งสองยังคงดําเนินต่อไป แต่ผู้หญิงคนนั้นที่อยู่นอกประตูดวงตาเบิกกว้างด้วยความโกรธแค้น ที่บานประตูเต็มไปด้วยรอยเล็บของเธอ
นอกโรงพยาบาลโจวเจ๋อและเหล่าเต่ยืนอยู่ตรงนั้น
“คุณยังมีกระดาษยันต์เหลืออยู่หรือเปล่า”
“ไม่มีเหลืออยู่แล้วครับเจ้านาย 2 ใบสุดท้ายที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษถูกผมใช้ตอนที่ช่วยคุณจัดการกับสาวไร้หน้า ถ้ามันยังเหลืออยู่ผมจะยกให้เจ้านายแน่นอน”
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว” โจวเจ๋อเลิกสนใจเขา
เหล่าเต๋าถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นเอื้อมมือไปแตะเป้าโดยไม่รู้ตัว
ในเวลาต่อมาก็เกิดไฟลุกไหม้ที่เป้ากางเกงของเขาอย่างรวดเร็ว มันเกิดขึ้นเร็วมากชายชรารีบล้วงเข้าไปดึงกระดาษยันต์สีแดงแผ่นหนึ่งออกมาจากเป้ากางเกง
“ ฟู่ มันร้อน มันร้อน ร้อนจริงๆ”
ขณะที่เหล่าเต๋าตบเป้าของตัวเองเพื่อดับไฟ เขาก็มองเห็นสายตาของโจวเจ๋อแล้วรีบพูดว่า
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้านายมันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงผมก็ไม่รู้ มันเหมือนกับเวทมนตร์จริงๆ”
“ผมไม่ได้มีความสนใจในกระดาษยันต์ของคุณ” โจวเจ๋อกล่าว
“แล้วเจ้านายถามหามันทําไมหรอครับ?”
“ผมแค่อยากจะเตือนคุณว่ามีผีร้ายบางตัวที่ตายด้วยความแค้น และเมื่อพวกเธอปรากฏตัวขึ้นมันจะทําให้แผ่นยันต์ของคุณลุกไหม้ทันที ความรู้นี้ผมได้มาจากซูชิงหลาง”
“…” เหล่าเต๋า
เขายังคงดูเป้าของเขาเพื่อขจัดความรู้สึกแสบร้อน เหล่าเฝ้ามองไปที่โรงพยาบาลตรงหน้าซึ่ง ตอนนี้มีความมืดสลัวยังไงชอบกล
แม้ว่าเหล่าเต่จะไม่มีทักษะปราบผีเหมือนกับนักพรตทั่วไป แต่เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงความผิดปกติในโรงพยาบาล
“คุณคิดยังไงกับเรื่องนี้” โจวเจ๋อถาม
เหล่าเต๋ามันงงอยู่ครู่หนึ่ง?
คุณเป็นผีหรือผมเป็นผี มีผีสิงอยู่ที่นี่ แล้วคุณถามผมว่าคิดอย่างไร ทําไมถึงได้ไร้สาระขนาดนี้!
แต่เหล่าเต๋าก็รีบตอบออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
“เจ้านาย มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ!”
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาเห็นว่าโจวเจ๋อไม่ได้เข้าไปจึงพูดว่า
“เจ้านาย คนพวกนี้เป็นแค่ขยะผมว่าเราอย่าไปช่วยพวกเขาดีกว่า”
เหล่าเต๋ากังวลว่าโจวเจ๋อจะเข้าไปจับผีโดยตรง
เขารู้ดีว่าโจวเจ๋อเป็นคนที่เข้มงวดกับกฎเกณฑ์มาก ซึ่งแตกต่างจากเจ้านายเก่าของเขาโดยสิ้นเชิง
“เราเข้าไปไม่ได้เพราะรูปภคนนั้นจะไล่เราออกมาอีก” โจวเจ๋อกล่าว
“ดี?”
“วิญญาณร้ายตัวนี้ทรงพลังมาก เมื่อประกอบกับคนที่ตายที่นี่ล้วนแล้วแต่มองไปที่นาฬิกา ความเคียดแค้นของพวกเขาจะฝังอยู่ที่นาฬิกาเรือนนั้น
ดังนั้นเมื่อคนคนนี้กลายเป็นวิญญาณร้ายเธอจะได้พลังจากความเคียดแค้นของคนอื่นด้วย คิดว่าวิญญาณร้ายตัวนี้น่าจะมีความสามารถในการฆ่าคนธรรมดาได้เช่นกัน? รู้สึกยังไงบ้าง ตื่นเต้นขึ้นมานิดหน่อยแล้วหรือยัง!”
ทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งเดินออกมาจากโรงพยาบาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“คนคนนั้นกําลังจะมาทางนี้แล้ว” เหล่าเต๋ารู้สึกตกใจเล็กน้อย
โจวเจ๋อพยักหน้า
“เราจัดการเขาก่อนดีไหม” เหล่าเต๋าเสนอความคิด
โจวเจ๋อส่ายหัว
“แล้วจะทํายังไงถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นบ้าขึ้นมา?” เหล่าเต๋ากังวลเล็กน้อย
“มีใครบางคนปลดปล่อยผีผู้หญิงคนนั้นออกจากโซ่ตรวน ซึ่งเท่ากับการเปิดกรงที่กักขังผีผู้หญิงคนนั้นไว้ให้หลุดออกมา ดูท่าแล้วรปภคนนั้นก็คงจะถูกจัดการไปแล้วเช่นกัน”
“แล้วเจ้านายจะเข้าไปหรือเปล่า” เหล่าเต๋าพูดด้วยเสียงสั่น “ถ้าเจ้านายเข้าไปผมจะ เข้าไปด้วย”
“ผีตัวนั้นแข็งแกร่งเกินไป เราสองคน คนหนึ่งแก่ คนหนึ่งทุพพลภาพ สู้มันไม่ได้แน่นอน”
“ผมทําได้…” เหล่าเต๋าพยายามปลุกใจตัวเองถึงแม้เขาจะรู้ว่าไม่มีทางสู้ได้แน่นอน
แต่จู่ๆเหล่าเต๋าก็นึกภาพหนึ่งขึ้นในใจได้
เจ้านายเพิ่งบอกว่ามีคนตัดโซ่ตรวนของผีผู้หญิงและนาฬิกาขนาดใหญ่แล้วปล่อยให้ผีร้ายออกจากกรง
เหล่าเต๋านึกถึงเจ้านายที่ยืนอยู่หน้านาฬิกาใหญ่ส่วนมือของเขากําลังเล่นเล็บของตัวเองอยู่
ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน!
” อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!”
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!!”
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!!!”
ในโรงพยาบาลเล็กๆ ก็มีเสียงกรีดร้องเป็นระยะๆ เหล่าเต่ยืนอยู่ที่ประตูและมองดู ผู้คนจํานวนมากในเสื้อคลุมสีขาววิ่งไปมาภายในโรงพยาบาลราวกับว่ามีอะไรกําลังไล่ตามพวกเขาอยู่
แต่พวกเขาก็ยังคงวนเวียนอยู่ภายในห้องล้มลุกคลุกคลานซ้ําแล้วซ้ําเล่า มันเหมือนกับว่าพวกเขามองไม่เห็นประตูทางออก
“ผีเป็นคนปิดกั้นไม่ให้พวกเขาออกมาข้างนอกเหรอ?” เหล่าเต๋ามองโจวเจ๋อแล้วถาม
โจวเจ๋อไม่ได้ตอบคําถามเขายังคงจดจ้องสิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้อง
เวลานี้เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกําลังวิ่งไล่ตามหมอพยาบาลแล้วถามว่า
” ฉันตายแล้วหรือ”
“กี่โมงแล้ว”
“ฉันตายแล้วเหรอ?”
เธอร้อนรน เธอกังวล เธอลังเล
ถ้าเธอไม่ตายในเวลาที่กําหนด ลูกชายของเธอจะได้รับความเดือดร้อนไปด้วย
ถ้าเธอไม่ตายในเวลาที่กําหนด ครอบครัวของเธอจะแตกสลาย
ถ้าเธอไม่ตายในเวลาที่กําหนด เธอจะทําผิดพลาดครั้งใหญ่!