เสี่ยวเชี่ยนจัดการจุดเตาน้ำมันหอมระเหย จากนั้นก็นั่งบนเก้าอี้โซฟาพลางหลับตาสูดกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหย
“รูปร่างของคุณผอมเกินไป หน้าก็ซีดเกินไป ฉันวิเคราะห์ว่าคุณน่าจะใช้ยาที่ทำให้เกิดภาพลวงตาเพื่อลืมใครบางคน และสายตาที่ฉลาดหลักแหลมเกินใครของคุณยังบอกฉันอีกว่า ตัวคุณสามารถควบคุมฤทธิ์ของยาพวกนี้ที่จะส่งผลต่อคุณได้ ในฐานะที่เป็นแพทย์ฉันก็ขอแนะนำคุณให้เลิกมันซะ คนที่อยู่ในภาพลวงตาไม่มีทางสู้ความรู้สึกจริงได้หรอก”
ซ่งชิงอู๋พอฟังเสี่ยวเชี่ยนพูดจบก็เริ่มยอมรับในความสามารถของผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาอีกนิด แค่มองก็ดูออกมากมายขนาดนี้ สมแล้วที่กล้าเรียกราคาห้าหมื่นต่อชั่วโมง
“นั่งสิคะ พวกเรามาคุยกันหน่อย ฉันขอให้คุณช่วยทำแบบทดสอบของฉันเพื่อที่ฉันจะได้เข้าใจคุณมากขึ้น”
“คุณแค่บอกผมมาว่าผมต้องทำไงก็พอ ไม่ต้องมาเข้าใจผมหรอก”
“ฉันเป็นใหญ่ภายในห้องนี้ คุณทำตามที่ฉันพูดก็พอ ไม่ต้องแสดงความคิดเห็นของตัวเอง เพราะฉันเป็นจิตแพทย์ของคุณ เข้าใจ๋”
“คุณไม่กลัวผมฆ่าคุณตอนนี้เหรอ” ซ่งชิงอู๋ล้วงปืนออกมาจากกระเป๋า เสี่ยวเชี่ยนทำเป็นเหมือนไม่เห็น
“คุณจะยิงก็ได้ จากนั้นก็รอผู้ชายที่กำลังเสียบเนื้อแพะอยู่ข้างนอกเข้ามาแล่เนื้อคุณเป็นชิ้นๆเอาไปเสียบไม้เหมือนเนื้อแพะ จากนั้นก็ไว้ชีวิตคุณเอาไว้ก่อนให้คุณได้เห็นว่าเขาทำลายล้างครอบครัวคุณยังไง จริงๆนะ เสี่ยวเฉียงของฉันไม่ใช่แค่เสียบเนื้อแพะเก่ง ทำเรื่องพวกนี้ก็คล่อง”
ซ่งชิงอู๋แอบตัดสินใจแล้วว่า รอให้รักษาเสร็จก่อนจากนั้นเขาก็จะระเบิดบ้านนี้ทิ้งซะ ระเบิดจิตแพทย์ที่แสนทุเรศนี่กับสามีมือโปรเรื่องเสียบเนื้อแพะ
ตอนนี้เขาทำได้แค่กัดฟันใส่รองเท้าแตะนั่งบนโซฟาอัปลักษณ์ฟังผู้หญิงคนนี้ว่าจะเอายังไง
ซ่งชิงอู๋หารู้ไม่ว่าพอนั่งลงบนโซฟานี้แล้ว เขาก็จะเป็นแกะตัวอ้วนในสายตาของประธานเชี่ยนโดยสมบูรณ์
ครั้นแล้วประธานเชี่ยนก็ผุดรอยยิ้มแบบเดียวกับผู้ชายเสียบเนื้อแพะที่อยู่ด้านนอก แกะอ้วนเอ๋ยแกะอ้วน ฉันจะเริ่มกินแล้วนะ
“ก่อนอื่นพวกเรามาทำแบบทดสอบง่ายๆก่อน นี่ค่ะ คุณช่วยทำแบบทดสอบนี้ให้เสร็จภายในห้านาที ไม่ต้องคิดอะไรมากแค่ตอบไปตามความจริงก็พอ”
ซ่งชิงอู๋ก้มมองคำถามที่ชวนให้ลายตา บางข้อถามเรื่องสีที่ชอบ ชอบดนตรีแนวไหน มีคำถามแนวนามธรรม อย่างเช่นประมาณว่าคุณเป็นเจ้าชายที่ไปเปิดประตูปราสาท คิดว่าเบื้องหลังประตูบานนั้นคุณจะเจอแม่มดหรือเจ้าหญิง คำถามพวกนี้มีจุดที่เหมือนกันนั่นก็คือ—”
“นี่ทดสอบอะไร”
ซ่งชิงอู๋แน่ใจว่าไม่เคยเห็นมาก่อน อีกทั้งหลายข้อก็ไม่เหมือนแบบทดสอบปกติทั่วไป
“คุณไม่จำเป็นต้องรู้ แค่ตอบก็พอแล้ว” ปีศาจตัวน้อยในใจเสี่ยวเชี่ยนกำลังยืนเท้าสะเอวหัวเราะร่า แบบทดสอบของเฉินเสี่ยวเชี่ยนจะธรรมดาเหมือนของที่อื่นได้ยังไง
รู้อยู่แล้วว่าตานี่ไอคิวสูงจะต้องเคยผ่านแบบทดสอบมาเยอะ ดังนั้นเธอจึงตั้งใจทำแบบทดสอบนี้ขึ้นมาเอง
“ถ้าไม่รู้จุดประสงค์ผมไม่ทำ”
“นี่เป็นการทดสอบระดับความเข้ากันได้ของคุณกับเบญจมาศอาเหม็ด”
เสี่ยวเชี่ยนเห็นเขาจับปากกาเริ่มทำ ในใจเธอมีคำว่า จึ๊ๆ ตัวเบ้อเร่อ เขาไม่ปิดบังความต้องการของตัวเองเลยแม้แต่น้อย เป็นรุกที่ไม่คลั่งอีกฝ่ายถือเป็นรุกที่ไม่ดีนะ
อันที่จริงนี่เป็นแบบทดสอบว่าเป็นSหรือMกันแน่
SกับMก็คือตัวย่อของ Sadomasochism ความหมายคือชอบใช้ความรุนแรงกับชอบถูกใช้ความรุนแรง Sคือผู้ที่ชอบใช้ความรุนแรง Mคือผู้ที่ชอบให้ใช้ความรุนแรงด้วย ตามมาตรฐานในการวินิจฉัยของจิตแพทย์คลินิก ทั้งสองแบบนี้หากอยู่ในอาการระดับรุนแรงจะถูกจัดเข้าประเภทผู้ที่มีพฤติกรรมทางเพศหรือมีความรู้สึกทางเพศที่ผิดจากบุคคลทั่วไป ซึ่งนับเป็นมาตรฐานที่ค่อนข้างชัดเจน
ก่อนหน้านี้เสี่ยวเชี่ยนเคยให้เบญจมาศอาเหม็ดทำแบบทดสอบ เขาเกือบจะถึงขั้นเป็นผู้ป่วย แต่ก็ยังขาดอีกนิดหน่อย ตอนนี้ต้องมาดูว่าผลคะแนนของซ่งชิงอู๋จะเป็นอย่างไร ถ้าเขาเป็นคนปกติหรือมีแนวโน้มเป็นM แบบนั้นก็คงหมดหวัง
“ทำไมคุณเรียกเขาว่าเบญจมาศอาเหม็ด” ซ่งชิงอู๋ทำแบบทดสอบพลางถามเสี่ยวเชี่ยน
“นี่เป็นธรรมเนียมการให้เกียรติแขกของพวกเรา” เสี่ยวเชี่ยนพูดโกหกตาไม่กระพริบ
ซ่งชิงอู๋เงยหน้ามองเสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวเชี่ยนยักไหล่
“คุณคิดมากเกินไปแล้ว ฉันไม่คิดอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย ผู้ชายของฉันยอดเยี่ยมแค่ไหนคุณก็เห็นแล้ว คุณเก็บเบญจมาศอาเหม็ดเอาไว้ชื่นชมคนเดียวเถอะ”
“ผมไม่ได้รู้สึกว่าผู้ชายที่อยู่ข้างนอกจะยอดเยี่ยมอะไรมากมาย ปากอย่างใจอย่าง”
ซ่งชิงอู๋วิจารณ์อวี๋หมิงหลาง
เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า “ใช่ค่ะ สมกับเป็นอัจฉริยะไอคิวสูง มองคนทะลุปรุโปร่งถึงแก่นแท้ อันที่จริงผู้ชายคนนั้นมีแนวโน้มไปทางSนิดหน่อย”
นี่เป็นเรื่องที่ตีให้ตายเสี่ยวเชี่ยนก็ไม่มีทางบอกอวี๋หมิงหลาง
“เขาเป็นผู้ชายที่ชอบเป็นใหญ่ ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมถึงยอมแสร้งทำเป็นอ่อนโยนกับคุณ” ซ่งชิงอู๋เพิ่งเจออวี๋หมิงหลางได้ไม่นานก็มองออกว่าอวี๋หมิงหลางเป็นคนโหด
คนๆนี้ถ้าไม่เป็นทหารไปอยู่ในแวดวงอย่างเขาก็คงทำได้ไม่เลว มีความโหดเ**้ยมแฝงอยู่ในตัวเยอะ
เพียงแต่เขากลับอ่อนโยนกับจิตแพทย์คนนี้มาก ซึ่งเป็นจุดที่ซ่งชิงอู๋ยากที่จะเข้าใจ
“ความอ่อนโยนของเขาเป็นของจริง แนวโน้มความเป็นSของเขาก็เป็นเรื่องจริง เพียงแต่แสดงออกมาแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ เขาเป็นผู้ชายที่แบ่งแยกบุคลิกที่มีต่อคนในกับคนนอกอย่างชัดเจน”
และก็เป็นคนที่บุคลิกชัดเจนเวลาอยู่บนเตียงกับนอกเตียง เสี่ยวเชี่ยนพูดเสริมในใจ
“ทำไมคุณเอาแต่เน้นเรื่องS” ซ่งชิงอู๋ยื่นแบบทดสอบที่ทำเสร็จแล้วให้เสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวเชี่ยนกวาดตามองอย่างรวดเร็วจากนั้นก็ยิ้มหวานออกมา
“เพราะคุณเหมือนกับผู้ชายที่อยู่ข้างนอกนั่น เป็นพวกSแบบหลบซ่อน”
“…คุณจะบอกว่าผมเป็นพวกซาดิสม์” ซ่งชิงอู๋ทำหน้าเหมือนได้ยินเรื่องเหลือเชื่อ
“ใช่ค่ะ ยินดีด้วย”
“คุณแน่ใจว่าจะยินดีที่ผมไม่ปกติ”
จิตแพทย์ที่เรียกราคาแพงขนาดนี้มีความสามารถแค่นี้
“หลายคนไม่เข้าใจเรื่องความสุขที่มาพร้อมกับความเจ็บปวด ทำไมSMถึงนำสองอย่างนี้มาเชื่อมโยงกันได้ รวมถึงในแวดวงวิชาการก็มีการถกเถียงกันเรื่องนี้ สำหรับฉัน ฉันคัดค้านที่ว่ามันเป็นโรคอย่างหนึ่ง คนไข้ส่วนใหญ่ที่ฉันเคยเจอไม่ถึงกับอยู่ในขั้นป่วย SMอย่างมากก็แค่กิจกรรมสนุกๆยามว่างก็เท่านั้น”
“คุณไม่เหมือนจิตแพทย์เลยจริงๆ”
“แวดวงวิชาการเดิมก็เต็มไปด้วยข้อขัดแย้งและการค้นหาอยู่แล้ว สาขาจิตวิทยามีการถกเถียงกันจากหลายกลุ่มหลายฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีความคิดเห็นที่เป็นหนึ่งเดียว อาการของคุณในตอนนี้ไม่ถือว่าป่วย มากสุดก็แค่เป็นSที่ออกอาการเพียงเล็กน้อย ในอะนิเมะนี่ถือว่าคิกขุเลยนะ”
สิ่งที่พวกวัยรุ่นชอบเป็นอะไรที่จับต้องได้ยาก
“คุณมีจุดประสงค์อะไรที่ให้ผมทำแบบทดสอบนี้”
“ช่วยให้คุณได้ในสิ่งที่ต้องการ คุณในตอนนี้อยู่ห่างจากการที่จะได้กอดเบญจมาศอาเหม็ดแค่ก้าวเดียวแล้วนะ และก้าวนี้ฉันจะเป็นคนบอกว่าจะไปยังไง แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะยอมแลกกับมันแค่ไหน”
ซ่งชิงอู๋ไม่พูดอะไรอีก เขาหยิบสมุดเช็คออกมาเขียนตัวเลขแล้วยื่นให้เสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวเชี่ยนมองแต่ยังไม่รับ
“ฉันคิดค่ารักษาคนอื่นเป็นดอลล่าร์”
ซ่งชิงอู๋ไม่พูดอะไรกำลังจะเขียนใหม่ แต่เสี่ยวเชี่ยนกลับห้ามไว้
“ครั้งนี้ฉันไม่รับดอลล่าร์ ให้ฉันเป็นเงินหยวนก็ได้”
ไม่รู้ทำไม ถึงเฉินเสี่ยวเชี่ยนผู้หญิงที่ร้ายกาจสุดๆคนนี้จะพูดเหมือนหยิบยื่นโปรโมชั่นให้ แต่ซ่งชิงอู๋ไม่เพียงแต่จะไม่รู้สึกดีใจ กลับสังหรณ์ใจไม่ดีด้วยซ้ำ
“คุณต้องการอะไร”